ตอนที่ 622 มังกรไร้เขาปะทะหนอนไหมฟ้า
เกี่ยวกับการดุว่ากล่าวของเย่ว์หยางทำให้สาวยักษ์โกรธมากจนนางแทบระเบิดอารมณ์อาละวาด
ถ้าไม่มีใครอื่นอยู่แถวๆ นั้น ไม่ว่ายังไงนางคงต้องทุบเขาให้ได้แน่ ถ้านางไม่ทุบหัวเขาให้บวมเป็นหัวหมูคงยากจะระบายความโกรธเกลียดในใจนางออกไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกมังกรปีศาจราชาใจสิงห์และศัตรูที่น่ากลัวอื่นล้อมไว้ นางสูดหายใจลึกและสงบอารมณ์ตนเอง แม้ว่าจะไม่ยินดีแต่นางเข้าใจว่าไม่ได้ฟังเขาผิดไปเกี่ยวกับการดำเนินแผนการที่แยบยล เจ้าเด็กนี่เหนือกว่านางมาก
“ฮึ!” สาวยักษ์แค่นเสียงและเห็นด้วยกับเย่ว์หยาง
“นี่จริงหรือ?” หลงเสียง, เสี่ยวโฉ่วและคนอื่นๆ ประหลาดใจมาก ใครก็รู้จักลี่เยี่ยนดีถึงความเจ้าอารมณ์ของนาง นางยอมตายมากกว่ายอมตามคนอื่นคนอย่างนางไม่ยอมประนีประนอม ใครจะคิดกันว่าเจ้าเด็กนี่สามารถทำให้นางเชื่องเชื่อได้ภายในวันเดียว?
เจ้าเด็กนี่ทำได้อย่างไร?
มนุษย์กระดูกราเชลเกือบเขียนบทกวีแสดงความนับถือเย่ว์หยาง
แม้แต่ราชาใจสิงห์ก็ประหลาดใจ ในความเข้าใจของเขา หัวหน้าลี่เยี่ยนไม่เคยฟังคำสั่งบุรุษต่อให้เขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าก็ตาม
นางสิงห์ผู้ดื้อรั้นยึดมั่นในความรุนแรงยินยอมฟังคนอื่นจริงๆ หรือนี่? ราชาใจสิงห์ตระหนักได้ทันทีถึงคำถามที่สำคัญกว่า ถ้าแม้แต่หัวหน้าลี่เยี่ยนซึ่งเป็นนักสู้ปราณฟ้าที่แข็งแกร่งและรักอิสระยังยอมฟังเจ้าเด็กนี่ ในอนาคตเมื่อเจ้าเด็กนี่มีสถานะเป็นปึกแผ่นและร่วมมือกับหัวหน้าลี่เยี่ยนรับสมัครพรรคพวกนักสู้ปราณฟ้าเพิ่มขึ้นพวกเขายังจะสามารถหยุดยั้งได้หรือ? ในทันใดนั้นราชาใจสิงห์มีแรงกระตุ้นต้องการจะฆ่าเย่ว์หยาง...แน่นอนว่าความคิดนี้แค่ผ่านมาวับเดียวในตอนแรก แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มนี้ดูเหมือนจะมีสัมพันธ์สนิทกับหมอหลง ถ้าบังเอิญเขาเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเทพมังกรในตำนานจริงๆต่อให้เขาเป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งในเผ่าพันธุ์ การฆ่าเย่ว์หยางก็จะส่งผลต่อเขา
แม้ว่าหมอหลงเพิ่งจะถูกปล่อยออกมาจากผนึกและพลังของเขายังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ก็ตาม แต่ราชาใจสิงห์ไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะหมอหลงได้
นอกจากนี้ ถ้าเขาล้มเหลว ผลที่ไม่คาดคิดจะตามมา
ด้วยความเกลียดของหมอหลง เมื่อเขาฟื้นฟูพลัง คนที่โชคร้ายจะไม่ได้มีแต่เพียงเขาเท่านั้น แต่เป็นแดนสวรรค์ใต้ทั้งหมด
ราชาใจสิงห์ไม่ต้องการตอแยยั่วโทสะหมอหลงแต่เขาไม่สามารถมองเห็นสถานะของเย่ว์หยางได้ เพื่อป้องกันปัญหาจากการแทรกแซงของตัวเขาเอง เขาตัดสินใจไม่ทำอะไรในตอนนี้ ยังไงก็ตาม พลังจะตัดสินทุกอย่าง ไม่มีพลัง ต่อให้ได้ตำแหน่งครอบครองดินแดนระดับสูงเขาก็ไม่สามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้
สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ การเติบโตของเขาไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขาอยู่แล้ว เขาก็แค่ทำเป็นมองไม่เห็น
“ก่อนอื่น ข้าอยากจะขอบคุณท่านหมอหลงและราชาใจสิงห์ที่สนับสนุนความยุติธรรม เรายินดีจะซ้อมมือกับทุกคนเพื่อศึกษากันและกันฉันท์มิตร แต่พลังของข้ายังไม่ค่อยเพียงพอ ดังนั้นข้าหวังว่าพวกท่านจะเมตตาออมฝีมือให้ข้าบ้าง” เย่ว์หยางชี้ไปที่คนทรยศฝู่โถวที่ดูกังวลและขลาดเขลาอย่างสมบูรณ์“เพื่อป้องกันไม่ให้คนล้อเลียนดูถูกว่าข้าประเมินความสามารถของตัวเองสูงไป ข้าหวังว่าจะได้รับการชี้แนะจากนักสู้ปราณฟ้าฝู่โถวมิทราบว่าท่านฝู่โถวจะเห็นเป็นเช่นไร?”
“.....” หลงเสียงและคนอื่นๆพูดไม่ออกเมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น
พลังของเจ้าไม่เพียงพอหรือ?พลังของเจ้าไม่เพียงพอแต่เจ้าสามารถไล่ทุบเสี่ยวโฉ่วจนไม่รู้ทางไหนเหนือทางไหนใต้น่ะหรือ?
แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนเจ้าเล่ห์โดยไม่มีพลังเพียงพอ แต่เสี่ยวโฉ่วก็คงไม่ลงเอยในสภาพทุลักทุเลอย่างนั้น ขนาดได้ความช่วยเหลือจากจอมปีศาจจื้อกวง,มนุษย์กระดูกราเชลและนักสู้ปราณฟ้าอีกสามคน เขาก็ยังเล่นงานเสี่ยวโฉ่วจนร้องออกมาอย่างหวาดผวา แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าพลังไม่เพียงพออีกหรือ?
เสี่ยวโฉ่วหน้าแข็งค้าง ถ้าเขาสามารถเลือกได้ เขายินยอมเลือกสู้กับสาวยักษ์ลี่เยี่ยนมากกว่า
เทียบกับนางแล้ว ความสามารถของเจ้าเด็กผิดมนุษย์นี่คือดาวข่มของเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บในปัจจุบัน ความสามารถของพวกเขาแย่ยิ่งกว่าเมื่อก่อน แน่นอน เสี่ยวโฉ่วมีความมั่นใจพอว่าถ้าไม่มีลูกเล่นหรือแผนการแฝงต่อให้ไม่สามารถเอาชนะเย่ว์หยางได้ แต่อย่างน้อยเขาจะสามารถต่อสู้ได้อย่างเท่าเทียมกันหรืออาจได้เปรียบบ้างเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามคนแรกที่เจ้าเด็กนี่เลือกกลับเป็นฝู่โถว เสี่ยวโฉ่วไม่คิดว่าฝู่โถวจะทนรับมือเย่ว์หยางได้ถึงสิบท่า
ปกติฝู่โถวเข้าใจถึงความสามารถของตนเอง การเลือกสู้กับเย่ว์หยางก็เท่ากับหาที่ตาย
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถปฏิเสธการต่อสู้ได้เพราะนี่คือการต่อสู้ที่จะตัดสินใจความเป็นพันธมิตรของหมอหลงและราชาใจสิงห์ ถ้าเขาปฏิเสธการต่อสู้ก็เท่ากับไม่ให้เกียรติหมอหลงและราชาใจสิงห์ นั่นจะแย่ยิ่งกว่าขุดหลุมฝังตัวเอง ตอนนี้เขาเพียงแต่หวังว่าเสี่ยวโฉ่ว,ราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงจะก้าวออกมาขันอาสาสู้และยุติเรื่องทั้งหมดนี้ มิฉะนั้นวันนี้เขาคงต้องตายแน่นอน
เสี่ยวโฉ่วยืนไม่แสดงสีหน้าอะไรอย่างใจเย็น หน้าของเขาซึ่งเขียนหน้าเขียนตาไว้ดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่ความจริงแต่ความจริงเต็มไปด้วยการคัดค้านและเย็นชา
มนุษย์โครงกระดูกราเชลควักหนอนตัวอ้วนออกมาจากเบ้าตาและแกล้งทำเป็นไม่เห็นฝู่โถวผู้น่าสงสารที่มองมาด้วยสายตาอ้อนวอน เขาโยนหนอนเข้าปากและเคี้ยวช้าๆ...
มีแต่เพียงนักสู้หัวโล้นจอมปีศาจจื้อกวงก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย เขาแสดงความเคารพหมอหลงและราชาใจสิงห์ก่อนจากนั้นยิ้มเป็นกันเองให้เย่ว์หยางเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นสหายเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน “ฝู่โถวบาดเจ็บแล้ว เขาไม่สะดวกจะต่อสู้ด้วย นอกจากนี้เขาหยาบกร้านเกินไป ดังนั้นเขาอาจควบคุมพลังของเขาไม่ได้ คงจะไม่ดีถ้าไม่สามารถรับการโจมตีได้ทั้งที่ยังบาดเจ็บ ถ้าสหายน้อยและหัวหน้าลี่เยี่ยนเห็นด้วย จื้อกวงจะขออาสาซ้อมฝีมือกับเจ้าแลกเปลี่ยนคำชี้แนะกันเพื่อไม่ให้รบกวนเวลาของผู้อาวุโสทั้งสองฝ่ายมากเกินไป เราสู้กันร้อยกระบวนท่าแล้วค่อยหยุดเถอะ”
“ข้อเสนอของท่านจื้อกวงยอดเยี่ยมจริงๆ อย่างไรก็ตามท่านอาจจะพลาดรางวัลไปก็ได้นะ” เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นว่าเขาติดพนันรุนแรงและต้องวางเดิมพันอะไรสักอยางกับฝ่ายตรงข้ามให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม
“ถ้าเจ้าพูดอย่างนั้น เอาอย่างนี้เป็นไง ผู้ชนะสามารถเรียกของชอบจากผู้แพ้ได้? ถ้าไม่ยากจนเกินไป ข้าจะยอมรับ” จอมปีศาจจื้อกวงเข้าใจว่ารางวัลที่เย่ว์หยางต้องการก็คือคนทรยศฝู่โถว ถ้าเขาแพ้ เขาก็ไม่สามารถปกป้องฝู่โถวได้ ดังนั้นเขาจึงทำเป็นใจกว้างแทน
เมื่อคนทรยศฝู่โถวได้ยินข้อเสนอแนะอย่างนี้ สีหน้าที่ซับซ้อนของเขาซีดทันที
ในตอนนี้เขาได้แต่ฝากความหวังไว้กับจอมปีศาจจื้อกวง เขาต้องชนะ หรืออย่างน้อยเขาต้องเสมอ มิฉะนั้นเขาต้องตายอย่างทุเรศแน่นอน
มนุษย์โครงกระดูกราเชล, ตัวตลกเสี่ยวโฉ่วและหลงเสียงมองหน้ากันเอง พวกเขารู้สึกกดดันเล็กน้อยในเรื่องการเดิมพันและรางวัลอาจกล่าวได้ว่าแรงบันดาลใจของเจ้าเด็กนี่ก็คือถ้าเขาแพ้จอมปีศาจจื้อกวงก็ไม่สามารถขอชีวิตของหัวหน้าลี่เยี่ยนได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าจอมปีศาจจื้อกวงแพ้ก็ต้องวางมือเรื่องฝู่โถว เจ้าเด็กนี่ไม่เสียอะไรเลยและสามารถทำกำไรจากข้อเสนอนี้ได้ แม้ว่าจอมปีศาจจื้อกวงจะแข็งแกร่ง แต่เขาคงรู้สึกกดดันอย่างแน่นอน
เกี่ยวกับเจ้าเด็กนี่ที่ยิ้มอยู่เสมอและไม่กระพริบตายามฆ่าคน พวกเขารู้สึกกลัวจริงๆ
เจ้าเด็กนี่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มที่ แต่ก็มีพลังระดับนี้เสียแล้ว
ในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาเติบใหญ่ขึ้น
เสี่ยวโฉ่วมองดูหมอหลงและพบว่าบุรุษเคราดำอยู่ข้างเย่ว์หยาง 100% เขาถอนหายใจเล็กน้อยน่าเสียดายที่หมอหลงปรากฏตัว มิฉะนั้นถ้าเขาต้องทุ่มเททุกอย่างเขาจะต้องฆ่าเจ้าเด็กนี่ให้ได้ ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าเจ้าเด็กนี่ได้ในเวลานี้คงยากที่จะหาโอกาสอื่นฆ่าเขาในอนาคต
“เพื่อเกียรติของท่าน ข้าขอฝากความหวังไว้กับท่าน” ฝู่โถวรีบคำนับให้จอมปีศาจจื้อกวง จื้อกวงยินยอมต่อสู้แทนเขา ดังนั้นเขาย่อมต้องขอบคุณเขาเป็นธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวโฉ่วจับตามองดูอยู่ข้างๆฝู่โถวคงจะสาบานว่าจะภักดีต่อจื้อกวงตลอดไปแน่ ฝู่โถวเข้าใจว่าปัจจุบันเขาต้องอาศัยกลุ่มโจรของเสี่ยวโฉ่ว แต่ให้กลุ่มของเสี่ยวโฉ่วพ่ายแพ้ที่นี่ เสี่ยวโฉ่วก็ยังเป็นคนที่น่ากลัวอยู่ดี ถ้าฝู่โถวเปลี่ยนมาภักดีต่อจอมปีศาจจื้อกวง แม้ว่าเขาจะไม่ตายวันนี้ ในอนาคตเขาจะต้องถูกเสี่ยวโฉ่วฆ่าตายเป็นแน่ ฝู่โถวไม่กล้าต่อต้านคัดค้านเสี่ยวโฉ่วมากนัก
“ข้าจะพยายามอย่างสุดฝีมือ!” จอมปีศาจจื้อกวงไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันถ้าเขาสู้กับสาวยักษ์ลี่เยี่ยนผู้แข็งแกร่ง แต่เวลานี้เขาไม่กล้าให้คำรับรอง
“ผู้เยาว์หวังว่าท่านผู้อาวุโสจื้อกวงจะชี้แนะสั่งสอน ผู้เยาว์จะได้รับประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้มากมายแน่นอน ดังนั้นข้าขอขอบคุณท่านล่วงหน้าก่อน” แม้ว่าเย่ว์หยางจะพูดด้วยสำเนียงมากมารยาท แต่การกระทำของเขากลับตรงกันข้าม เขายังคงเรียกอสูรออกมาจากคัมภีร์ทีละตนๆ
คนแรกที่ออกมาก็คือสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงยอดฝีมือต่อสู้ในทางน้ำ
เมื่อหมอหลงเห็นเช่นนี้ เขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังผงกศีรษะเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่เย่ว์หยางมีอสูรพิทักษ์เช่นนั้น ที่สำคัญคือเขาเป็นคนกล้าแอบอ้างเป็นน้องชายเทพมังกร ไม่มีมังกรไร้เขาแห่งเผ่าภูตปีศาจบูรพาก็ยากจะเสนอตัวจริงๆ
อสูรตนที่สองที่ปรากฏออกมาคือภูตเพลิงฟ้า
นางคือตัวเลือกอันดับแรกของเย่ว์หยางใช้จัดการกับจอมปีศาจจื้อกวงผู้มีทักษะแฝงเร้นไหมพันธนาการ เพราะเย่ว์หยางไม่ต้องการเปิดเผยเพลิงอมฤตให้พวกเขาได้รู้
ตามออกมาติดๆ ก็คืออาหงนางพญากระหายเลือดถือดาบจันทร์เสี้ยวไว้ในมือความเร็วของนาง, คลื่นเสียงของนางและแส้ลงทัณฑ์ของนางจะมีผลมากต่อชัยชนะ ก่อนที่จะรู้จักสุดยอดวิชาของจอมปีศาจจื้อกวง เย่ว์หยางจำเป็นต้องใช้ความเร็วของนางพญากระหายเลือดเพื่อสร้างแรงกดดันให้คู่ต่อสู้ของเขา และสุดท้ายที่ปรากฏตัวออกมาก็คือเสี่ยวเหวินหลีปีศาจอสรพิษน้อย แก้วตาดวงใจของเขา
“เจ้ามีอสูรพิทักษ์อยู่เท่าใดกันแน่?” มนุษย์โครงกระดูกราเชลอ้าปากค้างคางแทบถึงพื้นอสูรพิทักษ์ถึงสี่ตนเหรอ? ไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?
“.....” เวลานี้สาวยักษ์ลี่เยี่ยนชักจะเชื่อบ้างแล้วว่าเย่ว์หยางเป็นน้องชายเทพมังกร
ถ้าเขาไม่ใช่น้องชายเทพมังกรเขาจะดูผิดธรรมดาขนาดนั้นได้อย่างไร?
เสี่ยวโฉ่ว, หลงเสียงและจอมปีศาจจื้อกวงหน้าซีดขาวทันทีพวกเขาแทบหัวใจวาย พวกเขารู้ว่าเจ้าเด็กนี่ยังซ่อนพลังที่แท้จริงไว้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าเขาจะมีอสูรพิทักษ์ถึงสี่ตน อย่าว่าแต่อสูรพิทักษ์ตัวเดียวเลย คนอื่นอาจไม่มีคัมภีร์อัญเชิญก็ได้ ต่อให้มีคัมภีร์อัญเชิญพวกเขาอาจมีอสูรพิทักษ์แค่เพียงหนึ่งเดียวก็ได้ใครกันเล่าจะมีอสูรพิทักษ์สี่ตนอย่างเขาได้? นอกจากนี้ ทั้งหมดนั้นยังเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์!
ต่อให้ราชาใจสิงห์ที่ลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าและหมอหลงผู้นั่งขัดสมาธิอย่างเกียจคร้านอยู่บนหลังปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์ ก็ยังได้รับผลเล็กน้อย พวกเขาเคยเห็นอสูรพิทักษ์ระดับสูงมาก่อนแต่ไม่เคยเห็นใครที่มีอสูรพิทักษ์มากมาย
ดูเหมือนว่าเย่ว์หยางไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ดี เมื่อทุกคนยังสับสนและตกใจ เขาเรียกอสูรพิทักษ์ออกมาอีกตนหนึ่งเป็นเงาปีศาจยักษ์ที่เชื่อมอยู่กับสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง นางพญากระหายเลือดและตัวเขาเอง
“พระเจ้า, ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว”
ในเวลานี้มนุษย์กระดูกราเชลวิ่งไปที่ซากเรือแล้วเอาหัวกะโหลกโขกกับซากเรือบนทะเลสาบ เขาดูเศร้าโศกมากเหมือนกับว่าไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไป เขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าแต่ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญสักเล่ม ดังนั้นเขาจึงมีชะตากรรมที่ถูกจำกัดความสามารถตลอดชีวิตนี้ เนื่องจากสถานการณ์ต่อเนื่องเป็นพิเศษทำให้เขายกระดับเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในอนาคตได้อีกต่อไป
สำหรับเขาสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในชีวิตของเขาคือไม่สามารถทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางไม่เพียงแต่มีคัมภีร์อัญเชิญเท่านั้น แต่ยังมีอสูรพิทักษ์รูปแบบต่างกันถึงห้าตน เขาเศร้ามากจนจิตใจสับสน เขาอยากร้องไห้ แต่เขาไม่มีน้ำตา
จอมปีศาจจื้อกวงงึมงำอย่างขมขื่น
แม้ว่าเขาจะมีคัมภีร์อัญเชิญเล่มหนึ่ง แต่อสูรพิทักษ์ของเขาก็คือหนอนไหมฟ้า บวกกับทักษะแฝงเร้นธรรมชาติไหมพันธนาการ ความสามารถของเขาก็ยังนับว่าไม่เลว ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างพอใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้เห็นอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยาง แต่ละตนแข็งแกร่งกว่าตัวก่อน แต่ละตัวมีเสน่ห์มากกว่าก่อนเขาแทบอับอายขณะเรียกหนอนไหมฟ้าที่น่าเกลียดออกมา
“โปรดแนะนำข้าด้วย” เย่ว์หยางทำเป็นคำนับอย่างสุภาพ อย่างไรก็ตามภูตเพลิงฟ้าและนางพญากระหายเลือดคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณอย่างหนึ่ง พวกนางเริ่มโจมตีใส่จอมปีศาจจื้อกวงทันที
“ชี่..”
มีบางคนที่เร็วกว่าทั้งสองคนคือนั่นคือสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงซึ่งยืนอยู่เหนือทะเลสาบ
คนอื่นจะได้รับผลของผนึกแดนมรณะ แต่เจี้ยงอิงเป็นเพียงผู้เดียวที่พลังของนางเพิ่มขึ้นหลายเท่า เมื่อนางก้าวไปบนผิวทะเลสาบและปล่อยหมัดใส่จอมปีศาจจื้อกวง ผิวทะเลสาบดูเหมือนกลายเป็นอาวุธของนาง ร่างน้ำเปลี่ยนสภาพเป็นมังกรน้ำดูเหมือนปลาไหลมังกรไฟฟ้า มีพลังมังกรเต็มเปี่ยมซึ่งแม้แต่บุรุษเคราดำยังทึ่งเล็กน้อย มังกรน้ำทะยานขึ้นฟ้าและคำรามด้วยเสียงดังจากนั้นตรงดิ่งเข้าหาจอมปีศาจจื้อกวง
อย่างนี้ก็แย่น่ะสิ
จอมปีศาจจื้อกวงตอนแรกยังสามารถหลบพลังโจมตีนั้นได้ง่าย ใครจะรู้กันว่าพลังเฉพาะรูปแบบของมังกรน้ำจะจับเป้าหมายที่เคลื่อนไหวได้ นอกจากนี้ ยังมีพลังกดดันจากพลังมังกร จะเคลื่อนไหวแต่ละนิ้วก็ลำบาก เขาได้แต่มองมังกรน้ำที่เตรียมจะกลืนเขาอย่างจนใจ
ราชาใจสิงห์สามารถเห็นได้แน่นอนว่านี่ไม่ใช่พลังของสาวมังกรไร้เขา
นี่คือพลังของผนึกเทพมังกร!
และนางยืมเอามาใช้..
“หนอนไหมฟ้า ปกป้อง!” จอมปีศาจจื้อกวงกังวลอยู่ลึกๆและรีบเรียกหนอนไหมฟ้าออกมาและสั่งให้มันป้องกันเขาทันที