ตอนที่ 614 ฉวยโอกาส
ในพริบตาเดียวระเบิดที่น่ากลัวของบุรุษหนุ่มที่โยนไปในเมืองทรายขาวก็ถูกลืมเลือนอย่างรวดเร็ว
อะไร,ข้าให้เงินเจ้าไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?
เจ้าบอกว่าราคาสูงพอแล้วไม่ใช่หรือ?นั่นได้ผลใช่ไหม? โอว ถ้ามันได้ผลอย่างนั้นก็ดีไป ดี ดี หนุ่มผู้นี้งานยุ่งและรวยมาก ตอนนี้มีเรื่องล้นมือพวกเจ้าทุกคนคงไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนุ่มผู้นี้แน่
ปัญหาปัจจุบันของถังเทียนก็คือการใช้เงินคืน!
เป็นการใช้เงินอย่างสนุกสนานและสร้างอิทธิพลอย่างมากแต่ในพริบตา เขาจ่ายเงินไปสองสามพันล้าน เงินยืมมา ดังนั้นถังเทียนจึงต้องกระตุ้นให้ปิงถลุงทองดำและรีบใช้ทองดำใช้หนี้ เมื่อปิงได้ยินเรื่องภาระหนี้สินเป็นพันล้านที่ถังเทียนก่อเอาไว้ เขาแทบจะกระอักโลหิต
ถังเทียนกังวลเรื่องการใช้คืนเงิน แต่สวีจินไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ถังเทียนมีเหมืองทองดำ เขาจะขาดแคลนเงินได้ยังไง? แต่ผลตอบแทนของถังเทียนก็ทำให้เขาตาเป็นประกายเช่นกัน และเขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
ธุรกิจอาวุธเกลียดความสงบสุข!
วิธีการของถังเทียนง่ายมากและโหดเหี้ยมจนทำให้ผู้คนขนลุกแหกกฎเกณฑ์ด้วยประการทั้งปวง และก่อให้เกิดความปั่นป่วน เพราะถังเทียน ตลาดจึงเกิดความวุ่นวายและไม่ปลอดภัย มันคือความปั่นป่วน และธุรกิจอาวุธเจริญรุ่งเรือง ธุรกิจของสมาคมการค้าสวีจี้รุ่งเรืองสุดขีด
ถ้ามีคนอย่างเขามามากขึ้น ใครจะรู้ว่าข้าอาจจะทำเป้าในปีนี้ก็ได้
สวีจินมีความสุขอยู่ในใจมาก เขาไม่ได้ทำงานแล้วรู้สึกเบื่อดังนั้นจึงรีบมาคอยล้อมหน้าล้อมหลังถังเทียนเขาอยากรู้อยากเห็นเรื่องของถังเทียนมาก
ขณะเดินเข้าไปในลานบ้านตระกูลหลิง เขาสังเกตเห็นริชาร์ดกำลังวุ่นวายกับการรับข้อมูลเกี่ยวกับสิบสามตระกูล หลังจากที่ทุกคนพบว่าริชาร์ดมีคนหนุนหลังให้ค้นคว้าวิจัย ผู้ค้าข่าวกรองทั้งหมดในเมืองทรายขาวกลับมีชีวิตชีวามากขึ้น หลายๆคนรู้สึกว่าถังเทียนเป็นคนโง่ในเรื่องการใช้เงิน และต้องการจะฉวยโอกาสจากเขา แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาพบกับริชาร์ด
ริชาร์ดไม่ใช่ผู้มีชื่อในเรื่องประมวลข่าวกรอง แต่เขารู้และเข้าใจสิบสามตระกูลลึกซึ้งมากกว่าใครและเขาสามารถแยกแยะข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้และที่ไม่น่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากหลายคนต้องมาชนกับกำแพงอย่างริชาร์ด ชื่อเสียงของริชาร์ดยิ่งเพิ่มมากขึ้นในวงการ
สวีจินที่เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดย่อมรู้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นธรรมดา เขาทักทายริชาร์ดอย่างสุภาพ คนที่มีความสามารถสมควรได้รับความนับถือ
สวีจินเตรียมจะพบถังเทียน แต่ได้รับการบอกเล่าว่าเขากำลังฝึก เขาใจเย็นและเป็นลูกผู้ชายที่สงบจริงๆถึงกับยังมีอารมณ์ฝึก
หลังจากเข้าไปในลานบ้านเขาเห็นบุรุษหนุ่มคนหนึ่งกำลังพึมพำกับตนเอง พูดเรื่อยเปื่อยและไม่สนใจเรื่องอื่น
สวีจินสังเกตว่าเขาดูค่อนข้างเรียบร้อย และหลังจากนั้นชั่วขณะเขาจึงตระหนักได้ว่าบุรุษหนุ่มนั้นดูคล้ายกับริชาร์ด และหลังจากไตร่ตรองอยู่เขานึกขึ้นได้ว่ามีริชาร์ดจูเนียร์อยู่ในกลุ่มของถังเทียนด้วย
สวีจินตอนแรงไม่ต้องการรบกวนริชาร์ดจูเนียร์ แต่เขาได้ยินริชาร์ดจูเนียร์พูดคำว่า ‘วิญญาณ’ เขาอดหยุดเงี่ยหูฟังไม่ได้
หลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้ได้ว่าริชาร์ดจูเนียร์น่าจะค้นคว้าเกี่ยวกับพลังวิญญาณ
เขายิ้มในใจเขาไม่รู้สึกชอบใจ นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของทวีปเกียรติยศชาวยุทธแล้วการค้นคว้าพลังวิญญาณกลายเป็นงานวิจัยที่ได้รับความสนใจที่สุด แต่สวีจินรู้ว่ามันเป็นหลุมลึกมากเพียงไหน ผู้คนนับไม่ถ้วนถลำตัวเข้าสู่งานค้นคว้าและไม่เคยคลานกลับออกมาได้
เข้าใจง่ายๆว่า วัตถุวิญญาณแพงเกินไปและไม่มีโดยทั่วไป
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทวีปเกียรติยศชาวยุทธแก้ปัญหานั้นได้ยังไง แต่เห็นได้ชัดว่า คนอื่นๆไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้
แต่ริชาร์ดจูเนียร์ก็ยังพึมพำคำพูดสองสามคำที่ทำให้สวีจินสนใจ สวีจินเข้าใจและรู้จักพลังวิญญาณมากกว่าคนทั่วไป และทั้งสองคนเริ่มปรึกษาพูดคุยทันที
เมื่อใดก็ตามที่ริชาร์ดจูเนียร์พบกับคนที่มีความสนใจอย่างเดียวกัน เขาจะตื่นเต้นมากและเชิญให้สวีจินเข้ามาดูห้องค้นคว้าของเขาทันที
สวีจินพอใจมากหลังจากได้พูดคุยกัน ความคิดและความรู้ของริชาร์ดจูเนียร์ทำให้ตาของเขาเป็นประกาย เขาตื่นเต้นมากถึงขนาดที่มีความคิดจะอำนวยความสะดวกให้กับการค้นคว้าของเขา
และเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องวิจัยของริชาร์ดจูเนียร์และเห็นหิ้งที่เต็มไปด้วยสมบัติวิญญาณ เขาถึงกับตะลึงทันที
วัตถุวิญญาณ!
ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่กี่ปีอะไรก็ตามที่มีพลังวิญญาณจะถือว่าเป็นสมบัติ ทวีปเกียรติยศชาวยุทธฝึกฝนขึ้นมาได้อย่างไร? เพราะพลังวิญญาณจึงมีความได้เปรียบของพลังวิญญาณ ข้อได้เปรียบตรงที่สำคัญที่สุดก็คือมันมีภูมิปัญญา ถ้าเซียนสามารถสร้างพลังวิญญาณได้ อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถสร้างเซียนพลังวิญญาณ และสรุปกฎธรรมชาติในตัวมันเอง กลไกเช่นนั้นจะทำให้พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นและฉลาดขึ้นและทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
หลังจากเรียกสติกลับคืนมา เลือดของสวีจินดูเหมือนจะไม่เหลืออยู่ในตัวแล้วเขารู้สึกหนาวยะเยือกทันที
หลังจากรู้ว่าวัตถุวิญญาณมาจากถังเทียนสวีจินเบนหางเสือไปหาถังเทียนทันที และขอซื้อวัตถุวิญญาณ
ถังเทียนตกใจ เขาไม่เคยมีความตั้งใจจะขายวัตถุวิญญาณ ถ้าวัตถุวิญญาณปรากฏขึ้นในตลาด อย่างนั้นจะไม่เป็นการบอกทวีปเกียรติยศชาวยุทธว่ามีคนจากสวรรค์วิถีมาปรากฏตัวในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์หรอกหรือ? การดึงดูดความสนใจของทวีปเกียรติยศชาวยุทธในตอนนี้ก็เท่ากับหาเรื่องตาย
สวีจินหวังจะปกปิดความลับของถังเทียนสวีจินตกลงอย่างดีใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอรู้ว่าถังเทียนปฏิเสธขายสมบัติวิญญาณ เขาหวังว่าจะสามารถร่วมงานค้นคว้าของริชาร์ดได้
ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะจากนั้นจึงเห็นด้วย เขายังต้องเห็นแก่หน้าของเจ้าหนี้ของเขาด้วย
สวีจินมีความสุขมาก เขารู้ว่าการค้นคว้าของริชาร์ดจูเนียร์มีศักยภาพกว้างขวางและนั่นคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดในการลงทุน เขารวบรวมอุปกรณ์ของห้องวิจัยทั้งหมดของสมาคมการค้าสวีจี้และส่งมาให้และจากนั้นเขาจึงลงทุนงานค้นคว้าและช่วยเหลือห้องวิจัยของริชาร์ดจูเนียร์มาตลอดหลายปี
เขามีจิตสำนึกและไม่แจ้งข่าวให้หอการค้าสวีจี้ทราบ เนื่องจากเป็นการรักษาชีวิตของเขา
เขายิ่งสงสัยสถานะของถังเทียนมากยิ่งขึ้น มีวัตถุวิญญาณหลายอย่าง เขายังคงเดาและคาดถึงภูมิหลังของถังเทียน
การแสดงออกที่แปลกไปมากของสวีจินดึงดูดความสนใจของไป๋เยี่ยและคนอื่นๆทันที
เมืองสามวิญญาณ
“นี่คืออาวุธเรือรบที่ใช้พิเศษบนเรือรบ เรือรบของพวกเขาทรงพลังมาก ถ้าเราไม่มีเรือรบเป็นของตนเอง เราจะแพ้แน่นอน และข้าตระหนักได้ว่าร่างพลังกายเป็นศูนย์และเรือรบมีความเข้ากันได้เป็นอย่างดี ข้าไม่รู้ว่าจะนำเรือรบมาด้วยยังไงจึงได้มาแต่พิมพ์เขียว วัสดุและอาวุธเรือรบ ทั้งหมดนี้เจ้าลองศึกษาดู”
ถังเทียนบอกเซรีน
สายตาของเซรีนสนใจอยู่ที่อาวุธเรือรบอย่างเดียว อาวุธอย่างหนึ่งที่มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากสวรรค์วิถี มีพลังที่น่ากลัวดึงดูดให้เซรีนหลงใหล
ถังเทียนสำแดงพลานุภาพของปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งทันทีพลังของมันน่ากลัวทำให้ทุกคนตกใจกลัว
ทุกคนหน้าถอดสี ถ้ากองทัพของพวกเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนั้น พวกเขาไม่มีทางตอบโต้ได้เลย
“ช่างมีความสามารถที่ทรงพลังจริงๆ!” ถังโฉ่วพึมพำ ทันใดนั้นเขามีคำถามทันที “สมาพันธ์ชาวยุทธมีเรือรบอย่างนี้ไหม?”
“ไม่, ถ้าพวกเขามี อย่างนั้นใครจะสามารถหยุดพวกเขาได้?” ผีผาตอบอย่างมั่นใจ จากนั้นนางพูดต่อ “ถ้าเป็นกรณีอย่างนี้ก็น่าจะมีความสามารถในการสื่อสารระหว่างวิหารเซียนและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายระหว่างทั้งสองได้ ในกรณีนี้ห้องวิจัยค้นคว้าของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ควรจะอยู่ที่วิหารเซียน!”
“ถูกต้อง”ถังโฉ่วเรียกความรู้สึกกลับมาทันที “เทียบกับพวกเขาแล้ว เราได้เปรียบมากกว่า เราสามารถเอาห้องวิจัยพลังวิญญาณเข้าไปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้และสมบัติดวงดาวของเราเอาไปที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ เราสามารถเอาวัสดุกลับมาสวรรค์วิถีได้และสร้างเรือรบในสวรรค์วิถี เราเพียงแต่จำเป็นต้องเรียนรู้และค้นคว้าดู และเราจะสามารถกำจัดสมาพันธ์ชาวยุทธและวิหารเซียนได้ทันที นอกจากร่างพลังกายเป็นศูนย์ของเราแล้วไม่มีใครหยุดเราได้ สมบัติดวงดาว,สมบัติวิญญาณ นายท่านนำไปที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ก็คือความได้เปรียบของเรา”
คำพูดของถังโฉ่วปลุกเร้าทุกคน
“เวลา สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ก็คือเวลา เราต้องรีบเร่งก่อนที่ประตูดวงดาวจะเปิด นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น ความได้เปรียบของเราจะกลายเป็นศูนย์ไปทันที”
ความตึงเครียดเต็มอยู่ในห้องทันที
เซรีนหัวเราะทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ก็เหมือนกับครั้งสุดท้ายไม่ใช่หรือ เราแค่ทุ่มสุดตัวใช่ไหม? เราไม่ได้ทำมาโดยตลอดหรือ? นอกจากนี้ เรามีความได้เปรียบใหญ่เช่นนั้นอยู่แล้ว ยังดีกว่าครั้งนั้นมาก!”
หมอกควันในใจทุกคนถูกกวาดออกไป และกำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้นทันที
“ถูกแล้ว! เงื่อนไขของเราตอนนี้ดีกว่าครั้งสุดท้ายมาก
“ใช่แล้ว นั่นก็ถูก!”
……
เมื่อเห็นทุกคนตื่นเต้นมาก ถังเทียนรู้สึกว่าเขาไม่มีความยุ่งยากอีกต่อไปทันที
ลานบ้านของหลิงเซี่ยอยู่ไม่ไกลจากร้านน้ำชา สวีจินถูกไป๋เยี่ยและไป๋เสี่ยวฉุดไปนั่งดื่มน้ำชา
ไป๋เยี่ยฝืนหัวเราะ “คนผู้นี้บ้าระห่ำจริงๆ! ถ้าข้าซื้อกองทัพให้เขา ด้วยอารมณ์ของเขา ถ้ามีใครตอแยเขาข้าคาดว่าเขาคงจะเหยียบย่ำพวกนั้นจนราบ”
ไป๋เสี่ยวมีท่าทางหม่นหมองรางวัลค่าหัวของถังเทียนทลายสามัญสำนึกและเหตุผลของเขา การจะทำอะไรฝ่ายหนึ่งก็ย่อมได้ แต่แผนการอยู่ไหน? วิธีการ? แผนจัดการ? ไม่มีเลย มีแต่วิ่งเข้าชนคู่ต่อสู้เพื่อใช้เงินจัดการ...
นั่นมันวิธีการอะไรกัน?
เมื่อคิดว่าใครก็ตามที่จะตอแยกเขาในอนาคต โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำรางวัลสองสามพันล้านจะบินออกไปอีกครั้งเพื่อกำจัดศัตรูของเขาอย่างสิ้นเชิงไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันกันตลอดไป
จุดที่สำคัญคือนั่นเป็นการทำลายกฎ นั่นไม่ใช่วิธีที่ตระกูลระดับสูงใช้จัดการ ทุกคนมีเงิน ถ้ากระทำอย่างนั้นเขามีแต่จะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลใหญ่โดยเปิดเผย
“แต่นั่นมีอะไรที่เกี่ยวกับเราเล่า?” สวีจินที่เข้าข้างถังเทียนเต็มที่พูดอย่างไม่พอใจนัก“ที่สำคัญคือเพราะเงินเท่านั้น ข้าสามารถขายให้เขา เราไม่มีอะไรต้องกลัวเมื่อถึงเวลาสงคราม”
“เจ้าก็ถือโอกาสขูดกำไร!” ไป๋เยี่ยพูดอย่างเหยียดหยาม
“นั่นก็ถูก! ข้าอยู่วงการนี้อยู่แล้ว!” สวีจินตื่นเต้น “ผู้อาวุโส ถ้าท่านกลัวเขาจะหาเรื่องยุ่งยาก นั่นก็ดีเหมือนกันท่านลุงสามารถส่งกองทหารให้ข้าก็ได้ ข้าจะซื้อจากท่าน”
สวีจินไตร่ตรอง เขาต้องการได้รับความโปรดปรานจากถังเทียน เนื่องจากหัวใจของเขาทุ่มให้กับวัตถุพลังวิญญาณไปหมด เขาเห็นได้ชัดว่านั่นเป็นการพนัน ถ้าเขาชนะ อนาคตของเขา ลูกของเขา ไม่ไม่ ครอบครัวของเขาจะรุ่งเรืองไปอีกหลายชั่วคน ถังเทียนคือผู้ร่ำรวยแท้จริง ถ้าเขาพลาดไป เขาจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิตและหลายรุ่น
มีบางอย่างผิดปกติ!
บางอย่างผิดปกติแน่นอน!
ไป๋เยี่ยและไป๋เสี่ยวมองหน้ากันเอง ไป๋เยี่ยหัวเราะ “เขาจะหาเรื่องลำบากเข้ามาหาตัวแน่นอน ถ้าเจ้าอยากได้รับความโปรดปรานจากน้องเหมิ่ง ก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น เพียงแต่ใช้พลังรุนแรงอย่างแท้จริงก็สามารถทำเช่นนั้นได้ น้องเหมิ่งห้าวหาญมาก ห้าวหาญถึงขนาดที่ไม่มีอะไรห้าวหาญไปกว่านี้แล้ว! กองทัพที่ข้าเลือกให้เขาเดินทางมาแล้ว”
สวีจินเป็นบุรุษที่มีประสบการณ์โชกโชน และเขาตระหนักได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเขาหัวเราะ “ผู้อาวุโสไป๋ช่างมีเครือข่ายที่ลึกซึ้งจริงๆ”
สวีจินที่เรียกความรู้สึกคืนกลับมาได้แล้วเป็นคนที่ลื่นไหลอยู่อยู่แล้วเขาไม่ยอมให้ข้อมูลรั่วไหล
ลุงและหลานตระกูลไป๋อดติงเขาไม่ได้
“ข่าวเร็วๆ นี้ไม่ดีเลย” ไป๋เสี่ยวกล่าว “ตลาดตกอยู่ในความยุ่งเหยิง มีข่าวลือไปทุกที่ ดูเหมือนมีการฆาตกรรมอยู่สองสามคดี และหลายคนวิพากษ์วิจารณ์กล่าวโทษว่าพี่เหมิ่ง คิดว่าเขาเป็นคนทำลายกฎหมาย
“ใครบางคนต้องการต้านเขา” สวีจินเป็นคนที่มีประสบการณ์ และพูดได้โดยไม่ลังเล “อาจจะเป็นเหออิง เขาคือคนที่น่าสงสัยที่สุด”
“ถูกแล้ว” ไป๋เยี่ยถอนหายใจ “เร็วๆ นี้ทวีปทรายขาวตกอยู่ในสถานการณ์วุ่นวาย ข้าหวังว่าน้องเหมิ่งจะไม่ถูกดึงเข้าไปในเรื่องนี้”
สวีจินฝืนหัวเราะ “ผู้อาวุโส ท่านเข้าใจถูกแล้ว”
ลุงหลานตระกูลไป๋สะดุ้ง ทั้งสองคนมองไปตามสายตาที่สวีจินกำลังมองดูและตกใจทันที
“คุณชายใหญ่!”
“หลิงเซี่ย!”
หลิงเซี่ยและคุณชายใหญ่ปรากฏตัวที่ทางเข้าลานบ้านตระกูลหลิง