ตอนที่ 18-6 ผ่านไปสองพันปี ทะเลยังกลายเป็นทุ่งราบ!
ภายในลานด้านหลังหอบรรพบุรุษ ลินลี่ย์ฟังเสียงที่ดังมาจากด้านหน้าด้วยความรู้สึกค่อนข้างทึ่ง
“พี่ใหญ่” บีบีหัวเราะขณะมองดูลินลี่ย์ จากนั้นชูหัวแม่มือให้เขา
เวดกับไอน่ามองดูลินลี่ย์ด้วยความเทิดทูน ไอน่าพูดซ้ำๆ ปรมาจารย์ประติมากรอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่อัจฉริยะนักรบและจอมเวทยอดฝีมือทั้งสองอย่าง ก่อตั้งจักรวรรดิบาลุคและเป็นเจ้าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ปราสาทเลือดมังกร เทพในตำนานลินลี่ย์ บาลุค! ท่านลุง ท่านมีฉายามากมายเหลือเกิน ท่านน่าอัศจรรย์จริงๆ”
“มีคนคิดถึงจริงๆ นักรบเลือดมังกร หนึ่งในสุดยอดตระกูลนักรบ!” บีบียิ้ม
ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้
เด็กที่มาเยี่ยมชมเหล่านั้นอยู่ในลานด้านหน้าได้เห็นเพียงพื้นที่บางส่วนในด้านหน้า และจากนั้นก็ออกไปเป็นกลุ่ม เห็นได้ชัดว่าลานด้านหลังของบ้านบรรพบุรุษไม่เปิดให้นักเรียนเหล่านี้ชม ก็สมเหตุผลดีแล้ว...ลานหลังบ้านอยู่ในสภาพที่ยังไม่ได้ซ่อมแซม มีแต่หอบรรพบุรุษที่ได้รับการดูแลปกป้องอยู่เสมอ
แต่นักเรียนธรรมดาเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้ดูหอบรรพบุรุษได้อย่างไร?
แน่นอนว่าหอบรรพบุรุษของตระกูลบาลุคจริงๆได้ย้ายไปที่ปราสาทเลือดมังกรแล้วดังนั้นจึงไม่มีอะไรอยู่ภายในหอบรรพบุรุษในบ้านบรรพบุรุษนี้
“ถึงตอนนี้ ข้าเชื่อคำที่พวกเขาพูดแล้วสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และปราสาทเลือดมังกร อย่างนั้นปราสาทเลือดมังกรก็กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว”ลินลี่ย์ถอนหายใจตื้นตัน
เดเลียหัวเราะเบาๆ “มีเทพอยู่หลายคนถ้าไม่ใช่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะให้เป็นอะไรได้?”
“พ่อ” ไอน่าพูดกับบีบี “พ่อเกิดที่ไหน?” บีบีหัวเราะพาไอน่าและนีซไปที่ด้านหนึ่ง ขณะที่ลินลี่ย์ตรงไปที่หอบรรพบุรุษ โดยมีเดเลียและเวดเดินตามเขาขณะที่เขาผลักเปิดประตูเข้าไปข้างใน
แอ๊ดดด ประตูเปิดออก และลินลี่ย์ตรวจสอบหอบรรพบุรุษอย่างระมัดระวัง
เทียบกับในอดีตหอบรรพบุรุษไม่เปลี่ยนไปเท่าใด เห็นได้ชัดว่ายังคงลักษณะไว้อย่างดี แต่แน่นอน โต๊ะวางป้ายวิญญาณถูกย้ายไปปราสาทเลือดมังกรนานแล้ว บนโต๊ะว่างเปล่าไม่มีอะไร
ลินลี่ย์มองดูหอบรรพบุรุษ ใจของเขานึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ฮ็อกบิดาของเขาแนะนำเบื้องหลังของตระกูลบาลุค “สุดยอดสี่ตระกูลนักรบจะปรากฏอยู่ในสี่ตระกูลเก่าแก่เสมอ ตระกูลบาลุคของเราเป็นตระกูลเก่าแก่ซึ่งมีสายเลือดที่ยิ่งใหญ่ของนักรบเลือดมังกร!”
ในหอบรรพบุรุษบิดาของเขาอธิบายเรื่องเหล่านี้ให้เขาฟังอย่างตื่นเต้น เหตุการณ์นี้ดูเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันวาน
แต่บัดนี้....
บิดาของเขาตายเสียแล้ว!
“ท่านพ่อ, ท่านรู้ไหม?ข้าไปแดนนรกและพบกับผู้นำตระกูลของเรา บาลุค, ไรอัน, ฮาซาร์ดและบรรพบุรุษคนอื่นของตระกูลเช่นกัน.. พวกเขาทุกคนทำได้ดี ทำได้ดีจริงๆ!” ลินลี่ย์รู้สึกตื้นตันในอก บิดาของเขามักจะหวังอยู่เช่นกันว่า..ตระกูลของเขาจะกลับมารุ่งเรือง ความจริงตระกูลของเขากลับมาเจริญรุ่งเรือง แต่...บิดาของเขาไม่มีทางมาเห็นได้อีก
เวดและเดเลียยืนนิ่งกับที่เงียบๆ มองดูเฉยๆ ไม่กล้ารบกวนลินลี่ย์
ทันใดนั้นลินลี่ย์ขมวดคิ้วและหันมา“มีคนกำลังมา?”
“พวกเจ้าเป็นใครกัน!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาแต่ไกล
“ไปดูกันเถอะ” ลินลี่ย์, เวดและเดเลียต่างเดินออกไปข้างนอกทุกคน ขณะที่เดินมาถึงข้างนอก พวกเขาเห็นบุรุษวัยกลางคนสวมชุดยาวของจอมเวทสีเทากำลังมองบีบีนีซและไอน่า เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์เดินออกมา บุรุษวัยกลางคนพูดอย่างตกตะลึง “พวกเจ้ามีกันหกคนหรือ?”
บุรุษวัยกลางคนผู้นี้เป็นผู้อำนวยการสถาบันแห่งนี้เป็นยอดฝีมือระดับเซียน นามว่าฮาเมลีน
ผู้อำนวยการฮาเมลีนเป็นเซียนชั้นสูงขณะที่เขาเดินผ่านลานว่าง เขารู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมาจากภายในหอบรรพบุรุษ ธรรมดาว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้ามสำหรับคนภายนอกห้ามมิให้เข้ามาในลานแห่งนี้ ดังนั้นฮาเมลีนจึงตะโกนใส่พวกเขา ความจริงฮาเมลีนรู้สึกถึงการปรากฏตัวของไอน่าเท่านั้น เขาไม่รู้สึกถึงอีกห้าคน
เขาคิดว่ามีคนอยู่เพียงคนเดียว ใครจะคิดกันเล่าว่าจะมีคนถึงหกคนจริงๆ !
เห็นได้ชัดว่าอีกห้าคนนั้นมีพลังมากกว่าเขา!
“เจ้าเป็นใคร?” ลินลี่ย์มองดูเขา
ฮาเมลีนพูดอย่างสงบ “ที่นี่คือใจกลางพื้นที่สถานบันลินลี่ย์ พวกท่านเข้ามาได้ยังไง? สำหรับตัวข้าข้าคือผู้อำนายการของสถาบันแห่งนี้ชื่อฮาเมลีน”
“เฮ้, เจ้าเรียกสถาบันนี้ว่าอะไรนะ?” บีบีพูดทันที
ลินลี่ย์ตกใจแทบแย่เมื่อได้ยินชื่อนี้ ดูเหมือนฮาเมลีนเพิ่งจะพูดคำว่า ‘สถาบันลินลี่ย์’
ฮาเมลีนมองดูคนทั้งหกด้วยความงงงวย “อะไรกัน?พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อสถาบันลินลี่ย์หรือ หนึ่งในสามสถาบันใหญ่แห่งทวีป?หรือว่าพวกท่านไม่เห็นรูปประติมากรรมของปรมาจารย์ลินลี่ย์ที่ตั้งอยู่ที่ประตูของสถาบันเรา?” นี่เป็นความรู้ทั่วไป แต่ดูจากสีหน้าของกลุ่มลินลี่ย์ทำให้ฮาเมลีนรู้สึกสงสัย
“สถาบันลินลี่ย์?” ตาของเวดเบิกกว้าง และเขาหันมองลินลี่ย์ “ท่านพ่อ, ได้ยินไหมนั่น? สถาบันลินลี่ย์”
ลินลี่ย์พูดไม่ออก
แม้ว่าฮาเมลีนเคยเห็นรูปสลักลินลี่ย์ แต่ที่สำคัญ รูปสลักนั้นไม่ใช่ฝีมือระดับเดียวกับลินลี่ย์แม้แต่น้อย เทียบกับเมื่อตอนที่เขาเป็นเซียนรัศมีของลินลี่ย์เปลี่ยนไปมากอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นฮาเมลีนจึงไม่มีทางเชื่อมโยงในใจกับลินลี่ย์คนที่อยู่ข้างหน้าเขาตำนานแห่งทวีปได้
“เราแค่มาดู” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น “พอแล้ว, เราจะจากไปเดี๋ยวนี้”
ลินลี่ย์คลุมพลังเทพธาตุดินรวมเอาไอน่าและเวดไว้ภายใน แสงธาตุดินสีเหลืองฉายประกายวาบและกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งหกคนหายลับไปในขอบฟ้า
“ความเร็วระดับนี้....”
ฮาเมลีนจ้องตกตะลึงมอง “เขายังไวกว่าอาจารย์ของข้ามากนัก..และอาจารย์เรย์โนลด์ก็เป็นยอดฝีมือระดับเทพแล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน?”
จักรวรรดิบาลุคก่อตั้งมาร่วมสองพันปีจนบัดนี้ และส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจักรวรรดิก็คือปราสาทเลือดมังกร จักรพรรดิหลายรุ่นสืบทอดต่อมาโดยยกราชบัลลังก์และเกือบทั้งหมดมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ปราสาทเลือดมังกร ปราสาทเลือดมังกรมีเทพอยู่มากมายหลายคนและยังมีอสูรเวทระดับเซียนคอยปกป้องด้วย
ไม่มีใครกล้ากระทำป่าเถื่อนในปราสาทเลือดมังกร
ปราสาทเลือดมังกรขยายพื้นที่มานานแล้ว ตอนนี้ มีขนาดใหญ่กว่าในอดีตหลายเท่า สวนอดาแมนเทียมของปราสาทเลือดมังกรเป็นที่อยู่อาศัยของวอร์ตัน ตอนนี้ในสนามหญ้าสวนอดาแมนเทียมมีบุรุษหนุ่มสองคนนั่งขัดสมาธิหันหน้าหากันและดื่มคุยด้วยกัน
“เทย์เลอร์, อะไรกัน?เจ้าไม่ต้องการสตรีอีกคนหนึ่งหรือ?”
“อาวอร์ตัน, ข้าเบื่อ” บุรุษหนุ่มร่างกำยำตาสีน้ำตาลก็คือเทย์เลอร์ แม้ว่าเกือบสองพันปีผ่านไปแล้วแต่ลักษณะของเทย์เลอร์แทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับในอดีต ตอนนี้ เทย์เลอร์ถอนหายใจ “อาวอร์ตัน เรามีชีวิตเป็นอมตะ แต่คู่ครองของเราเล่า? เราได้แต่มองดูคู่ครองของเราแก่แล้วตายไป ความรู้สึกแบบนี้เจ็บปวดเกินไป”
ในช่วงสองพันปีที่ผ่านมาเทย์เลอร์แต่งงานภรรยาสองคนต่อเนื่องกัน
แต่ภรรยาก็แก่ตายไปทั้งคู่ทำให้เทย์เลอร์รู้สึกเจ็บปวด
“อนิจจา” วอร์ตันทอดถอนใจรำพึง “ข้ายังจำได้ถึงปีที่พี่ใหญ่ทำเพื่อให้ข้าได้แต่งงานกับนีน่า ทำทุกอย่างที่เขาทำได้ ถึงขนาดขึ้นเวทีประลองฝีมือกับโอลิเวอร์หลังจากผ่านไปสองสามร้อยปีนีน่าก็ไม่สามารถต้านทานกระแสเวลาได้..นี่ก็สองพันปีแล้วนับตั้งแต่พี่ใหญ่จากไปแดนนรก นีน่าตายมากว่าพันปีแล้ว” วอร์ตันหัวเราะให้ตนเอง “บางครั้งชีวิตอมตะก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวด”
เพียงแต่เมื่อกลายเป็นเซียนนักสู้ก็ได้ชีวิตอมตะ
แต่จะเป็นเซียนได้ต้องมีพรสวรรค์และโชค สำหรับคนทั่วไปทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยากเกินไป
“เกทส์และพี่น้องคนอื่นโชคดี”วอร์ตันถอนหายใจ บรรดาห้าพี่น้องบาร์เกอร์บาร์เกอร์และเกทส์แต่งงานกับรีเบ็คกาและพี่สาวนาง ทั้งคู่มีวิญญาณที่บริสุทธิ์มากดังนั้นจึงเข้ากันและมีพรสวรรค์เหมาะกับการฝึกเวทพ่อมด หลังจากผ่านไปร้อยปีพวกนางก็บรรลุระดับเซียน
เพียงแต่เมื่อสมาชิกทั้งสองครองคู่กันและได้อายุขัยอมตะทั้งคู่นับว่าเป็นสิ่งที่เหมาะ ถ้าเพียงแต่ฝ่ายเดียวที่มีอายุขัยอมตะ อย่างนั้นผลก็คืออีกฝ่ายได้แต่มองดูคู่ครองแก่ตายไปช้าๆ นี่เป็นเรื่องเจ็บปวดอย่างแท้จริง
“อาวอร์ตัน เท่าที่ข้ารู้ บางทีเราน่าจะไปแดนนรกก็ดีเหมือนกัน” เทย์เลอร์กล่าว
“ไปแดนนรก?”
วอร์ตันพยักหน้าถอนหายใจ “ในแผ่นดินยูลาน แม้ว่าเราจะมีศัตรูที่ยิ่งใหญ่อย่างจักรวรรดิโอดิน แต่ไม่มีสิ่งใดที่เราจะทำได้ อาจกล่าวได้ว่าที่นี่ไม่มีอะไรให้เรายึดเหนี่ยวแล้ว...หลังจากผ่านไปนานแล้ว เราไปเยี่ยมแดนนรกกันเถอะ พี่ใหญ่ก็จากไปนานแล้ว ข้าอยากจะพบเขาจริงๆ”
“ข้าก็อยากพบท่านพ่อเหมือนกัน” เทย์เลอร์พูดเบาๆ
“วอร์ตัน! เทย์เลอร์!”เสียงหนึ่งดังกึกก้องในใจของวอร์ตันและเทย์เลอร์
วอร์ตันและเทย์เลอร์ดเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดทั้งคู่ต่างจ้องมองกันเองด้วยสายตาเหลือเชื่อ ขณะเดียวกันพวกเขารู้สึกได้ถึงรัศมีที่ทรงพลังมากแผ่ออกมาจากสนามฝึกฝนที่ลานด้านหน้าของปราสาทเลือดมังกร แม้ว่ารัศมีนี้จะทรงพลังแต่พวกเขากลับมีความรู้สึกคุ้นเคย นี่คือรัศมีพลังของลินลี่ย์!
“ควั่บ!” “ควั่บ!”
วอร์ตันกับเทย์เลอร์บินออกไปพร้อมกันด้วยความเร็วสูงราวกับประกายไฟ
ปราสาทเลือดมังกรลานฝึกฝีมือ
กลุ่มของลินลี่ย์หกคนยืนอยู่ที่นี่ ลินลี่ย์เปล่งรัศมีอย่างกระตือรือร้นและทักทายคนคุ้นเคยคนแล้วคนเล่าผ่านสำนึกเทพของเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้สำนึกเทพของเขาตรวจสอบดู ลินลี่ย์พบว่าคนคุ้นเคยหลายคนในอดีตหายไปแล้ว
“พวกเขาตายหมดแล้วหรือ?” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง
แค่เพียงเพราะพวกเขาไม่อยู่ในปราสาทเลือดมังกรไม่จำเป็นต้องหมายความว่าพวกเขาตาย แต่ลินลี่ย์ก็เข้าใจว่าอายุขัยของมนุษย์ธรรมดาที่ยังไม่บรรลุถึงระดับเซียนโดยทั่วไปอยู่ได้อย่างมากไม่เกินสามหรือสี่ร้อยปี ห้าร้อยปีเป็นขอบเขตอย่างมากที่สุด ขอเพียงถึงระดับเซียนก็จะครองชีวิตอมตะ
มีร่างแล้วร่างเล่าบินออกมาจากที่ต่างๆด้วยความเร็วสูงมารวมกันที่ปราสาทเลือดมังกร
“ท่านพ่อ!” เสียงทุ้มดังขึ้น ตาของลินลี่ย์เป็นประกาย เป็นเทย์เลอร์
“พี่ใหญ่!” วอร์ตันนั่นเอง
“ใต้เท้าลินลี่ย์” บาร์เกอร์ร่างใหญ่กำยำเหลือเชื่อ
คนกลุ่มใหญ่บินเข้ามาสมทบด้วยความเร็วสูง และในทันใดนั้นจำนวนคนที่รวมกันอยู่ที่ลานฝึกมีเป็นร้อย ลินลี่ย์รู้จักคนเหล่านี้ได้ไม่ถึงครึ่ง และไม่รู้จักเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามเมื่อได้พบเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ลินลี่ย์อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เหล่ามิตรสหายและครอบครัวของเขา!
“พี่ใหญ่!” วอร์ตันรวบกอดลินลี่ย์แน่นทันที
“วอร์ตัน” ลินลี่ย์กอดน้องชายของเขาเช่นกัน และอดเสียใจมิได้
“นายท่าน!” ลินลี่ย์หันไปมอง มีบุรุษคนหนึ่งอยู่ในชุดยาวสีดำเป็นร่างแปลงของแฮรุ แฮรุจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความตื่นเต้นเช่นกันหลายปีผ่านไปแล้ว ในฐานะราชาในหมู่อสูรเวท แฮรุรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณในสิ่งที่ลินลี่ย์มอบให้เขา
วอร์ตันและลินลี่ย์ปล่อยกันและกัน วอร์ตันไม่สามารถข่มความดีใจได้ “พี่ใหญ่, ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าท่านจะกลับมา เราเพิ่งพูดเรื่องจะไปยังแดนนรกเพื่อตามหาท่าน พี่ใหญ่.. ที่นี่มีอยู่หลายคนที่ท่านไม่รู้จักใช่ไหม? ให้ข้าแนะนำพวกเขาเอง...นี่ลูกชายของอาร์โนลด์..”
วอร์ตันแนะนำคนสำคัญมากกว่าสิบคนในอึดใจเดียว
คนเหล่านี้ทุกคนจ้องมองลินลี่ย์ ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจยำเกรงและเคารพ เหมือนกับว่าพวกเขากำลังมองยักษ์ไตตันจากตำนาน
“เวด!มาทักทายอาของเจ้า และนี่เทย์เลอร์พี่ชายของเจ้า...” ลินลี่ย์มีความสุขไม่มีใดเปรียบ
ขณะนั้นเอง...
“พี่สาม!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของเขา
ลินลี่ย์หันไปมอง
เป็นเทียมเทพคนหนึ่งในชุดยาวสีดำ ในดวงตามีแววเจ้าปัญญาเหมือนกับที่เป็นมาเสมอเพียงแต่มีแววสูงวัยกว่าแต่ก่อน นี่คือบุรุษผู้เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของลินลี่ย์... เรย์โนลด์น้องสี่ของเขา
“น้องสี่” ลินลี่ย์เข้าไปต้อนรับเขาและกอดน้องสี่เรย์โนลด์ไว้แน่น
“พี่สาม” เรย์โนลด์อดน้ำตาคลอเบ้าไม่ได้
พวกเขาไม่ได้พบกันมาร่วมสองพันปี เขาคิดว่าพวกเขาจะไม่สามารถพบกันได้อีก ตอนนี้พวกเขาได้พบกันจะไม่ให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้ยังไง?
“พี่สาม ไม่ได้เจอกันนานหลายปีเลยนะ” เรย์โนลด์ตื่นเต้นมากจนสั่นไปทั้งตัว
“ใช่แล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้าซ้ำๆ
ลินลี่ย์คิดถึงเยลและจอร์จทันที เขารีบถาม “จริงสิ, น้องสี่, พี่ใหญ่ พี่รองอยู่ที่ไหน?ทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง?” ลินลี่ย์มีร่องรอยความหวังอยู่ในใจของเขา ที่สำคัญเยลกับจอร์จก็มีพรสวรรค์มากเช่นกัน บางที...บางทีพวกเขาอาจบรรลุระดับเซียนก็ได้เหมือนกัน
โอกาสต่ำ แต่ลินลี่ย์ก็ยังมีความหวังในใจ
“ตายหมดแล้ว” เรย์โนลด์เสียงหดหู่
ลินลี่ย์ตะลึง
“ตาย...” ลินลี่ย์ถอนหายใจ
ความจริงลินลี่ย์ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วเมื่อกลับมาในคราวนี้ ที่สำคัญเขาไม่ได้กลับมาสองพันปีแล้ว ทุกคนไม่ใช่เซียนจะแก่และตายไปเมื่อเวลาผ่านไป ที่สำคัญการกลายเป็นเซียนเป็นเรื่องยาก มีแต่เดเลียที่ได้รับของขวัญจากเบรุตซึ่งก็คือประกายเทพนางจึงสามารถกลายเป็นเซียนและเป็นเทพได้
ความจริงมีแต่เซียนที่สามารถหลอมรวมกับประกายเทพได้ เพราะพวกที่ไม่ใช่เซียนจะใช้ประกายเทพไม่ได้ผลเท่าใดนัก
เหตุผลที่เดเลียฝึกฝนได้เร็วและยกระดับได้เร็วมากไม่มีอะไรเกี่ยวกับประกายเทพเองความจริงเนื่องจากเป็นเพราะวัสดุพิเศษซึ่งเคลือบประกายเทพอยู่!
เพราะ...
ประกายเทพไม่ใช่ประกายเทพธรรมดา
ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่าประกายเทพสายธาตุลมจะเปล่งรัศมีสีเขียวระเรื่อแต่ในวันแต่งงานนั้นประกายเทพที่เดเลียได้รับไม่มีสีสันแต่อย่างใด เป็นของธรรมดา! ความจริงประกายเทพนั้นเป็นสิ่งที่เบรุตกลั่นและสร้างหลังจากใช้สมบัติไปค่อนข้างมาก แก่นกลางประกายนั้นเป็นประกายเทพแต่ชั้นนอกเป็นวัสดุทรงค่าที่ทำให้เดเลียรู้สึกถึงแก่นธาตุได้ง่าย
ดังนั้นนางจึงสามารถยกระดับพลังได้อย่างรวดเร็ว
“อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้แก่ตาย” เรย์โนลด์พูดเบาๆ
ลินลี่ย์ตะลึง “ว่าไงนะ?”
“พี่ใหญ่, เราเข้าไปคุยเรื่องนี้กันดีกว่า” วอร์ตันรีบกล่าว
ลินลี่ย์มองเรย์โนลด์ที่ถอนหายใจเช่นกัน “พี่สาม! เข้าไปในห้องโถงก่อน แล้วค่อยๆคุยเรื่องนี้กัน”
ลินลี่ย์รู้สึกว่าหลายอย่างแปลกประหลาดไปบ้าง แต่เขาข่มความกังวลและความสงสัยเดินตามเรย์โนลด์และวอร์ตันเข้าไปในปราสาทเพื่อคุยถึงเหตุการณ์สำคัญ มีคนเพียงราวๆยี่สิบคนที่เข้าไปในหอโถงใหญ่ได้
ผู้เยาว์อื่นได้แต่หยุดรออยู่ข้างนอก
ภายในโถงใหญ่
ครอบครัวลินลี่ย์ครอบครัวบีบี วอร์ตัน เทย์เลอร์ ซาชา ซาสเลอร์และพี่น้องบาร์เกอร์อยู่รวมกันหมด
“น้องสี่!เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าบอกว่าพี่ใหญ่และพี่รองไม่ได้ตายแบบธรรมดาใช่ไหม?” ลินลี่ย์อดพูดขึ้นไม่ได้
“ถูกแล้ว”
เรย์โนลด์พูดด้วยเสียงต่ำ “พี่สาม, ให้เราเล่าให้จบ อย่าด่วนใจร้อนท่านต้องใจเย็น”
“รีบบอก” ลินลี่ย์ไม่อาจทนได้อีกต่อไป
เรย์โนลด์พยักหน้า “พี่สาม! ปัจจุบันนี้ในทวีปยูลานมีเพียงสองจักรวรรดิที่เหลืออยู่หนึ่งก็คือจักรวรรดิบาลุค ขณะที่อีกหนึ่งก็คือจักรวรรดิโอดิน ขณะที่แผ่นดินด้านตะวันตกของเทือกเขาอสูรวิเศษที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์และพันธมิตรมืดเคยปกครองซึ่งตกทอดไปยังเจ้าดินแดนต่างๆและราชอาณาจักรไม่คู่ควรกล่าวถึง”
“จักรวรรดิโอดิน?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
“ถูกแล้ว, อดีตจักรวรรดิโอเบรียน จักรวรรดิยูลานจักรวรรดิไรน์และจักรวรรดิโรฮอลท์รวมทั้งทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลถูกผนวกรวมอยู่ในจักรวรรดิโอดิน” เรย์โนลด์กล่าว
ลินลี่ย์อดรู้สึกตกใจไม่ได้
จักรวรรดิโอดินนี้กินพื้นที่มากกว่าครึ่งของทวีปยูลานทั้งหมด
“ความจริง ไม่นานหลังจากท่านจากไปลอร์ดเบรุตส่งข้อความแจ้งข้อมูลให้เราที่เป็นเทพทุกคนผ่านสำนึกเทพ หลังจากนั้นพวกเทพเหล่านั้นยกเลิกแผนเข้าสุสานเทพเจ้าและจากไปยังพิภพดินแดนระดับสูงหรือไม่โลกธาตุศักดิ์สิทธิ์” เรย์โนลด์พูดช้าๆ “ขณะที่จักรวรรดิยูลานและจักรวรรดิโอเบรียนเริ่มฟื้นฟู พี่รองจอร์จกลายเป็นเสาหลักสำคัญอย่างเป็นทางการของจักรวรรดิยูลานขณะที่พี่ใหญ่เยลทำงานอย่างหนักเพื่อหอการค้าดอว์สัน..ด้วยความช่วยเหลือจากเราหอการค้าดอว์สันกลืนสมาคมการค้าใหญ่อีกสองแห่งกลายเป็นกลุ่มการค้าอันดับหนึ่งของทวีปยูลาน”
ลินลี่ย์ฟังเงียบๆ
“แต่...ชีวิตที่สงบสุขของเราคงอยู่เพียงสองร้อยปี และจากนั้นมีคนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น!”
เรย์โนพูดเสียงเบา “เขาชื่อโอดิน แค่ช่วงเวลาสั้นๆปีเดียวเขารวบรวมจักรวรรดิอื่นต่างๆ และยังต้องการกำจัดจักรวรรดิบาลุคของเรา แต่เมื่อเขาโจมตี..โชคดีที่ลอร์ดเบรุตปรากฏตัวและห้ามเขาด้วยการตำหนิเขาตั้งแต่นั้นมาเขาไม่กล้ารุกรานจักรวรรดิบาลุคเราแม้แต่นิ้วเดียวเกี่ยวกับข้อมูลที่เราได้รับจากลอร์ดเบรุต โอดินผู้นี้เป็นหนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดส และมีฉายาว่า ราชันย์จอมโฉด”