ตอนที่ 621 หมอหลง ค่าหัวสามร้อยพันล้านเหรียญทอง
“เจ้าเป็นใคร?”บุรุษเคราดำหาวขณะชำเลืองมองเย่ว์หยาง พฤติกรรมของเขาเหมือนกับเสือหลับที่ได้ยินเสียงยุงบินผ่านหู
“ข้าคือคนที่จะมาปล่อยท่าน..” เมื่อเย่ว์หยางพูดแค่นี้, ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์,ปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์,ปลาไหลมังกรไฟฟ้าและจ้าวปลาหมึกร้อยหนวดลอยตัวอยู่บนผิวทะเลสาบมองมาทางเย่ว์หยางอย่างคาดหวัง ความจริงนอกจากจากพวกมันแล้วทุกคนรู้ว่าเจ้าเด็กนี่กำลังโกหกไม่เพียงแต่อ้างว่าเขารู้จักเทพมังกรที่มีอายุอย่างน้อยหลายแสนปีเท่านั้น แต่เขายังไม่รู้จักกระทั่งจักรพรรดิแดนฟ้า เขาเป็นแค่เจ้าเด็กบ้านนอกที่พยายามจะตีสนิทกับบุรุษเคราดำ
“ฮึ่ม” เสี่ยวโฉ่วไม่เชื่อว่าบุรุษเคราดำจะถูกหลอกได้
“ในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของเทพมังกร แค่คนกวาดขยะอย่างน้อยก็เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าแล้ว เจ้ามันแค่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ด,ไม่สิ, นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด, เด็กน้อย,กล้าดียังไงถึงปลอมตัวเป็นผู้ส่งสารของเทพมังกร?” เห็นได้ชัดว่าบุรุษเคราดำไม่เชื่อเย่ว์หยางเขาเปิดโปงคำโกหกของเย่ว์หยางทันที ทำให้สาวยักษ์ลี่เยี่ยนอับอายมาก อย่างไรก็ตามบุรุษเคราดำก็ยังยกย่องเย่ว์หยางอยู่บ้าง “เจ้ากล้าแอบอ้างเป็นบริวารของเทพมังกร ดังนั้นเจ้าต้องมีความกล้าอยู่บ้างดังนั้นข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเป็นคนแรกทันที แต่เจ้าก็ยังดูดีอยู่แม้จะดูยากก็เถอะ ก็ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นคนสุดท้าย!”
“ขอบคุณ” เย่ว์หยางยังคงยิ้ม ยิ้มบนใบหน้าของเขาเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์ “แล้วจะเป็นยังไงถ้าข้าบอกว่าข้าเป็นน้องชายของเทพมังกร?”
สาวยักษ์เอามือปิดหน้าและเกือบกรีดร้องขอให้เย่ว์หยางหยุดอย่าทำให้นางขายหน้ากว่านี้เลย
เทพมังกรเป็นนักสู้จากครั้งดึกดำบรรพ์ ถ้าเขามีน้องชายอย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดแก่ที่มีอายุหลายแสนปี เขาจะกลายเป็นเด็กตัวแสบอายุยี่สิบปีได้ยังไง? ต่อให้เป็นคนตาบอดก็ไม่ถูกหลอก เรื่องโกหกเหล่านี้เหลือเชื่อเกินไปแม้จะงี่เง่าเพียงไหนก็ไม่มีใครปักใจเชื่อ!
เสี่ยวโฉ่วแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ถ้าเจ้าต้องการแอบอ้างเป็นคนอื่นทำไมเจ้าไม่แอบอ้างเป็นคนที่ดูน่าเชื่อถือกว่านี้?
ที่แปลกก็คือ บุรุษเคราดำไม่ได้ปฏิเสธเย่ว์หยางทันควัน
เขาคิดช้าๆจากนั้นจึงถาม “เจ้าบอกเหตุผลข้าได้ไหม ทำไมเจ้าต้องแอบอ้างเป็นน้องชายเทพมังกรด้วย?”
เย่ว์หยางตอบ “ข้าคิดว่าเป็นเรื่องยากเล็กน้อยถ้าจะปลอมตัวเป็นเทพมังกรได้และข้าไม่อาจแอบอ้างเป็นศิษย์ของเขาได้ เนื่องจากข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว ถือว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพอาจารย์ของข้า ข้าคิดว่าจะอ้างเป็นลูกชายเขาแต่ข้ารู้สึกได้ว่ามันเป็นการดูถูกสถานะของข้าเองดังนั้นข้าเลยตัดสินใจแอบอ้างเป็นน้องชายของเขาแทนใครจะไปรู้กันว่าท่านกลับไม่ยอมเชื่อข้าอีก?”
อุ๊ฟฟฟ!
สาวยักษ์แทบไม่อาจกลั้นหัวเราะได้
อย่าว่าแต่พยายามแอบอ้างเป็นคนอื่นเลย เขากลับสารภาพกับคนอื่นโดยตรงมีคนโกหกแบบนี้อยู่ด้วยหรือนี่?
หลงเสียง, เสี่ยวโฉ่ว, จอมปีศาจจื้อกวงและคนอื่นๆอึ้งพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เจ้าเด็กนี่ฉลาดหรือเปล่า? โดยเฉพาะเขาฉลาดเจ้าเล่ห์และมักวางแผนกับคนอื่นๆ หรือว่าเขาโง่กันแน่? เขาโง่มากจริงๆขนาดที่ว่าสามารถพูดตามใจคิดทุกอย่าง แม้แต่คนโง่ก็คงไม่เชื่อเหตุผลแบบนั้น? เจ้าเด็กนี่แท้จริงแล้วฉลาดหรือว่าโง่กันแน่?ทำไมเขาถึงได้แตกต่างจากคนอื่นนัก?
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือเมื่อบุรุษเคราดำได้ยินเช่นนี้ เขาขมวดคิ้วและกล่าว“แม้ว่าโดยผิวเผินเจ้าจะดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์เผ่ามังกรเช่นกันแต่ข้าก็มีความรู้สึกอย่างนี้ว่าเจ้ามีความเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกร พลังมังกรในสายเลือดเจ้ายังอาจจะบริสุทธิ์มากยิ่งกว่าข้าผู้เป็นมังกรเสียอีกเจ้าบอกว่าเจ้าเป็นน้องชายของเทพมังกร ข้ายังสงสัยเรื่องนั้นอยู่จริงๆ...”
“อ๋า? เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆ” ทุกคนตะโกนอย่างตกใจเมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น
“เฮ้ เฮ้, ข้าก็แค่จงใจโกหกพวกเจ้า มันก็แค่เรื่องตลก อย่าจริงจังเกินไปนักเลยไม่อย่างนั้นมุขแบบนั้นคงไม่ตลกแน่!” เย่ว์หยางรีบโบกมือห้าม
“เจ้าอาจจะไม่ใช่น้องชายของเทพมังกร แต่เจ้าต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเผ่าพันธุ์มังกรเราอย่างแน่นอน ปัญหาก็คือว่าเจ้านั้นประหลาดคนมากข้ามองเจ้าไม่ออกเลย เหมือนกับว่ามีบางอย่างปกป้องเจ้าเอาไว้? ช่างเถอะ, เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วข้าจะยกเว้นและปล่อยเจ้าไป ข้าตัดสินใจขอเป็นคนดีชั่วคราวถ้าเจ้าพบกับเผ่ามนุษย์มังกรต่อไป บอกพวกเขาว่า ข้ามังกรดำกลับตัวกลับใจแล้ว ขอให้พวกเขายกโทษให้ข้าและช่วยข้าวิงวอนขอความเมตตาจากเทพมังกร ถ้าข้ายังคงถูกขังต่อไปแบบนี้ ข้าคงหมดกำลังใจในไม่ช้านี้แน่” บุรุษเคราดำปาดน้ำตาอย่างเศร้าสร้อย อย่างไรก็ตามทุกคนตระหนักได้แล้วว่าคนผู้นี้เชี่ยวชาญในการบีบน้ำตาจระเข้ แม้จะหลั่งน้ำตานองหน้าก็ไม่มีความรู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย
“ก็ได้, งั้นข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย!” เย่ว์หยางรับคำอย่างไม่ลังเลใจและเริ่มทำท่าจะโบกมืออำลา
“เดี๋ยวก่อน...” บุรุษเคราดำเรียกเย่ว์หยางทันทีเหมือนกับว่าเขากำลังคว้าเส้นความหวังสุดท้ายไว้ เขาคิดชั่วขณะก่อนจะถาม “เจ้าสามารถปลดผนึกแดนมรณะนี้ได้จริงๆ หรือ? เดี๋ยวก่อน, ไม่เป็นไร..นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถปลดผนึกออกไป ไปเสียเถอะ ยิ่งข้าคิดก็ยิ่งหดหู่ใจ”
“ข้าไม่สามารถปลดผนึกแดนมรณะได้ แต่สามารถใช้ลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆหลอกให้ผนึกแดนมรณะปล่อยพวกท่านได้”
“จริงหรือ?”บุรุษเคราดำพรวดพราดทิ้งตัวลงมาที่ผิวทะเลสาบทันทีและม้วนบิดตัวเหมือนกับว่าเกิดอาการหัวใจวาย เมื่อทุกคนมองหน้ากันด้วยความสับสน เขากระโดดกลับมาปรากฏตัวอยู่หน้าเย่ว์หยางเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจับมือเย่ว์หยางแน่น “งั้นเจ้าจะรออะไรอยู่อีก? เร็วเข้าปล่อยข้าออกไปจากที่นี่เร็วๆ เจ้าอยากได้อะไรข้าจะยกให้เว้นแต่ความบริสุทธิ์ของข้า ข้าสาบานต่อสวรรค์ไว้แล้วว่าข้าจะเปิดซิงกับสาวงามเท่านั้น นอกนั้นฝันไปเถอะ ขอโทษด้วย นอกเรื่องไปหน่อย, เร็วเข้าปล่อยข้าออกไป ถ้าเจ้าต้องการอะไรแค่บอกข้ามาเจ้าต้องการภูเขาทองหรือฮาเร็มสาวงามดีล่ะ?”
“คืออย่างนี้...บังเอิญข้าไปขัดใจกับท่านผู้มีอำนาจล้นเหลือ จักรพรรดิแดนฟ้า” เย่ว์หยางทำท่าทางเหมือนกับว่าตนเองเป็นผู้ร้ายหนีคดี ดังนั้นเขาเลยไม่มีแรงบันดาลใจจะช่วยคนอื่น
“จักรพรรดิแดนฟ้า? ใครเหรอ?ไม่เคยได้ยินชื่อเลย!” บุรุษเคราดำส่ายศีรษะ
“...” เสี่ยวโฉ่วและคนอื่นพูดไม่ออก
นี่เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาพบคนที่ไม่รู้จักจักรพรรดิแดนฟ้าในวันเดียว
อย่างไรก็ตาม สำหรับบุรุษเคราดำนั้นเขาถูกคุมขังอยู่ในทะเลสาบกินคนมาเป็นเวลาแสนปี อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาไม่รู้จักจักรพรรดิแดนฟ้า ที่สำคัญคือ จักรพรรดิแดนฟ้าไม่ได้มีชื่อเสียงนักเมื่อหลายแสนปีที่แล้ว เมื่อคนผู้นี้ถูกกักขัง จักรพรรดิแดนฟ้าอาจยังไม่เกิด
เย่ว์หยางรู้แล้วว่าบุรุษเคราดำอาจพูดเช่นนั้น ดังนั้นเขายิ้มแล้วกล่าว“ความจริงเป็นเรื่องเข้าใจผิด เมื่อข้ากำลังต่อสู้ บังเอิญข้าฟันเรือขาดซากเรือก็เลยตกลงไปในทะเลสาบนี้ ไม่มีมันข้าก็ไม่สามารถเปิดผนึกแดนมรณะได้ และข้าจะไม่สามารถปล่อยพวกท่านทุกคนได้ ดังนั้นข้าบังเอิญทำเรื่องแย่ๆ ทั้งที่ตั้งใจดี ถ้าท่านหาเวลาได้ โปรดช่วยอธิบายแก้ต่างให้ข้ากับจักรพรรดิแดนฟ้าด้วย ข้าเชื่อว่าความเข้าใจผิดจะได้รับการคลี่คลายแน่”
บุรุษเคราดำตบอกลั่นเหมือนกับจะบอกว่า“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”
เย่ว์หยางตอนแรกยกย่องเขาก่อนเพราะเป็นคำพูดที่จริง จากนั้นเขายิ้มและชี้ไปที่ท้องฟ้า “ความจริง มีพยานคนหนึ่งอยู่ข้างบน แม้ว่าข้าจะไม่คุ้นเคยแต่คนที่มองเรามาจากท้องฟ้าก็น่าจะเป็นฝ่าบาท ราชาใจสิงห์แน่นอน ด้วยพยานอย่างราชาใจสิงห์ความเข้าใจผิดของจักรพรรดิแดนฟ้ากับเราจะได้รับการคลี่คลาย!”
เวลานี้แรงกดดันที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นในท้องฟ้าทันใด
แม้แต่ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์และปลาไหลมังกรไฟฟ้าซึ่งลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าก็ยังร่วงลงมาสองสามร้อยเมตร
สมาชิกของกลุ่มโจรตัวตลกและโจรกระดูกดำซึ่งยังไม่ถูกกินร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว พวกที่ระดับต่ำตกลงไปในทะเลสาบทันที มีเพียงพวกที่ระดับสูงกว่าปราณดินระดับห้าที่ยังลอยตัวอยู่บนผิวน้ำได้ แม้แต่เสี่ยวโฉ่ว, หลงเสียง,ราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงก็ยังต้องเพิ่มพลังต่อต้านที่มองไม่เห็น
แม้แต่สาวยักษ์ลี่เยี่ยนที่เป็นนักสู้ปราณฟ้านางก็ยังรู้สึกถึงแรงกดบนร่างของนาง
นางกังวลว่าเย่ว์หยางจะไม่สามารถต้านทานแรงกดได้ อย่างไรก็ตามนางตกใจเมื่อเห็นเขา ในทั่วทุกพื้นที่มีเพียงสองคนที่ไม่มีปฏิกิริยาต่อพลังไร้สภาพนั้น สองคนนั้นก็คือบุรุษเคราดำและเย่ว์หยาง!
บุรุษเคราดำเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณผู้ยังไม่ตายหลังจากผ่านไปหลายแสนปี ถ้าเขาไม่สนใจถึงแรงกดไร้สภาพได้นั่นยังพอเข้าใจได้ อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางอายุยี่สิบเท่านั้นสำหรับเผ่าพันธุ์แดนสวรรค์หลายเผ่า เขาเป็นแค่ทารกคนหนึ่งเท่านั้น และเขาไม่มีปฏิกิริยาสนองตอบได้อย่างไร?
ผิดธรรมดา!
นั่นเป็นเพียงคำที่สาวยักษ์ใช้อธิบายถึงเขา
ไม่มีคำอื่นที่ใช้อธิบายถึงเจ้าเด็กผู้นี้ได้ดีกว่านี้แล้ว...ต่อให้เขามาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งเติบโตได้เร็วมากนางก็ยังไม่เคยเห็นมนุษย์ที่ผิดธรรมดาแบบนั้นมาก่อน!
“เจ้าคือราชาใจสิงห์หรือ? เจ้าหยิ่งเอาการอยู่เหมือนกันนะ!” บุรุษเคราดำใช้หางแคะหูอย่างสบาย เหมือนกับว่าเขาเบื่อ จากนั้นก็เป่าขี้หูออกไปและถอนหายใจเหมือนกับว่าเขาไม่สนใจอะไรเมื่อหลงเสียงได้ยินเช่นนี้ เขาไม่พอใจทันที ราชาใจสิงห์สำหรับเขาแล้วคือเทพเจ้าที่ไม่มีใครหมิ่นได้ ต่อให้บุรุษเคราดำเป็นผู้อาวุโสก็ตาม เขาไม่ควรจะทำเรื่องเสียมารยาทเกินไป หลงเสียงโกรธควงดาบและฟันเต็มแรง
ปราณกระบี่ทะยานฟ้า
เขาระบายความโกรธทั้งหมดเต็มที่ในท่าโจมตีสูงสุดนี้ เขาสามารถทำร้ายนักสู้ปราณฟ้าระดับสองให้บาดเจ็บได้
ถ้าเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งถูกท่าโจมตีนี้จะต้องตายทันที
แต่แล้วเกิดเรื่องไม่คาดคิดเหลือเชื่อกับทุกคน บุรุษเคราดำผู้มีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่งใช้หางที่เขาเพิ่งใช้แคะหูหยุดพลังโจมตีของหลงเสียงไว้ได้ง่ายๆทันที
พลังฟันด้วยปราณกระบี่ที่ผ่าฟ้าและทำลายดินได้ถูกหางหยุดเอาไว้และสลายไปโดยไม่มีอะไร เหมือนกับว่าหลงเสียงไม่เคยกวัดแกว่งดาบ เมื่อเห็นเช่นนี้เสี่ยวโฉ่วและคนอื่นตกตะลึงจนพูดไม่ออก! หลงเสียงได้แต่มองบุรุษเคราดำต่อหน้าเขาอย่างโง่งม เขาไม่อาจทำใจเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตกใจหนักจนลืมชักดาบกลับ บุรุษเคราดำชักหางกลับราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและชำเลืองมองมาทางเย่ว์หยางที่กำลังหาวและหลงเสียง จากนั้นหัวเราะออกมา “ความจริงพลังโจมตีของเจ้าค่อนข้างดี แต่เจ้าใจร้อนเกินไป คนหนุ่มไม่ควรใจร้อนเกินไปไม่อย่างนั้นเจ้าจะเจ็บตัวง่ายๆ ในอนาคต เจ้าควรจะเรียนรู้จากข้าและเจ้าเด็กนี่ทำตัวปกติธรรมดาทั้งที่เราก็แข็งแกร่งทรงพลัง.. ไม่เป็นไร ข้าไม่คิดว่าแดนสวรรค์จะมีคนอย่างเขามากนักหรอก ข้าคงไม่คาดหวังให้คนธรรมดาอย่างเจ้าเป็นเหมือนกับเขานักหรอก”
เมื่อหลงเสียงได้ยินเช่นนี้เขาแทบกระอักโลหิต
ในท้องฟ้าพลังไร้สภาพค่อยๆหายไปขณะที่กริฟฟินทองขนาดมหึมาค่อยๆบินลงมาจากท้องฟ้าเปล่งแสงสีทองราวกับดวงอาทิตย์
บนตัวกริฟฟินทองมีบุรุษที่แข็งแกร่งทรงพลังดูเหมือนกับเทพเจ้า
เขาประสานมือแสดงความคารวะ“ผู้อาวุโสหมอหลง ข้าซือซินขอคารวะท่าน”
จากนั้นเขาระบายอารมณ์โกรธกับหลงเสียง “เจ้ากล้าดียังไง! เจ้ารู้ไหมว่าผู้อาวุโสหมอหลงมีเกียรติขนาดไหน? หลงเสียง เจ้ากล้าชักดาบใส่เขาหรือ ขอขมาเขาเดี๋ยวนี้!”
หลงเสียงรีบเก็บดาบของเขาและคุกเข่าขอขมา..เสี่ยวโฉ่ว, มนุษย์โครงกระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวง ทุกคนพากันพูดไม่ออกขณะที่พวกเขาได้แต่จ้องมองบุรุษเคราดำสีหน้าตกตะลึงของพวกเขาดูเหมือนจะแสดงว่าพวกเขาไม่อยากเชื่อว่าบุรุษเคราดำจะเป็นหมอหลง(มังกรปีศาจ) ต่อให้พวกเขาถูกทุบจนตายก็ตาม
ในแดนสวรรค์มีมังกรยักษ์ดึกดำบรรพ์อยู่หลายตัว แต่ไม่มีมังกรยักษ์ดึกดำบรรพ์ตัวใดเลยที่เรียกว่าหมอหลง ในแดนสวรรค์นั้นหมอหลง (มังกรปีศาจ)เป็นชื่อที่ใช้เรียกสิ่งมีชีวิตที่เป็นเหมือนยมทูตจากฝันร้าย กล่าวกันว่าหมอหลงเคยถล่มอาณาจักรแดนสวรรค์ใต้ด้วยตนเอง แม้แต่เจ้าปกครองดินแดนสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์และจักรพรรดิดินแดนต่างๆก็ยังไม่อาจทำอะไรได้ ในแดนสวรรค์ ค่าหัวของหมอหลงมากกว่าสามร้อยพันล้าน ค่าหัวของเขาสูงที่สุดในแดนสวรรค์ใต้เพราะผ่านมาหลายแสนปีแล้ว
ใครเล่าจะคิดกันว่าบุรุษเคราดำที่มองผิวเผินเป็นเพียงนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งจะเป็นหมอหลงในตำนาน
สาวยักษ์กลัวจนพูดไม่ออก
นางไม่เคยได้ยินชื่อของหมอหลงมาก่อน แต่นางรู้ว่าค่าหัวสำหรับชื่อนี้คือสามร้อยพันล้านเหรียญทอง
คนธรรมดาอาจจะไม่รู้ แต่ในฐานะหัวหน้ากลุ่มโจร นางจะต้องรู้เป็นธรรมดา สามร้อยพันล้านต้องมีความสามารถขนาดไหนถึงจะมีคุณสมบัติสำหรับทองมหาศาลขนาดนั้น
ไม่แค่ความสามารถนั้นก็ยังไม่พอ
เขาต้องสร้างอันตรายใหญ่หลวงกับแดนสวรรค์ทำให้แดนสวรรค์ไม่มีกฎหมายและคำสั่งคอยควบคุม เขาจึงมีค่าหัวสามร้อยพันล้าน โดยปกติ พวกมีค่าหัวเงินรางวัลระดับสิบพันล้านก็เป็นระดับที่สร้างอันตรายได้อย่างแน่นอน ในทั่วแดนสวรรค์มีไม่มากกว่าพันคน พวกที่มีค่าหัวร้อยพันล้านและมากกว่านั้นได้แก่เจ้าปกครองดินแดน ผู้ยิ่งใหญ่หรือนักรบโบราณผู้ไม่มีดินแดนปกครอง
พวกที่มีรางวัลค่าหัวสองร้อยพันล้านขึ้นไปแทบจะใช้นิ้วเดียวนับได้
สาวยักษ์เคยเห็นชื่อหมอหลงในรายนามค่าหัวมาก่อน แต่นางไม่เคยคาดคิดเลยแม้แต่จะฝันก็ตามว่าสิ่งมีชีวิตในตำนานก็คือบุรุษเคราดำผู้นี้
“เด็กน้อยเจ้ารู้แล้วว่าราชาใจสิงห์กำลังมาและใช้ข้าเป็นโล่กำบังใช่ไหม? เจ้าหลอกข้าหรือ เจ้าบ้าหรือเปล่า” บุรุษเคราดำโกรธทันที เขาคว้าคอเสื้อเย่ว์หยางแล้วตะโกนไม่หยุดเย่ว์หยางยังคงยิ้มอย่างใจเย็น รอจนกระทั่งเขาเงียบเสียงแล้วค่อยตอบ “ข้ากล้าอ้างเป็นน้องชายเทพมังกรทำไมข้าจะไม่กล้าหลอกท่าน ท่านเป็นนักโทษของเทพมังกรใช่ไหม? นอกจากนี้ ถ้าท่านไม่รีบเอาใจข้าในตอนนี้ ข้าก็แค่ไปจากที่นี่ บางทีท่านอาจต้องรอไปอีกสักหลายแสนปีก็ได้”
“เจ้าจะเดินไปจากข้าหรือ? ไม่กลัวว่าข้าจะตบเจ้าทีเดียวจนตายหรือ? เจ้าควรรู้ว่าเจ้าไม่มีอะไรที่ต่างจากยุงเมื่อเทียบกับคนอื่น!” บุรุษเคราดำยิ่งโกรธมากขึ้น
“งั้นทำไมท่านไม่ลองดู?” เย่ว์หยางยิ้มกว้างเพียงพอทำให้บุรุษเคราดำต้องการต่อยหน้าที่ยิ้มของเขา
“....” สาวยักษ์ยังคงรู้สึกเหมือนเดิม นางตระหนักว่า ถ้าเจ้าเด็กนี่ยิ้มกว้างเมื่อไหร่ อีกฝ่ายจะต้องโชคร้ายเป็นแน่
“ได้พบกับเด็กน้อยเจ้าบางทีเป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดในชีวิตข้า” บุรุษเคราดำทึ้งอกตัวเองอย่างหงุดหงิด จากนั้นกลับสงบลงอีกครั้งเขายิ้มและช่วยจัดคอเสื้อให้เย่ว์หยางอย่างดี “สหายน้อย เจ้าช่างหล่อเหลาจริงๆ ยิ้มของเจ้าดูดีมีเสน่ห์ ข้าเชื่อว่าเจ้ามีคารมณ์ดีกล่อมสาวๆ ได้มากมาย เยินยอแค่นี้ดีพอสำหรับเจ้าหรือยัง?เด็กหนุ่มที่ดูดีอย่างเจ้า คนอย่างเจ้าจะไม่ตายตั้งแต่อายุยังน้อย ซือสิน เจ้าคิดว่าไงบ้าง?”
“สหายน้อยผู้นี้บางทีเป็นคนที่เทพเจ้าอวยพรและปกป้อง... อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสหมอหลงเลยข้าเชื่อว่าแม้แต่จักรพรรดิแดนฟ้าก็ยังชื่นชมเจ้า” ราชาใจสิงห์พูดสุภาพและเสียงมีมารยาทแต่เพียงผิวเผิน “ก็เพียงแค่ว่าพันธมิตรของข้ามีความเข้าใจผิดกับท่าน ทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ยอมสงบศึกไหม?ถ้ามันเป็นไปไม่ได้จริง ทำไมเราไม่มาจับคู่ประลองกันเล่า? ตามกฎแดนสวรรค์เรากำหนดความเหลื่อมล้ำต่ำสูงด้วยความสามารถ ผู้ชนะเป็นผู้ถูกต้อง ผู้แพ้ต้องขออภัย ไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสหมอหลงมีความคิดอื่นอีกไหม? ข้ารับรองได้ว่าไม่ว่าเราแพ้หรือชนะในอนาคตข้าจะไม่ถามหาความรับผิดชอบกับพวกเจ้า ในทางกลับกัน เจ้าจะทำอย่างนั้นไหม สหายน้อย?”
“....” ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงว่าบุรุษเคราดำยังไม่ฟื้นความแข็งแกร่งเต็มที่เนื่องจากเขาเพิ่งหลุดจากผนึกของเขา เขาคงไม่มีทางเจรจากับราชาใจสิงห์แน่ อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกผนึกมาเป็นเวลานานพลังความสามารถของเขาลดลงไปมาก เขาไม่มีความมั่นใจจะเอาชนะราชาใจสิงห์ได้ ดังนั้นเขาได้แต่อดกลั้นความโกรธไว้ตอนนี้
เขารู้สึกกดดันในใจแต่ไม่มีทางเลือกนอกจากเห็นด้วย
ตาของเขามองดูเย่ว์หยางและตระหนักว่าดูเหมือนเจ้าเด็กนี่คำนวณปฏิกิริยาของราชาใจสิงห์ไว้แล้ว เขารู้สึกประหลาดใจมากและความประทับใจที่เขามีต่อเย่ว์หยางเพิ่มขึ้นสองสามจุดทันที จากนั้นเขาพยักหน้า “เราตกลงตามนั้นผู้แข็งแกร่งที่สุดกำหนดกฎ”
เมื่อเขาพูดอย่างนี้สาวยักษ์มีความสุขที่สุด ตอนแรกนางคิดว่านางจะไม่สามารถล้างแค้นในวันนี้ได้ คาดไม่ถึงโอกาสมาถึงและพวกเขาสามารถต่อสู้กันได้อีก
อย่างไรก็ตามความสุขของนางคงอยู่ได้ไม่นาน เย่ว์หยางก้าวออกมาทันทีและดุนาง “เจ้ามองดูอยู่ข้างๆดีกว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรให้เจ้าทำ!”