ตอนที่ 627 เหตุเปลี่ยนแปลง
“เมื่อคืนวานนี้ธุรกิจของตระกูลสวีสะดุดกับพวกโจรสลัด พวกเขาอยู่ห่างทวีปทรายขาวออกไปครึ่งวันเท่านั้นและมีคนหนีรอดชีวิตได้เพียงหกคน กองพลที่หนึ่งของท่านซัวปี่ได้เคลื่อนกำลังพลออกไปเมื่อคืนนี้ แต่ก่อนที่จะจากไปท่านซัวปี่หวังให้ท่านช่วยคุ้มครองคุณชายใหญ่ในช่วงเวลานี้”
หลิงเซี่ยพูดด้วยความเคารพ ปัจจุบันนี้นางเป็นตัวแทนของท่านซัวปี่จึงไม่ทำตัวเหมือนกับช่วงที่ผ่านมาตามปกติ คุณชายใหญ่ที่อยู่ใกล้คำนับถังเทียนทันที
“ข้าน่ะหรือ?” ถังเทียนตะลึง และชี้ไปที่คุณชายใหญ่ “ปกป้องเขาน่ะหรือ?”
“ใช่แล้ว” จากนั้นหลิงเซี่ยอธิบายต่อ “ข้าเพิ่งจะได้รับมอบกองพลที่ห้าไม่นาน และข้าต้องการเวลาจึงจะสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างสิ้นเชิง แต่คุณชาย ท่านมีกองทัพถึงสองกองทัพและเซี่ยอวี่อันก็เป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่น ท่านซัวปี่ก็เชื่อถือท่าน ท่านนั่นแหละมีความสามารถจะปกป้องคุณชายใหญ่”
ถังเทียนถูกต้อนจนอยู่ในจุดที่เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ได้แต่พูดอ้างส่งเดช “แต่ข้ากำลังยุ่งมาก ข้าจะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลเขา?”
“นั่นไม่เป็นปัญหา ท่านเหมิ่งไม่ว่าท่านไปไหน ข้าจะตามท่านไปด้วย” คุณชายใหญ่เสนอทันที
ถังเทียนจ้องมองทั้งสองคนอยู่ครึ่งค่อนวัน และหลังจากคิดว่าทั้งสองคนไม่ได้ล้อเขาเล่น เขาตบต้นขา “ก็ได้!”
คุณชายใหญ่และหลิงเซี่ยดีใจทันที
แต่พวกเขาไม่เคยคาดว่าถังเทียนจะเปลี่ยนหัวข้อ “อย่างนั้นเรามาคุยเรื่องผลตอบแทนกัน”
เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของพวกเขา สีหน้าถังเทียนไม่พอใจ “อย่าบอกนะว่าจะให้ข้าช่วยฟรีๆ?”
คุณชายใหญ่รู้สึกตัวโดยเร็วและรีบตอบ “ท่านเหมิ่ง ถ้าท่านมีข้อเสนออะไร บอกเราได้”
ถังเทียนพอใจกับคำรับรองของคุณชายใหญ่ทันทีและกระแอมเบาๆ “คุณชายใหญ่ยังเป็นคนที่สำคัญจะปกป้องท่านราคาย่อมไม่ต่ำแน่นอน เราที่อยู่ตรงนี้ทุกคนล้วนเป็นสหายกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังกัน คนที่กล้าลงมือกับท่านเป็นไปได้ที่สุดก็คือเหออิงและท่านหญิงโหรว เพราะเพื่อท่านข้าจึงต้องเป็นศัตรูกับพวกเขาไปด้วย ฉะนั้นช่วยบอกข้าทีข้าเสียสละครั้งใหญ่หรือไม่?”
หลิงเซี่ยอดคัดค้านไม่ได้ “เจ้าก็เป็นศัตรูกับพวกเขาอยู่แล้ว!”
ถังเทียนดุ “หลิงเซี่ยน้อย เราต่างก็คุ้นเคยกันดี แต่กับคุณชายใหญ่ มันเป็นเรื่องธุรกิจ ดังนั้นเมื่อเป็นธุรกิจเราก็ควรว่ากันตามกฎธุรกิจ เจ้าบอกว่าเหออิงและพวกไม่ชอบข้า ข้ายอมรับเรื่องนั้น แต่ถ้าข้ายินยอมออกไปจากทวีปทรายขาวตอนนี้เหออิงและพวกจะไม่ตามหาข้าเพื่อก่อความยุ่งยากให้ข้าแน่นอน และบางทีพวกเขาอาจให้อะไรดีๆ กับข้าก็ได้”
หลิงเซี่ยมีสีหน้าบิดเบี้ยว
แต่ตรงกันข้าม คุณชายใหญ่มีสีหน้าชื่นชม “ข้าชอบความคิดของท่านเหมิ่งหนาน! มิตรภาพส่วนมิตรภาพ,แต่ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ นั่นก็ถูกแล้ว! แต่ท่านเหมิ่งก็ควรจะรู้สถานะของข้าดีเช่นกัน ค่าใช้จ่ายประจำวันของข้าไม่นับว่าถูกและถึงระดับร้อยล้าน เทียบกับท่านเหมิ่งข้ากลายเป็นคนยากจนไปเลย นอกจากสถานะทายาทแล้ว ข้าไม่มีของมีค่าอะไรอื่น”
ความซื่อและความเจียมตัวของคุณชายใหญ่ทำให้ผู้คนปลาบปลื้มใจอย่างแท้จริง
ถังเทียนเห็นด้วย คุณชายใหญ่เป็นเพียงผู้อยู่ในฐานะทายาทสืบทอดตำแหน่ง แต่เพราะที่ผ่านมาในช่วงสองสามปีเขาถูกเหออิงและท่านหญิงโหรวข่มอยู่ ดังนั้นเขาจึงเป็นอยู่อย่างน่าสมเพช ไม่มีเงินไม่มีผู้สนับสนุน ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลหลิงและซัวปี่คอยค้ำจุนเขาคงตายไปนานแล้ว
ถังเทียนสะดุด เป็นเรื่องยากที่จะบีบเค้นเอาอะไรจากคนจนได้
“เนื่องจากส่วนที่มีค่ามากที่สุดของท่านก็คือทายาทสืบทอดตำแหน่ง เราก็ว่ากันเฉพาะตรงจุดนี้” ทันใดนั้นถังเทียนรู้สึกได้ว่าทวีปทรายขาวเป็นพันธมิตรที่ดี ตั้งอยู่ไม่ห่างจากทวีปซางโจวมากและพวกเขามีธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรืองและยิ่งไปกว่านั้น ที่ตั้งของทวีปทรายขาวจะทำให้ได้เปรียบในการป้องกัน ต่างจากทวีปฝานซิงโจวซึ่งเปิดโล่งทุกด้าน
ในทวีปทรายขาวไม่ว่าจะหาซื้อหรือขายอะไรก็สะดวกสบายทุกอย่าง สำหรับทวีปซางโจวแล้ว จะช่วยเหลือได้มาก สมาคมการค้าสวีจี้ขายแต่เพียงอาวุธและเขาจำเป็นต้องมีช่องทางอื่นสำหรับหาซื้อสิ่งของอื่น ทวีปทรายขาวมีอิทธิพลและตำแหน่งสำคัญในภูมิภาคใต้ เมื่อเทียบกับทวีปฝานซิงโจว อิทธิพลของทวีปทรายขาวนั้นเข้มแข็งกว่า
คู่ต่อสู้ของเขาก็คือทวีปเกียรติยศชาวยุทธที่แข็งแกร่งทรงอำนาจ เขาต้องการตัวช่วยสองสามอย่าง
ถังเทียนไม่เคยไว้ใจเหออิงและท่านหญิงโหรวในสายตาเขาเลย พวกเขาไม่สำคัญสำหรับเขา คำพูดของเขาก่อนหน้านั้นแค่พูดส่งเดช หนุ่มชาวฟ้าจะก้มหัวให้เหออิงได้ยังไง?
นั่นแย่ยิ่งกว่าฆ่าถังเทียน
ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะแล้วจากนั้นก็พูดอย่างเป็นงานเป็นการ “ถ้าคุณชายใหญ่กลายเป็นเจ้าครองทวีปคนใหม่ ข้าหวังว่าจะได้รับสัมพันธไมตรีกับทวีปทรายขาว”
รอยยิ้มที่หน้าของคุณชายใหญ่หายไปทันที เขาพูดอย่างจริงจัง “แต่ต้องไม่ใช่เงื่อนไขที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทวีปทรายขาว ไม่ว่าในอนาคต ข้าจะได้เจ้าครองทวีปทรายขาวหรือเป็นศพก็ตาม ข้าไม่เคยคิดทำร้ายผลประโยชน์ของทวีปทรายขาว”
ถังเทียนจ้องมองคุณชายใหญ่ที่ไม่มีขลาดเขลาแต่จ้องมองถังเทียนตอบ
แววชื่นชมปรากฏในดวงตาของถังเทียน ความจริงเมื่อเขาเห็นคุณชายใหญ่ เขาไม่เคยคิดอะไรกับเขา แต่ขณะนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะประเมินคุณชายใหญ่ผู้ที่ดูเหมือนไม่มีตัวตนนี้ใหม่
สายตาของคุณชายใหญ่กระจ่างปรากฏเหมือนกับผ่านการอบรมมาอย่างดีเหมือนกับครูมากกว่าจะเป็นผู้สืบทอดปกครองทวีป ถังเทียนลูบคาง ‘ถ้าคนผู้นี้ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมสะสมอยู่ในตัวเต็มที่เหมือนกับอาเฮ่อหรือปิง เขาคงจะแพ้เหออิงและท่านหญิงโหรวแน่นอน’
“พันธมิตร เป็นพันธมิตรในภูมิภาคใต้ นั่นง่ายมาก” ถังเทียนคิดชั่วขณะ “บางทีข้าจะขายของสองสามอย่างให้ท่าน หรือบางทีข้าก็อาจซื้อของสองสามอย่างจากท่าน”
คุณชายใหญ่ถอนหายใจโล่งอกเขากังวลว่าเหมิ่งหนานจะฉวยโอกาสตั้งเงื่อนไขที่เขาไม่อาจยอมรับได้ ท่านซัวปี่คุยกับเขาไว้ก่อนแล้วและที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือท่านซัวปี่เชื่อมั่นในเหมิ่งหนาน
พันธมิตรและช่วยหาช่องทางทำธุรกิจของทวีปทรายขาว เงื่อนไขนั้นไม่นับว่าสูงยังถือว่าต่ำมากด้วยซ้ำ
“เพียงเท่านั้นเองหรือ?” คุณชายใหญ่ไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง
ถังเทียนชำเลืองมองดูเขา “ท่านยังไม่มีพลังอำนาจท่านก็ยังไม่สามารถเติมเต็มสิทธิ์เหล่านี้ในตอนนี้”
คุณชายใหญ่รู้สึกละอายใจทันที
หลิงเซี่ยถอนหายใจโล่งอก นางมองเหมิ่งหนานไม่ออกอีกต่อไป ทุกอย่างที่เขาทำล้วนแปลกประหลาด และการขอร้องแปลกๆ มักทำให้นางประหลาดใจได้เสมอ
‘เขาแปลกคนจริงๆ’
ทันใดนั้นมีเสียงดังออกมาจากด้านนอก “ใครกัน?ออกมาเดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้นเป็นเสียงต่อสู้ที่รุนแรงดังออกมาจากลานบ้าน ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน พวกเขามองหน้ากันเอง ถังเทียนยืนขึ้นและตะโกน “ไปดูกัน!”
เมื่อถังเทียนมาถึง การต่อสู้จบลงเรียบร้อย มีศพสองสามศพนอนอยู่บนพื่น มีเลือดนองพื้น
ถังเทียนฟังรายงานจากบริวาร สีหน้าของเขาไร้ความรู้สึก
มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และโดยไม่ส่งสัญญาณอะไรพวกเขาเริ่มต่อสู้กับกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว แต่โชคดีที่คนที่อยู่ใกล้ๆ เคลื่อนห่างออกไปและกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวก็ระมัดระวังอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงพวกเขาก็รู้ตัวแล้ว
“อาการบาดเจ็บพวกท่านเป็นยังไงบ้าง? พวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน?” ถังเทียนถาม
“เรามีคนบาดเจ็บสองคน ถ้าเป็นการสู้กันตัวต่อตัวก็อาจจะเสมอกัน” คนที่ตอบคืออาเหล่ง เขารับหน้าที่ดูแลชั่วคราว และสีหน้าของเขาไม่ค่อยดี “ข้าคิดว่าพวกเขารับจ้างมา และเป็นทหารผ่านศึก”
เขารู้สึกยินดีในใจเนื่องจากความรอบคอบของเขา การป้องกันลานบ้านตระกูลหลิงมีความหนาแน่นมากอำนวยตามมาตรฐานของค่ายป้องกันในสมรภูมิอย่างสมบูรณ์ การจัดตำแหน่งอย่างพิถีพิถันถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่จำกัดอยู่ที่มีเพียงผู้บาดเจ็บสองคน
เสียงระเบิดดังมาจากที่ใกล้และควันดำเริ่มลอยคลุ้ง เมืองทรายขาวตกอยู่ในความวุ่นวาย คุณชายใหญ่สีหน้าเขียวคล้ำทันที “พวกเขาพยายามจะทำอะไร?หรือว่าจะปิดบัญชีกันแล้ว?”
ถังเทียนมองดูคุณชายใหญ่ด้วยความเห็นใจ ‘สิ่งที่พวกเขาพยายามจะทำน่ะหรือ, พวกเขาพยายามจะฆ่าท่าน’
แต่ในขณะนั้น เขาไม่กระตุ้นตอแยเขา และสั่งทันที “เราจะออกนอกเมืองและไปที่ค่ายทหาร!”
ทุกคนสามารถบอกได้ว่ากลายเป็นเรื่องอันตรายแล้ว พวกเขาทุกคนมีสีหน้าจริงจัง พวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีใครคาดเลยว่าเหออิงจะกล้าบ้าบิ่นจริงๆ
คฤหาสน์จันทราคือที่ปลอดภัยของฉินอวี่หรันและตอนนี้กลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงของทวีปทรายขาว เนื่องจากสตรีสาวชั้นสูงนับไม่ถ้วนจะมาเยี่ยมชมฉินอวี่หรัน หญิงสาวทุกคนจะมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งก็ยังยอมพักอยู่ในห้องพักอาคันตุกะก็ยอม
โชคดีที่คฤหาสน์จันทราคือคฤหาสน์ที่แพงที่สุดและใหญ่ที่สุดของเมืองทรายขาวจึงมีห้องรับรองอาคันตุกะอย่างเพียงพอ เป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับบุรุษ
ผู้คนชอบล้อเล่นกันว่าใครก็ตามที่ยึดครองคฤหาสน์จันทราได้ย่อมจะโค่นล้มทวีปทรายขาวได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ
ฉินอวี่หรันที่ปัจจุบันนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ผู้นำสตรีสังเกตได้ถึงเสียงแตกตื่นภายนอก นางวิ่งออกมาจากห้องโถงใหญ่มาถึงที่ลานคฤหาสน์เห็นว่าบ้านไม้นับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในอากาศตกอยู่ในเปลวเพลิงมีควันลอยคลุ้ง
สตรีชั้นสูงถึงกับแตกตื่นหัวใจของฉินอวี่หรันเต้นแรง นางล้วงเครื่องมือสื่อสารออกมาใช้ทันที แต่ไม่สามารถใช้งานได้แม้แต่น้อย
นางรู้สึกว่าต้องมีการก่อนกบฏ
นางเรียกหาองครักษ์ที่เชื่อใจได้และกระซิบเบาๆ “เจ้าต้องไปลานบ้านตระกูลหลิงเดี๋ยวนี้ ขอความช่วยเหลือจากท่านเหมิ่งหนาน”
เมื่อเห็นองครักษ์ประจำตัวออกไปแล้วฉินอวี่หรันประหลาดใจตัวเอง นางไม่เคยคิดเลยว่าช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด คนแรกที่นางคิดถึงกลับเป็นพี่เหมิ่ง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ป้าชิวถาม
สตรีอ่อนแอรอบๆนางพากันร้องไห้แตกตื่นโดยไม่มีสติ
ฉินอวี่หรันหายใจลึกและตะโกน “ทุกคนไปอยู่ในห้องโถงใหญ่! ทุกคนเข้าไปในห้องโถงใหญ่!”
เหมือนกับว่าสตรีเหล่านั้นพบที่พึ่งพวกนางเป็นเหมือนกับไก่ที่ตื่นกลัววิ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่
ฉินอวี่หรันเรียกกลุ่มหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยและกล่าว “จากนี้ไป เจ้าจะต้องนำบ่าวรับใช้และกลุ่มคนคุ้มกันเข้ามาในที่นี้ ไม่ต้องคำนึงถึงครอบครัวพวกเขาเจ้าจะต้องจัดการ เจ้ามีงานอย่างเดียว ป้องกันด้านนอกและต้องแน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้ามาได้! ฆ่าทุกคนที่พยายามเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”
หัวหน้าผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยน “ขอรับ”
น้ำเสียงของฉินอวี่หรันเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต “ทุกอย่างในตอนนี้ เป็นลางไม่ดี แต่, เจ้าต้องบอกทุกคนใครก็ตามที่เสียชีวิตในการรบ ข้าจะดูแลครอบครัวพวกเขาเอง”
หัวหน้าผู้คุ้มกันติดตามฉินอวี่หรันมาหลายปี และรู้ว่าแม้ว่าคุณหนูจะเป็นสตรี แต่คำพูดของนางมีน้ำหนักและเชื่อถือได้ ทุกคนเคยได้รับความเมตตาจากนางมาก่อน เขาเองก็เคยบาดเจ็บในสงครามและเดินไปตามถนน แต่ได้นางช่วยเหลือไว้ ฉินอวี่หรันมีตาซึ่งมีพรสวรรค์ ดังนั้นจึงให้เขานำกลุ่มหน่วยคุ้มกันภัย
“ถ้าพวกมันต้องการเข้ามา พวกมันต้องข้ามศพผู้น้อยไปก่อน”
หัวหน้าหน่วยคุ้มกันพูดกับฉินอวี่หรันอย่างเคร่งขรึม จากนั้นหันหน้าและเดินออกไปข้างนอก และเริ่มนำกองกำลังออกไปต่อต้าน
ฉินอวี่หรันขบริมฝีปากแน่น นางรู้ว่าเป็นการก่อกบฏ อย่างนั้นแผนการก็คงจะไม่ยอมปล่อยคฤหาสน์จันทราไว้แน่ ใช้สตรีที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลใหญ่ในทวีปทรายขาวเป็นไพ่ต่อรองที่ดีที่สุด
สำหรับนาง ทวีปทรายขาวคือถิ่นอื่นสำหรับนาง นางไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร
นางเพียงแต่ฝากความหวังไว้กับพี่เหมิ่ง
พี่เหมิ่ง,ท่านต้องมาที่นี่เร็วๆ!
ฉินอวี่หรันกระวนกระวายใจมากขึ้นทุกที