ตอนที่ 618 กงเฉิน
หากเราจะพูดถึงว่าอะไรคือสิ่งที่ถังเทียนเกลียดที่สุดหนึ่งในนั้นก็คือถูกรบกวนขณะกำลังกิน
ถังเทียนจ้องคนทั้งสองอย่างไม่พอใจ
หลิงเซี่ยคิดว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่ไม่เคยคิดว่าบางสิ่งที่ว่านั้นจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นคนทั้งสองคนตะโกนใส่หน้าเขา นางรู้ว่าหลายเรื่องคงจะไม่ดีแน่
กงเฉินคือบุรุษที่ยืนอยู่ทางซ้ายดูมีอายุราว30 ปี เขาค่อนข้างหล่อและมีความเชื่อถือต่อเจ้าครองทวีป และคนขวามือคือคนที่สนิทกับเจ้าครองทวีปที่สุด คนทางขวามือเป็นหญิงงามนามว่าอันฉวนนางคือหญิงรับใช้ของท่านหญิงโหรว
หลิงเซี่ยรู้สึกว่าบิดาของนางคำนวณผิดพลาดไปมาก คุณชายใหญ่อาจไม่มีความเป็นมิตรกับท่านหญิงโหรวและเหออิง แต่เขาไม่สามารถคัดค้านเจ้าครองทวีปได้ ถ้าเขาตอแยเจ้าครองทวีป อย่างนั้นตำแหน่งผู้สืบทอดของคุณชายใหญ่จะตกอยู่ในอันตราย
ท่าทีไม่พอใจฉายผ่านอยู่ในใบหน้าของจ้าวครองทวีป
กงเฉินก้าวมาข้างหน้าและพูดอย่างเย็นชา “ท่านเหมิ่งก่อกวนเมืองทรายขาวและทำให้เกิดการนองเลือดบังคับให้สำนักมั่นคงไม่กล้าย่างเท้าออกนอกประตู ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าจะเป็นตัวอะไร แต่ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะเป็นคนหยาบคายแบบนี้ น่าผิดหวัง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าครองทวีปประหลาดใจ เขาก้มศีรษะและพูดกับท่านหญิงโหรว และนางกระซิบตอบเบาๆ
หลิงเซี่ยกำลังรู้สึกกระวนกระวาย ถ้าพวกเขายังคงปล่อยให้กงเฉินทำปากดีกับเหมิ่งหนานต่อไป อย่างนั้นเจ้าครองทวีปคงมีแต่ภาพลบของท่านเหมิ่งเป็นแน่ นางไม่อาจทนได้ “องครักษ์กงพูดคำไม่สุภาพแบบนั้นได้ยังไง? ท่านเหมิ่งปกป้องตัวเองต่างหาก!”
“ปกป้องตนเอง?” กงเฉินแค่นเสียง “ปกป้องตนเองโดยหว่านเงินถึงสองสามพันล้านน่ะหรือ? บังคับให้สำนักมั่นคงไม่กล้าย่างเท้าออกนอกประตูแบบนี้เรียกว่าปกป้องตนเองหรือ? เป็นไปได้หรือว่าคุณหนูหลิงคิดว่าท่านเหมิ่งอ่อนแอเหมือนดอกไม้?”
ทุกคนโดยรอบเริ่มหัวเราะ
ถังเทียนไม่เข้าใจอะไร เขาไม่เคยพบกงเฉินมาก่อน ‘ทำไมเขาถึงเป็นปฏิปักษ์กับข้าด้วย?’ แม้ว่าถังเทียนจะไม่ใช่คนฉลาด แต่เขาก็มีสัญชาตญาณเฉียบคมและสามารถรู้สึกได้ถึงความเป็นปฏิปักษ์ที่แผ่ออกมาจากกงเฉิน
หลิงเซี่ยต้องการคัดค้าน แต่ถังเทียนยืนขึ้นด้วยความหงุดหงิด “เฮ้, เจ้าจะหาเรื่องทะเลาใช่หรือเปล่า?”
กงเฉินสะดุ้ง หลิงเซี่ยก็สะดุ้ง ทุกคนรอบๆ ก็สะดุ้งคนที่เข้ามาในงานเลี้ยงทุกคนล้วนมีฐานะทำไมพวกเขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนักเลงข้างถนน?
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนอยู่กับที่เหมือนกับท่อนไม้ ถังเทียนยังคงพูดเหยียดหยาม “โอว, งั้นเจ้าก็ดีแต่ปาก!”
หน้าของกงเฉินแดงด้วยความอาย เขาจะทนต่อความอับอายต่อหน้าคนมากมายได้ยัง? ตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขาขออนุญาตจากเจ้าครองทวีปทันที “ท่านเหมิ่งท้าทายข้าจะไม่สนองได้ยังไง คนเมืองทรายขาวปฏิเสธได้หรือ? ข้าน้อยขออนุญาตรับคำท้า!”
เจ้าครองทวีปพึมพำ “คนผู้นี้คืออาคันตุกะคนหนึ่ง แต่เนื่องจากทั้งสองคนต้องการจะแลกเปลี่ยนชี้แนะกัน อย่างนั้นก็ได้ แต่ต้องไม่บาดเจ็บหรือเสียมารยาทนะ”
“ขอรับ!” กงเฉินคำนับ เขาเงยหน้าและมองถังเทียนพร้อมกับแผ่รังสีฆ่าฟัน “ท่านเหมิ่งเชิญ!”
เขาบินไปในอากาศเหนือทะเลสาบและสถานที่ใหญ่พอและสามารถต่อสู้ส่วนตัวได้โดยไม่ส่งผลต่อคนที่เหลือเขาแกล้งทำเป็นรู้สึกอับอายและโกรธ แต่หัวใจของเขาและความคิดของเขาเยือกเย็น
ฉินอวี่หรันมาเยี่ยมยังที่พักของเหมิ่งหนานหลายครั้งแล้ว นั่นไม่ใช่ข่าวใหม่ กงเฉินรู้สึกว่าที่ใดก็ตามที่เขาไป เขาจะได้ยินเรื่องซุบซิบและข่าวลือ เขาต้องการไปเยี่ยมอวี่หรันเพื่อขอพบ และรู้สึกว่านางจะเห็นแก่หน้าของเขาบ้าง
แต่ใครจะรู้เมื่อเขาขอเข้าพบกับฉินอวี่หรัน เขาจะถูกนางปฏิเสธไปทุกครั้ง
เมื่อเขาเห็นเหมิ่งหนานเป็นครั้งแรกความโกรธที่อธิบายไม่ได้ผุดขึ้นมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงดังกล่าวเพื่อตั้งใจให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ สำหรับคนอื่นเขาเป็นคนที่ถูกทำให้อับอายและถูกจู่โจม แต่เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย เขาหาเรื่องเหมิ่งหนานเป็นการส่วนตัว เนื่องจากชาวเมืองทรายขาวจะรวมตัวกันเมื่อเผชิญศัตรูทั่วไป เขาเข้าใจดีว่าเหมิ่งหนานเป็นคนแบบไหน
แผนของเขาประสบความสำเร็จ อีกฝ่ายโง่มากกว่าที่เขาคิดและถูกล่อลวงเข้ากับดัก และคนเกือบทั้งหมดแสดงออกว่าเข้าข้างเขา และถ้าเขาพลั้งมือฆ่าเหมิ่งหนาน ก็จะไม่มีผู้ใดตำหนิเขา
มุมปากของกงเฉินมีรอยยิ้มชั่วร้าย และเมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่เหออิงสัญญาเอาไว้ใจของเขาก็ยิ่งพลุกพล่าน
ถังเทียนบินขึ้นไปในฟ้าทันทีด้วยวิชาเฉพาะตัวของเขา‘พลังแปลงสภาพ”
สถานที่ทั้งหมดเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเยาะ กงเฉินบินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความมั่นใจและท่าทางสง่างาม ขณะที่ท่าทางของถังเทียนสำหรับพวกเขาดูน่าเกลียดมาก และสำหรับพวกที่ฉลาด พวกเขาจะสังเกตได้ทันทีว่าเหมิ่งหนานไม่ได้ใช้พลังงานแม้แต่น้อยแต่เป็นการบีบอัดพลังสุญญากาศและมีความสงสัยทันทีว่าเขาอาจจะเป็นคนที่พิการในการใช้พลังงาน
เมื่อทั้งสองคนลอยขึ้นไปเหนือทะเลสาบก็ดึงความสนใจความสนใจของทุกคนทันที
**********************
ฉินอวี่หรันก็ร่วมอยู่ในงานเลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว แต่นางอยู่อีกฝั่งหนึ่งของอุทยานกับกลุ่มสุภาพสตรีชั้นสูง นางไม่ชอบรวมกลุ่มกับบุรุษเนื่องจากพวกเขาเอาแต่มองนางจนนางรู้สึกรังเกียจ เมื่อนางเห็นกงเฉินและเหมิ่งหนานอยู่ในอากาศสีหน้าของนางเปลี่ยน
สุภาพสตรีที่อยู่ข้างนางตื่นเต้นอยู่เป็นเวลานาน
“หวา! องครักษ์ประจำวังสุภาพมาก!”
“ในที่สุดเราก็ได้เห็นองครักษ์ประจำวังลงมือ ข้ารอไม่ไหวแล้ว!”
แม้ว่าฉินอวี่หรันจะไม่ชอบคนอย่างกงเฉิน แต่นางรู้ว่าเขาทรงพลังขนาดไหนสามารถกลายเป็นองครักษ์ที่เจ้าครองทวีปไว้ใจที่สุดได้ เขาจะอ่อนแอได้ยังไง?
พี่เหมิ่ง....
****************
อีกด้านหนึ่งของงานเลี้ยง ลุงและหลานตระกูลไป๋มองด้วยความกังวล
ไป๋เยี่ยถอนหายใจ “เหมิ่งหนานยังคงอายุเยาว์มากจึงได้ถูกหลอกล่อ ดูเหมือนข้าต้องทำงานคืนนี้เสียแล้ว ข้าเชื่อว่าหน้าแก่ๆ อย่างข้ายังจะมีประโยชน์อยู่บ้าง”
สีหน้าของไป๋เสี่ยวกลายเป็นหม่นหมอง เขามองดูร่างทั้งสองคนในกลางอากาศและส่ายศีรษะ “ลุงรองคำพูดของท่านพูดเหมือนกับว่าพี่เหมิ่งจะแพ้ซะอย่างนั้น แต่ข้าคิดอีกอย่าง”
ไป๋เยี่ยสะดุ้ง หลานชายของเขาภายนอกอาจดูถ่อมตัวแต่เขาเป็นผู้มีความภูมิใจจนเข้ากระดูกดำและไป๋เยี่ยไม่เคยคาดว่าไป๋เสี่ยวจะมีความเชื่อมั่นในเหมิ่งหนานมากขนาดนั้น
เมื่อสังเกตสายตาของลุง ไป๋เสี่ยวพูดเบาๆ “ลุงต้องไม่ลืมนะว่าเขาคือคนที่ผลักดันเหลียนไป่จวินจนกลับไป”
ด้วยข่าวกรองของตระกูลไป๋ของพวกเขา พวกเขาค้นพบมานานแล้วเกี่ยวกับเบื้องหลังโจรสลัด เหลียนไป่จวินมีชื่อเสียงในแวดวงโจรสลัด และลักษณะเช่นนั้นเป็นคนที่ตระกูลไป๋ไม่ยินดีจะไปยุ่งตอแย
“นั่นก็จริง” ไป๋เยี่ยพยักหน้า ไป๋เสี่ยวพูดมีเหตุผล
ไป๋เสี่ยวฝืนหัวเราะ “ความเชื่อมั่นที่ข้ามีต่อเหมิ่งหนานไม่ได้มาจากเรื่องนั้น นอกจากทุกคนที่ข้าเคยพบ ความหมั่นเพียรของพี่เหมิ่งไม่มีใครเทียบได้ พอคิดดูแล้วในวันที่สองหลังจากเอาชนะเหลียนไป่จวินได้แล้ว ท่านรู้ไหมว่าข้าไปพบเจอเขาที่ไหน?”
“ที่ไหน?” ไป๋เยี่ยถาม
“ในสนามฝึกฝน” ไป๋เสี่ยวมองดูถังเทียนและพึมพำ “เราสามารถนึกภาพตามว่าเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากเพียงไหน แม้แต่อาวุธประจำเรือรบก็ยังทนประจุพลังและรับภาระไม่ไหวและพังเสียหายและพวกเราทั้งหมดฉลองกัน แต่พี่เหมิ่งและผู้คุ้มกันของเขากลับฝึกอยู่ในโรงฝึกจนเหงื่อโทรมกายราวกับว่าไปตากฝนมา ความจริงในเวลานั้นข้าไม่คิดอะไรอื่นมีแต่อายและรู้สึกนับถือ”
ไป๋เยี่ยตื่นเต้น เขาชำนาญในเรื่องฝึกทหารและทำสงคราม และหลังจากการต่อสู้ที่หนักหน่วงสิ่งที่คนต้องการมากที่สุดคือพักผ่อนหย่อนใจ การอดทนฝึกฝนต่อเนื่องนั่นคือกำลังใจและความมุ่งมั่นที่หาได้ยาก
“ท่านรู้ไหมเขาพูดสองประโยคที่สร้างความประทับใจให้กับข้าอย่างลึกซึ้ง” ไป๋เสี่ยวพึมพำ “ประโยคแรกคือ หยาดเหงื่อไม่เคยโกหก ประโยคที่สองคือเขายังมีหลายเรื่องที่ต้องการทำ ไม่ว่ากงเฉินจะแข็งแกร่งเพียงไหน ข้าไม่เชื่อว่าพี่เหมิ่งจะแพ้”
ไป๋เยี่ยที่ตอนแรกตกใจอยู่พลันหัวเราะทันที “เพราะเจ้าพูดอย่างนั้น ข้าชักตื่นเต้นกับการต่อสู้ครั้งนี้เสียแล้ว”
******************
ในอากาศดวงตาของถังเทียนเทียนจับจ้องอยู่ที่กงเฉิน เขาไม่มีความคิดอะไรมาก เขาคร้านจะคิดว่าเหตุใดอีกฝ่ายหนึ่งถึงได้เป็นปฏิปักษ์กับเขา
สัญชาตญาณของเขาแหลมคมมาก สายตาของกงเฉินชั่วร้ายและเย็นชา รังสีฆ่าฟันเปล่งออกทั่วร่างทำให้เขามองดูคล้ายงูพิษที่อยู่ในเงามืด ถังเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อย เขากระตือรือร้นต้องการสู้
หลังจากที่ได้ประฝีมืออย่างยากลำบากกับเฉียวอี้อันแล้ว ทำให้เขากระตือรือร้นจะสู้ และตอนนี้ราศีของกงเฉินไม่ด้อยไปกว่าเฉียวอี้อัน
ถังเทียนลืมเรื่องเค้กไปแล้ว พลังตั้งใจต่อสู้ปลดปล่อยออกมาจากร่างเขา เขาเพ่งอยู่กับการต่อสู้เต็มที่
กงเฉินยังสงบอยู่มากตรงกันข้ามเขา เหมิ่งหนานเหมือนกับสัตว์ป่าเต็มไปด้วยรังสีก้าวร้าว เขาหรี่ตา มือของเขาเหยียดไปที่ด้ามกระบี่ที่เอว เพื่อให้ได้ต่อสู้ เขาได้ลอบดำเนินการและหาเฉียวอี้อันมาพูดคุย เขาเตรียมตัวสำหรับการโจมตีของเหมิ่งหนานแล้ว
‘วันนี้เจ้าจะต้องตายแน่นอน!’
ประกายเย็นชาวาบผ่านในดวงตาของกงเฉิน เขาค่อยๆ ชักกระบี่จากฝัก ซี่ ซี่ ซี่กระบี่เสียดสีกับฝักกระบี่เกิดเป็นแรงเสียดทานเหมือนกับมีหนอนนับไม่ถ้วนกำลังไต่
เอ่..ถังเทียนสั่นสะท้าน ใจของเขารู้สึกได้ถึงอันตราย ซี่..ซี่...เสียงแปลกประหลาด โดยไม่ลังเลเขาใช้วิชาปรับสภาพพลังปรากฏอยู่ใต้เท้าเขา เขาหายไปในอากาศเหมือนสายฟ้า
กงเฉินย่อตัว ตาของเขาจ้องมองมาที่เขา
ไวมาก!
เขาเคยได้ยินมาจากเฉียวอี้อันว่าวิธีเปลี่ยนตำแหน่งของเหมิ่งหนานมีวิธีเฉพาะตัวมาก เขาไวเหมือนสายฟ้าดังนั้นเขาจึงเตรียมตัวรับ แต่ไม่คาดเลยว่าความเร็วของเหมิ่งหนานจะเร็วมากจริงๆ
เฉียวอี้อันก็อยู่ที่นี่เช่นกันมองดูจากด้านล่าง เขาตกใจ ‘ความเร็วของคนผู้นั้นไวกว่าครั้งก่อน! หรือว่าครั้งก่อนเขาออมฝีมือไว้?’ เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ออมมือ แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น อย่างนั้นก็ต้องมีความก้าวหน้าในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ นี่ทำให้เขารู้สึกกังวลมากขึ้น
ถังเทียนเป็นเหมือนกับสายฟ้าปะทะอยู่ในอากาศไม่หยุด ความเร็วที่น่าประหลาดใจสร้างแรงกดดันให้กับกงเฉิน
กงเฉินควบคุมความตกใจในใจ สภาพใจของเขาเริ่มนิ่งเหมือนน้ำและเขายังคงชักกระบี่ช้าๆ
ถังเทียนที่กำลังพุ่งไปรอบๆตัวกงเฉินอย่างระมัดระวัง กงเฉินไม่ได้เผยจุดอ่อนใดๆ และไม่ว่าจะมาจากมุมไหนก็จะอยู่ภายในรัศมีของการชักกระบี่ของเขา
เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนมองเห็นสถานการณ์เช่นนั้น และสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง
เสียงดังเหมือนหนอนคลานยังดังต่อเนื่องและความรู้สึกถึงอันตรายในใจถังเทียนยังคงเพิ่มขึ้น
ถังเทียนรู้ว่าเขาต้องจู่โจม!
เขาสูดหายใจลึก ‘เนื่องจากเจ้าไม่มีจุดอ่อนแต่อย่างใด อย่างนั้นข้าจะบังคับให้เจ้าเผยออกมา!
นิ้วทั้งสิบของเขาเริ่มทำท่ากรงเล็บ จู่ๆก็เกิดประกายไฟขึ้นมา ประกายไฟยังเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าทึ่ง ภาพประกายไฟและโคมเป็นภาพที่งดงาม
รังสีแสงลอยอยู่ในท้องฟ้าเหมือนกับหิ่งห้อยที่บินกระจายอยู่ในท้องทุ่งมองดูเหมือนภาพฝัน หิ่งห้อยล้อมรอบตัวถังเทียนไม่มีรังสีฆ่าฟัน มีแต่ความเงียบสงบนิ่ง
หลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับวิทยายุทธของเหมิ่งหนานซึ่งดูงดงามแต่เมื่อได้เห็นกับตาตนเอง ทุกคนอ้าปากกว้างจ้องมองท้องฟ้า
กระบี่ของเฉินกงชักออกจากฝักแล้ว จากนั้นถังเทียนจึงได้เห็นว่าบนกระบี่ของเขามีแมลงโปร่งใสนับไม่ถ้วนรวมตัวกันอยู่
กระบี่ของกงเฉินสั่น ตัวกระบี่พลันเปลี่ยนเป็นฝนแมลง เกิดเสียง ซี่ ซี่ เยือกเย็นถึงกระดูกพุ่งเข้าหาถังเทียน
สายตาถังเทียนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาโบกมืออย่างนุ่มนวลและหิ่งห้อยที่เต้นอยู่ในท้องฟ้าบินเข้าหาฝูงแมลงทันที