2113 - เปลวไฟสำแดงเดช
2113 - เปลวไฟสำแดงเดช
ในจักรวาลมีดาวกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่งเป็นฉากรกร้างที่งดงามอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนี้ยังแต่งแต้มด้วยโลหิตอมตะของผู้ไม่ดับสูญทั้งสามทำให้เกิดความน่าสยดสยองไปพร้อมกัน
ไกลออกไปอีกมีร่างของสิ่งมีชีวิตอมตะสามตัว บางตัวระเบิดเป็นจุล บางตัวยังมีศพอยู่
ทันใดนั้น ในจักรวาลที่มืดครึ้มและเย็นยะเยือกก็มีเสียงดังก้องขึ้น ดาวบางดวงยังคงถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน จากนั้น เลือดและกระดูกของสิ่งมีชีวิตอมตะทั้งสามก็ส่องประกาย
ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเปลวไฟแผดเผาสถานที่แห่งนั้นอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้เป็นฉากที่ไม่ปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการตายของสิ่งมีชีวิตอมตะ
มันน่ากลัวอย่างถึงที่สุด ไม่มีน้ำตาจากสวรรค์ ไม่มีแสงศักดิ์สิทธิ์หรือน้ำพุที่ปรากฏขึ้นจากปฐพี มีเพียงการทำลายล้างอย่างสมบูรณ์!
หลังจากที่สิ่งมีชีวิตอมตะตายพวกเขาจะกลับไปรวมกันกับเต๋าอันยิ่งใหญ่กลายเป็นส่วนหนึ่งของกฎแห่งจักรวาล
สือฮ่าวรีบดำเนินการโดยใช้ภาชนะหยกดูดซับโลหิตอมตะที่ลอยอยู่ ยิ่งกว่านั้นยังกลั่นให้เป็นของเหลวยาทันที
นี่มันยาวิเศษอมตะ!
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดมีจิตวิญญาณ ไม่เพียงมีแต่พืชเท่านั้นที่จะกลายเป็นยา แม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆรวมถึงพวกที่มีร่างกายมนุษย์ก็สามารถเปลี่ยนเป็นยาได้ โดยเฉพาะพวกที่มีร่างกายเป็นมนุษย์ยิ่งสามารถทำให้เป็นยาชั้นยอด
แม้ว่าสือฮ่าวจะลงมืออย่างรวดเร็วแต่ยังมีโลหิตอมตะอีกครึ่งหนึ่งที่ระเบิดออก เลือดย้อมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวให้เป็นสีแดง ปล่อยแสงที่แผดเผาออกมาอย่างดุเดือดก่อนจะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์และปฐพี
สิ่งมีชีวิตอมตะที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามถูกทำลาย หลอมรวมเข้ากับเต๋าอย่างสมบูรณ์ ร่างกายและเศษเสี้ยวของวิญญาณพวกเขาถูกดูดซับด้วยกฎแห่งสวรรค์และปฐพี
การต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้ว ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด!
ไม่ต้องกล่าวถึงผู้ปกครองของเก้าสวรรค์สิบพิภพเลย แม้แต่สิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ในดินแดนปิดผนึกก็ยังหรี่ตาจ้องมองเข้าไปในจักรวาล สีหน้าของพวกเขาจริงจังเป็นอย่างมาก
ความสำเร็จในการต่อสู้ครั้งนี้รุ่งโรจน์เกินไป!
สิ่งนี้ทำให้หลายคนรู้สึกกลัว สิ่งมีชีวิตในดินแดนปิดผนึกทั้งหมดสั่นสะท้านจากภายใน ฮวงฝึกฝนมากี่ปี? พวกเขาพบว่าสิ่งนี้ยากที่จะยอมรับเพราะมันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกินไป
สือฮ่าวเดินทางอย่างรวดเร็ว อาจกล่าวได้ว่าเขาไม่มีเวลาให้จะเสียแล้ว เขาต้องรีบไปยังจักรวาลอื่นและเข้าสู่ดินแดนแห่งความมืด เพื่อทำการสังหารดอกบัวสีดำนั้นอีกครั้ง
ตอนนี้เจตจำนงของเขาถูกบังคับให้ออกไปปราบปรามรอบทิศทาง แต่ก็ไม่ได้ผลมากนัก เมื่อใดก็ตามที่ดอกบัวปีศาจถูกตัดลง มันจะงอกใหม่เสมอ
ดอกบัวสีดำนี้ช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง มีลักษณะของเต๋าอมตะ มันดูดซับพลังแห่งความโกลาหลที่มาจากกำแพงปฐมแห่งความโกลาหลและปรับแต่งตัวเองในความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกันรากของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นและเกาะกินดวงดาวมากมายที่อยู่ในระบบนี้ทำให้พลังชีวิตอันมากมายมหาศาลของมันยากที่จะถูกดับลง
“รากหลักของมันอยู่ในอาณาจักรอื่น มีเพียงส่วนหนึ่งของมันถูกหยั่งรากในอาณาจักรนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่สามารถฆ่ามันได้!”
การแสดงออกของมู่ชิงนั้นจริงจังในขณะที่เขารายงานกับสือฮ่าวซึ่งมีความรอบรู้และประสบการณ์มากกว่า
สือฮ่าวขมวดคิ้ว เปิดใช้ญาณวิเศษอันล้ำค่าเพื่อกระจายออกไปทุกทิศทาง แม้ว่าเขาจะสามารถทำลายดอกบัวพวกนั้นได้แต่ก็ไม่อาจตัดต้นตอของปัญหา
“พวกเจ้าทุกคน ถอยออกไป!” สือฮ่าวกล่าว เขานึกถึงเปลวไฟในตัวเขา
มันคือเปลวไฟโบราณลึกลับที่สร้างจากสัญลักษณ์เต๋าอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้มาจากบริเวณใกล้กับมังกรเก้าตัวที่ลากโลงศพ มันถูกซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเขาเสมอ
โดยปกติแล้วจะไม่แสดงปฏิกิริยาใดออกมา แต่เมื่อทักษะเต๋าของเขาเพิ่มขึ้น ในช่วงที่เดินทางไปในยุคที่จักรพรรดิร่วงหล่น ในหลายปีที่ผ่านมานั้น เขาได้ตรวจสอบธรรมชาติของเปลวไฟนี้ ซึ่งบางครั้งสามารถเคลื่อนย้ายมันได้ วันนี้เขาอยากลองทำดู
โชคดีที่เขาทำสำเร็จ ก้อนไฟขนาดเท่ากำปั้นปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา มันนุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างยิ่ง มีกลิ่นอายที่สงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อ
มันไม่ใช่แสงที่ลุกเป็นไฟ แต่เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นจากสัญลักษณ์โบราณทุกประเภท
"ไป!"
สือฮ่าวตะโกนเบาๆ 'ลูกไฟ' ขนาดเท่ากำปั้นก็พุ่งออกไป สัมผัสกับดอกบัวปีศาจสีดำ
ตอนแรกมันยังคงสงบ แต่ครู่ต่อมาเมื่อเปลวไฟโบราณลึกลับนี้ก็เคลื่อนตัวตามรากของดอกบัวไป ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มีสัญลักษณ์ที่สั่นไหวโดยรากที่เกิดจากดอกบัวปีศาจ
ฮ่อง!
ราวกับว่าดวงอาทิตย์ระเบิด แสงที่ลุกโชนนี้พุ่งขึ้นอย่างแรง เผารากของดอกบัวปีศาจทั้งหมดรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ในอดีตมันสลักเพียงสัญลักษณ์เต๋าที่ยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้มันกลับเคลื่อนไหวได้เองด้วยความตื่นเต้น ในขณะเดียวกันสือฮ่าวก็เคลื่อนไหวเพื่อดูดซับสัญลักษณ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่หลุดรอดออกมาจากการเผาผลาญของเปลวไฟ
ดอกบัวอสูรสีดำมหึมาถูกจุดไฟ กลายเป็นคบเพลิงขนาดมหึมา ที่แผดเผาโชติช่วงส่องสว่างไปทั่วทั้งจักรวาล
มันลอยอยู่ในความว่างเปล่า รากบางส่วนกระจายอยู่บนท้องฟ้า บางส่วนหยั่งรากในความว่างเปล่า เดิมทีเป็นความน่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อย่างไรก็ตามบัดนี้กลับประสบภัยพิบัติถูกทำลายอย่างรุนแรงที่สุด
จะเห็นได้ว่าสัญลักษณ์ที่มันสร้างขึ้นนั้นเริ่มริบหรี่ลง ทุกสิ่งทุกอย่างของมันถูกล้อมรอบด้วยเปลวไฟลึกลับนั้น
จิ!
ดอกบัวปีศาจขนาดมหึมาถูกทำลายเพราะก้อนไฟที่ไหลตามรากของมัน แท้จริงแล้วมันลุกไหม้ไปข้ามอาณาจักรไปด้วยซ้ำ
แสงทรงกลมนั้นหายไปชั่วขณะหนึ่ง ในเวลานี้มันข้ามไปยังดินแดนอื่นเพื่อสังหารดอกบัวสีดำให้สิ้นซาก
หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งวันในที่สุดมันก็กลับมา
ดอกบัวปีศาจกลายเป็นเถ้าถ่านที่ก่อนจะสูญสลายหายไป
นี่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองอาณาจักร มันถูกส่งมาเพื่อเป็นประตูให้สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเข้ามาอีกครั้ง แต่ในเวลานี้มันถูกทำลายอย่างสิ้นซากไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็มุ่งหน้าไปยังแดนรกร้างเพื่อปิดผนึกหนทางที่ศัตรูต่างมิติใช้ข้ามมาอีกครั้ง เขานำแท่นบูชานั้นกลับมาเพื่อศึกษาวิธีการของศัตรูให้ถ่องแท้
เหตุผลที่สือฮ่าวไม่ทำลายมันเป็นเพราะเขายังมีบางสิ่งที่ครอบงำจิตใจของเขาอยู่
เขารอเพียงตัวเองบรรลุความเป็นอมตะแล้วจะได้บุกไปสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่นั่นและช่วยใครบางคนกลับมา!
เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา เขายังมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ
ในวันนั้นสือฮ่าวกลับมาที่ราชสำนักพร้อมกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่!
ในช่วงเวลาเดียวกันทุกเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในโลกล้วนส่งของขวัญแสดงความยินดีในชัยชนะของเขา ความสามารถที่สือฮ่าวแสดงออกมานั้นเขย่าขวัญทุกคนที่อยู่ในโลก
แน่นอนคนเหล่านี้ไม่ได้รู้สึกกลัว ตอนนี้จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม สือฮ่าวเป็นราชาสวรรค์ของดินแดนนี้ ดังนั้นการต่อสู้ของเขาไม่ใช่เพื่ออวดความสามารถของตัวเองแต่เพื่อปกป้องทุกคน
ชื่อของฮวงดังกึกก้องไปทั่วโลกอีกครั้ง!
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่ในอดีตไม่มีใครสังเกตได้โดยตรง
แต่ในวันนี้เขาสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตอมตะจากต่างมิติได้จริงๆ ทุกคนถึงรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขาสามารถปกป้องทุกคนไว้ได้แน่นอน
เขาไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงภายใต้ท้องฟ้านี้!
อย่างน้อยที่สุดพวกเขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตอมตะทุกคนก็ไม่มีใครเทียบฮวงได้
ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ทำให้เขาสามารถปกครองเก้าสวรรค์สิบพิภพได้อย่างมั่นคงโดยไม่มีใครกล้าเสนอหน้ามาท้าทายอีกแล้ว!
ในเวลานี้ราชสำนักอมตะกลายเป็นที่แสวงบุญของผู้บ่มเพาะทั่วโลก
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือมีผู้ฝึกฝนที่มีความศรัทธาต่อฮวงอย่างยิ่ง พวกเขาจะคุกเข่าอยู่นอกราชสำนักและปฏิเสธที่จะออกไปจนกว่าจะได้ชื่นชมรัศมีของสือฮ่าว
“ราชสำนักได้รวบรวมผู้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นมากมายมาเป็นสาวก นับวันราชสำนักมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นนี่ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกันเพราะว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมถูกใช้ออกเพื่อปกป้องพวกเรา”
แต่ถึงพวกเขาจะพูดอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมีความกังวลเช่นกัน
ขณะเฝ้าดูราชสำนักรุ่งเรือง พวกเขากลัวว่าโลกทั้งใบนี้จะอยู่ภายใต้การปกครองของราชสำนักอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ภายใต้ท้องฟ้าที่ทอดยาวไปถึงทะเลทั้งสี่ทิศ มรดกอื่นๆอาจเป็นเพียงหยดน้ำในมหาสมุทรไม่มีคุณค่าใดๆ