ตอนที่ 617 ข่มเหงกันมากไปแล้ว!
สีหน้าของเสี่ยวโฉ่วเขียวคล้ำเมื่อดาบฟันลงมาตรงๆ
นักสู้ปราณฟ้าสองคนตั้งใจจะโจมตีอี้หนาน อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางส่งนางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ทันทีก่อนที่จะโจมตีใส่เสี่ยวโฉ่ว นักสู้ปราณฟ้าทั้งสองคนถึงกับลอบสบถ พวกเขาเกลียดศัตรูที่มีคัมภีร์อัญเชิญเป็นที่สุด ทั้งนี้เพราะทันทีที่พวกเขารู้ว่าไม่อาจรับมือได้พวกเขาจะหนีกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ ทั้งสองคนไล่ตามหลังเย่ว์หยางมาติดๆและลงมือโจมตีเย่ว์หยางพร้อมกันฉวยโอกาสเอาเปรียบจากสถานการณ์ที่เย่ว์หยางกำลังวุ่นกับการไล่ตามเสี่ยวโฉ่ว
เหตุการณ์ปรากฏเป็นความผิดหวังสำหรับเสี่ยวโฉ่วขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการไล่ฟันของเย่ว์หยางและพลังโจมตีตอบโต้ของสาวยักษ์
ที่ด้านหลังมนุษย์โครงกระดูกและจอมปีศาจจื้อกวงตามมาทันขณะที่พวกเขาโจมตีใส่สาวยักษ์
เรือสำราญร่วงลงจากฟ้าตรงที่หัวเรือร่วงลงไป มีกริฟฟินสายฟ้ากำลังบินโดยมีผู้โดยสารร่วมอยู่บนนั้น และมีฉลามปีศาจกลืนวิญญาณจะคอยดักฆ่าผู้คน พวกมันกระโจนจากน้ำได้สูงขณะล่าเหยื่อในอากาศ
ทั่วทั้งสนามต่อสู้ตกอยู่ในความวุ่นวายและสถานการณ์ปั่นป่วนเกินกว่าจะควบคุม
“หุ่นเชิด” เสี่ยวโฉ่วมีทักษะแฝงเร้นพิเศษหุ่นเชิด เขาใช้พลังของเขาอย่างใจเย็นทั้งที่ถูกสาวยักษ์และเย่ว์หยางโจมตี เขาเรียกหุ่นเชิดตัวหนึ่งออกมาซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเขาพร้อมกับอสูรพิทักษ์ตนหนึ่ง อสูรพิทักษ์ของเขาเป็นอสูรพิเศษมากในเรื่องที่มันรู้สึกว่าเป็นหุ่นตัวหนึ่งที่มีระดับที่ไม่สูงและไม่มีพลังชีวิต แต่มันช่วยให้เจ้านายมันทนรับต่ออาการบาดเจ็บใดๆก็ได้ ดังนั้นการโจมตีรุนแรงใดๆที่สาวยักษ์โจมตีใส่เสี่ยวโฉ่วก็จะถูกหุ่นเชิดที่ไร้ประโยชน์นี้ดูดซับความเจ็บปวดได้อย่างสิ้นเชิง
หุ่นเชิดถูกบดขยี้โดยไม่มีอะไร ขณะที่เสี่ยวโฉ่วที่หลบหลีกได้ในช่องแคบๆยังคงไม่ได้รับอันตรายและใช้ให้หุ่นเชิดลอยตัวขึ้นไปในท้องฟ้า
เสี่ยวโฉ่วไถลตัวผ่านเย่ว์หยางไปอย่างหวาดเสียวขณะที่ปลายดาบชี้มาที่ข้างหน้าเขา
การณ์กลับกลายเป็นว่าพวกเขาอยู่สลับตำแหน่งตรงกันข้ามกัน
เมื่อแสงสีดำฉายออกมาจากนิ้วของเขา เขาชี้นิ้วไปที่หลังศีรษะเย่ว์หยางดรรชนีมรณะเป็นวิชาชั้นสูงที่เสี่ยวโฉ่วเรียนรู้เมื่อตอนเขายังเป็นศิษย์จักรพรรดิแดนฟ้าใครที่ถูกทำร้ายจะต้องตาย แม้กระทั่งนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่ง
ในเศษเสี้ยวล้านวินาทีหลังจากยิงพลังใส่หลังศีรษะของเย่ว์หยาง เสี่ยวโฉ่วค่อยรู้สึกตัวว่าร่างของเขาดูเหมือนถูกบางอย่างพันธนาการไว้
ขณะนั้นเย่ว์หยางพลิกตัวกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มด้วยการเคลื่อนไหวที่กราดเกรี้ยวยิ่งกว่า ดาบเทาเถี้ยเคลื่อนไหวผ่านนิ้วที่ยาวผิดปกติของเสี่ยวโฉ่วและฟันตรงใส่หน้าของเขา
ท่าที่สาม จ้าววารีและภูผา!
แสงดาบที่เข้มข้นรุกมาถึงหน้ากากเงินครึ่งร้องไห้ครึ่งยิ้มระดับศักดิ์สิทธิ์ของเสี่ยวโฉ่วมันทะลุและกระแทกใส่หน้าของเสี่ยวโฉ่วทะลวงกะโหลกของเขาเล็กน้อย
เสี่ยวโฉ่วทรมานหนักจนสูญเสียการควบคุม เขาเตะใส่เย่ว์หยางด้วยความโกรธ
ร่างของเย่ว์หยางหมุนติ้วเหมือนหลอดกรอด้ายหลังจากเขาเตะ นี่เป็นหนึ่งในไม้ตายของเสี่ยวโฉ่ว ตอนแรกเขาจะป้องกันการโจมตีจากศัตรูและป้องกันโดยทำให้เขาอยู่สภาพปั่นหมุนทั้งนี้เพื่อที่ว่าเขาจะควบคุมศัตรูของเขาได้หลังจากนั้น
“ตาย!” เสี่ยวโฉ่วใช้มือหนึ่งปิดใบหน้าและชี้ขึ้นข้างบนด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
เขาใช้พลังดรรชนีมรณะอีกครั้ง
สิ่งที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นกับเขา มีพลังพันธนาการปรากฏอีกครั้งและเสี่ยวโฉ่วทำได้แต่เพียงดูเย่ว์หยางตกอยู่ใต้อาการปั่นหมุนเท่านั้นแรงฟันผ่านนิ้วของเสี่ยวโฉ่วเป็นครั้งที่สองขณะที่มันผ่านทะลุหน้ากากเงินและกระแทกใส่หน้าของเขานั่นคือท่าที่สี่พลิกจักรวาล นี่ไม่ใช่แค่เป็นท่าฟันที่ทรงพลังที่สุดของเย่ว์หยางแต่ยังมาพร้อมกับแรงปั่นหมุนของเสี่ยวโฉ่ว เสี่ยวโฉ่วหมุนตัวขณะที่เขาถูกโจมตีทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะปลดปล่อยพลัง
ขณะที่ทั้งสองต่อสู้กัน สาวยักษ์ก็เข้ามาถึง
นางเอื้อมมือและยกร่างของเสี่ยวโฉ่วเหมือนกับว่าเขาเป็นลูกไก่ตัวน้อย
นางจับเขาด้วยมือนาง
จากนั้นนางใช้แรงบีบจนเสี่ยวโฉ่วกระดูกลั่น เขากระแทกเสี่ยวโฉ่วกับเข่านางอย่างรุนแรง ในที่สุดเสี่ยวโฉ่วส่งเสียงครางถูกซัดออกไปใส่มนุษย์โครงกระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงเหมือนกับเป็นอาวุธ
เย่ว์หยางก้าวยันที่คอของสาวยักษ์ และใช้แรงเหวี่ยงเขาเหวี่ยงดาบจันทร์เสี้ยวและต้านทานการโจมตีของนักสู้ปราณฟ้าสองคน
แม้แต่ก่อนที่ทั้งสองคนจะทันได้ปล่อยพลังทั้งหมด เย่ว์หยางก็หายไปในอากาศ
วินาทีต่อมาเขาเคลื่อนผ่านมนุษย์กระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวงและพุ่งตรงไปที่เสี่ยวโฉ่วที่กำลังร่วงลงทะเลสาบ... สาวยักษ์ปล่อยพลังของนางออกมาเป็นรูปมังกรโบราณอยู่เหนือศีรษะนางนักสู้ปราณฟ้าทั้งสองสั่นจากแรงปะทะและกระอักโลหิตนางคำรามด้วยความโกรธขณะที่นางรวบรวมพลังไว้ที่หมัดที่ร้อนแรงของนางพยายามป้องกันมนุษย์โครงกระดูกราเชลและจอมปีศาจจื้อกวง
นักสู้ทั้งคู่ได้แต่ป้องกันโดยถอนถอยไม่ได้ ขณะที่พวกเขากัดฟันต้านทานการบุกจู่โจมของลี่เยี่ยน
ถ้าไม่ใช่เพราะเชื้อมังกรที่บั่นทอนพลังของนาง พวกเขาคงไม่สามารถทนรับหมัดโจมตีของนางได้
เย่ว์หยางไล่ตามเสี่ยวโฉ่วลงไปที่ผิวทะเลสาบ เสี่ยวโฉ่วเกลียดเย่ว์หยางเข้ากระดูกพยายามจะพลิกสลับตำแหน่งโดยใช้ไม้กายสิทธิ์ต่อต้านเย่ว์หยาง
เกียรติยศศักดิ์ศรีของนักสู้ปราณฟ้าไม่สำคัญต่อเสี่ยวโฉ่วอยู่แล้ว
เขาไม่สนใจทั้งนั้นว่าจะน่าอับอายเพียงไหน ถ้าเขาสามารถฆ่าเย่ว์หยางได้!
พวกเขาอยู่ห่างกันเพียงครึ่งเมตร แต่เสี่ยวโฉ่วก็ยังใช้พลังโจมตีรุนแรงได้ถึงสามครั้ง บอลสามสีที่เขาปล่อยไปพุ่งชนกันเองและกระแทกใส่จุดสำคัญบนตัวเย่ว์หยางสามจุด เสี่ยวโฉ่วชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ระหว่างคิ้วของเย่ว์หยางพลังของมันอยู่เหนือดรรชนีมรณะ คนอาจตายหรือเป็นอัมพาตได้เพราะฤทธิ์เดชของมันแต่สิ่งที่ยังไวกว่าพลังนี้ก็คือเท้าของเสี่ยวโฉ่วเหมือนกับว่าเขาเต้นได้อย่างรวดเร็ว เขาเตะใส่เย่ว์หยางสิบครั้ง แม้ก่อนจะใช้ไม้กายสิทธิ์โจมตีใส่เย่ว์หยาง
ไม่มีการแก้ไขใดๆ จากพลังเตะของเสี่ยวโฉ่วได้
แม้แต่อาจารย์ของเขาชิงอีซึ่งเป็นจักรพรรดิแดนฟ้าก็ยังยกย่องเสี่ยวโฉ่วอย่างสูง เขารู้สึกว่าพลังเตะของเสี่ยวโฉ่วถือว่ามีความเร็วสุดยอด
เสี่ยวโฉ่วตั้งใจใช้ท่าเตะของเขาทำลายเย่ว์หยางให้เป็นชิ้นๆ ไม้กายสิทธิ์และบอลสามสีเป็นเพียงกลลวง
มีแต่ท่าเตะที่รวดเร็วของเขาเท่านั้นที่ใช้ฆ่าศัตรู
แต่หลังจากนั้นเสี่ยวโฉ่วค่อยรู้สึกเจ็บที่ท้องน้อย เขารู้สึกหวั่นไหวเมื่อตระหนักว่าเขาก็โดนเตะเข้าที่ท้องเหมือนกัน
ความเร็วและความถี่ในการเตะเข้าที่ร่างของเขาแทบจะทัดเทียมในการเตะของเขาเอง...มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? เสี่ยวโฉ่วไม่มีทางนึกถึงสาเหตุออกเขาเพียงแต่รู้สึกว่าพลังงานที่น่ากลัวพุ่งมาหาเขา และให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพลังงานกำลังจะระเบิดออกมาจากท้องของเขา เสี่ยวโฉ่วทำได้แต่เพียงกระโจนขึ้นไปในอากาศและทิ้งโอกาสโจมตีต่อเนื่องของตนเองเนื่องจากเขาต้องหนีจากท่ารุกของเย่ว์หยาง
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์พลิกกลับเย่ว์หยางไล่ตามเสี่ยวโฉ่วไปอย่างกระชั้นชิด
ท่าดาบที่ห้าฟันใส่อย่างเปี่ยมพลัง
เสี่ยวโฉ่วถูกไล่ต้อนจนแทบบ้า เป็นไปได้ยังไง ในฐานะนักสู้ปราณฟ้ากลับถูกไล่ต้อนจนอยู่ในสภาพแบบนี้?เขาโกรธและใช้บอลสามสีและไม้กายสิทธิ์ตอบโต้ ถ้าเย่ว์หยางยังคงไล่กวดเขาต่อไป เย่ว์หยางจะถูกโจมตีแน่นอน เสี่ยวโฉ่วไม่คิดว่าเย่ว์หยางจะไล่โจมตีต่อ...
แม้ว่าเย่ว์หยางจะกดดันได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะนักสู้ปราณฟ้าได้
เสี่ยวโฉ่วตระหนักว่าเขาผิดพลาดไปขนาดไหน
ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางยังคงไล่ตามได้ต่อ แต่เขาทำเช่นนั้นโดยไม่มีการป้องกันใดๆ ก็เหมือนกับคนบ้าฆ่าตัวตาย
ไม้กายสิทธิ์ถูกฟันขาดครึ่งเย่ว์หยางไม่สนใจบอลสามสีที่พุ่งตรงเข้าหาเขาแต่อย่างใดแม้ขณะที่บอลเหล่านั้นยิงใส่เขาจนเลือดฉีดพุ่ง เขายังคงมุ่งมั่นใจสุดยอดพลังควบแน่นเป็นกระบี่ที่ทรงพลังที่สุดมันทรงพลังพอจะผ่าสวรรค์และโลกได้
ท่าดาบที่ห้า ประหารเทพและมาร
ท้องฟ้าแตกเป็นสองส่วนจากแรงอัดแน่นในการฟันครั้งนี้
น้ำในทะเลสาบยุบลงไป เกิดรอยแยกกว้างหลายเมตรจนถึงก้นทะเลสาบ
นั่นเป็นครั้งแรกที่ความกลัวฉายผ่านในดวงตาของเสี่ยวโฉ่วเบื้องหลังหน้ากากเงินของเขา เขาโยนไม้กายสิทธิ์ของรักของเขาทิ้งเป็นครั้งแรกนิ้วยาวของเขาหมุนควงอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาพยายามทำลายดาบของเย่ว์หยางแต่ก่อนที่ดาบเทาเถี้ยจะพุ่งถึงหน้ากากเงินของเขา เสี่ยวโฉ่วกัดฟันและรวบนิ้วกลับอย่างรวดเร็ว
“เกือบไปแล้ว!”
และก่อนที่เขาจะทันได้พักหายใจ เสี่ยวโฉ่วจะเตะหนึ่งครั้งเป็นนิสัย
เงาที่อยู่ใต้เรือสำราญที่กำลังร่วงทำให้เขาระลึกถึงบางอย่างที่สำคัญ
ตลอดทั้งร่างของเขาสั่น.. โอวไม่นะ. มันเป็นกับดัก!
แต่เขารู้ตัวช้าเกินไป พลังพันธนาการปรากฏเป็นครั้งที่สามและแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนเป็นร้อยเท่า เสี่ยวโฉ่วไม่สามารถดิ้นรนและไม่สามารถป้องกันตนเองได้อย่างน้อยหนึ่งวินาที เหมือนกับว่าวิญญาณของเขาถูกกระชากออกจากร่าง เขาไม่สามารถใช้ชีวิตของเขารักษาทักษะหุ่นเชิดได้ อสูรพิทักษ์ของเขาไม่สามารถช่วยตายแทนเขาได้และศัตรูของเขายังยึดไม้ตายของเขาได้ เสี่ยวโฉ่วกลัวจนสมองฝ่อขณะที่เขามองดูเย่ว์หยางปล่อยดาบเทาเถี้ยของเขาและใช้มือของเขาถอดหน้ากากเงินศักดิ์สิทธิ์แทน..ในที่สุด เสี่ยวโฉ่วก็ได้เห็นกระบี่ที่น่ากลัวที่สุดเป็นกระบี่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่สามารถทำให้เขาสั่นสะท้านวิญญาณได้
มันคือกระบี่ชั้นเทพที่สามารถทำลายความหวังได้ทั้งมวล มันถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงาน มีสีดำสนิทมืดมิดลึกลับราวกับเป็นกระบี่ของพระยามัจจุราช
กระบี่กุยจ้าง!
เย่ว์หยางชูนิ้วและในสายตาที่หวาดผวาของเสี่ยวโฉ่วกระบี่แทงลึกเข้ามาในระหว่างคิ้ว
ในช่วงขณะนั้นเองเสี่ยวโฉ่วรู้สึกว่าเป็นอิสระเขาเรียกอสูรพิทักษ์ของเขาทันที แต่มันถูกเสี่ยวเหวินหลีใช้แสงสีขาวตะเพิดมันหนีไปทันทีที่มันปรากฏตัว ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่สามารถช่วยรับอาการบาดเจ็บแทนเสี่ยวโฉ่วเสียงร้องโหยหวนน่าเวทนาของเสี่ยวโฉ่วดังยิ่งกว่าอัศวินอากาศเป็นพันเท่า ทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนของเขา
ขณะที่ทุกคนพากันหูอื้อ พวกเขาสูญเสียการได้ยินไปชั่วคราว
พวกลูกเรือและผู้โดยสารที่มีระดับต่ำกว่านักสู้ปราณดินระดับสามต่างล้มลงหมดสติ
แม้แต่กริฟฟินสายฟ้าก็คำรามในท้องฟ้าและร่วงลงมาที่พื้นเหมือนกับว่าพวกมันพ่ายแพ้ต่อแรงดึงดูดโลก พวกมันได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากเสียงกรีดร้องของเสี่ยวโฉ่ว เสี่ยวโฉ่วไม่กล้าโต้ตอบในตอนนี้หลังจากดึงตัวหลบจากกระบี่กุยจ้างได้ เขาใช้ความเร็วสูงสุดเผ่นหนีทันที
“ก่อนนี้เจ้าหยิ่งยโสนักไม่ใช่หรือ? ข้าจะเอาชนะเจ้า!” แม้ว่าเย่ว์หยางจะได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แต่เขาก็ยังชนะในที่สุด ดังนั้นกำลังใจจึงเพิ่มมากขึ้น
เขาควงดาบเทาเถี้ยและไล่ตามเสี่ยวโฉ่วไป
เย่ว์หยางมีความเร็วเสียงเพิ่มขึ้นหลังจากสู้กับจักรพรรดิชื่อตี้
เขาเอาความเร็วมาใช้อย่างมากในการสู้กับเสี่ยวโฉ่ว
สำหรับนักสู้อย่างเสี่ยวโฉ่วผู้มีความเร็วจัด คล่องแคล่ว ยืดหยุ่นและฝีมือดี เย่ว์หยางเชื่อว่าแม้แต่ยักษ์สาวก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ แต่สำหรับเย่ว์หยางซึ่งมีลักษณะคล้ายกันถือได้ว่าเขาเป็นดาวข่มของเสี่ยวโฉ่ว นอกจากนี้ เขายังมีวิชาปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นสูง กระบี่กุยจ้าง ภายใต้ความช่วยเหลือจากทักษะพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี เสี่ยวโฉ่วจะพ่ายแพ้ในที่สุด อย่างไรก็ตามสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้เย่ว์หยางมากที่สุดก็คือเมื่อเสี่ยวโฉ่วยังสามารถวิ่งหนีได้ด้วยความเร็วขนาดนั้นทั้งที่ถูกกระบี่กุยจ้างโจมตีไปแล้ว
เสี่ยวโฉ่วก็ยังเร็วมาก ขณะที่เย่ว์หยางเคลื่อนไหวมากขึ้นเขาต้องการใช้งานเสี่ยวโฉ่ว แต่เขาก็พลาดโอกาสไปได้เขาทำได้แต่เพียงไล่ตามเสี่ยวโฉ่ว
สาวยักษ์ มนุษย์โครงกระดูกราเชล จอมปีศาจจื้อกวงหลงเสียงและนักสู้ปราณฟ้าอีกสองคนชะงัก ขณะที่พวกเขาตกตะลึงมองดูเย่ว์หยางกำลังไล่กวดเสี่ยวโฉ่ว
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
มันผิดปกติกับสิ่งที่พวกเขาเห็นหรือไม่? ไม่ควรจะกลับตาลปัตรอย่างนี้ทั้งที่เสี่ยวโฉ่วควรเป็นคนไล่กวดเจ้าเด็กที่ไม่ธรรมดานี้แทนไม่ใช่หรือ?
“ข้าจะซัดเจ้าให้เละ, ข้าจะเตะเจ้าให้ตาย ข้าจะฟันเจ้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ ไอ้บ้าหนีทำไม?” เย่ว์หยางเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ในขณะที่เสี่ยวโฉ่วเร่งหนีออกไปอีก และไม่โต้แย้งกลับมาแต่อย่างใด ดังนั้นการต่อสู้ของทั้งสองจึงไม่สามารถตัดสินได้ เสี่ยวโฉ่วหนีวนไปรอบๆ ผิวทะเลสาบเป็นบ้าเป็นหลังเฉียดๆจะตายหลายครา เขาระมัดระวังเพราะถ้าเขาสัมผัสน้ำเขาอาจจะร่วงลงไปในทะเลสาบและติดอยู่ในแดนแห่งความตายก็ได้จากนั้นเขาจะตกเป็นเป้าสังหารของเย่ว์หยาง เขาเคลื่อนผ่านผิวทะเลสาบไปอย่างรวดเร็วลำน้ำแหวกกระจายขึ้นไปในท้องฟ้าในพื้นที่ซึ่งเขาผ่านไป
เย่ว์หยางไล่ตามมากระชั้นอยู่เหนือเสี่ยวโฉ่ว กวัดแกว่งดาบเทาเถี้ยใส่เสี่ยวโฉ่วไม่ยั้งบีบบังคับให้เสี่ยวโฉ่วต้องวิ่งไปข้างหน้าไม่มีโอกาสได้ตอบโต้
เย่ว์หยางโจมตีเป็นพายุบุแคมลำน้ำเป็นพันสายกระเด็นขึ้นมาจากผิวทะเลสาบ
ฉลามปีศาจกลืนวิญญาณที่ว่ากันว่าดุร้ายก่อนหน้านี้ตกใจเผ่นหนีกระเจิง
บางตัวที่ถูกพลังโจมตีร่างกายก็ฉีกขาด
เสี่ยวโฉ่วปรารถนาให้ตัวมีขาแปดข้างเพื่อที่ว่าจะช่วยให้หนีได้ไวขึ้น.. ทักษะแฝงเร้นหุ่นเชิดของเขาที่ใช้รักษาชีวิตและอสูรพิทักษ์หุ่นเชิดถูกขับไล่ตะเพิดหมดเมื่อดาวข่มของพวกมันปีศาจอสรพิษน้อยถูกเรียกออกมา
เมื่อไม่มีทักษะแฝงเร้นที่คอยช่วยชีวิตของเขา เสี่ยวโฉ่วไม่กล้ารับการโจมตีแต่อย่างใด
เขาอาจจะเสียชีวิตก็ได้ ถ้าเขาถูกโจมตีอีกครั้ง
ดังนั้นเขาพยายามวิ่งหนีใช้ความเร็วสุดยอด เขาไม่สนใจว่าเย่ว์หยางจะเตะหรือฟันจากด้านหลังแต่อย่างใด การต่อสู้ที่น่าหดหู่นี้ ถึงขนาดโต้ตอบไม่ได้กดดันจนเสี่ยวโฉ่วน้ำตาร่วง
รังแกกันชัดๆ! ไอ้เด็กบ้านี่โผล่มาจากที่ไหนกัน?
เสี่ยวโฉ่วไม่เคยเห็นเด็กโรคจิตอย่างนั้นมาก่อนในชีวิต ไม่เพียงแต่จะเป็นนักรบระดับต่ำเท่านั้น แต่ยังโจมตีใส่ตัวตลก นี่กะไม่ให้เขาได้พักหายใจกันบ้างหรือไง?