ตอนที่ 624 กะโหลกชมพู
“สวะ!”
“กระจอก!”
“ทหารไร้สังกัด!”
“กองขยะ!”
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาสำหรับกองกำลังนางแอ่นมันคือฝันร้ายในฝันร้าย มีการทดสอบในตอนกลางวันและกลางคืน และเนื้อหาการทดสอบก็แปลกประหลาด ทำให้กองกำลังนางแอ่นถูกรีดจนไม่เหลือพลัง เสียงสบถด่ายังคงมีมาต่อเนื่อง การเยาะเย้ยถากถางเพื่อบั่นทอนกำลังใจของพวกเขา แต่ไม่มีใครในกองกำลังนางแอ่นท้อถอย
ในใจของพวกเขาเหมือนกับมีเปลวเพลิงลุกไหม้
เซี่ยอวี่อันสร้างกองทัพของเขาขึ้นมาเอง และเขามีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อทุกคน จากทุกมุมมองคุณสมบัติของกองกำลังนางแอ่นไม่มีอะไรที่แตกต่างจากเซี่ยอวี่อัน พวกเขาปฏิบัติตาม มีระเบียบวินัยเคร่งครัด พวกเขาซื่อตรงและไม่มีใครที่ทำตัวไร้สาระ แต่ความหยิ่งของเซี่ยอวี่อันยังคงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ
พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ ไม่มีแม้แต่คนเดียว ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกเขาแพ้คนอื่นในเรื่องของการฝึกฝน?
การทดสอบยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายวันและหลายคืน
พวกเขาอดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวด้วยสีหน้าที่คร่ำเคร่ง ไม่สนใจกับผู้ชมทั้งหมด ความคิดของพวกเขานั้นง่าย ถ้าพวกเขาไม่ผ่านการทดสอบ นั่นก็ดีไป แต่พวกเขาจะไม่ยอมแสดงความขี้ขลาด พวกเขาไม่สามารถถอยได้ และไม่ยอมแพ้เจ้าคนโรคจิตอย่างนี้
พวกเขาเกลียดถังโฉ่วเข้ากระดูกดำ
นอกจากเซี่ยอวี่อัน
เมื่อมองดูถังโฉ่วเซี่ยอวี่อันให้ความเคารพเขาอย่างจริงใจ การเทิดทูนนี้ไม่ได้มาจากการที่ถังโฉ่วมีอำนาจตัดสินชีวิตของเขา แต่มาจากความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมา
แต่ละขั้นตอนของการทดสอบถูกสร้างขึ้นมาโดยวางแผนอย่างพิถีพิถัน เผยให้เห็นข้อบกพร่องและจุดอ่อนในการทดสอบอย่างเคร่งครัด ทำให้เซี่ยอวี่อันเชื่อมั่นอย่างบริบูรณ์
การทดสอบทั้งเก้าไม่เพียงแต่กองกำลังนางแอ่นไม่สามารถบรรลุมาตรฐานความสำเร็จของยอดทหารฝีมือดีได้เลย พวกเขาทำได้เพียงผ่านสี่บททดสอบเป็นผลการทดสอบเลวร้ายที่สุดที่กองกำลังนางแอ่นเคยได้รับ ถ้าพวกเขาไม่ได้รับเลือกเซี่ยอวี่อันก็จะไม่โทษว่าใดๆ ทั้งนั้น ตัวเขาเป็นบุคคลที่โดดเด่นคนหนึ่ง และในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาค่อยตระหนักว่าการทดสอบสุดหินนี้มีความตั้งใจที่ลึกซึ้งแฝงอยู่มากกว่าที่เห็นด้วยตา
‘ถ้ามีกองทัพใดๆที่สามารถทำบททดสอบทั้งหมดนี้ได้...
‘นั่นจะเป็นกองทัพที่น่ากลัวขนาดไหน!’
เซี่ยอวี่อันตัดสินใจแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ได้รับการว่าจ้างในครั้งนี้ เขาจะใช้การทดสอบเป็นบรรทัดฐานสำหรับการฝึกฝน เขารู้สึกเสียความรู้สึกเล็กน้อย แต่เสียงของถังโฉ่วที่รายงานกลับไปที่ถังเทียนก็ดึงเขากลับมา
“ผลของการทดสอบแย่มาก” ถังโฉ่วพูดเสียงเย็นชา “กองทหารนี้ยังไม่คู่ควรกับการเรียกว่ากองทหารฝีมือดี ข้าเชื่อว่ายังมีความแตกต่างกันมากกับสิ่งที่เขียนรายงานกันในเรื่องนี้”
แม้ว่าเขาจะคาดไว้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนั้น แต่เซี่ยอวี่อันก็ยังรู้สึกขมขื่นในใจ ไป๋เยี่ยที่ยืนเคียงข้างเขาอ้าปากกว้างเขาต้องการจะพูดว่าการทดสอบที่โหดหินนั้นไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่กองทัพของเขาจะทำให้สำเร็จได้ แต่คำพูดค้างอยู่ที่ปากของเขา เขาไม่สามารถพูดอะไรได้
ตาของไป๋เยี่ยแดง ผลการทำงานของถังโฉ่วทำให้เขาสั่น ‘ถังโฉ่วจะต้องเป็นระดับแม่ทัพที่มีชื่อเสียงแน่นอน’ ตอนแรกเขาคิดว่าแม้เหมิ่งหนานจะรวย แต่เขาก็คือคนธรรมดาที่ร่ำรวย และตระกูลของเขาไม่น่าจะมีเบื้องหลังมาก สามารถรับเซี่ยอวี่อันและกองทัพเขาได้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อเขา
แต่ตอนนี้เขาตระหนักว่าครอบครัวของเหมิ่งหนานทรงพลังมาก ยังมากเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
‘ผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงแข็งแกร่งขนาดนั้นและเขาเป็นเพียงอันดับสามในการสั่งการนั่นก็หมายความว่ายังมีระดับผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงอีกสองคนอยู่ก่อนหน้าเขา’
ไป๋เยี่ยรู้สึกหนังชาขึ้นมาทันที ‘ตระกูลของเขานี้แท้จริงแล้วแข็งแกร่งระดับใดกันแน่?’
เขาจะพูดอะไรได้? เขาไม่อาจกล่าวอะไรได้เลย สำหรับคนที่เร่ร่อนเกือบจะอดตายแค่ซาลาเปาร้อนลูกหนึ่งก็เป็นอาหารเลิศรสราวกับฟ้าประทาน แต่คนที่ร่ำรวยและทรงอำนาจเหล่านั้นได้กินอาหารแปลกใหม่ทุกวัน ซาลาเปานึ่งจะมีค่าอะไร?
“แต่พวกเขายังมีพื้นที่สำหรับการพัฒนาขึ้นอีก ขอเพียงผ่านการเจียระไนก็สามารถใช้ประโยชน์ได้”
คำพูดของถังโฉ่วทำให้ดวงตาที่หมองของเซี่ยอวี่อันเป็นประกายทันที แต่เขาฝืนหัวเราะ ‘ตั้งแต่เมื่อใดกันที่กองทัพของข้าตกอยู่ในสภาพ‘ใช้ประโยชน์ได้บ้าง?’ แต่เขาไม่ปฏิเสธคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ปฏิเสธพวกเขา แต่ก็ยังรู้สึกยินดีระคนหม่นหมองอยู่ในใจ...
ถังโฉ่วยังคงไม่มีความรู้สึก แต่เซี่ยอวี่อันปลาบปลื้มใจเต็มที่ นอกจากการทดสอบแล้ว พวกเขาหลายคนปล่อยวาง เนื่องจากพวกเขาเป็นทหารรับจ้าง เขาตัดสินใจว่าจะกำจัดความหยิ่งในใจออกไปเพื่อเจ้านายของเขา เขาเลือกปฏิบัติตามเส้นทางอย่างซื่อสัตย์ เขาต้องการให้พวกเขาที่ตกตะลึงมีความเชื่อมั่นอย่างบริบูรณ์
‘ดูเหมือนว่า ข้าก็ยังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ’
ความจริงในใจถังโฉ่วประเมินเซี่ยอวี่อันเป็นอย่างดี สำหรับเขาแล้ว เซี่ยอวี่อันมีบุคลิกที่ดี เขามีความรับรู้สูงอดทนและรอบคอบ ข้อบกพร่องประการเดียวของเขาก็คือสายตามองการณ์ไกลของเขามีอย่างจำกัด แต่เมื่อคิดถึงความยากลำบากเมื่ออยู่ในดินแดนรกร้างทำให้เขาไม่ได้รับประสบการณ์กับสงครามที่มีความรุนแรงสูง
‘แต่พวกเขามีคุณภาพพอจะควบคุมขบวนสินค้าของนายท่าน’
“พวกท่านได้รับการว่าจ้าง” ถังเทียนพูดตรงๆ เขามีความเชื่อมั่นในตัวถังโฉ่ว เขาเองก็ค่อนข้างจะพอใจผลการปฏิบัติงานและความมุ่งมั่นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาของกองกำลังนางแอ่นและหัวเราะ “ลำบากมากเหมือนกันกว่าพวกท่านจะผ่านสองสามวันนี้มาได้ สำหรับเครื่องมือเครื่องใช้ ท่านลองทำรายการมาก่อน ข้าจะให้สมาคมการค้าสวีจี้จัดเตรียมให้พวกท่าน”
เซี่ยอวี่อันถอนหายใจโล่งอก “ขอรับ!”
“อย่างนั้นเรามาทดสอบอีกกองทัพหนึ่ง” ถังเทียนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
สวีจินที่ยืนอยู่ข้างๆหน้าซีด เขาหัวเราะอย่างอึดอัดใจ “เกี่ยวกับเรื่องนั้น, เสี่ยวเหมิ่ง, อ่า..กองทหารนี้จะแตกต่างจากกองกำลังนางแอ่น แต่พี่สวี่รับรองได้ว่าพวกเขาเป็นพวกมือดีและไม่ใช่กองทหารธรรมดาแน่นอน พวกเขาคือกองกำลังกะโหลกชมพู”
“ฟังดูเหมือนกับโจรสลัด” ถังโฉ่วพูดเย็นชา
“พวกเขาเป็นทหารรับจ้าง” สวีจินแก้ต่างทันที ถ้าเขาทำให้ถังเทียนคิดว่าเขาหาโจรสลัดมาให้ อย่างนั้นเดี๋ยวเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่ สวีจินไม่ค่อยมีความรู้สึกดีเช่นกัน เขายังต้องอาศัยถังเทียนเพื่อหารายได้ก้อนโตเขาจะกล้าล่วงเกินถังเทียนได้ยังไง? แน่นอน เขายังไม่กล้าล่วงเกินถังโฉ่วด้วย เขาเห็นกับตาตัวเองแล้วถึงความสามารถที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นเขารู้ว่าถังโฉ่วไม่ใช่คนที่เขาจะเข้าไปตอแยได้เช่นกัน
“พวกเขาเป็นทหารรับจ้างที่มาจากทวีปบุลโลว์ ทหารรับจ้างในทวีปบุลโลว์ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงและกลุ่มกะโหลกชมพูคือทหารรับจ้างที่มีประวัติศาสตร์ ก่อตั้งมานานเกินกว่า 200ปีแล้ว พวกเขาขยายและพัฒนาจนถึงทุกวันนี้ และนี่คือรุ่นที่สามอายะรับหน้าที่ดูแลกลุ่มกะโหลกชมพูคนปัจจุบัน และในช่วงสองสามปีมานี้ ถ้ายังไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียงทั่วไป พวกเขาทำภารกิจสำเร็จมาแล้วมากมาย และค่อนข้างจะโดดเด่น”
สวีจินต้องการจะพิสูจน์คำพูดของเขาแทบแย่ “ข้าคงไม่กล้าก่อเรื่องยุ่งยากให้นายท่าน ถ้านายท่านไม่เชื่อข้า ท่านสามารถถามท่านเซี่ยและพี่ไป๋ได้”
เมื่อเห็นว่าถังเทียนกำลังมองมาทางเขา เซี่ยอวี่อันพูดอย่างไม่แน่ใจ “ถ้าเจ้าพูดถึงกลุ่มกะโหลกชมพู พวกเขามีชื่อเสียงมาก”
“ข้าก็เคยได้ยินชื่อของกลุ่มกะโหลกชมพูมาเช่นกัน” ไป๋เยี่ยลูบคาง แต่น้ำเสียงของเขาเปลี่ยน “แต่นั่นเป็นคำลือผ่านหู เรายังต้องการจะเห็นประจักษ์พลังที่แท้จริงของพวกเขา”
ถ้าการมองสามารถฆ่าคนได้ สวีจินคงจะใช้สายตาทิ่มแทงร่างไป๋เยี่ยเป็นพันครั้งไปแล้ว
ไป๋เยี่ยยังคงสงบ ‘ตลกน่ะ,เซี่ยอวี่อันทดสอบทรมานแทบตายไปแล้ว ถ้ากลุ่มกะโหลกชมพูไม่มีการแปดเปื้อนบ้าง นั่นคงไม่เป็นการยุติธรรม’
ถังเทียนเห็นด้วย “ถังโฉ่ว ทดสอบพวกเขา”
สีหน้าของทหารในกลุ่มกะโหลกชมพูเปลี่ยนไปทั้งหมด
หน้าของสวีจินรู้สึกขมขื่น “พวกเขาเป็นทหารรับจ้าง ความเชี่ยวชาญของพวกเขาต่างจากกองกำลังนางแอ่น”
ไป๋เยี่ยไม่พลาดโอกาสผลักดันสวีจินออกสู่แสงสว่างและเริ่มเยินยอสวีจิน “พี่สวีท่านพูดอะไรอย่างนั้น ทหารรับจ้างแตกต่างจากทหารทั่วไปอย่างแน่นอน พวกเขาเชี่ยวชาญในการแทรกซึมขนาดเล็กปกป้องคนสำคัญและกำจัดพวกตัวตั้งตัวตีสำคัญ”
เขาแค่นเสียงในใจ ‘เจ้าคิดว่าแค่ให้เหตุผลแล้วจะไม่ต้องทดสอบโหดหินกับเขาน่ะหรือ? เล่าสวี เจ้าอ่อนหัดเกินไปแล้ว’
‘เจ้าจะรู้ว่าเขามีพลังที่ไม่ธรรมดาแบบไหนโดยเร็ว!’
“ทหารรับจ้าง?” ถังโฉ่วยังคงเงียบ แต่นัยน์ตาลึกของเขาเริ่มเรืองแสง คนที่คุ้นเคยกับเขาจะรู้ว่าท่านถังโฉ่วได้พบวิธีการบางอย่างที่น่าสนใจแน่นอน
ถูกแล้วถังโฉ่วได้พบวิธีการบางอย่างที่น่าสนใจ ทหารรับจ้างคือกองทหารที่เขาไม่เคยมีสัมพันธ์ด้วยมาก่อน เขาผลิตสร้างกองทัพดาวกางเขนใต้และเขาทำตามระบบกลุ่มดาวกางเขนใต้อย่างเคร่งครัด
ทหารรับจ้างคือสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับถังโฉ่ว
“เนื่องจากพวกเขาเป็นทหารรับจ้าง อย่างนั้นข้าจะไม่ทดสอบพวกเขาในครั้งนี้”
คำพูดของถังโฉ่วทำให้ทั่วทั้งกลุ่มกะโหลกชมพูดีใจ‘ใช่เลย! เราไม่ต้องลองกับการทดสอบที่เจ็บปวดนั้น!”
แม้ว่าอายะที่แสดงให้เห็นว่าตนเองใจเย็นที่สุด แม้แต่นิ้วของนางที่กุมอยู่ที่ด้ามดาบก็ยังจับไว้แน่น ในที่สุดนางก็คลายนิ้วออกได้
“โปรดแสดงการฝึกซ้อมที่พวกเจ้าถนัดที่สุดออกมา” ถังโฉ่วกล่าว
ทุกคนในกลุ่มกะโหลกชมพูอดยิ้มไม่ได้ ‘อะไรกันวะ เจ้าคนผิดปกตินี่พูดดีๆ กับเขาก็เป็นด้วย! บางทีคนแซ่เซี่ยคงไปล่วงเกินเขาแน่ นั่นคือสาเหตุให้เจ้าทหารโรคจิตนี่ใช้วิธีการที่โหดหินทรมานพวกเขา’
อายะเริ่มยิ้ม ฝึกซ้อมคือสิ่งที่พวกเขาสามารถทำให้ดีที่สุด เนื่องจากทหารรับจ้าง พวกลูกค้ามักจะขอดูการฝึกซ้อมของพวกเขา เพื่อแสดงพลังของกองกำลัง พวกเขามักจะแสดงการฝึกซ้อมว่าพวกเขาคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของลูกค้า
“ตกลง!”
อายะตวาดเสียงชัดใสจากนั้นนำกองทัพเข้าพื้นที่
การฝึกซ้อมขนาดใหญ่เริ่มต้นทันที การประสานงานขนาดเล็กที่แพรวพราว แสดงออกถึงความชำนาญในการลอบโจมตีของพวกเขา ดูเหมือนการตั้งขบวนอย่างผ่อนคลายแต่รังสีฆ่าฟันรุนแรงและมีโอกาสฆ่าหลายเท่า ดูเหมือนว่าทหารที่ดูไม่เป็นระเบียบนี้จะกลายสภาพเป็นคนอีกคนหนึ่งและแสดงทักษะกลเม็ดต่างๆ
การฝึกซ้อมทั้งหมดเต็มไปด้วยพลังและความเคลื่อนไหวที่แสดงออกก็งดงาม
เมื่อเห็นว่าถังโฉ่วพยักหน้าในชั่วขณะ ดูเหมือนจะแสดงอารมณ์ที่พอใจออกมา อายะดีใจ เนื้อหาของการฝึกซ้อมของพวกเขาถูกจัดและวางแผนไว้อย่างพิถีพิถัน และคนที่มองดูจะตกตะลึงเช่นกัน
ใครจะรู้กันว่าจะมีสักวันที่จะได้ใช้ประโยชน์
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอายะและพวกใส่พลังเต็มที่ ไม้ตายที่หลากหลายทั้งหมดที่ไม่เคยได้ใช้ ก็แสดงออกมาหมด
แม้แต่ไป๋เยี่ยและเซี่ยอวี่อันก็ยังพยักหน้าขณะที่พวกเขามองดู พวกเขาเป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจ สามารถสืบทอดต่อกันมาได้ถึง 200 ปี กลุ่มกะโหลกชมพูก็ต้องแสดงฝีมือได้สองสามท่าแน่นอน ในแง่การสู้ปะทะโดยตรง กลุ่มกะโหลกชมพูไม่อาจเทียบได้กับกองกำลังนางแอ่น แต่ในเรื่องการสู้ข้างถนน การไล่ล่าวางกับดักและขัดขวาง กลุ่มกะโหลกชมพูจะชนะกองกำลังนางแอ่นได้ตรงนี้ทั้งหมด
แต่ทั้งสองคนมาจากสถานบันการศึกษาที่สอนเรื่องสงครามแบบดั้งเดิม เมื่อดูกองทหารรับจ้างก็ย่อมจะคัดค้านวิธีการของพวกเขาเป็นธรรมดา
แต่ถังโฉ่วไม่ลำเอียง เขามองดูด้วยความยินดีการประจัญบานในสนามรบสามารถทำลายล้างได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าเขาสามารถใช้การโจมตีขนาดเล็กอย่างพิถีพิถัน พลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน
‘โอวนี่นับเป็นวิธีการค้นคว้าแบบใหม่ จะทำให้ระบบปัจจุบันที่เรามีก้าวหน้ายิ่งขึ้น’
‘และมีแม้กระทั่งการทดลอง...’
ท่าทางที่ถังโฉ่วมองดูกลุ่มกะโหลกชมพูเหมือนคนหิวโหยจ้องดูซาลาเปานึ่งร้อนๆ ตาของเขาเขียวเป็นประกายแปลกประหลาด