ตอนที่ 609 จะปล้นหรือรับสมัครงาน?
“ท่านแขกผู้มีเกียรติบัตรของท่านถูกจัดเตรียมไว้ให้แล้ว มีทองอยู่ทั้งหมด 9090 หักภาษีร้อยละสิบ ชิพนี้เป็นของขวัญจากห้องอัญมณีในฐานะเป็นของที่ระลึก นี่เป็นชิพแรกที่ท่านแขกผู้มีเกียรติใช้เล่นชนะพนันถึงสองครั้ง ขออวยพรให้ท่านแขกผู้มีเกียรติโชคดีตลอดไป” สตรีสาวงามจากต่างเผ่าพันธุ์มาเคาะประตูห้องแทบจะทันทีเมื่อเย่ว์หยางกลับเข้าไปในห้องพักของเขา นอกจากจะได้รับบัตรทองแดงที่มีอักษรรูนสวรรค์อยู่ในนั้นแล้วนางยังคงยื่นชิพพนันที่ทำอย่างประณีตให้อี้หนาน
“โอว, ขอบคุณมาก!” อี้หนานยังคงรู้สึกว่านี่คือเครื่องรางที่นำโชคมาให้นางนางจึงยอมรับไว้ด้วยความยินดี
“.....” อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางยังคงสงบและสำรวมอยู่ เขารับบัตรทองแดงและรีบปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว
“เรากลายเป็นครอบครัวที่มีเงินออมถึงหมื่นเหรียญทองในช่วงเวลาสั้นๆทำไมเจ้าถึงไม่มีความสุขเล่า?” อี้หนานถามและยิ้มขณะที่นางโอบคอเย่ว์หยางเขย่งปลายเท้าและจูบเขา
“เราอาจตกอยู่ในความยุ่งยากเล็กน้อย เรือลำนี้อาจจะถูกทำลาย ข้ากำลังตัดสินใจว่าจะกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ดีหรือไม่ ถ้าเรากลับเข้าไป เราอาจไม่สามารถเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ แต่ถ้าเราไม่กลับเข้าไป ก็อาจตกอยู่ในอันตราย” เมื่อเห็นว่าอี้หนานไม่เข้าใจ เย่ว์หยางลดเสียงเบาลง “มีบางคนต้องการจะระเบิดเรือ ข้ารู้สึกถึงคลื่นพลังมหาศาลได้”
ทันทีที่เขาพูดจบประโยค เสียงระเบิดดังได้ยินชัดเจนทันที
หลังจากการระเบิดขนาดใหญ่ ก็รู้สึกได้ถึงแรงอัดขนาดมหึมา
แต่เย่ว์หยางใช้มือทั้งสองป้องกันนางเอาไว้อี้หนานจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด นางใช้นิ้วอุดหูตัวเองเอาไว้ เมื่อเห็นห้องพังถล่มและสิ่งของแตกกระจาย นางอดแลบลิ้นไม่ได้
รอบๆ ด้านสงบลงภายในไม่กี่วินาที จากนั้นจึงค่อยมีเสียง ไม่ต้องรอให้ผู้คนพบว่ามีอะไรเกิดขึ้น ระฆังเตือนภัยก็ดังขึ้น จากนั้นเสียงของลูกเรือประกาศออกมา “ท่านแขกผู้มีเกียรติประจำเรือมีกลุ่มโจรสลัดอยู่บนเรือ โปรดอยู่ในความสงบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราจะขับไล่ศัตรูและปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนไว้อ๊า อ๊า...”
ก่อนที่คนผู้นั้นจะพูดจบ ดูเหมือนเขาถูกใครบางคนฆ่า
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนที่เหมือนกับหินก้อนมหึมาถูกโยนลงในทะเลสาบนิ่ง,เหมือนกับไม้ตีรังผึ้ง ก่อให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนตามมา ในห้องเรือเสียงกรีดร้องดังขึ้นตามๆ กันมาบ้างก็มีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ บ้างก็ทำลายห้องพักหนีไปตามทิศทางที่ปลอดภัย บรรดากลุ่มคนทั้งหมดที่พยายามหลบหนีบางพวกก็หนีออกไปโดยไม่ทันแต่งตัวให้เรียบร้อย ส่วนใหญ่เป็นทหารรับจ้างและสาวงามจากในเรือ
“โอวพระเจ้า มีโจรสลัดอยู่บนเรือ โจรสลัดกำลังปล้นทรัพย์สิน หนีเร็ว หนีเร็ว!”
“เป็นกองโจรกลุ่มหนึ่งและมีมากมายหลายคน....”
“เฮ้ย..ข้าหากางเกงข้าไม่เจอ.. โธ่เว้ย ใครก็ได้ให้ข้ายืมกางเกงหน่อย?”
“ฮึ่ม!” ทหารรับจ้างร่างผอมและสาวเผ่าม้าน้ำก็หลบหนีอยู่ในกลุ่มผู้คนด้วยเช่นกัน
พวกเขายังจงใจทำให้ทหารรับจ้างรอบๆ แตกตื่นมากยิ่งขึ้น
เย่ว์หยางหลับตารอจนกระทั่งเหตุการณ์ด้านนอกค่อยสงบลงจากนั้นผงกศีรษะเบาๆให้อี้หนานซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขา และพูดยืนยันว่า “มีคนปล้นเรือจริงๆ และพวกเขาเป็นกลุ่มที่ใหญ่มาก มีจำนวนพลราวพันคนรายล้อมเรือเอาไว้ และยังมีการวางระเบิดบนเรืออีกด้วยกระทั่งมีบางคนคอยแจ้งข้อมูลให้คนภายนอก นำพวกเขามาที่นี่ มันน่าจะเป็นการส่งสัญญาณรูปแบบหนึ่งโดยวางสายไว้ภายในรออยู่ก่อนแล้วโจมตีพร้อมกัน.... หัวหน้าของโจรพวกนี้ไม่ธรรมดา,โจมตีเรือสำราญขนาดใหญ่แบบนั้นและดำเนินแผนการได้ราบรื่น คนที่มีความสามารถขนาดนั้นย่อมทำงานได้ดี”
“งั้นเจ้าน่าจะอยู่ที่นี่เพื่อดูว่าจะเปิดเผยได้ยังไง ข้าจะกลับเข้าไปก่อน” อี้หนานจูบแก้มเย่ว์หยางด้วยความรักพลางหัวเราะคิกคัก
“ความจริงเจ้าสามารถอยู่ต่อได้ เพียงแต่ต้องไม่ลืมว่าสถานะของเรา เราเป็นคนธรรมดามีพลังและสถานะเพียงเล็กน้อย โจรพวกนี้ไม่ได้ปล้นเรา ข้าคาดว่าเป้าหมายของพวกเขาก็คือพวกคนชั้นสูงที่มีทองมากๆ ฮ่าฮ่าเราสามารถฉวยโอกาสจากวิกฤตินี้เก็บเกี่ยวอะไรบางอย่างได้บ้าง มาเถอะข้าจะพาเจ้าไปหาเรื่องตื่นเต้นกัน” เย่ว์หยางต้องการจะส่งอี้หนานกลับในตอนแรก แต่เมื่อเห็นว่าโจรสลัดที่ปล้นเรือเหาะไม่ใช่คนธรรมดา เขาแน่ใจว่าพวกเขาต้องไม่สนใจคนที่ไม่สำคัญอย่างเขา เขาจึงต้องการพาอี้หนานออกไปผจญภัย
“ขโมยอะไรเหรอ?” อี้หนานกระตือรือร้นอยากลองหลังจากได้ฟัง
อี้หนานเคยใช้ชุดขโมยมาแล้ว แต่นางไม่เคยขโมยอะไรมาก่อนในชีวิตของนาง
เกี่ยวกับเรื่องการขโมย เป็นเรื่องที่นางไม่เคยทำมาก่อนเพราะนางได้รับการอบรมมาดี
แต่นางไม่ได้คัดค้านเย่ว์หยางให้ทำ เพราะพวกเขากำลังปล้นจากพวกผู้ดี คนพวกนั้นไม่ใช่คนดี แม้ว่าเย่ว์หยางจะขโมยอะไรของพวกเขามา ก็ยังนับว่าเป็นโจรผู้กล้า ดังนั้นนางจึงให้ความสนใจและตัดสินใจร่วมเสี่ยงอันตรายกับเย่ว์หยางดูว่าเขาจะฉวยโอกาสจากวิกฤติเก็บเกี่ยวอะไรมาได้บ้าง
เย่ว์หยางฉุดมือนางไปตามตู้ที่ล้มระเกะระกะในห้องต่างๆ และเก็บเหรียญทองซึ่งตกเรี่ยราดมาได้จำนวนหนึ่ง
แต่ทหารรับจ้างเหล่านี้ไม่มีเงินมากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วดังนั้นผลเก็บเกี่ยวจึงไม่มาก
มีความแตกต่างกันมากของห้องพักในเรือซึ่งเป็นของขุนนางหรือชนชั้นสูง มีทั้งแหวนและสร้อยคอเครื่องประดับทุกชนิดและแม้กระทั่งอัญมณีเม็ดเล็กและเหล้ายี่ห้อดัง พวกผู้ดีเหล่านี้มีความสุขสำราญอยู่บนเรือสำราญ พวกเขาไม่เคยคาดเลยว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับเรือและเผ่นหนีออกไปจากห้องปล่อยให้เย่ว์หยางและอี้หนานสองหัวขโมยได้กำไรจากสถานการณ์ อี้หนานยิ้มตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพราะว่าเย่ว์หยางห้าวหาญไม่เหมือนใคร เขาโยนของที่ไม่มีประโยชน์ทิ้งหมด เช่นเสื้อผ้า รองเท้าและหมวกแพงๆออกนอกเรือ นี่เป็นการกระทำที่ไม่ทำให้ใครได้ประโยชน์
หลังจากจำนวนโจรในห้องเพิ่มขึ้นเย่ว์หยางพาอี้หนานซ่อนตัวจากพวกเขาและกลับไปห้องพักของตัวเอง
พวกเขามองหน้ากันอย่างมีความสุข
ความจริงแล้ว ของบางอย่างที่พวกเขาขโมยมาก็มีประโยชน์ไม่มาก บางอย่างสามารถแลกเงินได้ บางอย่างก็เป็นแค่เครื่องประดับ...นี่เป็นเพราะของที่มีค่าแท้จริงย่อมอยู่กับพวกขุนนางแน่นอน คนพวกนั้นจะไม่ทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
แต่เมื่อพูดถึงการฉวยโอกาสจากวิกฤติและได้ของบางสิ่งบางอย่างนั้นเป็นเรื่องน่าสนุกมาก เมื่ออี้หนานคิดวิธีที่พวกขโมยจะไม่หาเสื้อผ้าที่มีค่า เมื่อพวกเขาเข้าห้องของคนชั้นสูงและได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างโง่งม เนื่องจากของโดนเก็บกวาดไปหมดแล้วนางอดหัวเราะไม่ได้ นางไม่สนใจกระเป๋าใบใหญ่แม้แต่น้อย นางชอบบรรยากาศที่เย่ว์หยางพานางลอบเข้าไปขโมยของมากกว่า ไม่ว่าจะดีจะแย่ เขามักจะกุมมือของนางไว้เสมอ
นางจะติดตามเขาไปอย่างนี้ตลอดชีวิตของนาง
เขาเป็นชีวิตครึ่งหนึ่งของนาง
อี้หนานมองดูของที่เย่ว์หยางขโมยมา และบรรจุของทุกอย่างจากนั้นเปิดห้องแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่างเรือ
นางหัวเราะร่าจนแทบยืนไม่อยู่ จนนางต้องเกาะแขนเขาไว้จึงจะยืนได้มั่นคง
น่าอายจริงๆ
ด้วยการก่อกวนของเย่ว์หยาง ทั้งฝ่ายโจรและฝ่ายขุนนางคงได้ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ ที่แย่ที่สุดเจ้าเด็กนี่ทำก็คือโยนกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ลงแต่ในทะเลสาบเท่านั้น
ต่อให้มีคนเห็น ก็ยากที่ใครจะเอากลับคืนมาได้
“น่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาพอค้นหาห้องพักในเรือสักสองสามห้อง มีห้องพักเกินสองหมื่นห้องในเรือ และห้องของคนชั้นสูงจริงๆ กลับไม่อยู่ด้านนี้” เย่ว์หยางถอนหายใจต่อเนื่อง อี้หนานปิดปากหัวเราะอยู่นานในที่สุดนางก็หยุดหัวเราะ “มีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ห้องพักชั้นหนึ่ง เราไม่มีทางเข้าไปข้างในได้ นอกจากนี้โลภมากไปก็ไม่ดี เราจะลำบากหนักถ้าถูกจับได้”
“....” เย่ว์หยางขมวดคิ้ว เขาตระหนักได้ว่าขโมยคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางด้านพวกเขา
“พวกเจ้าทุกคนออกมาและไปที่ดาดฟ้า นี่คือการปล้น และข้าไม่ได้ล้อเล่น ใครก็ตามที่ไม่ฟังข้า ข้าจะใช้มีดฟันพวกเจ้า” บุรุษสองสามคนอยู่ในชุดดำลักษณะเหี้ยมโหดเดินมาทางชั้นนี้ถีบประตูเข้ามาตรวจค้น
ความจริง พวกเขาแค่ค้นหาคร่าวๆและขู่คนโดยไม่คิดอะไร
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะไม่มีใครเหลือในห้องธรรมดา และเตรียมตัวจากไป แต่หนึ่งในพวกเขาประสาทไวและรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตของเย่ว์หยางและอี้หนาน
หลังเดินผ่านประตูห้อง เขาเดินกลับมาอย่างไม่แน่ใจ และระเบิดเสียงหัวเราะทันทีที่เห็นเย่ว์หยางกับอี้หนาน “โก่วจือ, โก่วจือ ดูซิว่าข้าเจออะไรสาวงามที่น่าตะลึง! โอวพระเจ้านี่คือหญิงงามชาวมนุษย์ สาวงามชาวมนุษย์ที่ข้าเคยพบที่เฟยเยียนยังเทียบกับนางไม่ได้เลย เมื่อเอามาเทียบกับแม่สาวคนนี้ ผู้หญิงเหล่านั้นกลายเป็นไม่ได้เรื่องเลย”
สหายของพวกเขาพากันวิ่งเข้ามาและส่งเสียงดังแออัดกันอยู่ที่ประตูเหมือนกับฝูงหมาป่าตัวผู้
น้ำลายแทบหยดจากปากของพวกเขา
บุรุษผู้เต็มไปด้วยหนามทั่วตัวลูบศีรษะและเลียริมฝีปาก “แย่หน่อยที่ลูกพี่หญิงไม่ยอมให้เราข่มขืนใคร มิฉะนั้น... อย่างไรก็ตามแค่แอบแตะเนื้อต้องตัวหน่อย ลูกพี่หญิงคงไม่ว่าอะไรมั้ง? เอ้อเหมา เจ้าต้องคอยระวังไว้เราอาจทำลายกฎวันนี้ก็ได้ และใช้เสรีภาพกับนางงามน้อยนี้! ข้าคงต้องดูถูกตัวเองแน่หากไม่ฉวยโอกาสจากนางงามน้อยนี่”
“เผียะ!”
เสียงตบดังขึ้นที่หลังศีรษะของเขา
มังกรตาเดียวปรากฏอยู่ด้านหลังคนเหล่านี้ และตะโกนลั่น “ไสหัวไปถ้าพวกเจ้ายังจะลงมือต่อไป พี่ใหญ่หญิงคงไม่ทันได้ทำอะไรพวกเจ้าแน่เพราะข้าจะฟันพวกเจ้ากับมือตัวเอง ข้าสามารถทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไรๆ กับเรื่องอื่นๆ ได้ แต่ถ้าพวกเจ้าบังอาจทำลายกฎข้อแรก โทษของพวกเจ้าจะต้องตาย”
พวกโจรขลาดเขลาทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้ามังกรตาเดียว
พวกเขารีบยิ้ม “พี่สาม เราแค่พูดหยอกเย้านางเล่น เราไม่กล้าล่วงเกินสาวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน”
มังกรตาเดียวเตะพวกเขาทุกคน และตะโกนลั่น “ไสหัวไป เห็นพวกบัดซบอย่างพวกเจ้าแล้วข้าหงุดหงิด”
เมื่อพวกเขาออกไป เขายิ้มเป็นกันเองให้เย่ว์หยางและอี้หนาน “น้องชาย, น้องสาว ข้ากำลังตามหาพวกเจ้าทั้งสองคน! อย่ากลัว, แม้ว่าข้าจะเป็นโจร แต่ข้าก็มีคุณธรรม เราคือกลุ่มโจรเพลิงพิโรธ มีชื่อเสียงมาก เราไม่เคยข่มขืนหรือกระทำการที่เป็นอันตรายต่อคนอื่น เราเป็นก๊วนโจรชั้นยอด! ไม่มีใครที่ไม่ยกนิ้วให้เราเมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องเราก๊วนโจรเพลิงพิโรธ? พวกแกะอ้วนที่พบกับเราไม่ต้องกลัวว่าเราจะเอาชีวิต เรารีดไถเงินบางส่วนและเจรจากันภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เราสัญญาว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง”
เย่ว์หยางหน้าห่อเหี่ยว ดูเหมือนว่ามังกรตาเดียวจะสังเกตเขาออกบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามอี้หนานไม่มีประสบการณ์มากนักในสังคมและคิดว่ามังกรตาเดียวจะดูแลนางและเย่ว์หยางจริงๆ ดังนั้นนางคำนับเล็กน้อยขอบคุณเขา “ขอบคุณท่านลุง ตอนนี้เราไม่ค่อยกลัวแล้ว พวกท่านแตกต่างจากโจรธรรมดาจริงๆ อย่างไรก็ตาม เราไม่มีเงินมากนัก นอกจาก 9000เหรียญทองที่เราเพิ่งเล่นพนันเอาชนะมาได้ ท่านลุง เรากำลังมุ่งหน้าไปเมืองสายรุ้งต่อ ท่านบอกลูกพี่ของท่านได้ไหมถ้าพวกท่านทิ้งเงินให้เราไว้สักเล็กน้อย ถ้าเป็นไปได้ เราจะให้ความร่วมมือกับพวกท่าน ถ้าเป็นไปไม่ได้ข้าก็เสียใจคงต้องยอมสู้กับพวกท่าน”
มังกรตาเดียวหัวเราะ “ไม่ ไม่ ไม่,น้องสาวผู้นี้ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้ขอเงินจากเจ้า แต่จะเชิญเจ้าทั้งสองคนเข้าร่วมกลุ่มโจรเพลิงพิโรธ ถ้าเจ้าทั้งสองคนยินดีทำงานในก๊วนโจรเรา พวกเจ้าจะได้รับเงินเดือนประจำสิ้นปีมีโบนัสให้หลังจากเสร็จภารกิจ มีเครื่องแบบสำหรับพนักงาน นอกจากมีภารกิจเร่งด่วนแล้วพวกเจ้าจะมีวันหยุดสุดสัปดาห์ละสองวัน สรุปโดยรวมก็คือเราปฏิบัติต่อพนักในก๊วนโจรเพลิงพิโรธของเราเป็นอย่างดี”
เย่ว์หยางและอี้หนานตะลึง เจ้าผู้จะมาปล้นหรือมารับสมัครพนักงานกันแน่?