ตอนที่ 610 คนรวยซื้อกองทัพ
ไม่มีใครคิดว่าถังเทียนต้องการซื้อกองทัพจริงๆ พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าใครต้องการซื้อกองทัพก่อน
สวีจินที่มักสงบอยู่ได้ทุกสถานการณ์ต้องฝืนยิ้มในที่สุด “ท่านเหมิ่งทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจจริงๆ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องกองทัพจะสามารถซื้อกันได้”
ไป๋เยี่ยลูบคางและพึมพำกับตนเอง “เอ่..เสี่ยวเหมิ่งแม้ว่าความคิดของเจ้าจะไม่สำเร็จได้ง่าย แต่ก็ค่อนข้างสร้างสรรค์ เจ้าจะต้องเอาเหมืองทองไว้กับเจ้า มันก็คงจะไม่ถูกนะถ้าเจ้าไม่มีทหารสักกองพลหนึ่ง”
หน้าที่ยิ้มของสวีจินเฝื่อนลงทันที “ท่านเหมิ่ง ถ้าท่านต้องการของประเภทอาวุธ ต่อให้เป็นระดับทอง ข้าก็คิดหาทางได้ แต่สำหรับกองทัพนี่...”
“ข้าซื้อไม่ได้หรือ?” ถังเทียนผิดหวัง ความคิดสะดุดอยู่กับที่ สิ่งที่เขาขาดแคลนจริงๆไม่ใช่อาวุธหรือเงินคลาวด์ แต่เป็นคน พื้นฐานของกองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงต่ำจนน่ากลัวเกินไป สือเซินไปรับสมัครกองพลปีศาจทวีปโยวโจว แต่ก็ได้คนเพียง 500 คน
ถ้าเขาสามารถซื้อกองทัพได้ แม้ว่าพวกเขาอ่อนแอไปบ้างแค่โยนพวกเขาให้ปิงก็จะทำให้เขามีประโยชน์
“ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สามารถซื้อกองทัพได้ เพียงแต่เราจำเป็นต้องคิดหาทาง” ไป๋เยี่ยถอนหายใจ “กองทัพทหารมีแต่เจ้าครองทวีปจึงจะมีได้ ถ้าเราค้นดูสักนิด เราจะพบว่าทวีปที่มีสภาพการเงินไม่ดี สร้างกองทัพจำเป็นต้องอาศัยเงิน ถ้าพวกเขาขาดแคลนเงินทุน พวกเขาก็ไม่อาจตั้งกองทหารได้ แต่ทวีปขนาดใหญ่จะไม่เป็นเช่นนั้น มีแต่ทวีปเล็ก ดังนั้นเราสามารถเริ่มจากตรงนั้นได้ โอว, เรายังชิงพวกเขาเอามาได้ เริ่มตั้งแต่ผู้บัญชาการ เนื่องจากเจ้ามีเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการเหล่านั้นที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสำคัญดึงพวกเขามาทีละคน”
สวีจินตาเป็นประกาย ไป๋เสี่ยวหลั่งเหงื่อทั่วตัว ลุงรองเจ้าเล่ห์จริงๆ
“ผู้บัญชาการของทวีปเล็กเหล่านั้นต้องใช้เงินเท่าไหร่?” ไป๋เยี่ยแค่นเสียง “20ล้านคลาวด์ก็น่าจะพอ เพราะค่าจ้างนายทหารขั้นต่ำแต่ละคนก็ 5 ล้าน พวกทหารจะมีมูลค่าน้อย จะให้ดีที่สุดถ้าเจ้าสามารถอพยพครอบครัวพวกเขา ตราบเท่าที่ครอบครัวพวกเขาเต็มใจย้าย ก็ต้องใช้ 1ล้านสำหรับเตรียมจัดการให้พวกเขา เจ้าจะรับคน1000 คนก็ต้องใช้เงินพันสองร้อยล้าน ตอนนี้เจ้ามีเงินแล้วเจ้าควรเรียนรู้วิธีใช้เงินของเจ้า”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็เป็นไปได้” สวีจินเพียงแค่ไม่เคยทำธุรกิจทำนองนี้มาก่อนเท่านั้น แต่ทันทีที่ไป๋เยี่ยพูดถึง เขาก็รู้ตัวได้ไวด้วยการค้ำประกันของสมาคมการค้าสวีจี้ การค้นหากองทัพจากทวีปเล็กน้อยจะเป็นงานง่าย และเจ้าครองทวีปจะไม่มาหาสมาคมการค้าสวีจี้เพื่อแก้ปัญหาได้ยังไง?แค่ใช้เงินไปบ้างก็ปิดตาของพวกเขาได้แล้ว
สวีจินตระหนักได้ดีถึงข้อได้เปรียบการชิงเอากองทัพมา พวกเขาต้องการเครื่องไม้เครื่องมือและนั่นจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง
“ผู้บัญชาการจำเป็นต้องแข็งแกร่ง” ถังเทียนย้ำ
“เสี่ยวเหมิ่งช่างรอบคอบ” ไป๋เยี่ยชม “คุณสมบัติทั้งหมดของทหารในกองทัพขนาดเล็กกว่าจะไม่อาจเอาไปเทียบกับกองทัพขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นเจ้าต้องตรวจสอบความแข็งแกร่งของผู้บัญชาการทหารแน่นอน ถ้าผู้บัญชาการแข็งแกร่งมีมาตรฐานสูง อย่างนั้นพลังของกองทัพก็จะไม่แย่เกินไป และมาตรฐานฝึกฝนมาจะต้องไม่ต่ำทราม ด้วยการผสานพลังทั่วไป, ต่อให้ไม่สามารถปฏิบัติการบนเรือรบหลักได้ แต่พวกเขาก็ต้องสามารถปฏิบัติการบนเรือโจมตีเร็วได้โดยไม่มีปัญหา”
ถังเทียนคิดขึ้นมาได้เรื่องที่เสี่ยวไป๋พูดถึงทองดำเหมาะกับการผลิตอาวุธเรือรบ เขาคิดถึงป้อมไพรกระบี่ซึ่งสร้างขึ้นด้วยทองดำ มันสามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธเรือรบได้หรือ? อย่างนั้นป้อมไพรกระบี่ก็มีความสามารถสร้างพลังโจมตีได้ไม่ใช่หรือ?
“ข้ายังคงต้องการอาวุธแบบพิเศษ” ถังเทียนยกมือ
สวีจินสีหน้าเปลี่ยน “ท่านเหมิ่งต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจอาวุธด้วยหรือ?”
“ไม่, ข้าต้องการเปลี่ยนป้อมปราการข้า” ถังเทียนใช้มืออธิบาย“ข้ามีปราสาทหลังหนึ่งสร้างด้วยทองดำ”
คนที่อยู่รอบๆเงียบทันที ทุกคนจ้องมองถังเทียนปากอ้าค้าง
“ปะ..ปะ ปราสาททำด้วย ทะ ทะ ทอง..ดำ?” สวีจินตะกุกตะกัก สีหน้าของเขาเหมือนกับเห็นผี
ทองดำที่ราคาคิวบิคละ300 ล้าน ใช้สร้างปราสาท..
สวีจินไม่กล้านึกถึงภาพนั้น
ไป๋เยี่ยตะลึงและมองถังเทียนอย่างว่างเปล่า
“ใช่, แต่ว่าปราสาทเล็กไปหน่อยปัจจุบันนี้เรากำลังขยาย” ถังเทียนลูบหน้าผาก “เนื่องจากทองดำใช้เป็นอาวุธเรือรบได้ อย่างนั้นข้าก็สามารถเปลี่ยนบางส่วนของปราสาทให้เป็นอาวุธของเรือรบได้สินะ? นั่นจะต้องทรงพลังอย่างแน่นอน!”
ในที่สุดสวีจินก็ฟื้นจากอาการตกใจไร้ชีวิตชีวา เขาเริ่มกระตุกและพูดไม่หยุด “ทองดำ!นั่นมันทองดำ! เจ้าเอาไปใช้สร้างปราสาทจริงๆ! เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้ารวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปเผาเล่นที่ไหนแล้วหรือ? ข้าจะให้ส่วนลดเต็มที่! ให้ฟรีเลยเอ้า! อย่าทำเสียของเลย ขายให้ข้าเถอะ! ขายมันทั้งหมดให้ข้า! เจ้าต้องการสร้างป้อมปราการ ข้าจะขนส่งวัสดุก่อสร้างไปให้ป้อมปราการของเจ้า ขนส่งให้ฟรีๆ เลยคิดว่าดีไหม?”
ไป๋เยี่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเขาแค่นเสียง “ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”
ฉินอวี่หรันและไป๋เสี่ยวตะลึงจนตัวชา
ถังเทียนตกใจหนักกับอาการกระตุกของสวีจิน “วัสดุเหล่านี้ดีกว่าทองดำอีกหรือ?”
สวีจินรู้สึกเหมือนกับว่าร่างจะล้มลงเสียให้ได้ วัสดุแบบไหนยังจะดีกว่าทองดำ? ทำไม ทำไมเจ้าถึงได้ใช้วัสดุดีดีๆแบบนั้นเพียงแค่สร้างป้อม?
พวกคนรวยมองโลกกันแบบไหน....
เขาเลิกพยายามแล้ว “ผู้เชี่ยวชาญอาวุธเรือรบเป็นพวกที่หาได้ยาก แต่พวกที่มีความรู้ความชำนาญและทักษะความแข็งแกร่งยังพอรับสมัครได้ง่าย เจ้าต้องการเท่าใด?”
“ราคาจ้างพวกเขาแพงไหม?” ถังเทียนถาม เนื่องจากเขาไม่แน่ใจ
เพราะบางเหตุผลสวีจินถอนหายใจ.. ในที่สุดเจ้าก็รู้ว่าอะไรคือความแพง...
“ก็ไม่ถูก, ค่าใช้จ่ายในการโยกย้ายปักหลักครอบครัวพวกเขาก็ราว 10 ล้าน”
ก็นับว่าราคาไม่ถูกจริงๆ!
ถังเทียนคิดสีหน้าจริงจัง “ถ้าอย่างนั้นรับมา 100 คน”
สวีจินแทบจะบ้า “เจ้าต้องการผู้เชี่ยวชาญอาวุธเรือรบมากมายไปทำบ้าอะไร? ผู้เชี่ยวชาญอาวุธเรือรบ 100 คนเจ้าต้องการไปทำอะไรปานนั้น? สิบ สิบคนก็พอแล้วสำหรับสร้างป้อมอาวุธเรือรบ!”
อย่างนั้นเหรอ,ถังเทียนคิดเล็กน้อย “อย่างนั้นสิบคนก็ได้เปลี่ยนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ผู้เชี่ยวชาญเรือรบ, ผู้เชี่ยวชาญวัสดุ,ผู้เชี่ยวชาญอาวุธ ผู้เชี่ยวชาญเกราะ ข้าจะสร้างห้องค้นคว้าวิจัยให้พวกเขา”
สวีจินยอมแพ้และตอบอย่างอ่อนแรง “ห้องค้นคว้าวิจัยก็คือหลุมที่ไร้ก้น”
ไป๋เยี่ยยังคงแนะนำ “ใช่แล้ว เสี่ยวเหมิ่งอ่า..ห้องค้นคว้าวิจัยและเป็นตัวกินเงินเกือบทั้งหมด ตอนนี้ ร้านค้าทั้งหมดเหล่านั้นได้สร้างชื่อไว้และสั่งสมประสบการณ์และภูมิปัญญาไว้มาก”
“มันก็ถูก อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถใช้อะไรได้มาก” ถังเทียนโบกมือ เขามีความคิดเป็นของตนเอง เขาไม่ต้องการให้พวกเขาสร้างอาวุธพิเศษเฉพาะ แต่จะผสานระบบของสวรรค์วิถีและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เข้าด้วยกัน แต่เขาจำเป็นต้องได้ผู้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าเขาจะมีเซรีน แต่เซรีนจำเป็นต้องได้ผู้ช่วย ถังเทียนต้องการเตรียมพวกเขาให้เป็นผู้ช่วยของเซรีน
“ตราบใดที่เจ้ายินดี” สวีจินไม่ใส่ใจแนะนำเขาต่อไป เขาไม่มุ่งสนใจเงินอีกต่อไป ทำให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการ “แล้วเรื่องกองทัพล่ะ? เจ้าต้องการเท่าใด? อีกอย่างจะดึงทหารมาเจ้าต้องเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ หาทหารมาไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเจ้าหาอุปกรณ์เครื่องมือให้พวกเขาได้ พวกเขาก็จะสู้กับเราเอง”
“นั่นต้องใช้เท่าใด?” ถังเทียนถาม
“ถ้าเจ้าพูดถึงมาตรฐานธรรมดาต่อคนก็ห้าแสนคลาวด์ถึงจะคุ้มค่าอุปกรณ์ ถ้าต้องการดีขึ้นมาอีกสักเล็กน้อย นอกจากราคาต่อคนสามล้านคลาวด์ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ชั้นสูงก็ได้ เนื่องจากคุณภาพของทหารยังไม่สูงมาก อย่างนั้นอุปกรณ์ของกองทัพจะมีค่าใช้จ่ายสามพันล้านคลาวด์”
ไป๋เยี่ยกระโดดผาง “นั่นเป็นการจัดสรรกองทัพระดับเงินใช่ไหม? พวกเขาต้องการอาวุธดีขนาดนั้นจริงๆ หรือ? สมาคมการค้าสวีจี้ปล้นกลางวันชัดๆ?”
เมื่อเห็นว่าถังเทียนไม่มีปฏิกิริยาใด ไป๋เยี่ยแบบโห่ร้องในใจ “คนรวยรุ่นใหม่” แต่ก็ยังทนอธิบายว่า“เสี่ยวเหมิ่ง ไม่คิดว่าเพิ่มไปอีกสี่พันล้านจะเพียงพอจัดตั้งกองทัพหรือ นั่นเป็นแค่ราคาตั้งต้น เจ้ายังจำเป็นต้องบำรุงรักษากองทัพ เงินเดือนค่าใช้จ่ายในการฝึกฝน ค่าบำรุงอุปกรณ์อาวุธ จำเป็นต้องใช้เงิน จากการจัดสรรของเจ้ากองทัพหนึ่งมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยปีละสองพันล้าน เจ้ารู้ไหมนั่นคือมาตรฐานอะไร? นั่นคือการจัดกองทัพระดับเงินอย่างเห็นได้ชัด!”
พวกมือดีทุกคนล้วนต้องใช้เงินหล่อเลี้ยงกันทั้งนั้น ทุกการฝึกฝนของพวกเขาจำเป็นต้องมีเงินมหาศาลค่าใช้จ่ายในกองทัพชั้นยอด ต้องใช้งบประมาณมหาศาล
ปีละสองพันล้านนั่นเป็นจำนวนที่ทวีปเล็กน้อยไม่สามารถจ่ายได้
“ถ้าเป็นสองพันล้าน งั้นก็ใช้สองพันล้าน ถ้ามาตรฐานของพวกเขาสูงพอข้ายินดีจ่ายสามพันล้านด้วยซ้ำ” ถังเทียนพูดเด็ดขาดทำให้คนที่เหลือตะลึงทันที
ไป๋เยี่ยไม่รู้จะพูดอะไรสงบจิตใจตนเองลงได้ “ให้ข้าจัดการเรื่องนี้เองก็ได้ ด้วยเงื่อนไขทั้งหลายเหล่านี้ยังจำเป็นต้องแก่งแย่งอีกด้วยหรือ? นี่คือมาตรฐานของกองทัพระดับเงินแล้ว ขนาดผู้ที่ไม่คู่ควรยังต้องเร่งก้าวหน้าเพื่อเข้าร่วมให้ได้! แต่เสี่ยวเหมิ่งเจ้าต้องรับรองก่อนนะว่าเจ้าสามารถจ่ายได้ถึงสองพันล้านคลาวด์”
สวีจินกังวลทันที “ผู้อาวุโส,เราบอกแล้วว่านี่คือธุรกิจของสมาคมการค้าสวีจี้ของเรา สมาคมการค้าสวีจี้ของเรามีความสามารถด้านนี้อยู่แล้ว”
มันไม่ใช่แค่ธุรกิจ ไป๋เยี่ยพูดถูก เงื่อนไขที่ดึงดูดใจเช่นนั้นบรรดาผู้นำทหารนักวางแผนและมีใจทะเยอทะยานย่อมต้องการความก้าวหน้าแน่นอน
ทั้งสองคนทะเลาะกันอีกครั้ง เมื่อถังเทียนห้ามพวกเขา “ท่านทั้งสองหาคนละกองทัพก็ได้ ข้าต้องการเพียงคุณภาพที่ดีที่สุด!”
“ไม่มีปัญหา! ข้าอยู่ในกองทัพมาหลายปีแล้ว ข้ารู้วิธีดูมาตรฐานด้วยรูปลักษณ์ บรรดาคนรู้จักเก่าแก่และสหายก็มีคนที่มีบุคลิกเหี้ยมหาญอยู่สองสามคน” ไป๋เยี่ยตบอก
การดูแลเรื่องกองทัพของไป๋เยี่ยยังดีกว่า เนื่องจากพวกเขาได้อานิสงส์จากความมั่งคั่งของตระกูลไป๋ และเมื่อแม่ทัพทหารผู้ไม่มีภูมิหลัง ไม่ว่าจะมีสัญญาอย่างไร,ก็ได้แต่อยู่ในกองทัพระดับบรอนซ์ไม่สามารถก้าวหน้าได้
เกี่ยวกับสถานที่ทรัพยากรมีจำกัด
ไป๋เยี่ยรู้เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับพวกที่ยังไม่พอใจ จะต้องดึงดูดพอคุ้มพอจะเสี่ยงชีวิต จำนวนทหารระดับบรอนซ์ในดาราจักรเซียนศักดิ์มีมากมายพอๆ กับขนโค และแน่นอนพวกเขาไม่ขาดคู่แข่ง แต่พวกเขาจะต้องไปขุดเอามาจากทหารระดับบรอนซ์ การไปเอามาจากกองทัพเงินนั่นแสดงว่าไม่มีปัญหาเรื่องเงินอีกต่อไป
“สมาคมการค้าสวีจี้มีเครือข่ายในโลกทหารอย่างกว้างขวาง เราจะช่วยท่านเหมิ่งคัดกรองกองทัพที่ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุด” สวีจินพูด เขาตั้งใจไว้แล้ว จะต้องเลือกและจัดกองทัพให้ดีกว่าไป๋เยี่ย
ถังเทียนมีความสุข
ไป๋เยี่ยและสวีจินรู้สึกว่ามันแพง แต่ถังเทียนคิดว่ามันถูกมาก “เรือรบก็ราคาเกินหกหมื่นล้านแล้วกองทัพจะราคาเท่าใด”
เมื่อได้ยินความคิดของถังเทียนไป๋เยี่ยหัวเราะลั่น “เจ้าไม่อาจคิดอย่างนั้นได้ ตอนนี้สิ่งที่เจ้าเสนอก็คือการบำรุงรักษาและเงินเดือนของกองทัพระดับเงินขั้นต้นและไม่ใช่กองทัพเงินที่แท้จริง พวกเขายังเป็นกองทัพบรอนซ์ที่ปรารถนาจะเติบโตเป็นกองทัพระดับเงินซึ่งนั่นไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่ว่ากองทัพบรอนซ์ทั้งหมดจะกลายเป็นกองทัพระดับเงินได้ และไม่มีใครรู้ว่าจะต้องใช้เงินและใช้เวลามากเท่าใด ห้าปี? หกปี? กองทัพระดับเงินที่แท้จริงไม่ใช่แค่เพียงหกหมื่นล้าน กองทัพระดับเงินมีค่ามากกว่าเรือรบลำหนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนมาหาตระกูลไป๋และขอทหารระดับเงินไปช่วยสนับสนุนเขา เจ้ารู้ไหมว่าต้องใช้เงินมากเท่าใด?”
ถังเทียนสงสัย “เท่าไหร่?”
“ห้าหมื่นล้าน!” ไป๋เยี่ยพูดด้วยความภูมิใจ “เมื่อทหารของเขาพบข้า พวกเขากลัวมากถึงกับปัสสาวะราดกางเกง ข้ายังไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย และข้าก็โค่นไปสองทวีปราวกับเป็นการละเล่นอย่างนั้น ห้าหมื่นล้านนี้ข้าได้รับมาอย่างสบายๆ แต่น่าเสียดายธุรกิจแบบนั้นไม่ค่อยได้พบเจอ แต่เจ้าจะรู้ในอนาคต กองทัพใดๆก็ตามเมื่อพูดถึงผลกำไร ถ้าเจ้ามีเงินอย่างนั้นเจ้าก็จำเป็นต้องใช้ แต่นี่ใช้ได้กับมหาอำนาจเล็กๆ ถ้าศัตรูของเจ้าเป็นมหาอำนาจใหญ่ อย่างนั้นปัญหาก็จะซับซ้อน ตัวอย่างเช่น ทวีปทรายขาว ไม่ว่าเจ้าจะใช้เงินมากเท่าใดก็คงไม่มีใครรับงานแน่”
ถังเทียนตกตะลึงทันที