ตอนที่ 620 การตัดสินใจที่ฉลาดมาก
ทะเลสาบและฝั่งทะเลสั่นสะเทือน
ตอนแรกเสี่ยวโฉ่วคิดว่าเป็นเสียงที่สาวยักษ์ลี่เยี่ยนสร้างขึ้นหลังจากแผดเผาพลังชีวิตช่วงสุดท้ายของนางทำให้เกิดพลังระเบิดที่มีพลังเหนือกว่านักสู้ปราณฟ้าระดับห้า แต่เขาตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ด้วยพลังสาวยักษ์เพียงอย่างเดียวไม่ว่านางจะทรงพลังมากขนาดไหนก็ตาม นางไม่มีทางทำอะไรอย่างนี้ให้เกิดขึ้นได้ พวกโจรทุกคนที่กำลังมองหาอยู่ที่ทะเลสาบต่างบินหนีด้วยความหวาดกลัว
พวกที่ขี้ขลาดมากกว่าก็เหาะหลบขึ้นไปบนอากาศสูงมากกว่าสี่ห้าร้อยเมตร
แม้แต่ระดับหัวหน้าหน่วยโจรที่ระดับสูงกว่านักสู้ปราณดินระดับห้าก็บินหนีขึ้นไปสูงกว่าสองร้อยเมตรในอากาศและซ่อนตัวอยู่หลังนักสู้ปราณฟ้า
จอมปีศาจจื้อกวง, จอมโจรโครงกระดูกราเชล,จอมพลเกราะทองหลงเสียงและเสี่ยวโฉ่วจ้องมองทะเลสาบอย่างตั้งใจ
เกิดกระแสน้ำวนที่ใหญ่ผิดปกติห้าแห่งบนผิวทะเลสาบฉลามปีศาจกลืนวิญญาณและปลากินคนนับไม่ถ้วนเริ่มหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่การดิ้นรนของพวกมันเปล่าประโยชน์พวกมันทุกตัวถูกดูดลงไปในกระแสน้ำวน
“ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตยุคดึกดำบรรพ์!” จอมปีศาจจื้อกวงขมวดคิ้วและเขาตัดสินได้ถูกต้อง
“ชิ้นส่วนเรือสำราญทั้งสองส่วนที่อับปางลงคงไปปลุกกระตุ้นสิ่งมีชีวิดึกดำบรรพ์ที่หลับลึกอยู่เป็นแน่” หลงเสียงหาคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลได้เท่านี้ อย่างไรก็ตามปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คืออสูรดึกดำบรรพ์ในทะเลสาบกินคนนี้มีอยู่เท่าใด? ถ้ามีมากถึงห้าตัวนั่นคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวจริงๆ
“หลังจากหลบไปที่ก้นทะเลสาบเป็นไปได้ไหมว่าลี่เยี่ยนเปิดศึกกับอสูรดึกดำบรรพ์? พลังงานในทะเลสาบปั่นป่วนมากจนเกิดเป็นอ่างน้ำวน ตอนนี้เราน่าจะถอยกันก่อน!” จอมโจรโครงกระดูกราเชลรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะปล่อยให้ตัวพวกเขาเองตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตามพิษเชื้อมังกรมีมากพอจะฆ่าหัวหน้าลี่เยี่ยนอยู่แล้ว ต่อให้นางหลบไปอยู่ที่ก้นทะเลสาบและถูกอสูรดึกดำบรรพ์พบเจอและมีการต่อสู้รบพุ่งกันก็คงหมายความว่าทั้งสองคนคงจะบาดเจ็บหนัก นั่นถือว่าเพียงพอให้พวกเขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์แล้ว
“ทุกคนระวัง” หลงเสียงรู้สึกว่าตอนนี้อสูรดึกดำบรรพ์เพิ่งจะตื่นขึ้นและยังไม่รู้สถานการณ์มันอาจเข้าใจผิดคนที่อยู่เหนือผิวทะเลสาบว่าเป็นศัตรูได้ง่ายๆ
นักสู้ปราณฟ้าสองคนและฝู่โถวผู้ทรยศมองหน้ากันเองและรู้สึกว่าไม่ใช่เวลาที่จะเข้าไปใกล้ผิวทะเลสาบจนเกินไป
แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะเป็นนักสู้ปราณฟ้า แต่พวกเขาไม่อาจเทียบได้กับจอมปีศาจจื้อกวงและเสี่ยวโฉ่วได้ ถ้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอสูรดึกดำบรรพ์ มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะแพ้ ดังนั้นพวกเขารู้สึกว่าทางที่ดีที่สุดคือหลบขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกพันเมตรคอยสังเกตสถานการณ์อยู่เงียบๆ ถ้าลี่เยี่ยนตายในการต่อสู้ใต้ทะเลสาบ พวกเขาก็จะไม่ต้องเปลืองทหารแม้แต่คนเดียวเพื่อกำจัดศัตรูที่ทรงพลัง แต่ถ้าลี่เยี่ยนหลบหนีออกมาจากทะเลสาบได้ พวกเขาจะโอบล้อมนางในอากาศและโจมตีนาง
ขณะที่ทั้งสามคนออกห่างจากด้านหลังเสี่ยวโฉ่วเงียบๆ และเหาะขึ้นไปในท้องฟ้าอ่างน้ำวนเกิดความผิดปกติทันที
คลื่นยักษ์พุ่งขึ้นมาในท้องฟ้า
เงาร่างหลายร่างโผล่ออกมาจากน้ำเหมือนกับเสือชีตาร์ที่ซุ่มรอจู่โจมเหยื่อที่อยู่ต่อหน้ามัน เงาทั้งหลายพุ่งโจมตีด้วยความเร็วซึ่งแม้แต่เสี่ยวโฉ่วและหลงเสียงได้แต่ตะลึงมองมันคล่องแคล่วกว่าเสือชีตาร์ เจ้าเล่ห์มากกว่าจิ้งจอก แม่นยำยิ่งกว่างูพิษ ในชั่ววับเดียวนักสู้ปราณฟ้าทั้งสามซึ่งเพิ่งถอยออกมาจากด้านหลังเสี่ยวโฉ่ว รวมทั้งฝู่โถว ทั้งสามคนถูกเงาร่างนั้นรัดไว้ หัวใจของเสี่ยวโฉ่วตกวูบ ถ้าเงาเหล่านี้โจมตีใส่พวกเขาทั้งสี่ พวกเขาอาจจะสามารถหลบได้
แต่เงาเหล่านั้นไม่ได้โจมตีสี่คนที่แข็งแกร่งที่สุดและกลับโจมตีนักสู้ปราณฟ้าสามคนผู้อ่อนแอกว่าพวกเขาเล็กน้อย
ในบรรดานักสู้ปราณฟ้าสามคน ก็มีแม้แต่ฝู่โถวที่แข็งแกร่งที่สุดแต่ก็เป็นเพียงนักสู้ปราณฟ้าระดับสอง
ก่อนหน้านี้ฝู่โถวทรมานสังขารตนเองหลายครั้งเพื่อสร้างอาการบาดเจ็บตบตา
ความสามารถของเขาอ่อนด้อยอยู่แล้ว เมื่ออยู่ตรงจุดนี้ เขาน่าจะมีความสามารถเท่ากับนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่ง....สำหรับนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งสามคนซึ่งตื่นตัวตลอดเวลาแม้ว่าความสามารถจะไม่เท่าพวกเขาแต่กลับตกอยู่ภายใต้การโจมตีที่อันตรายนั้นได้!
“ช่วยพวกเขา!” เสี่ยวโฉ่วกรีดร้องลั่น เขาพุ่งลงไปแข่งความเร็วกับเงานั้นพยายามช่วยคนของเขา
การสูญเสียนักสู้ปราณฟ้าไปแม้สักคนหนึ่งจะทำให้ความเข้มแข็งของกลุ่มโจรตัวตลกลดลงอย่างมาก
เสี่ยวโฉ่วไม่ต้องการให้นักสู้ปราณฟ้าตายภายใต้การโจมตีสุ่มสี่สุ่มห้านี้
เทียบกับเสี่ยวโฉ่วแล้ว หลงเสียงชูดาบรออยู่แล้วและเร่งเร้าพลังของเขาเพื่อโจมตีศัตรูอย่างหนักหน่วง ถึงตอนนี้เขาไม่สามารถคิดว่านี่จะทำให้ศัตรูโกรธหรือไม่อีกต่อไปช่วยชีวิตพวกเขาสำคัญที่สุด
ตรงกันข้าม หน้าของจอมปีศาจจื้อกวงหน้าซีดเผือด เขาตระหนักได้ทันทีว่าสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่ถูกปลุกขึ้นมานั้นมีพลังเท่านักรบปราณฟ้าระดับหก ไม่แต่เพียงแค่นั้นยังมีตัวที่มีพลังปราณฟ้าระดับหกมากกว่าหนึ่งตัว ถ้าพวกเขาไม่หลบหนีอย่าว่าแต่สหายของพวกเขาเลย ต่อให้พวกเขาเองก็จะตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะสามารถตั้งตัวได้เงายักษ์ก็โผขึ้นไปในท้องฟ้าจากผิวทะเลสาบมันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทำให้ทุกอย่างอยู่ใต้ตัวมัน มันอ้าปากกว้างและท้องฟ้าถูกปากที่ตะกละของมันบดบัง
“ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์...” เสี่ยวโฉ่วได้แต่จ้องมองอย่างตกตะลึง ตาของเขากระตุกอย่างมิอาจควบคุมไว้ได้
ทั้งนี้เป็นเพราะเขากำลังมองดูฉลามที่ใหญ่ยิ่งกว่าเรือสำราญลอยฟ้าในท้องฟ้า
ความสามารถของมันสูงพอๆ กับนักสู้ปราณฟ้าระดับหก เมื่อเผชิญกับอสูรยักษ์ดึกดำบรรพ์อย่างนั้นที่มีขนาดใหญ่โตมากแม้แต่คนที่มีระดับเดียวกันก็ยังไม่ใช่คู่มือ
สิ่งที่ทำให้เสี่ยวโฉ่วหมดหวังทั้งมวลก็เมื่อฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์นี้กระโจนขึ้นท้องฟ้า มันยกเขตแดนมรณะขึ้นมาด้วย เขตแดนมรณะคือผนึกที่นักสู้คนหนึ่งได้สร้างไว้ในสมัยดึกดำบรรพ์อย่างมิต้องสงสัย แทบเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะหลบหนีออกมา อสูรยักษ์โบราณนี้เคลื่อนไหวได้อยู่ในพื้นที่จำกัดเหมือนปลาน้อยติดอยู่ในฟองอากาศใหญ่
ตอนนี้เขตแดนมรณะถูกยกขึ้นมา สมาชิกโจรโครงกระดูกและกลุ่มโจรตัวตลกติดอยู่ภายใน
เป็นเรื่องยากที่จะออกมาได้หลังจากเข้าไปภายในเขตแดนมรณะแล้ว!
แน่นอนว่าเสี่ยวโฉ่วไม่ใครว่าใครจะสามารถหลบออกจากปากยักษ์ของฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์ได้ นักสู้ปราณฟ้าทั้งสามรวมทั้งฝู่โถวกรีดร้องคร่ำครวญ เสี่ยวโฉ่วก็เสียใจเช่นกันและตระหนักว่ารอบเอวเขามีสิ่งที่เหมือนกับหนวดปลาหมึกพันอยู่โดยรอบ
เงาเหล่านั้นก็คือหนวดปลาหมึกพวกนี้เอง
เนื่องจากหนวดเหล่านี้สามารถอำพรางได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในท่ามกลางคลื่น เพียงแต่เมื่อคลื่นยิงออกมาและไม่จำเป็นต้องลวงตาเขาให้มองดูเหมือนว่าเงา หนวดปลาหมึกยาวมากมายยื่นออกมารัดตัวฝู่โถวและนักสู้อีกสองคนและลากพวกเขาไปอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าทั้งสามจะพยายามโจมตีอย่างไร หนวดที่เหนียวทนทานเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยและลากทั้งสามลงทะเลสาบหลงเสียงใช้ดาบของเขาโจมตีอย่างสุดกำลัง แต่แรงฟันของเขาสร้างได้แต่เพียงแผลเท่านั้นไม่สามารถตัดขาดได้
“กงจักรเพลิง!” เสี่ยวโฉ่วควงมือและขว้างกงจักรเพลิงไปที่หนวดปลาหมึกมากมาย
กงจักรเพลิงเหล่านั้นฟันเข้าที่รอยแผลที่หลงเสียงสร้างไว้อย่างแม่นยำขณะที่เสียงซี่ซี่ดังชัด
เพลิงเผาไหม้ทำให้หนวดเหล่านั้นถอยขยับเล็กน้อย มันเหวี่ยวฝู่โถวและนักสู้ปราณฟ้าอีกคนทิ้งราวกับว่ามันเจ็บปวด จากนั้นหนวดปลาหมึกทั้งหมดรัดนักสู้ปราณฟ้าผู้โชคร้ายอีกคนและลากลงไป
จอมปีศาจจื้อกวงก็เข้ามาช่วย เขายิงใยไหมนับไม่ถ้วนจากมือของเขากลายเป็นเชือกไหมยักษ์ขัดขวางหนวดปลาหมึกสองสามข้างไว้กลางอากาศ
จอมโจรโครงกระดูกราเชลตะโกนด้วยความกลัวเล็กน้อย
ดาบพิลาปในมือกวาดฟันราวกับสายลม
หลังจากฟันออกไปร้อยดาบใส่บาดแผลที่หลงเสียงสร้างเอาไว้และยังมีรอยเผาที่เกิดขึ้นจากกงจักรไฟ ในที่สุดก็ฟันหนวดขาดออกไปเส้นหนึ่งได้ เสี่ยวโฉ่วรีบพุ่งลงไปทันทีและดึงนักสู้ปราณฟ้าที่โชคร้ายซึ่งถูกหนวดปลาหมึกจับเอาไว้ออามา แรงดึงที่รุนแรงทำให้นักสู้ปราณฟ้าผู้โชคร้ายส่งเสียงร้องโหยหวนตลอดทั้งร่างแตกออกเป็นละอองเลือด ผิวและกล้ามเนื้อของเขาฉีกขาดตรงจุดที่โดนปุ่มดูด เกิดรูบนร่างเขาทั้งที่ยังมีชีวิต
“มันคือจ้าวปลาหมึกร้อยหนวด หนีเร็ว!” จอมปีศาจจื้อกวงตะโกนและเร่งพลังจนอยู่ในระดับสูงสุดหลบหนีปลายหนวดที่ยิงออกมาจากทะเลสาบ
หลงเสียงไม่สามารถเสี่ยงช่วยสมาชิกกลุ่มโจรตัวตลกและกลุ่มโจรกระดูกดำซึ่งถูกฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์กลืนได้อีกต่อไป นับว่าโชคดีมากแล้วที่พวกเขาสามารถช่วยนักสู้ปราณฟ้าได้สามคน ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์ตัวเดียวก็นับว่าลำบากพอแล้วยังบวกกับจ้าวปลาหมึกร้อยหนวดซึ่งเป็นหนึ่งในจ้าวสายน้ำ ทั้งสองนี้ไม่อาจเอาชนะได้
เขาฉุดมือหนึ่งในนักสู้ปราณฟ้าเตรียมจากไปโดยเร็ว
ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งที่ปิดฟ้าบังโลกได้ปรากฏตัว
มันไม่ใช่ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์ แต่เป็นปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์ที่ตัวใหญ่กว่ามัน แม้ว่าปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์จะมีระดับเท่านักสู้ปราณฟ้าระดับสาม แต่หลงเสียงยอมเผชิญหน้ากับฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์สองตัวมากกว่าจะเจอปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์ ปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์โดยตัวมันเองเป็นสิ่งที่ชีวิตที่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับความสามารถของมนุษย์ได้ แม้ว่าพลังโจมตีของมันจะต่ำและพลังยากที่จะมีอะไรทำอะไรมันได้ ลักษณะร่างมหึมาแบบนี้ทำให้มันมีสนามพลังที่สามารถเทียบเคียงได้กับเขตแดนมรณะ กับพลังที่ไม่มีอะไรเลยของมนุษย์มันกลับต้านทานไม่ได้ แม้ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์ก็มีขนาดใหญ่กว่าเรือสำราญลอยฟ้า ขณะที่จ้าวปลาหมึกร้อยหนวดก็มีขนาดพอกัน
แต่ทั้งสองนี้เมื่อเทียบกับปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์แล้วก็มีขนาดเท่ากับปลาเล็กกุ้งน้อยเท่านั้น
“เฮ้..ว่าไง ทุกคน, พวกเจ้าทุกคนกำลังยุ่งน่าดูสินะ เราหวังว่าการปรากฏตัวของพวกเราคงไม่รบกวนพวกเจ้ามากเกินไปหรอกนะ” บนขอบครีบด้านซ้ายของปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์มีบุรุษหนุ่มคนหนึ่งยืนยิ้มกว้าง เขาคือเย่ว์หยางนั่นเอง เขาทักทายทุกคนอย่างสุภาพเหมือนกับทักทายมิตรสหายเก่าที่ไม่ได้พบกันนาน
“ฮึ่ม...” สาวยักษ์ยืนอยู่ด้านขวามือของเขา
นางดูสภาพไม่ดีเลย หมัดของนางกำแน่นและนางจ้องดูฝู่โถวด้วยสายตาราวกับมีเปลวไฟลุกโชน
ฝู่โถวหัวหดด้วยความกลัวคิดแต่จะหลบหนีจากการโจมตีของฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์ให้ได้ก่อนที่จะพุ่งหนีไปอีกด้านหนึ่งเหมือนกับดาวตก
เงาดำร่างหนึ่งพุ่งตรงไปในท้องฟ้า มันสูงและยาวมากพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าถึงพันเมตรแต่ขนาดนั้นก็ยังโผล่ออกมาไม่ถึงหนึ่งในสิบของขนาดร่างกายมัน มันยังคงพุ่งสูงต่อไปนั่นคือปลาไหลมังกรไฟฟ้า บรรดาอสูรดึกดำบรรพ์ ปลาไหลมังกรไฟฟ้าจะติดร้อยอันดับแรกของอสูรที่ดุร้าย ฝู่โถวชนกับร่างของมันด้วยความแตกตื่น แต่ปลาไหลมังกรไฟฟ้าไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย แต่สนามพลังไฟฟ้าทั่วทั้งตัวมันถูกกระตุ้นทันทีเผาฝู่โถวดำเป็นตอตะโกในทันที
ถึงอย่างนั้นฝู่โถวก็ยังไม่ตาย เขาแทบไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ตอนนี้แม้แต่เด็กถ้าต่อยใส่เขา ก็อาจทำให้เขาตายได้
เย่ว์หยางเหวี่ยงโซ่ล่ามเทพจากระยะไกลจับตัวเขาที่หมดสติไว้ได้
เขารีบตวัดโซ่กลับมาเหมือนกับตวัดเบ็ดตกปลาและแขวนฝู่โถวไว้ใต้ครีบปลาวาฬเกาะดึกดำบรรพ์
“ไอ้เทพมังกรบ้านี่ หลังจากผ่านมาแสนปี ไอ้เขตแดนมรณะนี่ยังจำกัดข้าได้อยู่อีก อาาาา ข้าละเกลียดผนึกเป็นที่สุดขอสาปไอ้คนที่สร้างผนึกขึ้นมา” เงาร่างที่ผอมมากลอยขึ้นมาบนผิวทะเลสาบเป็นคนสุดท้าย การปรากฏตัวของเขาทำให้ผิวทะเลสาบที่ปั่นป่วนสงบลงทันทีเหมือนกับกระจกแม้แต่คลื่นยักษ์ที่ยิงขึ้นฟ้าก็หดตัวกลับลงมาอย่างลึกลับราวกับว่ามันไหลผ่านข้อเท้าเขาไป เทียบกับมนุษย์แล้วบุรุษผู้นี้ผิวดำและเคราหนา ที่ตำแหน่งด้านข้างของจมูกจะมีเนื้อคล้ายกับหนวดที่มนุษย์ไม่มีกัน
การปรากฏตัวของบุรุษผู้นี้ทำให้ทุกคนเงียบ
แม้แต่ฉลามปีศาจดึกดำบรรพ์ที่กำลังกินกลุ่มโจรตัวตลกและปลาไหลมังกรไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าลอยอยู่ในอากาศราวกับว่าบุรุษผู้นั้นเป็นผู้นำและพวกมันกำลังรอให้เขาพูด
บุรุษคนนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งคุกเข่ากับผิวน้ำทันที เขาประสานมือราวกับจะอธิษฐานถึงใครสักคนและหลั่งน้ำตาทันที “ท่านเทพมังกร, ข้ายอมรับว่าข้าทำผิดไปแล้วก็ยังไม่พออีกหรือ?แสนปีผ่านไปแล้ว ท่านลงโทษข้าพอแล้ว โปรดส่งใครก็ได้มาปลดผนึกแดนมรณะบ้านี่เถิด! ข้าขอสาบาน ข้าจะไม่ทำชั่วอีกต่อไป... ข้ากลับตัวกลับใจแล้วจริงๆโปรดปล่อยข้าออกไปจากแดนมรณะนี่เถิด แสนปีผ่านไปแล้ว มหาสมุทรกลายเป็นทะเลสาบ ถ้าท่านไม่ปล่อยข้าตอนนี้ สถานที่นี้จะต้องกลายเป็นภูเขาแน่นอน!”
หลังจากคร่ำครวญอยู่ชั่วครู่ เขาเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาอะไรจากท้องฟ้า จึงรีบยืนขึ้น เขาชี้ไปในท้องฟ้าด่าอย่างโกรธเกรี้ยว“เทพมังกร ถ้าท่านไม่ปล่อยข้า ข้าสาบานว่าจะไม่ทำดีจะทำชั่วมันทุกๆ วันทันทีที่ข้าหนีไปได้ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า!”
หลังจากสาปแช่งอยู่ชั่วขณะแล้ว จากนั้นเขาคุกเข่ากับพื้น “ท่านเทพมังกรสูงสุด ข้าวิงวอนท่านนึกเสียว่าข้าเป็นคนแก่คนหนึ่งปล่อยข้าไปเถิด!”
สัญญาสาบานก็ไม่ได้ผล สาปแช่งก็ยังไม่ได้ผลอีก
เมื่อไม่มีทางออก เขาชี้ไปที่เสี่ยวโฉ่วอย่างโกรธเกรี้ยว “ไม่,วันนี้ข้าไม่สบายใจนัก ข้าไม่อาจทนไหวถ้าไม่ได้ฆ่าใครสักคน ข้าไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้จริงๆ ขอให้ข้าได้ฆ่าสักคนสองคนเถอะ ถ้าพรุ่งนี้ข้ายังหดหู่ใจอยู่อีกข้าจะต้องฆ่าให้มากกว่าสองจนกว่าเทพมังกรจะยอมปล่อยข้า ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเจ้าจะต้องตายกันหมด!”
“.....” เสี่ยวโฉ่วและคนอื่นๆ พูดไม่ออกเจ้าคนตัวดำนี่คิดว่าตนเองเป็นใคร?เป็นแค่นักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งทำไมถึงได้โอหังนัก ถ้าเขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าเหมือนพวกเขา อย่างนั้นจักรพรรดิแดนฟ้ามิต้องก้มหัวคำนับให้เขาหรือ?
“นับเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก” เย่ว์หยางชูนิ้วโป้งยกย่องบุรุษเคราดำ “จ้าวมังกร (จีน) ข้าชูมือสนับสนุนท่าน!”