ตอนที่ 10 คอขวด
ตอนที่ 10 คอขวด
"*เสียงหายใจ*"
ในห้อง ลู่เซิงขยับไปมาในท่าทางแปลกๆ
ในขณะที่ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เขายังคงหายใจอย่างเป็นจังหวะ
หลังจากจบท่าสุดท้าย ลู่เซิงก็ผ่อนคลายร่างกายของเขา
ชั้นเหงื่อไหลลงตามเส้นกล้ามเนื้อของเขาราวกับสายน้ำ ตอนนี้ร่างกายของเขามีไอร้อนเล็กน้อยราวกับเพิ่งออกจากห้องอบไอน้ำ
“ซอมบี้ในความฝันเหล่านั้นล้วนใช้เทคนิคฝึกฝนร่างกายนี้ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นระดับพรสวรรค์และความชำนาญของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน ตอนนี้ฉันสามารถฝึกท่วงท่าทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว...”
แม้ว่าจะมีเทคนิคฝึกฝนร่างกายเหมือนกัน แต่ทุกคนไม่ได้ฝึกร่วมกัน ผลของการฝึกจึงแตกต่างกันไปด้วย
ตัวอย่างเช่น เขาถนัด 30 ท่าแรก ส่วนฉันถนัดใน 30 ท่าสุดท้าย
ท่วงท่าที่ต่างกันสอดคล้องกับกล้ามเนื้อที่ต่างกัน ผลที่ได้คือสมรรถภาพทางกายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน
และลู่เซิงได้ดูดซับความทรงจำของซอมบี้ชุดบอดี้สูทมาจำนวนมาก ดังนั้นจึงรวมส่วนที่ทุกคนถนัดเข้าไปด้วย มากเสียจนชำนาญในเทคนิคฝึกฝนร่างกายและเทคนิคหายใจในระดับที่สูงมาก
“ผลที่ได้ยังดีอยู่ ฉันรู้สึกได้เกือบทุกวันว่ากล้ามเนื้อบางส่วนที่ยังไม่ได้ฝึกฝนก็ได้รับการพัฒนาเช่นกัน หากเทคนิคฝึกฝนร่างกายนี้พัฒนาร่างกายมนุษย์ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เทคนิคฝึกฝนร่างกายยี่สิบสี่ท่าของสมาคมจอมยุทธ์อาจไม่สามารถพัฒนาได้แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวของร่างกายมนุษย์... ช่องว่างระหว่างเทคนิคฝึกฝนร่างกายทั้งสองมีมากเกินไป”
ลู่เซิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หลังจากการฝึกฝนเสร็จ ลู่เซิงลุกขึ้นหยิบผ้าขนหยูและเช็ดตัว หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เสียงเคาะประตูที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
“ลู่เซิง ออกมากินข้าวได้แล้ว”
“เข้าใจแล้ว” ลู่เซิงตอบกลับและรีบเดินออกจากห้องไป
ตอนนี้ทั้งครอบครัวกำลังรอเขาอยู่ที่โต๊ะอาหารเย็น บนโต๊ะมีอาหารเจ็ดหรือแปดจานซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์
บนโต๊ะลู่เซิงมีข้าวเต็มหม้อตั้งอยู่
อย่างที่คิด หม้อข้าว เพราะครอบครัวหาภาชนะใส่ข้าวที่ใหญ่กว่าหม้อไม่ได้แล้ว
“เสี่ยวเซิง กินข้าวกันเถอะ” แม่เจิ้งหยูเฟินกล่าวกับลู่เซิง
ลู่เซิงพยักหน้านั่งลงและเริ่มลงมือยัดข้าวเข้าปากอย่างชำนาญ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความอยากอาหารของลู่เซิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จากจุดเริ่มต้นเพียงสองเท่าของลู่ชิงเหอ ตอนนี้มากกว่าลู่ชิงเหอถึงห้าเท่า
มันทำให้เจิ้งหยูเฟินทำอาหารเยอะทุกวันราวกับจัดงานเลี้ยงเพราะเขาและน้องสาว
“กินเข้าไปได้ยังไงเนี่ย...”
ลู่ชิงเหอมองไปที่ใบหน้าของลู่เซิงที่เกือบจะถูกฝังอยู่ในหม้อข้าวและพึมพำเบาๆ จากนั้นเพื่อไม่ให้อ่อนแอกว่า เธอรีบตักข้าวเข้าปากอีกสองสามคำ
ลู่ต้าไห่มองดูเด็กๆกินข้าวด้วยรอยยิ้ม
“ค่อยๆกิน ข้าวมันไม่วิ่งหนีไปหรอก”
“เสี่ยวเซิงช่วงนี้เป็นอะไรไหม? ทำไมถึงผอมลง ทั้งที่กินเยอะแท้ๆ...”
เจิ้งหยูเฟินบีบแขนของลู่เซิงและพูดด้วยความกังวล
“คุณจะรู้อะไร...เด็กวัยนี้มีพัฒนาการเช่นนี้อยู่แล้ว”
ลู่ต้าไห่ใส่ซี่โครงเนื้อชิ้นหนึ่งในชามข้าวของลู่เซิงและถามด้วยรอยยิ้ม "ลูกได้ทดสอบค่าปราณโลหิตหรือยัง? มันเพิ่มขึ้นหรือไม่? "
ลู่เซิงพูดอย่างไม่ใส่ใจขณะที่กินต่อไป "ผมไปทดสอบมาแล้ว มันเพิ่มขึ้นนิดหน่อย"
ดวงตาของลู่ต้าไห่สว่างขึ้นและรีบถามว่า "มันเพิ่มขึ้นเท่าไหร่?"
“อืม..ใกล้จะทะลุ 1 แล้ว”
ลู่เซิงตอบอย่างคลุมเครือขณะที่ข้าวยังอยู่ในปาก
เขาไม่กล้าบอกความจริงเพราะขี้เกียจอธิบายยุ่งยาก
“ใกล้จะทะลุ 1 แล้วหรือไม่?! เยี่ยม ดีเลย...”
แม้ตามจริงจะมากกว่านี้ แต่ก็ยังทำให้ลู่ต้าไห่ประหลาดใจอย่างมาก
“พรุ่งนี้พ่อจะซื้อยาเสริมร่างกายให้ ปราณโลหิตไม่สามารถเพิ่มได้แค่การกินอาหารหรอกนะ”
ลู่เซิงเงยหน้าขึ้น ตาของเขาจ้องไปที่พลาสเตอร์ที่ไหล่พ่อของเขาชั่วขณะหนึ่งและไม่พูดอะไร
ลู่ต้าไห่เป็นเพียงพนักงานเงินเดือนธรรมดา และเงินเดือนของเจิ้งหยูเฟินในซูเปอร์มาร์เก็ตก็ไม่ได้สูงนัก
สำหรับครอบครัวดังกล่าว การสนับสนุนเรื่องการฝึกศิลปะการต่อสู้ของเด็กสองคนเป็นเรื่องยากมาก
การซื้อยาเสริมร่างกายมีแต่จะเพิ่มภาระให้พวกเขา
จากการพูดคุยตามปกติระหว่างพ่อแม่ของเขา ลู่เซิงพบว่าลู่ต้าไห่มักทำงานล่วงเวลาเสมอ และแม่ของเขาก็หางานพาร์ทไทม์อย่างอื่นทำด้วย
“ฉันต้องหาเงิน!”
ลู่เซิงแอบตัดสินใจ
....
ในซากปรักหักพังที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทา ร่างสองร่างกำลังต่อสู้กันอยู่
คู่ต่อสู้ของลู่เซิงคือซอมบี้สวมชุดบอดี้สูทสีฟ้า
ซอมบี้ตัวนี้แข็งแกร่งกว่าซอมบี้ในชุดบอดี้สูทสีเทาตัวก่อนที่เขาพบมาก ทั้งพละกำลังและความเร็วที่มากกว่าและยังจำทักษะต่อสู้บางอย่างได้อีกด้วย
ซอมบี้ในชุดบอดี้สูทสีฟ้าคำรามและยื่นแขนออกไปคว้าตัวลู่เซิงอย่างรุนแรง
เสียงแหวกอากาศดังขึ้น
ลู่เซิงยังคงเฉยเมย เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและหลบแขนของซอมบี้ จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของซอบบี้
และกดลง...
เข่าของลู่เซิงระเบิดออกราวกับลูกกระสุนปืนกระแทกเข้าที่คางของซอมบี้อย่างแรง
“แคล๊ก—”
หัวของซอมบี้ชุดบอดี้สูทสีฟ้าห้อยไปข้างหลังในท่าทางแปลกๆ หลังจากสั่นอยู่ครู่หนึ่งอีกฝ่ายก็ล้มลงกับพื้น
ร่างซอบบี้สลายตัวอย่างรวดเร็วและกลุ่มควันสีดำก็พรวยพุ่งออกมาและเข้าสู่ร่างของลู่เซิงอย่างรวดเร็ว
“เทคนิคหมัด...”
เมื่อลู่เซิงลืมตาขึ้น ความทรงจำก็ถูกซึมซับเสร็จแล้ว
ซอบบี้ชุดบอดี้สูทสีฟ้าตัวนี้ทำให้ลู่เซิงได้รับประสบการณ์มากมาย
หลังจากดูดซับความทรงจำนี้แล้ว ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคหมัดของลู่เซิงเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
กระทั่งชนคอขวด เมื่อทะลวงมันไปได้หลังจากนั้นคือโลกใหม่