ตอนที่แล้วตอนที่ 616 ป้อมปราการแห่งฐานไพรกระบี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 618 กงเฉิน

ตอนที่ 617 ข้าก็คือคนสำคัญ!


ถังเทียนไม่รู้ว่าทวีปซางโจวตอนนี้มีศึกใหญ่เขาแต่งตัวอย่างดีดูสุภาพและยังหันไปส่องมองตัวเอง

“เจ้าแน่ใจนะว่าข้าจะต้องแต่งตัวแบบนี้?”  ถังเทียนรู้สึกเหมือนถูกบังคับ

ฮั่นเซินตอบด้วยความมั่นใจ  “ขอรับ, นายท่าน!  ท่านต้องแต่ง!  ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าท่านจะกลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจหลักในงานเลี้ยงสังสรรค์นี้,  มารยาทเป็นสิ่งที่จำเป็น!”

ถังเทียนมองดูท่าทีกระตือรือร้นของฮั่นเซินและตอบอย่างจนใจ “ก็ได้ เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่ว ก็หลิ่วตาตาม!”

“นายท่าน เมื่อท่านเข้าหมู่บ้านใดๆก็ต้องอำนวยตามธรรมเนียมท้องถิ่น!”  ฮั่นเซินปรับความเข้าใจเขา  เขาเป็นคนมากเล่ห์เหลี่ยมอยู่แล้ว  แต่เป็นผู้จัดการโรงแรมมานานเขาจึงกลายเป็นคนที่เข้าใจธรรมเนียมและมารยาทดี

“เจ้าคิดว่าเสียงชาวเมืองมีพลังมากขนาดนั้นหรือ?”ถังเทียนคัดค้าน

มีพลังมาก....

ฮั่นเซินรู้สึกว่าการเถียงเอาชนะเจ้านายด้วยคารมนั้นเป็นเรื่องที่โง่มาก

หลิงเซี่ยที่อยู่ด้านข้างกลั้นหัวเราะจนปวดท้อง

“ก็ได้” ฮั่นเซินถอนหายใจ  “นายท่าน,ได้โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษ และจำไว้ว่าท่านต้องไม่เคลื่อนไหวกระโชกโฮกฮากเกินไป ให้เดินช้าๆและนุ่มนวล”

ถังเทียนตอบเสียงดัง  “วางใจได้น่า วางใจเถอะ เรื่องง่ายๆอย่างนี้สำหรับหนุ่มชาวฟ้านี้ ก็แค่ชั่วโมงมือสมัครเล่น”

“เจ้าสามารถพาองครักษ์ป้องกันตัวไปได้ยี่สิบคน”  หลิงเซี่ยย้ำ “แน่นอนว่า องครักษ์เหล่านี้จะไม่สามารถเข้าไปในอุทยานได้แต่ยืนคุ้มกันอยู่ด้านนอก”

“อย่างนั้นข้าไม่ต้องมีก็ได้”  ถังเทียนโบกมือ

ลานบ้านจำเป็นต้องได้รับการปกป้องในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีบุคคลที่น่าสงสัยมากมายซุ่มซ่อนอยู่ที่ด้านนอกลานบ้านถ้าพวกเขาไม่ระมัดระวังและมีใครบางคนบุกรุกเข้ามา นั่นจะมีเรื่องยุ่งยากเนื่องจากต้องพูดไว้ก่อนว่าห้องค้นคว้าวิจัยของริชาร์ดจูเนียร์มีมูลค่าประเมินเป็นเงินไม่ได้

หลิงเซี่ยไม่คัดค้านเขา  “ก็ได้!”

นางไม่กังวลความปลอดภัยของถังเทียนเลยแม้แต่น้อย  แม้แต่การเดินทางของพวกเขาก็ยังมีผู้คุ้มกันของตระกูลหลิน และในงานเลี้ยงรับรองก็มีความเข้มงวดมากขึ้น  พลังส่วนตัวของเหมิ่งหนานเองก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว  การจะหาเรื่องต่อสู้กับเขาไม่ใช่ง่ายแน่นอน

เมื่อนั่งภายในเรือเล็กของตระกูลหลิน ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าถูกมัดรวมกันเหมือนฟ่อนรวงข้าวซึ่งรู้สึกอึดอัดมาก สูทสีดำสง่างามแบบชาวตะวันตกเมื่อเทียบกับชุดที่ถังเทียนสวมใส่เป็นประจำนับว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

แต่ตรงกันข้ามกับเขาหลิงเซี่ยนั่งลงพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย ถังเทียนมีราศีของผู้นำ และร่างของเขาไม่ใหญ่โตเกินไป  ตรงกันข้าม เขามีรูปร่างสมส่วน ปกติก็ไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อเขาสวมสูท เขาจะดูภูมิฐานและมีลักษณะของชายชาตรี  สีหน้าของถังเทียนค่อนข้างกระด้างและถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะรู้สึกอึดอัดมาก แต่ถังเทียนรู้สึกคุ้นเคยกับการเข่นฆ่าต่อสู้นั่นจึงกลายเป็นความเยือกเย็นที่ไม่อาจอธิบายได้

“คนที่ตัดสูทนี้มันน่าฆ่าให้ตายนัก”  ถังเทียนเกลียดสูท  และใช้คำพูดของเสี่ยวซิ่วซิ่วออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ความจริง ข้าคิดว่ามันดูเหมาะกับเจ้าดี”  หลิงเซี่ยหัวเราะ  “อย่างน้อยเจ้าก็ดูหล่อ  ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นที่ดึงดูดผู้คนมากมายนะ”

ถังเทียนนั่งนิ่งอยู่กับที่เหมือนหุ่น  เขากลัวว่าเขาจะทำสูทฉีกขาด ฮั่นเซินย้ำกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าวัสดุที่ตัดสูทนั้นไม่คงทน ถังเทียนทำขาดกระจุยไปสามชุดแล้วกว่าจะเข้าใจว่ามันเปราะบางเพียงไหน  ทำให้หลายคนไม่พอใจที่ เพราะเขางานเลยดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อน!

‘ก็ได้เนื่องจากข้าไม่มีสูทอื่นเหลือแทนชุดนี้แล้ว ข้าไม่ขยับดีกว่า’

แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่หลิงเซี่ยพูด  เขาพูดอย่างรังเกียจ  “หน้าตาแบบนี้น่ะหรือแค่เสนอหน้าและกินนั่นเป็นเรื่องของเสี่ยวเฮ่อหรือไม่ก็เรื่องของขลุ่ยวิเศษ  สำหรับหนุ่มชาวฟ้านี้ ข้าอาศัยกำปั้นสำหรับคุยเท่านั้น”

ในพริบตาเขาล้อเลียนอาเฮ่อและขลุ่ยวิเศษไปแล้ว  ‘ทำไมพวกเจ้าถึงดูดีกว่าข้านักนะ?’

แม้ว่าหลิงเซี่ยจะไม่รู้ว่าเสี่ยวเฮ่อและขลุ่ยวิเศษเป็นใคร แต่นางสามารถคาดเดาได้ว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร  แต่นางอดทำเสียงดุไม่ได้  “นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าไปงานอย่างนี้  เจ้าต้องจำไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเกิดการยั่วยุใดๆขึ้น เจ้าไม่อาจใช้กำปั้นได้!”

“อย่างนั้นจะให้ข้าใช้อะไร?”  ถังเทียนหงุดหงิด  “ข้าใช้อาวุธอย่างอื่นไม่เป็นเสียด้วย”

หลิงเซี่ยเอามือก่ายหน้าผาก  นางคิดทันทีว่าการมางานเลี้ยงพร้อมกับถังเทียนอาจเป็นความผิดพลาด  แต่ในเมื่อธนูหลุดจากแล่งไปแล้ว  ไม่ว่ายังไงนางก็หวนกลับไม่ได้

“ข้าหมายถึงอย่าใช้กำลัง”  หลิงเซี่ยอธิบายอย่างอดทน  “มีคนสำคัญปรากฏตัวอยู่หลายคน ดังนั้นเราต้องยับยั้งอดกลั้นตัวเองสักเล็กน้อย”

ถังเทียนมองดูเหลิงเซี่ยและพูดอย่างไม่สบายใจ  “ข้าก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งนะ!”

หลิงเซี่ยเงียบ  นางไม่รู้จะตอบยังไง

ถ้านางบอกว่าถังเทียนไม่ใช่คนสำคัญ  หลิงเซี่ยสงสัยว่าเขาอาจจะทำอะไรโง่ๆก็ได้  การหาเรื่องยุ่งยากกับคนสำคัญเพื่อพิสูจน์ว่าเขาก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งนางเชื่อว่าเขาคงจะทำเรื่องอย่างนี้

‘โอวไม่,ข้าไม่ยอมให้เขาก่อเรื่องแบบนั้น!’

ทันใดนั้นหลิงเซี่ยรู้สึกถึงแรงกดดันบนตัวนาง  และภาระรับผิดชอบหนักหน่วงที่นางแบกรับไว้! แม้ว่านางจะไม่เข้าใจว่าบิดานางและคุณชายใหญ่เห็นอะไรในตัวเหมิ่งหนาน  แต่นางรู้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรง

“ถูกแล้ว, เจ้าก็เป็นคนสำคัญ!”  หลิงเซี่ยโพล่งคำออกมา  แต่รู้สึกเหมือนว่านางอยากอาเจียน  นางพยายามหักห้ามใจจากการกระทำเช่นนั้นและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง  “แต่ดูสิ,คนสำคัญนั้นเกี่ยวกับมารยาททั้งหมดก็คือความอดกลั้นของพวกเขา  แม้ว่าใครจะเกลียดกันแค่ไหน พวกเขาก็ยังรักษาท่าทีใจเย็นอยู่ในดวงตาของเขา  ถ้าแค่ต้องพูดกัน และพวกเขาชักดาบออกมานั่นก็เป็นแค่การแสดงพฤติกรรมที่หยาบคายและน่ารังเกียจ!”

หลิงเซี่ยหยุด  นางสังเกตว่าถังเทียนมองดูนางด้วยท่าทีประหลาดและถาม “อะไรเหรอ?”

ถังเทียนถามด้วยท่าทีสงสัย  “เจ้าเคยเห็นคนที่สำคัญและยิ่งใหญ่จริงๆบ้างไหม?”

หลิงเซี่ยสะดุ้ง

ถังเทียนรู้สึกว่าหลิงเซี่ยกำลังพูดไร้สาระอย่างสิ้นเชิง  พญาราชสีห์เลโอน, วิหารเซียน,สิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา ถ้าพวกใดพวกหนึ่งขืนไม่กวัดแกว่งควงอาวุธเนื่องจากทำตัวซึมเซาสงบใจเย็นน่ะหรือ  ถังเทียนมีต่อสู้มานานหลายปีเขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนั้น

“เจ้ารู้ไหมว่าคนยิ่งใหญ่เป็นยังไง?”  ถังเทียนชี้นิ้วและหัวเราะแค่นๆ“ผู้ยิ่งใหญ่คือคนที่กระตือรือร้นหาทางแก้แค้น พวกเขาจะไม่เก็บความเกลียดและความเจ็บช้ำไว้ทั้งคืน ถ้ามีข้อขัดข้องใจพวกเขาจะต้องแก้แค้น แม้ว่าจะเป็นข้อข้องใจเล็กน้อยที่สุด ก็ต้องแก้แค้นให้ยิ่งใหญ่ ถ้าท่านไม่สามารถหาวิธีแก้แค้น ท่านก็จะพกแต่ความแค้น!”

หลิงเซี่ยวตะลึง

“คิดดูสิ,คนสำคัญทั้งหมดนี้ล้วนแต่ทรงอำนาจมาก ทำไมพวกเขาจึงทนกอดกันได้?”ถังเทียนมีท่าทีหยิ่งภูมิใจขณะที่ตบอกของเขา “เมื่อคนยิ่งใหญ่และสำคัญกระทำหลายเรื่อง ใครก็ตามที่กล้าตอแยพวกเขา เราจะซัดพวกมันให้กลิ้ง เตะพวกมันให้ล้มฆ่าพวกมัน เป็นการเชือดลิงให้ไก่ดู!”

หลิงเซี่ยเริ่มคิด  ‘ใช่เรื่องที่เขาพูดก็ถูก  เดี๋ยวก่อน... นี่ข้าถูกเขาล้างสมองแล้วหรือนี่?’

หลิงเซี่ยพลอยเห็นด้วยกับเขาโดยไม่รู้ตัว  “เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู”

“ความจริงเจ้าไม่เคยเห็นคนสำคัญและยิ่งใหญ่มาเลย”  ถังเทียนพูดอย่างมีความสุข  “การเชือดไก่ให้ลิงดู  ได้ผลดีกว่าการฆ่าลิงให้ไก่ดูอย่างไร? ถ้าเจ้าฆ่าลิง  ไก่ยังจะกล้าทำอะไรอีกหรือ?”

หลิงเซี่ยพูดไม่ออกอีกครั้ง  เสียงกรีดร้องในใจนางดังก้อง  ‘นั่นคือเหตุผลที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิงและเป็นการสอนที่อันตราย!  แต่ข้าจะคัดค้านเขาได้ยังไง?’ หลิงเซี่ยตระหนักได้ทันทีว่านางไม่รู้ว่าจะโต้แย้งได้ยังไงจึงได้แต่ตะลึงอยู่กับที่

‘ไม่สามารถเอาชนะเจ้างี่เง่านี่ด้วยเหตุผล...’

‘ถ้าเขาเริ่มต่อสู้จริงๆเพราะมีข้อถกเถียงกันในงานเลี้ยง...’

เมื่อคิดถึงภาพนั้นแล้วหลิงเซี่ยถึงกับสั่น ‘ไม่!ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น!’  นางสูดลมหายใจฟื้นฟูความเยือกเย็น  นางตัดสินใจ จะต้องให้เขาอยู่ข้างตัวนางตลอดเพื่อป้องกันสิ่งที่คาดไม่ถึงไม่ให้เกิดขึ้น

“เจ้าจะมองข้าไปอย่างนั้นเพื่ออะไร?”  ถังเทียนถามอย่างไร้เดียงสา

หลิงเซี่ยตัดสินใจแล้ว  เมื่ออยู่ที่งานเลี้ยง  นางจะไม่ยอมห่างจากเขาแม้แต่นิ้วเดียว

“ยินดีต้อนรับ ท่านเหมิ่ง!”

พ่อบ้านฉู่แห่งจวนเจ้าครองทวีปทักทายด้วยความเคารพ เขารู้ว่าบุรุษหนุ่มเยาว์วัยที่อยู่ต่อหน้าเขามีนิสัยที่ร้ายกาจ  ดังนั้นเขาพยายามรักษารอยยิ้มไว้และชื่นชม  “ราศีของเท่านเหมิ่งในคืนนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างแน่นอน  ข้าสงสัยว่าท่านเหมิ่งจะดึงดูดความสนใจในคืนนี้ได้มากน้อยเพียงใดกันแน่”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้วางแผนมาเพื่อแสดงอารมณ์ขัน  แต่การเยินยอยกย่องทำให้ถังเทียนรู้สึกพอใจมากคุณสมบัติของคนงี่เง่าโผล่ออกมาทันที เขาเริ่มทำท่าแปลกประหลาดต่อหน้าผู้ดูแลจวนเจ้าครองทวีป  “อย่างนั้นหรอกหรือ?  ข้าหล่อมากใช่ไหม?”

โอวพระเจ้า!

หลิงเซี่ยอยากจะแทรกแผ่นดินหนียิ่งนัก

บ่าวรับใช้ที่อยู่ใกล้ๆไม่อาจกลั้นหัวเราะคิกคักได้ พ่อบ้านฉู่ได้แต่กระพริบตาปริบๆ ทำแววตาประหลาด  แต่เขารีบยิ้มทันที“ข้าเชื่อว่าทุกคนอยากจะให้แนะนำตัวท่านเหมิ่งในคืนนี้   อาคันตุกะผู้มีเกียรติทั้งสองท่าน เชิญ!”

เป็นงานเลี้ยงกลางแจ้ง

ท้องฟ้าเพิ่งจะมืดค่ำยังเป็นช่วงต้นยามอยู่ มีโคมราตรีประดับอยู่ตามสนามหญ้าและศาลา อาคาร และน้ำพุมีอาหารเครื่องดื่มมีอยู่ทุกที่และผู้รับใช้ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบประจำคอยเดินวนเวียน

สถานที่ชุมนุมขนาดใหญ่คือสนามหญ้ากว้างใหญ่มีโต๊ะเก้าอี้วางอยู่ภายใต้โคมส่องสว่างไสวเหมือนกลางวัน  เวลานั้น หลายๆคนเพิ่งมาถึงและพวกเขาจับกลุ่มกัน 3-5 คน ทั้งหมดถือแก้วไวน์ในมือพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกัน

ขณะที่ถังเทียนปรากฏตัวขึ้นเกิดความเงียบอยู่ชั่วครู่

แต่ในเวลาอันรวดเร็ว  ทุกคนตระหนักว่าพวกเขาตะลึงไปครู่หนึ่งและเริ่มพูดคุยเสียงดังกลบเกลื่อนความอึดอัดทันที แต่ขณะที่ทุกคนเริ่มพูดคุยเสียงดังกัน กลายเป็นว่ายิ่งพูดเสียงดังทุกคนก็ตกใจกลัวอีกครั้งหนึ่ง

“เศรษฐีคนนั้นชื่อเหมิ่งหนานใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว เขานั่นแหละ!  ถ้าไม่ใช่เขา ตลาดคงไม่ปั่นป่วนอย่างในตอนนี้แหละ”

“เขาไปได้เงินมากมายมาจากไหน?”

“อำมหิตเกินคน!”

……

การซุบซิบพูดคุยเต็มไปด้วยความกลัวและระมัดระวัง  ตรงกันข้ามการสนทนากันระหว่างสตรีดูดีมากกว่า แม้ว่าถังเทียนจะไม่ใช่เป็นคนที่หล่อที่สุด  แต่ร่างกายที่สมส่วนและราศีที่เปล่งออกมาทำให้เขาเฉิดฉายอยู่ในท่ามกลางกลุ่มพวกเจ้าหน้าที่

ถังเทียนเห็นโต๊ะอาหาร  ตาเขาเป็นประกายทันทีเขาเข้าไปนั่งอย่างไม่ลังเลใจเริ่มกินอาหารอย่างไม่เกรงใจใคร

มีท่าทีที่หลากหลายแตกต่างอยู่รอบตัวเขามารยาทในการกินของถังเทียน ในสายตาของคนอื่นถือว่าเป็นการแสดงออกที่ไร้มารยาท

หลิงเซี่ยอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด  นางถือกำเนิดจากตระกูลผู้ดีและแทบจะเป็นสัญชาตญาณสำหรับนางในการประพฤติตามมารยาทของการนั่งโต๊ะอาหาร  ภายใต้การพินิจพิจารณาของทุกคนถังเทียนเป็นคนที่ดื้อด้านมาก นอกจากท่าทีดูเหมือน สายตาเหยียดหยามนางรู้สึกว่าหน้าแดง

ถังเทียนไม่สนใจอะไร

เทียบกับคนแล้วอาหารที่อยู่ต่อหน้าเขาน่าสนใจมากกว่า

เมื่อเจ้าครองทวีปและท่านหญิงโหรวเดินเข้ามาสิ่งที่ต้อนรับพวกเขาก็คือฉากภาพหนึ่ง  เจ้าครองทวีปมีท่าทีที่ดูแคลน ขณะที่ท่านหญิงโหรวอยู่ข้างๆ เขา นอกจากมองด้วยความประหลาดใจแล้วสีหน้าของนางไม่เปลี่ยนไปมาก

หลิงเซี่ยหน้าซีดด้วยความกลัวและตีถังเทียนทันที

ปากของถังเทียนยังคงมีเค้กเต็ม  เขามองดูหลิงเซี่ย และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

‘นี่เป็นครั้งแรกของข้าที่ได้กินอาหารดีๆอย่างนี้’

หลิงเซี่ยผงกหัวไปทางเจ้าครองทวีป  ถังเทียนมองตามสายตานางจึงได้รู้  เขาผงกศีรษะ

หลิงเซี่ยถอนหายใจโล่งอกและลุกขึ้นทันทีเตรียมพาถังเทียนไปทักทายเจ้าครองทวีป

หลังจากนั้นนางถึงรู้ว่าไม่มีความเคลื่อนไหวด้านหลังนาง ‘เขาทำอะไร?’ หลิงเซี่ยหงุดหงิด นางหันหน้าไปดู แต่ต้องตะลึงอีกครา

ถังเทียนยังง่วนกับการกิน

“ไร้มารยาท!”

“ทะลึ่งจริงๆ!”

เสียงคำรามสองเสียงดังพร้อมกันทำให้หลิงเซี่ยกลัว นางหันหน้าไปดูและเมื่อนางเห็นสองคนที่คำราม  หน้าของนางพลันซีดขาว

ถังเทียนที่สนใจกับการกินไม่มีเวลาป้องกันตัว  มือของเขาสั่นและเค้กร่วงลงพื้น  เขามองดูเค้กบนพื้นหญ้า

หน้าของเขาเขียวคล้ำทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด