ตอนที่ 616 ไม่ระห่ำที่สุดก็ระห่ำกว่า
หลงเสียงโบกมือขวาและรังสีนับไม่ถ้วนจากภายในมือของเขากระแทกใส่อัศวินอากาศที่ส่งเสียงร้องโหยหวนจนเขาหมดสติ
จากนั้นมีอัศวินอากาศสองนายเข้ามาพาร่างไร้สติของเขาหายออกไป
เหล่าอัศวินอากาศที่อยู่ใกล้ๆที่ยังขี่กริฟฟินสายฟ้าอยู่ไม่มีใครกล้าออกมาท้าสู้อีกต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะส่งใครออกมาก็ไม่มีประโยชน์มีเพียงเหตุผลเดียวที่พวกเขาไม่ส่งกองกำลังใหญ่เข้าโจมตีรวดเดียวเป็นเพราะพวกเขาไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีของพวกเขา เกียรติยศและศักดิ์ศรีของอัศวินทำให้พวกเขาไม่สามารถโจมตีมนุษย์คนเดียวที่ยังเป็นนักสู้ปราณดินระดับหนึ่งได้ เรื่องนี้ถือได้ว่ามนุษย์ผู้นี้มีความสามารถที่ผิดธรรมดาซึ่งเหนือกว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขามากมายนัก
มนุษย์โครงกระดูกราเชลก็ถอยเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะมาจากเผ่ามนุษย์กระดูกและมีร่างเป็นโครงกระดูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาโง่
ความจริงคนผู้นี้เมื่อเทียบกับสมาชิกเผ่ามนุษย์กระดูกเวิ่งจินที่เย่ว์หยางรู้จักยังถือว่าเจ้าเล่ห์มากกว่า
ตอนที่หัวหน้าหน่วยโจรของกองโจรโครงกระดูกดำตาย ราเชลทำทุกอย่างที่นักสู้ระดับปราณดินทำได้ แม้แต่โจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่วก็ไม่สบายใจ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ที่สำคัญ การปล่อยให้บริวารของเขาตายอย่างเปล่าประโยชน์แม้แต่คนโง่ก็ยังไม่ยอมทำ
“หึหึหึหึหึ!” ที่เบื้องหลังหน้ากากครึ่งยิ้มครึ่งร้องไห้โจรตัวตลกเปล่งเสียงหัวเราะเยือกเย็น เสียงหัวเราะของเขาไม่ได้มีความยินดีอะไรเลยแต่เป็นเสียงแห่งความโกรธไม่พอใจ การเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางและอี้หนาน มนุษย์คู่นี้ส่งผลต่อแผนการของเขาทั้งหมด คงเป็นการโกหกถ้าจะบอกว่าเสี่ยวโฉ่วไม่โกรธ เขาคิดว่าการต่อสู้นี้จะทำให้เขาสามารถกวาดล้างกลุ่มโจรเพลิงพิโรธได้สำเร็จและกำจัดหัวหน้าลี่เยี่ยนตัวปัญหาใหญ่ได้แน่ เขาไม่เคยคิดว่าในท้ายที่สุดสิ่งที่น่าเกลียดที่ทำให้เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจะเกิดขึ้นจนได้
เขาควงไม้กายสิทธิ์ในมือเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าการกระทำเช่นนั้นจะช่วยให้เขาคิดอะไรออก
ตรงกันข้ามเขากลับโยนบอลสามสีลูกหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวโฉ่วจะโจมตีด้วยตัวเองงั้นหรือ?
ทุกคนสับสน เป็นไปได้หรือว่านักสู้ปราณฟ้าระดับสี่กำลังจะโจมตีใส่คนเถื่อนนักสู้ปราณดินระดับหนึ่ง?
ภายใต้สถานการณ์ธรรมดา ทุกคนคงระเบิดเสียงหัวเราะและคงไม่มีใครเชื่อแน่ แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ทุกคนคิดว่าดูเหมือนเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
มีแต่เสี่ยวโฉ่วที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าจึงจะสามารถเอาชนะเจ้าเด็กผิดธรรมดาด้วยความสามารถที่ไม่ธรรมดา..แน่นอนว่า ถ้าสุดยอดนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่อย่างเสี่ยวโฉ่วจะลงมือโจมตีจริงๆก็ยังคงเป็นเรื่องน่าขันอยู่ดี เพราะการโจมตีใส่สามัญชนธรรมดาเช่นนั้น ต่อให้เขาได้รับชัยชนะไปเขาก็อาจถูกกล่าวหาว่าเอาเปรียบ ไม่มีความยุติธรรม
“พวกเจ้าทุกคนไล่ล่าข้า ก็เข้ามาหาข้าได้เลยขณะที่ข้ายังคงมีเรี่ยวแรงอยู่!” สาวยักษ์เดินเสียงหนักเข้ามา
เพราะเล็บเชื้อมังกรทำให้พลังฝีมือของนางลดลงไปมาก
ไม่ต้องพูดถึงจอมปีศาจจื้อกวงซึ่งปกติก็อยู่ในระดับเดียวกับนางอยู่แล้ว ต่อให้เป็นมนุษย์โครงกระดูกราเชล,จอมพลเกราะทองและตัวตลกเสี่ยวโฉ่วที่ด้อยกว่านางก็ยังสามารถเอาชนะนางได้ง่ายๆแม้ว่าสาวยักษ์จะมีสายเลือดมังกรโบราณอยู่ในตัวแต่เล็บเชื้อมังกรไม่ทำร้ายคนธรรมดา แต่เป็นดาวข่มนางอย่างแรง
เลือดในตัวทั้งหมดของสาวยักษ์เปลี่ยนเป็นสีม่วงฟ้าจากฤทธิ์ของเล็บเชื้อมังกร ผิวของนางที่แต่เดิมแข็งเหมือนเหล็กกำลังถูกเชื้อมังกรกัดกร่อน
ถ้าทอดเวลานานออกไปแบบนี้ เพียงไม่ถึงชั่วโมงนางจะล้มลงกับพื้น
แม้ไม่ต้องต่อสู้ นางก็จะตายภายในพริบตา
สาวยักษ์ผู้นี้ซึ่งร่างของนางถูกเชื้อมังกรกัดกินแทบจะหมดพลังไปโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงก็คือผมที่ลุกโพลงเหมือนไฟของนางยังคงพัดพลิ้วในสายลมเหมือนกับเปลวไฟ ไม่มีผลด้านลบต่อรูปทรงของผมนาง สาวยักษ์มองดูมังกรตาเดียวและทหารรับจ้างร่างผอมซึ่งติดตามนางจนถึงที่สุดและไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นนางมองดูเย่ว์หยางกับอี้หนาน นางผงกศีรษะกล่าว“ข้าขอบคุณพวกเจ้าทั้งสองคนจริงๆ แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกันแต่พบกันครั้งนี้ครั้งเดียวก็แสดงว่าเจ้าทั้งสองคนดีกว่าเหล่าสหายที่ข้าใช้ชีวิตร่วมกันต่อสู้กันมา ข้าดีใจที่ได้รู้จักพวกเจ้าทั้งสองคน ความจริงชีวิตแบบนั้น ตราบใดสิ่งที่เราทำไม่ที่ละอายต่อการมีชีวิตอยู่และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่เสียใจ,แค่นั้นก็พอแล้ว, ลาก่อน!”
สาวยักษ์ตวาดลั่นกล้ามเนื้อทุกส่วนในตัวนางขยายตัวและส่วนสูงของนางเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเสียงกระดูกลั่นชัดเจน
ภายในไม่กี่วินาทีนางเพิ่มส่วนสูงเป็นสี่เมตร
พลังฝีมือของนางเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุดชั่วคราว
แค่เพียงก้าวเดียว ทั่วทั้งเรือสำราญก็สั่นสะเทือนเสียงกึกก้องดังออกมาจากใต้เท้าของนาง
จากใต้เท้าของนาง เกิดรอยแตกเป็นทางยาวถึงร้อยเมตรบนดาดฟ้า มันลึกลงไปถึงชั้นเรือข้างล่างร้อยชั้นทางเดินเรือชั้นล่างสร้างขึ้นจากกระดูกมังกรพอเกิดเสียงระเบิดที่หัวเรือสำราญจากแรงย่ำของนาง หัวเรือข้างหน้าหักพังสิ้นเชิงและไม่มีอะไรค้ำไว้ หัวเรือเอียงและร่วงลงทะเลสาบที่อยู่ข้างใต้ในระยะหลายพันเมตร...
คนนับไม่ถ้วนเริ่มกรีดร้องด้วยความกลัว
ขณะที่เหล่านักสู้ที่อยู่บนหัวเรือ พวกเขาพยายามหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ถ้าพวกเขาร่วงลงไปในทะเลสาบพร้อมกับหัวเรือที่หักพัง นอกจากนักสู้ปราณฟ้าแล้วไม่มีใครอื่นจะรอดชีวิตไปได้ แม้ว่าทะเลสาบข้างล่างจะดูใสและสวยงาม แต่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องเป็นทะเลสาบกินคน ใต้ทะเลสาบเป็นดินแดนแห่งความตาย เหยื่อใดๆก็ตามที่ตกลงไปในทะเลสาบจะสับสนและวุ่นวาย ก่อนที่พวกเขาจะสามารถหลบหนีได้ พวกเขาจะถูกปลาปีศาจฉีกเป็นชิ้นๆและกลายเป็นอาหารอยู่ในท้องของพวกมัน
หลงเสียงยังคงอยู่ในท้องฟ้า เขาโบกมืออัศวินอากาศทุกคนขึ้นประจำกริฟฟินสายฟ้าและโฉบลงมาพร้อมกัน
พวกเขาพุ่งเข้ามาช่วยเหลือพวกผู้โดยสารที่ตกลงไป แต่ไม่สามารถหลบหนีได้ขณะเดียวกันพวกเขาก็คอยจับตาดูสมาชิกโจรเพลิงพิโรธป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนีไปจากเหตุวุ่นวาย
สมาชิกกลุ่มโจรตัวตลกและกลุ่มโจรกระดูกดำยังคงจับสตรีและเด็กและคนชราจากกลุ่มโจรเพลิงพิโรธไว้ ด้วยจำนวนสมาชิกขนาดใหญ่พวกเขาคงตั้งกลุ่มและบินหนีไปได้
มีเพียงสมาชิกระดับต่ำเท่านั้นที่ตื่นเต้นขณะหลบหนีจากหัวเรือที่ตกร่วงลงไป
พวกเขาหวาดกลัวจะตกลงไปในทะเลสาบกินคนพร้อมกับหัวเรือ
ลมพัดใส่หัวเรือขณะที่มันร่วงลงไปในทะเลสาบ
เสี่ยวโฉ่ว มนุษย์กระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
พวกเขาจ้องมองสาวยักษ์อย่างเย็นชา
ราวกับว่าความเคลื่อนไหวในการทำลายหัวเรือนั้นอยู่ในความคาดหมายของพวกเขาแล้ว เย่ว์หยางและอี้หนานยังคงยืนอยู่ที่ขอบรอยแตก ตอนนี้เท้าของพวกเขายืนหมิ่นอยู่ตรงช่องโหว่สาวยักษ์จงใจทำเช่นนี้ นางต้องการให้เย่ว์หยางและอี้หนานยังอยู่บนเรือขณะที่นางจะตายพร้อมกับศัตรู
“พวกเจ้าสองคนจากไปเถอะ ข้าไม่มีเจตนาจะโจมตีพวกเจ้าทั้งสอง” หลงเสียงยังคงจับตามองเย่ว์หยางอยู่ที่เดิม
ความจริงเขาชื่นชมเย่ว์หยางและอี้หนาน เขารู้สึกว่าทั้งสองคนมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด
แม้ว่าทั้งสองคนจะปรากฏตัวเป็นนักสู้ปราณดินระดับหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงพลังรบของทั้งสองคนเกินระดับตัวเองไปมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่เป็นใจ หลงเสียงมั่นใจว่าพวกเขาคงจะติดตามราชาใจสิงห์และใช้ทรัพยากรที่ดีที่สุดในประเทศเพื่อดูแลพวกเขา เขาเชื่อว่าถ้าราชาใจสิงห์รู้ความคงอยู่ของคนทั้งสอง เขาอาจรับคนทั้งสองเป็นศิษย์และมอบสถานะดยุคให้ก็ได้ แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นศัตรู แม้ว่าหลงเสียงจะต้องการเชื้อเชิญเย่ว์หยางและอี้หนาน เขาก็ต้องเห็นแก่หน้าเสี่ยวโฉ่ว ที่สำคัญก็คือเสี่ยวโฉ่วเป็นตัวตั้งตัวตีในแผนการนี้ การทิ้งพันธมิตรไม่ใช่สิ่งที่เขากระทำ ในฐานะอัศวินแสงสว่างผู้เคร่งครัดกฎระเบียบของอัศวิน เขาจำเป็นต้องกระทำ
“เสียใจด้วยท่านจอมพลหลงเสียง, เราได้รับคำสั่งให้ตรึงพวกเขาไว้ที่นี่” นักสู้ปราณฟ้าอีกสองคนที่ยังคงอยู่ส่ายหัวปฏิเสธ
“อะไรนะ?” หน้าของหลงเสียงมีแววโกรธ เขารู้สึกว่าศักดิ์ศรีของเขากำลังถูกท้าทาย
“ข้าต้องขออภัย แต่ผู้นำของเราสั่งให้ตรึงสองคนนี้ไว้ที่นี่ จอมพลหลงเสียง เราจะยืนยันตามคำสั่งผู้นำของเราเว้นแต่ท่านจะฆ่าเรา” นักสู้ปราณฟ้าสองคนทำความเคารพหลงเสียง พวกเขาไม่ต้องการยั่วโมโหเขา แต่โจรตัวตลกออกคำสั่งเด็ดขาด ถ้าพวกเขาไม่จับเย่ว์หยางและอี้หนานทั้งเป็นพวกเขาก็ถูกฆ่า
“....” หลงเสียงมองดูเย่ว์หยางและอี้หนานและพยักหน้าช้าๆ ทันที “เสียใจด้วยข้าไม่อาจยุ่งเรื่องของเจ้าได้อีกต่อไป การร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มโจรตัวตลกเป็นคำสั่งของราชาใจสิงห์ หลงเสียงไม่อาจขัดขืนคำสั่งได้สิ่งเดียวที่ข้าทำได้ก็คือ ในฐานะอัศวินอากาศข้าจะถอนตัวไม่สู้กับพวกเจ้าทั้งสองคน หลงเสียงทำกับพวกเจ้าได้ดีที่สุดเพียงเท่านี้”
นักสู้ปราณฟ้าสองคนถอนหายใจโล่งอกกับคำพูดของหลงเสียง
ถ้าคนผู้นี้ไม่ยืดหยุ่นยืนยันปฏิเสธ นั่นคงเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างมาก
โชคดีที่หัวหน้าพวกเขา เสี่ยวโฉ่วได้เป็นพันธมิตรร่วมกับราชาใจสิงห์แล้ว ด้วยข้อจำกัดของการทำสนธิสัญญาของพันธมิตรแล้วไม่ว่าหลงเสียงจะดื้อรั้นเพียงไหน เขาก็คงไม่ยอมขัดกับหลักการของเขาเป็นแน่
นักสู้ปราณฟ้าทั้งสองคนมองหน้ากันเอง
โค่นผู้เยาว์แปลกประหลาดทั้งสองคนนี่ซะนักสู้คนหนึ่งดูเหมือนจะรู้สึกถึงอันตราย
ถ้าทั้งสองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าโจมตีร่วมกัน ก็คงเป็นเรื่องง่าย
ไม่ว่าสองคนนี้จะแข็งแกร่งทรงพลังอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ใช่ระดับปราณฟ้า
ระดับปราณฟ้าเป็นขอบเขตอีกระดับหนึ่ง
ระหว่างนักสู้ปราณฟ้าทั้งสองคนนั้น จะต้องได้รับผลสะท้อนแน่นอนนี่ไม่สามารถปกปิดได้ เนื่องจากสองคนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา ไม่ได้รับผลสะท้อนเช่นกับพวกเขานี่พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้า คนที่ไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้ากล้าต่อต้านนักสู้ปราณฟ้าหรือ? ไม่ว่าจะมีความสามารถผิดธรรมดาเช่นไร แม้ว่าพวกเขาเหนือชั้นในการต่อสู้ พวกเขาก็ไม่มีทางเอาชนะนักสู้ปราณฟ้าได้ ไม่ว่าพวกเขาจะทรงพลังเพียงไหนก็ตามนักสู้ปราณดินก็ไม่สามารถเอาชนะนักสู้ปราณฟ้าได้ นี่คือสถิติที่ไม่มีใครในแดนสวรรค์สามารถทำลายได้
“ขอบคุณ” เย่ว์หยางชูดาบจันทร์เสี้ยวและพยักหน้าให้กับหลงเสียง “ตอนแรก ข้ารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ข้าต้องการจะฆ่าทุกคนที่อยู่บนเรือนี้ แต่ข้าจะยกเว้นพวกเขาเพื่อเห็นแก่หน้าท่าน ถ้าเรือลำนี้จม ก็อาจจะลบล้างความไม่พอใจในใจข้าออกไปได้”
“อย่าโง่หน่อยเลย, นี่คือเรือของจักรพรรดิแดนฟ้า” เมื่อเขาเห็นว่าเย่ว์หยางกำลังจะทำลายเรือทั้งหมด เขาหน้าซีดด้วยความกลัวรีบห้ามเขาทันที
“จักรพรรดิแดนฟ้าเป็นใคร?” เย่ว์หยางไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“......” หลงเสียงตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเย่ว์หยางถึงไม่เคยได้ยินชื่อจักรพรรดิแดนฟ้า ในแดนสวรรค์ใต้ นอกจากเจ้าดินแดนและสามผู้ยิ่งใหญ่แล้วในระดับต่ำกว่านั้นก็เป็นจักรพรรดิแดนฟ้าและจักรพรรดิปกครองดินแดนอื่นๆ อีกร้อยคนในจำนวนจักรพรรดิผู้ปกครองดินแดนร้อยคน จักรพรรดิแดนฟ้าอยู่ในระดับห้าสุดยอดไม่ว่าจะพูดถึงเรื่องระดับหรือฝีมือหรือชื่อเสียง ไม่ว่ายังไงจักรพรรดิแดนฟ้าก็อยู่ในระดับสิบสุดยอดของสวรรค์แดนใต้ สำหรับมนุษย์น้อยนี้ผู้อยู่ในแดนสวรรค์ใต้ยังไม่รู้จักเลยว่าใครคือจักรพรรดิแดนฟ้าหลงเสียงอดฝืนยิ้มไม่ได้ “เอาอย่างนี้ตัวข้ามีค่าหัวสี่ร้อยล้าน ราชาใจสิงห์เจ้านายข้ามีค่าหัวสี่สิบพันล้าน และค่าหัวของจักรพรรดิแดนฟ้าก็ร้อยพันล้านเปรียบเทียบอย่างนี้เจ้าเข้าใจไหม?”
“ถูกแล้ว” หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่เหมือนรูปสลักคนที่เคยช่วยเย่ว์หยางครั้งก่อนก้าวมายืนข้างหน้า “แม้ว่าเรือสำราญนี้จะไม่ใช่เรือรบมหึมาที่ใหญ่โตโดดเด่นในกองเรือรบเก้าหมื่นห้าพันของจักรพรรดิแดนฟ้า แต่ถ้าเจ้าทำลายเรือลำนี้ ก็เท่ากับว่าท้าทายจักรพรรดิแดนฟ้า ไม่ว่าเจ้าจะหลบไปมุมไหนของแดนสวรรค์อัศวินตุลาการภายใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิแดนฟ้าจะติดตามฆ่าเจ้า ได้โปรดอย่าบุ่มบ่าม ทำลายเรือเป็นเรื่องง่าย แต่เจ้าไม่ควรดึงดูดเรื่องยุ่งยากมาให้ตัวเองและคนรักของเจ้า”
“ข้าเข้าใจดีแล้ว” เย่ว์หยางหันไปมองดูอี้หนานและอี้หนานพยักหน้ายืนยัน “อนุมัติ!”
“ไม่, ไม่ หยุดนะ...”
นักสู้ปราณฟ้าสองคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยและผู้โดยสารในเรือร้องประหลาดใจเมื่อเห็นเย่ว์หยางชูดาบจันทร์เสี้ยวและเตรียมใช้กระบวนท่าแรกถล่มฟ้าทลายดิน
กระบวนท่าที่หนึ่ง ดาบผ่าปฐพี
ปลายดาบที่แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าก็ยังกลัวตัดผ่านเรือสำราญลอยฟ้าเหมือนกับเต้าหู้ มันตัดตั้งแต่หัวถึงท้ายและเรือขาดเป็นสองเสี่ยง ปราณดาบที่ยาวเป็นพันเมตรทำให้ทุกคนตาพร่า แม้แต่โจรตัวตลก,มนุษย์กระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงรีบมองไปที่ฟ้าอย่างตกตะลึงสิ้นเชิง
สาวยักษ์ยังคงประหลาดใจนางคิดว่านางคาดเดาความสามารถที่แท้จริงของเย่ว์หยางได้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะผิดไปอย่างสิ้นเชิง
“บ้าไปแล้ว!” หลงเสียงตกตะลึงมองดูเย่ว์หยาง
“ฆ่า ฆ่ามัน...” โจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่วคลั่งไปแล้ว เขาเกือบทิ้งเรื่องสาวยักษ์ทันทีและพุ่งขึ้นไปยืนบนอากาศเตรียมฆ่าเย่ว์หยางด้วยมือเขาเอง เขาไม่ยอมให้เด็กหนุ่มคนนี้ได้เติบโตต่อไป ที่เบื้องหลังเขาสาวยักษ์ยังคงละเว้นคนทรยศฝู่โถวผู้ขี้ขลาดและไล่ตามโจรตัวตลกไป หมัดมหึมาของนางปล่อยพลังเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เสี่ยวโฉ่วกลับมา
ก่อนที่มนุษย์โครงกระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงจะทันรู้ตัวเย่ว์หยางก็ยกดาบจันทร์เสี้ยวและฟันอีกครั้งด้วยอานุภาพสามารถฉีกสวรรค์และโลกขาดจากกันได้
กระบวนที่ที่สอง ถล่มฟ้าทลายดิน
เป้าหมายของเขาความจริงคือเสี่ยวโฉ่ว...
“อะไรกันนี่ เขาบ้าไปแล้ว!” มนุษย์โครงกระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงอดตะโกนไม่ได้ พวกเขาเคยพบกับคนบ้าระห่ำมาก่อน แต่พวกเขาไม่เคยพบกับคู่ต่อสู้ที่ระห่ำเท่ากับเย่ว์หยาง เพราะเป็นแค่นักสู้ปราณดินกลับโจมตีใส่นักสู้ปราณฟ้าระดับสี่เชียวหรือ? ในโลกนี้ยังมีใครระห่ำเท่านี้อีกไหม?