ตอนที่ 622 ข้าชื่อเซี่ยอวี่อัน!
“อวี่อัน!” ไป๋เยี่ยเห็นเซี่ยอวี่อัน และแววตาที่เป็นกันเองผุดขึ้นจากส่วนลึกในดวงตาของเขา หน้าของเขามีรอยยิ้ม “ทุกอย่างเรียบร้อยไหม?”
ทั้งสองคนเป็นสหายร่วมชั้นเรียนและมีความนับถือกันและกัน แต่ชะตาของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไป๋เยี่ยกลายเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งไปแล้ว แต่เซี่ยอวี่อันยังคงติดอยู่ในมุมที่แห้งแล้งกับทหารกองเล็กคอยรับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัย
ไป๋เยี่ยให้ความนับถือสหายร่วมชั้นเรียนผู้นี้ ในสถาบันศึกษาผลการเรียนของเซี่ยอวี่อันโดดเด่นมากกว่าเขา และ 90%ของงานโรงเรียนล้วนแต่ลอกการบ้านมาจากเซี่ยอวี่อันทั้งนั้น ถ้าปีสุดท้ายของไป๋เยี่ยย่ำแย่เกินไป เขาคงโดนบิดาหักขาเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงพยายามทั้งปีเพื่อให้สำเร็จการศึกษาได้
ถ้าไป๋เสี่ยวรู้ว่าลุงรองของเขาไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่คิดในอดีต เขาคงตกใจเป็นแน่
ไม่ใช่ว่าไป๋เยี่ยไม่คิดเรื่องช่วยเซี่ยอวี่อัน แต่ว่าตระกูลไป๋มีคนมากมายเกินไป และแม้แต่เขาก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับตำแหน่งแม่ทัพคนสำคัญของกองทัพ ไป๋เยี่ยรู้ว่าเซี่ยอวี่อันเป็นคนอบอุ่นและใจดี เขามีความภาคภูมิใจอยู่ภายใน และเขาไม่เคยกล้าขอให้เซี่ยอวี่อันมาเป็นผู้ช่วยของเขา
ความจริงทุกครั้งที่ไป๋เยี่ยเห็นเซี่ยอวี่อัน เขาจะรู้สึกมีความเสียดายอยู่ในใจ ‘เป็นไปได้ไหมว่าข้าจุ้นจ้านมากเกินไปเมื่อตอนที่ข้าอยู่ในโรงเรียน?’
เขาเคอะเขินรินน้ำชาให้กับเซี่ยอวี่อัน “มา มา มา มาลองนี่ ชารุ่นใหม่ล่าสุดของปีนี้”
“ทุกอย่างพร้อมแล้ว” เซี่ยอวี่อันนั่งอยู่ข้างไป๋เยี่ยและยกน้ำชาจิบ เขาวางแก้วชาลงและมองดูไป๋เยี่ย “เอาล่ะเล่าให้ข้าฟังที”
เซี่ยอวี่อันมีลักษณะที่โดดเด่นและหล่อเขาแต่งตัวเรียบง่ายแต่ดูสง่า ท่าทีที่พบเห็นใครๆ ก็บอกได้ว่าเขาเป็นกันเอง
ไป๋เยี่ยรู้สึกประหลาดใจ เขากระแอมเบาๆ “ข้าไม่ได้โกงเจ้า อีกฝ่ายเป็นคนรวยจริงๆ”
“ข้าเชื่อเจ้า” เซี่ยอวี่อันตอบโดยไม่ลังเล “กล้าซื้อกองทัพโดยตรง แสดงว่าเขามีเงินแน่”
“ถูกแล้ว” ไป๋เยี่ยจริงจังมากขึ้น “เขายังเป็นคู่หูของข้าด้วย...”
“เจ้าน่ะหรือ? ยังเป็นคนของตระกูลไป๋อยู่หรือเปล่า?” เซี่ยอวี่อันถาม
“ตระกูลเหมิ่ง” ไป๋เยี่ยอธิบาย “ตระกูลของเขาทำธุรกิจเหมืองแร่ และมีการพบธาตุโลหะชนิดใหม่เรียกว่าทองดำซึ่งเหมาะกับการใช้สร้างอาวุธประจำเรือรบมันแข็งแกร่งกว่าหยก และด้อยกว่าหยกพลังงาน จุดสำคัญก็คือผลลัพธ์ของมันน่าทึ่ง ดังนั้นเขาถือว่าเป็นปลาใหญ่และจะไม่ขาดแคลนเงินแน่นอน สิ่งที่พวกเขากังวลก็คือพวกเขาจะสามารถปกป้องความมั่งคั่งได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงมีความคิดจะซื้อกองทัพ”
เซี่ยอวี่อันดีใจ เขารู้จักค่าของทองดำและจากตรงนี้เขาสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายรวยและมีอำนาจอย่างแท้จริง
ไป๋เยี่ยพูดต่อ “ข้าไม่กังวลเรื่องเจ้าหรือกองทัพนางแอ่นของเขา ข้าได้พูดคุยและสนิทกับเสี่ยวเหมิ่งก่อนเช่นกัน และเขาไม่ใช่คนใจแคบ แต่ใจดีมาก เขามีกลุ่มนักสู้กองกำลังมีปีศาจทวีปโยวโจวซึ่งเป็นกลุ่มไม่ใหญ่นัก สมาคมการค้าสวีจี้ก็ยังเป็นหุ้นส่วนของเขาและอุปกรณ์เครื่องมือของพวกเขาไม่ขาดแคลน เงินและเครื่องไม้เครื่องมือไม่เป็นปัญหา สิ่งที่ข้าห่วงก็คือตระกูลของเสี่ยวเหมิ่ง จากสิ่งที่ข้าเห็น เสี่ยวเหมิ่งไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ ดังนั้นเจ้าจะมีแรงกดดันมาก”
“ข้าเข้าใจว่าเจ้าหมายถึงอะไร” เซี่ยอวี่อันผ่อนคลาย และยืดหลัง “เจ้ามีเรื่องยุ่งถึงขนาดที่ต้องการจะหยุดพัก ส่วนข้าก็พักมานานแล้วและรู้สึกว่าชักเฉื่อยชา ดังนั้นข้าต้องการหาเรื่องยุ่งๆ ในตอนนี้”
เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของไป๋เยี่ย แม้ว่าเจ้านายของเขาจะมีเงิน แต่เขาไม่มีคนหนุนหลัง คุณค่าของทองดำเป็นที่รู้ในเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเจ้าหน้าที่ทางการ หลายคนจะต่อสู้เพื่อความมั่งคั่งและมีความคิดจะขโมยมันหรือเคลื่อนย้ายมัน ดังนั้นกองทัพนางแอ่นก็จะอยู่ในสถานการณ์อันตราย
แต่คำพูดของเขาก็ไม่ใช่เรื่องตลก สำหรับนายทหารคนใดก็ตาม ไม่มีสงครามและไม่มีศัตรู การหลบมุมจิบชารังแต่จะเป็นการทำร้ายพวกเขามากขึ้น
“อย่างนั้นข้าขอพักก่อน!” ไป๋เยี่ยหัวเราะและตบไหล่ของเซี่ยอวี่อัน “เมื่อเวลามาถึง พวกเขาจะรู้ว่าเจ้าทรงพลังขนาดไหน”
ทหารของเซี่ยอวี่อันมีความสำเร็จและค่อนข้างโดดเด่น ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีชื่อโด่งดังในภูมิภาคใต้ แต่ความสำเร็จทางทหารของเซี่ยอวี่อันอยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดเช่นเดียวกับที่เขาเป็น เจ้าครองทวีปของเขาดีต่อเขา แต่น่าเสียดายที่เจ้าครองทวีปมีอำนาจจำกัดเช่นกันดังนั้นผู้ที่รับเขาจะต้องเป็นพวกเขที่มีเงินแต่ไม่ยินดีทำกับพวกเขาในฐานะที่เป็นกองทัพที่เหมาะสม หรือให้สัญญากับพวกเขาไว้แต่ไม่อาจปฏิบัติตามได้
เจ้าครองทวีปคนเก่าไว้ใจตัวเขามาก ตราบใดที่แหล่งการเงินได้รับอนุมัติ ข้อเสนอแนะใดๆที่เซี่ยอวี่อันให้มักจะถูกนำมาใช้ เจ้าครองทวีปคนเก่ามีความกรุณาต่อเขา จึงเป็นเหตุให้เขายังรั้งอยู่
หลังจากผ่านไปหลายปีแล้วเขาไม่เคยเคลื่อนย้าย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าครองทวีปคนเก่าถึงแก่กรรมและเจ้าทวีปคนใหม่รับช่วงต่อ เขาก็คงไม่จากมา
เจ้าครองทวีปคนใหม่ตอนแรกหวังจะสนับสนุนผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือของเขาเอง แค่ว่าชื่อของเซี่ยอวี่อันโด่งดังเกินไป ดังนั้นเขาจึงทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เป็นเรื่องง่ายหากจะก่อความไม่สงบ ดังนั้นเมื่อเซี่ยอวี่อันยื่นข้อเสนอ ก็ทำให้เจ้าปกครองทวีปคนใหม่สบายใจ เขาไม่ห้ามเซี่ยอวี่อันและมอบเงินชดเชยให้เขาเพิ่ม
ในที่สุดเขาก็ไม่รู้สึกเศร้าในเรื่องกองทัพ
กองกำลังนางแอ่นสร้างโดยเซี่ออวี่อันเองและพี่น้องร่วมสาบานของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงลาออกไปพร้อมกับเซี่ยอวี่อันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
การทำความเข้าใจว่าการท้าทายในอนาคตที่พวกเขากำลังจะทำนั้นเข้มงวด เซี่ยอวี่อันแม้ว่าพวกเขาจะมีเวลาจำกัด เขาจึงไม่ยินดีเสียไป เขายืนขึ้น “พาข้าไปพบกับเจ้านายใหม่”
“ก็ได้, ข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้” ไป๋เยี่ยลุกขึ้นเช่นกัน “เราไม่จำเป็นต้องไปพบเขา เขาจะตรงไปที่ค่ายทหาร”
“ดี!” เซี่ยอวี่อันรู้ว่าเขาต้องการเห็นกองทัพนางแอ่น จึงเป็นข้อขอร้องธรรมดาและเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในหน่วยของเขา
พวกเขาค่อนข้างผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อถึงเวลาฝึก เขาก็ไม่เคยย่อหย่อนเขาได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานของกองทัพระดับเงิน แม้ว่าจะมีหลายมาตรฐาน แต่เนื่องจากเขาขาดทรัพยากร ยาและสินค้า พวกเขาจึงไม่สามารถฝึกในด้านเหล่านั้นได้ แต่พวกเขาหลายคนก็มีความมาตรฐานเกินกว่ากองทัพระดับบรอนซ์
“ไปดูกองทัพของข้ากัน” เซี่ยอวี่อันหัวเราะและกล่าว
ไป๋เยี่ยยินดีนำ เขายังคงสงสัยไม่น้อยเกี่ยวเกี่ยวกองทัพที่เพื่อนร่วมโรงเรียนของเขาพามา
แม้ว่าจะเป็นค่ายชั่วคราว แต่บุคลิกที่เข้มงวดของเซี่ยอวี่อันก็ยังปรากฏออกมาเอง มีทหารยามอยู่ทุกที่ กฎหมายและระเบียบถูกตั้งไว้ในค่าย ภายในนั้นแม้ทหารจะไม่ได้สวมเกราะหรืออาวุธ แต่พวกเขาก็ยังห้าวหาญดุร้ายทุกคน
สนามฝึกฝนที่ได้รับการทำความสะอาดเต็มไปเสียงกระตือรือร้น การฝึกฝนฝึกซ้อมทุกอย่างดำเนินการเหมือนกับไฟลามทุ่ง แม้แต่เวลาฝึกอย่างนั้นกองทหารก็ยังไม่ผ่อนคลาย
“พี่อวี่อันเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง!” ไป๋เยี่ยอดชื่นชมไม่ได้ “กองทัพเหล็ก เสี่ยวเหมิ่งจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง! ตราบใดที่เจ้ามีเครื่องมือกันทุกคนและได้รับการเสริมในเรื่องของยาและอุปกรณ์สำรอง เจ้าจะกลายเป็นกองทัพระดับเงินได้ในอีกไม่นาน”
เมื่อเห็นร่างที่ชุ่มเหงื่อราวกับว่าตากฝนมาเซี่ยอวี่อันเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ นี่คือกองทัพที่เขาค่อยๆ สร้างขึ้นมาจากบาดแผลและเขาต้องเสียเลือดเหงื่อและน้ำตาไปมากเขาต้องเค้นสมองอย่างหนักพยายามคิดหาทางให้ได้ทรัพยากรมาเจือจุนกองทัพ จึงได้มีพวกเขาในทุกวันนี้
ไป๋เยี่ยเหลือบเห็นว่าถังเทียนกำลังมาเขายิ้ม “เจ้านายใหม่ของเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว”
เซี่ยอวี่อันรู้สึกกระวนกระวายใจ เขามองตามสายตาของไป๋เยี่ย เขาอยากรู้ว่าเจ้านายใหม่ของเขาจะเป็นคนแบบไหน เมื่อเขาเห็นร่างของถังเทียนเทียนชัดๆเขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
เขาไม่เคยคิดว่าเจ้านายของเขาจะเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!
การเรียกเขาว่าเด็กอาจเกินไปบ้าง แต่อายุของถังเทียนก็ยังถือว่าน้อยมาก
ไป๋เยี่ยกระแอมเตือนปลุกเซี่ยอวี่อันจากความผิดหวังทันที เขาดีใจทันที เป็นเพราะทุกคนที่ดูแคลนเหมิ่งหนานว่าอายุน้อยล้วนเสียใจกันมาทุกคนแล้ว ไป๋เยี่ยไม่เคยคาดเลยว่าสหายเก่าของเขาก็มีความผิดพลาดแบบเดียวกัน เขาลืมสีหน้าของตัวเขาเองไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาเห็นถังเทียนครั้งแรก ไม่มีตรงไหนที่ต่างกันกับเซี่ยอวี่อัน
“เสี่ยวเหมิ่ง!” ไป๋เยี่ยกวักมือเรียก “มา มา มาเถอะ ข้าจะแนะนำเจ้านี่คือเซี่ยอวี่อันเป็นแม่ทัพและผู้บัญชาการทหารกองพลนางแอ่น, เป็นยังไงบ้าง? เจ้ามาที่นี่เพื่อตรวจดูพวกเขาใช่ไหม? ลุงไป๋ของเจ้ารับรองได้ว่า กองพลนางแอ่นเป็นกองพลระดับสูงแม้แต่ลุงไป๋ก็ยังมั่นใจพวกเขา”
เซี่ยอวี่อันแสดงมารยาทอย่างสุภาพไม่ดูถูกหรือรังเกียจ “ข้าคือเซี่ยอวี่อัน”
“ข้าเหมิ่งหนาน!” ถังเทียนทักทายกลับ
เซี่ยอวี่อันผงกศีรษะ แม้ว่าถังเทียนจะยังอายุน้อย แต่ดูเหมือนเขาเป็นคนมีมารยาท
ถังเทียนหันไปทางไป๋เยี่ย “ลุงไป๋,ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องกองทัพเท่าไหร่นัก”
เซี่ยอวี่อันไม่คาดเลยว่าถังเทียนจะพาซื่อประกาศโต้งๆว่าเขาไม่มีความรู้ ‘โอว นั่นก็ไม่เลวเกินไปอย่างน้อยเจ้าก็ไม่ทำเหมือนว่ารู้ไปหมดทุกอย่าง คนพวกนั้นจะทำลายกองทัพ แต่ดูเหมือนว่างานของข้าจะหนักมากขึ้น...’
พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนยังจะพูดต่อ“ดังนั้นข้าจึงมีคนมาช่วยเป็นพิเศษ”
เขาเบี่ยงตัวหลบ ร่างของถังโฉ่วที่ดูเยือกเย็นยืนอยู่ด้านหลังของเขา
เมื่อไป๋เยี่ยและเซี่ยอวี่อันเห็นถังโฉ่ว พวกเขาสะดุ้งทั้งคู่ คู่หูวิญญาณ! นอกจากนี้ ยังไม่ใช่คู่หูวิญญาณธรรมดาทั้งสองคนมองหน้ากันเอง แววตกใจมีอยู่ในดวงตาของพวกเขาสิ่งที่ทำให้พวกเขาว้าวุ่นไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของคู่หูวิญญาณ แต่เป็นราศีที่คุ้นเคยซึ่งคู่หูวิญญาณนี่กำลังปล่อยออกมา
ทันใดนั้นทั้งสองคนตัดสินได้ว่าคู่หูวิญญาณนี้คือแม่ทัพผู้เก่งกาจเช่นกัน!
ทั้งสองคนรู้สึกตกใจมากคู่หูวิญญาณยากจะปรากฏตัวให้เห็นในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งเป็นแม่ทัพคู่หูวิญญาณก็นับว่ายากยิ่งกว่า
ไป๋เยี่ยเหม่อมองถังเทียน‘เจ้าเด็กนี่ประหลาดจริงๆ เป็นไปได้ไหมว่าคนรอบๆ ตัวเขาก็ประหลาดด้วยเช่นกัน?’
ถังโฉ่วไม่สนใจอาการตื่นตกใจในสายตาของพวกเขาแม้แต่น้อย เขาพูดเสียงเย็นชาไม่มีความอบอุ่นและไม่มีความหยิ่ง “ข้าชื่อถังโฉ่ว ปัจจุบันนี้เป็นรักษาการณ์ผู้บัญชาการกองทัพชั่วคราว และข้าจะเป็นคนทดสอบกองทัพของเจ้า”
ในฐานะแม่ทัพที่อีกไม่ช้าก็จะเหนือล้ำท่านปิง ถังโฉ่วทำการปรับโครงสร้างของกองทัพกลุ่มดาวหมีใหญ่
ทุกกองทัพในกลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่ภายใต้การบัญชาการของเขาและถูกฝึกจนพวกเขาแทบรู้สึกอยากตาย ภายใต้การปรับแผนโครงสร้างครั้งใหม่นี้เขาได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดอย่างเต็มที่ แต่จู่ๆเขาก็ถูกถังเทียนดึงตัวมาให้ช่วยประเมินมาตรฐานกองทัพที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนและนอกจากนี้ เพื่อซื้อ!
‘หรือว่าเจ้านายของเขาจะเบื่อหน่ายจัด’
ถังโฉ่วได้แต่โกรธในใจ แต่เขาไม่มีทางขัดขืนคำสั่งถังเทียนได้ ดังนั้นตั้งแต่เขามาที่นี่อารมณ์ของเขาจึงดูน่ากลัวมาก
ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดคนที่สามแม้ว่าถังโฉ่วจะเชื่อเต็มที่ว่าอนาคตของเขาอาจไม่ต้องอยู่ภายใต้การบังคับของท่านปิง แต่เขาจะไม่กล้าทะเลาะกับเจ้านาย เพราะแม้แต่ท่านปิงก็ยังไม่กล้าเช่นกัน!
เซี่ยอวี่อันและไป๋เยี่ยมองหน้ากันเอง