ตอนที่ 18-5 กลับมาทวีปยูลาน!
ลมเย็นยะเยือกแห้งแล้งพัดผ่านโลกกวาดเอาสะเก็ดน้ำแข็งและหิมะม้วนตัวไปไม่มีทิศทาง ภายในโลกน้ำแข็งนี้มียอดเขาน้ำแข็งสูงเสียดฟ้านับไม่ถ้วน หลังจากผ่านเวลามานานนับปีไม่ถ้วนมันถูกสายลมยะเยือกแกะสลัก ภูเขาน้ำแข็งกลายเป็นเรียบลื่น ถ้ามีใครจ้องมองเข้าไปในผิวของภูเขาน้ำแข็งก็จะมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองได้
ภายในหนึ่งในภูเขาน้ำแข็งที่สูงใหญ่
มีวงเวทรูปดาวหกเหลี่ยมสิบเอ็ดวงอยู่ที่นี่และข้างๆ กันไม่ห่างออกไปมีบ้านน้ำแข็งอยู่หลังหนึ่ง ชายชราเคราขาวและอยู่ในชุดสีขาวเดินออกมาจากภายในบ้านน้ำแข็ง ตาสีฟ้าของเขากวาดมองดูพื้นที่รอบๆ“ยากจะพบเจอผู้คนได้จริงๆ ที่นี่อยู่ในขั้วโลก! เมื่อเร็วๆ นี้พวกเซียนที่มาที่นี่ขั้วโลกน้ำแข็งมีจำนวนน้อยลง ดูเหมือนข้าควรจะเดินทางท่องเที่ยวไปยูลานด้วยเช่นกัน”
คนผู้นี้คือฮ็อดเดิลผู้ดูแลทั่วไปของพิภพยูลาน
ขณะที่ฮ็อดเดิลเตรียมจะบินออกไป ทันใดนั้น....
ฮ็อดเดิลอดหันไปมองมิได้ เขาเห็นว่าหนึ่งในวงเวทสิบเอ็ดวงเริ่มเรืองแสงขึ้นมาทันทีรังสีแสงพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้ามองสะดุดตาคล้ายภาพลวงตา คล้ายภาพฝัน ฮ็อดเดิลรู้สึกตกใจอย่างหนัก “แดนนรก,มีคนกำลังมาจากแดนนรก เพื่อกลับมาทวีปยูลาน แดนโลกธาตุธรรมดาน่ะหรือ?”
ฮ็อดเดิลรู้ว่าค่าใช้จ่ายในการเทเลพอร์ตสูงมากขนาดไหน แม้แต่บรรดาอสูรเจ็ดดาวทั้งหมดก็ยังไม่ยินดีจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าเดินทางอย่างนี้
เดิมทีกองกำลังของตระกูลของเขาเคยส่งคนมานำโดยซาดิสต์มาที่นี่ ในกลุ่มนั้นซาดิสต์เป็นผู้นำเพียงคนเดียว เพราะราคาค่าธรรมเนียมเทเลพอร์ตและการเทเลพอร์ตเทพชั้นสูงคนหนึ่งนั้นแพงมากมายมหาศาล พวกเทพแท้และเทียมเทพที่เทเลพอร์ตมาพร้อมกับเทพชั้นสูงจึงได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม
ครั้งนั้นเมื่อตระกูลของเขาส่งซาดิสต์และคนอื่นมา พวกเขาใช้เงินไปล้านล้านศิลาดำ!
“ข้าสงสัยว่าจะเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่งแน่นอน” ฮ็อดเดิลรู้สึกประหลาดใจ เขาย่อเอวคำนับโดยไม่รู้ตัว ฮ็อดเดิลจะกล้าดูแคลนคนผู้มาจากแดนนรกเข้ามาทวีปยูลานได้อย่างไร? แม้ว่าฮ็อดเดิลจะน้อมตัวคำนับ แต่เขาก็ยังมองเข้าไปในวงเวทอย่างระมัดระวัง เขาต้องการรู้นักว่าผู้นี้เป็นใคร
แสงรังสีพร่าเลือนค่อยๆรวมตัวเป็นร่างหกร่าง
ร่างทั้งหกเริ่มชัดเจนและแสงรังสีเริ่มจางหายไป
“ลิน...ลินลี่ย์!” ฮ็อดเดิลจ้องมองร่างทั้งหกข้างหน้าเขาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“ฮ็อดเดิล, ไม่ได้พบเจอท่านมาเกือบสองพันปีแล้ว ท่านยังดูเหมือนเดิมเสมอนะ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
ฮ็อดเดิลกวาดสายตามองกลุ่มของลินลี่ย์ “มีคนอยู่สามในหกคนนี้ที่ข้าไม่รู้สึกถึงรัศมีพลังของพวกเขาได้เลย มีสามคนในนี้เป็นเทพชั้นสูงจริงๆ หรือนี่ ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเวทเทเลพอร์ต...พวกเขาใช้จ่ายไปสามล้านล้านศิลาดำ” ฮ็อดเดิลหวาดหวั่นกับคนแบบนี้ “ลินลี่ย์แค่เพียงอยู่ในแดนนรกเพียงสองพันปี เขากลายเป็นผู้ทรงพลังอำนาจได้อย่างไร?”
นานกว่าสองร้อยปีมาแล้วตระกูลไรเนลและอีกเจ็ดตระกูลใหญ่ยังกระตือรือร้นต่อสู้กับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
แต่ฮ็อดเดิลเป็นแค่ผู้น้อยของตระกูลไรเนลและทำงานดูแลทั่วไปในพิภพที่ห่างไกล เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลในแดนนรก เขาไม่เข้าใจเป็นธรรมดาว่า..ลินลี่ย์มีสถานะแบบไหนในตอนนี้! ถ้าเขารู้ว่าลินลี่ย์เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของเผ่ามังกรฟ้า ฮ็อดเดิลอาจตกตะลึงก็เป็นได้
“ท่านลินลี่ย์, ท่านกลับตรงกันข้าม ท่านมีพลังมากกว่าแต่ก่อนมากมายนัก” ฮ็อดเดิลให้เกียรติยิ่งนัก เขายังเป็นแค่เทพแท้ จะกล้ากระทำการใดๆ ที่ไม่ให้เกียรติได้ยังไง?
ลินลี่ย์หันไปมองดูโลกน้ำแข็งหิมะที่กว้างไกลไม่เห็นขอบเขต ในโลกกว้างเป็นน้ำแข็งรกร้าง แต่ลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจ เพราะนี่คือบ้านเกิดของเขา!
“เวด! นี่คือขั้วโลก!” ลินลี่ย์ค่อนข้างตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด “ขั้วโลกของพิภพยูลาน!พิภพยูลาน..บ้านเกิดของข้า! หลังจากสองพันปี ในที่สุดข้าก็กลับมา!ในที่สุดข้าก็กลับมา ฮ่าฮ่า...” ลินลี่ย์ตื่นเต้นจนอดหัวเราะดังๆ ไม่ได้
เดเลียน้ำตาคลอเบ้าเช่นกัน นางเช็ดน้ำตาด้วยความปลื้มดีใจ
“เรากลับมาแล้ว ข้าสงสัยว่าตระกูลเลโอนของข้าจะเป็นเช่นไร พี่ชายของข้าจะทำได้ดีหรือไม่” เดเลียตื่นเต้นไม่มีใดเปรียบ
เวลาในแดนนรกผ่านไปเกือบสองพันปี แต่พวกเขายิ่งอยู่ในแดนนรกก็ยิ่งคิดถึงบ้านเกิดของพวกเขา
“อย่างนั้นนี่ก็คือบ้านเกิดของท่านพ่อหรือ?” เวดมองดูทุกที่ด้วยความสงสัย
“ยังไม่ใกล้เลย ทวีปยูลานอยู่ทางใต้” ลินลี่ย์หัวเราะ “มาเถอะ,ไปทวีปยูลานกัน ฮ็อดเดิล เราจะไปแล้วนะ” ลินลี่ย์หัวเราะเรียกพลังเทพธาตุดินและกวาดพาทุกคนบินไปพร้อมกับเขาด้วยความเร็วสูงออกจากขั้วโลกไปยังทวีปยูลาน
สำหรับฮ็อดเดิลเขาจ้องมองลินลี่ย์บินจากไปไกล “ปีนั้นเมื่อในอดีตข้ายังรู้สึกเหมือนกับว่าลินลี่ย์เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง แต่ใครจะคิดกันเล่าว่า..ในเวลาไม่ถึงสองพันปี เขาจะกลับมาจากแดนนรกได้ น่ากลัว น่ากลัวจริงๆ!”
สามารถกลับมาจากแดนนรกได้เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลัง เทพชั้นสูงธรรมดาจะมีทรัพย์สินมหาศาลเป็นล้านล้านศิลาดำได้อย่างไร?
การบินถูกจำกัดและยุ่งยากในแดนนรก เมื่อกลับมายังแดนโลกธาตุ ลินลี่ย์รู้สึกว่าความเร็วในการบินของเขาเพิ่มขึ้นมาก และตอนนี้เขาไวกว่าเมื่อตอนอยู่ในแดนนรกเป็นสิบเท่า เขาใช้พลังเทพธาตุดินคลุมทุกคนไว้ ช่วยให้ไอน่าเวดและคนอื่นๆ เคลื่อนไหวได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน
หลังจากบินในช่วงสั้นๆ ลินลี่ย์เห็นชายฝั่งของทะเลเหนือไกลออกไป
“พี่ใหญ่ เรามาถึงทวีปยูลานแล้ว!” บีบีเรียกด้วยความตื่นเต้น
“อย่างนั้นที่นี่คือทวีปยูลานหรือ?” ไอน่ามองดูรอบๆ ด้วยความสงสัย
ลินลี่ย์กับเดเลียหน้าแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนตื่นเต้นมากที่สำคัญคือเป็นเวลาสองพันปีแล้วนับแต่พวกเขาจากไป เดเลียหันมามองดูลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! เราจะไปที่ไหนกันก่อน? ไปไพรทมิฬ? หรือว่าปราสาทเลือดมังกร?”
ลินลี่ย์ถอนหายใจเบาๆ
“เป็นเวลาหลายปีแล้วข้าไม่ได้ไปเคารพพ่อเลย เราไปเมืองชนบทอู่ซันกันก่อนเถอะ” เพราะเหตุผลบางอย่างลินลี่ย์คิดถึงเมืองชนบทอู่ซันมาก บางทีเป็นเพราะว่านั่นเป็นรากฐานของเขา เขาใช้ชีวิตเยาว์วัยที่นั่น นั่นเป็นที่ซึ่งเขาได้พบกับปู่เดลิน และนั่นเป็นที่ที่เขาได้พบกับบีบี
“เมืองอู่ซัน ใช่แล้ว เราไปเมืองอู่ซันกัน” บีบีพูดเช่นกัน
“ข้าก็เกิดในเมืองอู่ซันเหมือนกัน” บีบีหันไปอธิบายให้ไอน่าและนีซฟัง
เมืองน้อยอู่ซันเป็นที่มีความหมายต่อทั้งลินลี่ย์และบีบีมากนั่นเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตของพวกเขา
“ใช่แล้วไปเมืองอู่ซัน ข้าอยากเห็นด้วย” ไอน่าพูดอย่างร่าเริง
“เมืองน้อยอู่ซันบางทีอาจเต็มไปด้วยอสูรเวท” ลินลี่ย์ถอนหายใจ “หลังจากผ่านไปเกือบสองพันปี...ข้าสงสัยว่าจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้” สองพันปีเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก ที่สำคัญคือเพียงพอให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย
“ท่านพ่อ ข้าอยากเห็นบ้านบรรพบุรุษของเราเหมือนกัน” เวดตื่นเต้นดีใจเช่นกัน
“อย่างนั้นก็ไปกันเถอะ”
ลินลี่ย์พาทุกคนไปทางด้านทิศตะวันตกของเทือกเขาอสูรวิเศษพอเลือกมุ่งหน้าไปเมืองน้อยอู่ซันพวกเขาก็ไปถึงได้ไวในก้าวเดียว เนื่องจากเวลานี้เขาเป็นเทพชั้นสูง เขาบินได้เร็วกว่าในอดีตตอนที่เป็นเซียนได้หลายร้อยเท่าการบินในแดนโลกธาตุธรรมดาซึ่งมีพลังจำกัดที่อ่อนกว่ามาก ลินลี่ย์จึงมาถึงเทือกเขาอสูรวิเศษอย่างรวดเร็ว
“เมื่อข้ายังเด็ก เมื่อข้ายังท่องเที่ยวเดินทางจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์ไปยังจักรวรรดิโอเบรียนข้าใช้เวลามากกว่าครึ่งปี แต่บัดนี้จากทะเลเหนือมาที่นี่ ข้าใช้เวลาเพียงมากกว่าคนดื่มชาถ้วยหนึ่งเท่านั้น...โอว..นั่นไงเมืองอู่ซัน!” ขณะลินลี่ย์พูดจบคำเขาก็มาถึงเหนืออากาศเมืองน้อยอู่ซัน เมืองอู่ซันปรากฏออกมาจากภูเขา
แต่ในอากาศเหนือเมืองอู่ซันกลุ่มของลินลี่ย์ชะงักด้วยความสงสัย
“ท่านลุง, ท่านบอกว่าต้องพวกมีอสูรเวทมากมายอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเราบินมาที่นี่จากในภูเขา เราเห็นอาคารและผู้คนมากมาย” ไอน่าไม่เข้าใจ “นอกจากนี้ นี่คือเมืองอู่ซันหรือ? ทำไมมีผู้คนหนาแน่นนักเล่า?ที่นี่มีคนอยู่เป็นหมื่น”
“ใช่แล้ว นี่คืออดีตเมืองอู่ซัน” ลินลี่ย์แน่ใจเรื่องนี้
ในฐานะเทพชั้นสูงเขาจะเข้าใจผิดเรื่องภูมิประเทศแบบนั้นได้อย่างไร?
“ดูสิ นั่นภูเขาอู่ซันอยู่ตรงนั้น! ภูเขาอู่ซันยังอยู่ตรงนั้นดังนั้นนี่คือเมืองน้อยอู่ซันแน่นอน” ลินลี่ย์ชี้ไปทางทิศตะวันตกซึ่งมีภูเขาใหญ่อยู่ลูกหนึ่ง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบสองพันปีแต่ภูเขาอู่ซันไม่เปลี่ยนไปมาก อย่างไรก็ตามด้านตะวันตกของเมืองอู่ซันมี....
มีสิ่งก่อสร้างสถาบันการศึกษาอยู่ที่นี่ มีคนอยู่จำนวนมาก
สถาบันแห่งนี้ในแง่ของขนาด มีขนาดใหญ่กว่าเมืองอู่ซันในอดีต
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?” ลินลี่ย์สงสัยไปหมด
เดเลียก็สงสัยเช่นกัน “ในอดีต..สถานที่นี้ควรจะเต็มไปด้วยอสูรเวท เราบินผ่านเทือกเขาอสูรวิเศษ เราเห็นอาคารมากมายตามรายทาง ดูสิ..มีมนุษย์อยู่ตรงอื่นด้วยแต่ไม่ใช่อสูรเวท” หลังจากวันล้างโลกสหภาพศักดิ์สิทธิ์และพันธมิตรมืดถูกพวกอสูรเวทบุกเข้ายึดครอบครองอย่างน่ากลัว
อย่างไรก็ตาม...
หลังจากผ่านไปเกือบสองพันปี พื้นที่นี้กลับถูกมนุษยชาติยึดคืน
“สองพันปีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากเกินไป” ลินลี่ย์ถอนหายใจ “มาเถอะ ไปดูบ้านบรรพบุรุษของข้า” ขณะที่ลินลี่ย์พูด เขาบินไปข้างหน้า
แม้ว่ากลุ่มของลินลี่ย์ทั้งหกคนจะบินอยู่ในกลางอากาศแต่ผู้คนข้างล่างไม่ทันสังเกตพวกเขาแม้แต่น้อย เพราะพวกเขาอยู่สูงมากและนอกจากนี้เพราะลินลี่ย์ใช้พลังธาตุสร้างเมฆรายล้อมพวกเขา ลินลี่ย์บินไปข้างหน้าช้าๆขณะมองลงมาข้างล่างอย่างระมัดระวัง สายตาของลินลี่ย์ยอดเยี่ยมาก
และเขาพบพื้นที่ใจกลางสถาบันทันทีเป็นคฤหาสน์บรรพบุรุษของเขา
“บ้านบรรพบุรุษของข้าตั้งอยู่ตรงนั้นหรือ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ
“พี่ใหญ่,บ้านบรรพบุรุษมีรูปร่างสมบูรณ์แบบ ความจริง ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบกว่าที่เป็นมาในอดีตด้วยซ้ำ” บีบีพูดด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
พื้นที่อื่นในสถาบันที่ใหญ่โตแห่งนี้เป็นอาคารใหม่แต่บ้านบรรพบุรุษของลินลี่ย์ได้รับการดูแลรักษาและปรับปรุงใหม่ แม้ว่าจะผ่านไปเพียงสองพันปี แต่เนื่องจากการดูแลรักษาอย่างยาวนานกลับไม่มีร่องรอยเสียหายแม้สักนิด ลินลี่ย์บีบีเห็นแล้วอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
พวกเขามีความทรงจำที่งดงามมากมายจากสถานที่นี้
“ลงไปกันเถอะ” ลินลี่ย์พูดเบาๆ
และจากนั้นพอเสียงดังควั่บเงาร่างทั้งหกพุ่งวาบผ่านท้องฟ้ามาลงอยู่ภายในลานว่างบ้านบรรพบุรุษ เพราะพวกเขาไวเกินไปพวกเขาลงมาจากท้องฟ้าไวกว่าการกระพริบตาครั้งหนึ่งเสียอีก ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะสามารถจับการเคลื่อนไหวของลินลี่ย์ด้วยสายตาเปล่าได้
ภายในอาคาร
“ทุกอย่างยังดูดี... ทุกอย่างยังดูดี” ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่ในลานว่าง มองดูรอบๆอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นเขาเห็นว่ามีเก้าอี้อยู่ในสวน ดวงตาของเขาพลันแดงระเรื่อ “เก้าอี้ตัวนี้..ยังอยู่อีกหรือ?” ลินลี่ย์ไม่อยากเชื่อ เขาจ้องมองเก้าอี้ตัวนั้น ความทรงจำของลินลี่ย์..หวนกลับไปถึงฮ็อกบิดาของเขามักจะนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้นี้อยู่บ่อยๆ
ลินลี่ย์สูดหายใจลึก
เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นเก้าอี้ใหม่แต่สร้างในรูปลักษณ์เดียวกัน เก้าอี้ตัวเดิมหลังจากผ่านไปสองพันปีบางทีอาจจะผุพังไปตามกาลเวลานานแล้ว
“เวด, นี่คือเก้าอี้ที่ปู่ของเจ้ามักจะใช้นั่งอยู่เสมอ” ลินลี่ย์ชี้ไปที่เก้าอี้ขณะพูด “และนั่น..ที่นั้นพ่อใช้เรียนรู้ศึกษาวัฒนธรรมจากปู่ของเจ้าตรงนั้น” ลินลี่ย์ยังจำได้ถึงช่วงเวลาที่ทุกๆวันเขาจะต้องตั้งใจเปิดหนังสืออ่านและศึกษา บ่อยครั้งต้องผ่านบททดสอบที่เข้มงวดของฮ็อก
“ว้าว...” เวดจ้องมองไปทุกที่ด้วยนัยน์เบิกค้าง
“นี่คือนี่พ่อใช้นอน บีบีก็อยู่กับข้าด้วยเช่นกัน” ลินลี่ย์ไปที่ห้องใกล้ๆ
บีบีอดยิ้มไม่ได้เช่นกัน
“มาเถอะในลานว่างด้านหลังจะมีหอบรรพบุรุษของตระกูลเรา ในอดีต บีบีถือกำเนิดในลานว่างใกล้กับหอบรรพบุรุษ” หน้าของลินลี่ย์ยิ้มตลอด และบีบีหัวเราะเช่นกัน “ปีนั้นพี่ใหญ่เอาเป็ดย่างกับกระต่ายย่างมาหลอกล่อข้า ช่างน่าสงสารตอนนั้นข้ายังเด็กมากและไร้เดียงสาอยู่”
ลินลี่ย์และบีบีหัวเราะขณะที่พวกเขามุ่งหน้าเข้าไปภายในลานว่าง
ขณะที่เขาเดินผ่านเข้าไปในบ้านของบรรพบุรุษ ใจของลินลี่ย์และบีบีเต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ
ในขณะนั้นเอง...
“เอ๋? มีคนกำลังมา” ลินลี่ย์บีบีและคนอื่นขยับหลบไปที่ลานว่างหลังบ้าน
แอ๊ดดดด! ประตูบ้านบรรพบุรุษถูกเปิดออก
ชายชราคนหนึ่งนำเด็กๆสิบกว่าคนเข้ามาในห้องนี้ “ทุกคน! สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของประติมากรปรมาจารย์อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งยังเป็นจอมเวท-นักรบอัจฉริยะเป็นยอดฝีมือทั้งสองสายผู้ก่อตั้งจักรวรรดิบาลุคเป็นเจ้าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างปราสาทเลือดมังกรท่านเคยอยู่อาศัยที่นี่เมื่อตอนเยาว์วัย ลินลี่ย์ บาลุคเทพในตำนาน พวกเจ้าระวังให้ ดูแต่ตา มืออย่าต้อง”
ชายชราอธิบาย “ห้องนี้เป็นสถานที่ปรมาจารย์ลินลี่ย์ใช้อยู่อาศัย”
“โอว...ปรมาจารย์ลินลี่ย์อยู่ที่นี่หรือนี่ ถ้าข้าได้นอนตรงนั้นด้วยจะยอดเยี่ยมเพียงไหน” เด็กคนหนึ่งพูดกระซิบตาเป็นประกาย
“ฮึ”
ชายชราอดหงุดหงิดไม่ได้ขณะกวาดสายตามองนักเรียนเหล่านี้ “ระวังด้วยนะนี่คือบ้านบรรพบุรุษของปรมาจารย์ลินลี่ย์ ระหว่างที่พวกเจ้าเรียนศึกษาอยู่ที่นี่ นี่จะเป็นโอกาสครั้งเดียวที่พวกเจ้าจะได้เข้ามาเยี่ยมชม ในอนาคตพวกเจ้าจะไม่มีโอกาสอย่างนี้อีก! พอได้แล้ว ไปดูไปศึกษาต่อกันได้แล้ว นั่นคือสถานที่ปรมาจารย์ลินลี่ย์เคยใช้อ่านหนังสือเมื่อยังเยาว์วัย”