ตอนที่ 607 ขายหน้า? เจ้าต่างหากที่ต้องขายหน้า หลายๆ คนคิดว่าการต่อสู้จะตามมา
ไม่มีใครคาดเลยว่าผลออกมาจะน่าผิดหวังอย่างนั้น หลังจากหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ตัวคล้ายหินสลักจากไป พวกทหารรับจ้างก็แยกย้ายกันมังกรตาเดียวมองดูเย่ว์หยางและอี้หนานอยู่บ่อยๆ บุรุษร่างผอมมองดูพวกเขาด้วยความรู้สึกเคารพ ตอนแรก เขารู้เฉยๆกับเย่ว์หยางที่มีพลังต่ำกว่าเขามาก แต่หลังจากเขาเห็นการโจมตีของเย่ว์หยางแล้ว เขาเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด
ปกป้องคนรักด้วยการจู่โจมใส่ศัตรูที่มีพลังแข็งแกร่งมากกว่านับว่ากล้าหาญมาก
แต่สามารถเอาชนะนายตรวจต่อหน้าทุกคนและจากนั้นยังเผชิญหน้ากับหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยฝ่ายศัตรูโดยไม่แสดงความกลัวและยังใจเย็นได้เป็นเรื่องเกินกว่าทหารรับจ้างร่างผอมจะคิดออก
ต้องเป็นคนแบบไหนมีความคิดแบบไหนถึงจะสามารถทำอย่างนี้ได้? เขาเคยเห็นพวกเจ้านายผู้หยิ่งยโสมาก่อน แต่เขาไม่เคยพบกับคนธรรมดาที่มีความหยิ่งในระดับเดียวกัน
“เจ้าหนุ่มคนนี้... จะว่ายังไงดีล่ะ,เขามองดูคล้ายกับลูกพี่หญิงจริงๆ” ทหารรับจ้างผอมผู้นั้นได้ข้อสรุป แต่จากนั้นเขาปฏิเสธความคิดที่น่าตกใจนั้น เป็นไปได้อย่างไร ลูกพี่หญิงของเขาเป็นนักสู้ปราณฟ้า แต่เจ้าหนุ่มผู้นี้เป็นเพียงสามัญชนนักสู้ปราณดินระดับหนึ่ง เขาสามารถฟันมือของพนักงานตรวจได้เพียงเพราะดาบระดับแพลตตินัมของเขา ไม่มีดาบสมาชิกลูกเรือคนอื่นคงเล่นงานเขาไปแล้ว
ทหารรับจ้างผอมออกไปพร้อมกับกลุ่มคนและมองดูเย่ว์หยางกับอี้หนานอยู่ห่างๆ
เขายังคงรู้สึกว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ธรรมดามาก
นอกจากเป็นคนหล่อมีอาวุธทรงพลังแล้ว ความสามารถของเขาไม่มีอะไรควรแก่การพูดถึง....ความรู้สึกเมื่อครู่ก่อนเป็นเพราะเขาตกใจ!
ทหารรับจ้างผอมปลอบใจตนเองทำนองนี้ ตรงกันข้ามกับมังกรตาเดียวหันมามองเย่ว์หยางและยิ้มให้เขา ยิ้มของเขาดูเหมือนซ่อนความหมายเหมือนกับว่าเขาพบความลับอย่างหนึ่งแล้ว
“เราควรจะไปเล่นที่ไหนกันต่อ? เอาอย่างนี้เป็นไง เราไปหาอะไรกินกันก่อน!” อี้หนานตระหนักว่าเรือเริ่มเคลื่อนที่แล้ว ตอนแรกนางต้องการเสนอให้ไปที่หัวเรือเพื่อรับลมเย็นและมองดูฉากภาพแผ่นดินที่งดงามแต่เมื่อเห็นว่ารอบๆพวกเขามีคนหลายคนลอบมองดูและชี้นิ้วพูดคุย นางฉุดเย่ว์หยางจากไป ไม่ต้องการตกเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจอีกต่อไป
“ยินดีต้อนรับ, ยินดีต้อนรับ!!” เมื่อลูกเรือผู้ฟันโยกเพราะโดนหมัดเห็นเย่ว์หยางและอี้หนานเดินเข้ามา ขาของเขาแทบอ่อนเขารีบคำนับต้อนรับเขาเหมือนวิธีที่แสดงกับพวกตระกูลชั้นสูง
“พ่อรูปหล่อ! ต้องการดื่มด้วยกันไหม?” ที่แตกต่างจากบาร์ของชนชั้นสูง ที่นี่เป็นบาร์ธรรมดา มีมุมมองที่ต่างออกไป ที่นี่มีสตรีมากหน้าหลายตานุ่งน้อยห่มน้อยแต่งหน้าแต่งตากันอย่างหนัก พวกนางทุกคนแสดงท่าทางยั่วยวนแขก สตรีเหล่านี้มากจากหลากหลายสำนักและเผ่าพันธุ์มีทั้งสูง เตี้ย ท้วม บอบบาง ทุกคนมีเสน่ห์ในตัวเอง พวกนางจะยืนอยู่สองข้างบันไดและเมื่อพวกทหารรับจ้างเดินเข้ามา พวกนางจะทักทายอย่างร่าเริงหวังว่าบางคนจะสังเกตเห็นพวกนางได้
“แน่นอนว่าข้าจะดื่มแน่ แต่เราต้องทำบางอย่างที่สำคัญมากกว่า!” มังกรตาเดียวเดินไปหยุดอยู่หน้าพวกนางและยัดเหรียญทองให้สตรีนางหนึ่งจากนั้นโอบเอวดึงนางออกมาด้วยความชำนาญมือของเขาเลื่อนไปจับอยู่ที่บั้นท้ายของนาง สตรีนางนั้นส่งเสียงครางเขาหัวเราะอย่างผู้มีชัยและเดินแยกออกไปจากกลุ่มพร้อมกับสตรีที่เขาเลือก
ทหารรับจ้างคนอื่นต่างก็เลือกสตรีทีละคนๆและพาสตรีกลุ่มใหญ่เดินจากไป
แม้แต่ทหารรับจ้างร่างผอมที่สีหน้าไร้ความรู้สึกก็ยังเลือกสตรีที่แข็งแรงจากเผ่าม้าน้ำที่สูงกว่าเขาสองช่วงศีรษะความแตกต่างระหว่างร่างกายพวกเขาเห็นได้ชัด
“จี๋ไจ่,เจ้าแน่ใจนะว่าต้องการจะขี่แม่ม้าทะเลนั่น? ระวังนะ เจ้าจะโดนนางสูบจนแห้งตาย”พวกทหารรับจ้างล้อกันอย่างสนุกสนาน
“ไปไหนก็ไปซะ, นี่มันเรื่องของข้า” ทหารรับจ้างร่างผอมตอบอย่างไม่พอใจ
สตรีผู้นุ่งน้อยห่มน้อยเหล่านี้แต่งหน้าหนาเตอะล้วนแต่เป็นคนกร้านโลกทั้งนั้น
เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางและอี้หนานเป็นคู่รักกันอย่างเห็นได้ชัดไม่มีใครเข้าใกล้พวกเขา พวกนางไม่พูดอะไรออกมานอกจากโปรยเสน่ห์ให้กับทหารรับจ้างแต่ละคนที่ผ่านมา พวกนางเข้าใจชัดเจนว่าคนแบบไหนถึงจะเป็นลูกค้าของนางแต่ลานเต้นรำข้างล่างกว้างขวาง มีบุรุษบางพวกที่ตระหนักว่าคนหนาแน่นเกินไปและรู้ว่าอะไรดีสำหรับพวกเขา ทั้งที่มีสตรีอยู่ในอ้อมแขนแล้วแต่ตาพวกเขาเป็นประกายเหมือนหมาป่าทันทีเมื่อมองเห็นอี้หนาน
บุรุษอ้วนเตี้ยกับสหายหญิงที่น่ารักของเขาเดินเข้ามา เขาแสดงความสนใจและยื่นข้อเสนอขอแลกคู่กับเย่ว์หยาง
คำตอบของเย่ว์หยางก็คือเขาถีบคนผู้นั้นกระเด็นไปไกลมากกว่าสิบเมตร
บึ้ม!
เสียงดังบึ้มสนั่นสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนในห้องเต้นรำ ทุกคนหยุดเต้นและหันหน้ามาดู...จมูกของบุรุษอ้วนเตี้ยมีเลือดกำเดาออก เขานอนอยู่บนพื้นเหมือนหมู ไม่สามารถคลานขึ้นมาได้อยู่นาน ท้องที่เต็มไปด้วยไขมันของเขามีรอยเท้าที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้
ทหารรับจ้างที่จำเย่ว์หยางได้ทุกคนคิดว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา
ถูกยันแค่นี้ยังนับว่าเบาแล้ว
นายตรวจจอมลามกเพิ่งจะโดนเย่ว์หยางเล่นงานจนพิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเหยียบ ‘น้องชาย’ทำให้ทุกคนรู้สึกเจ็บปวดหวาดเสียวตรงหว่างขา!
ความจริงเจ้าอ้วนเตี้ยยังเก็บ‘น้องชาย’ เอาไว้ได้ก็นับว่าเป็นบุญจากบรรพบุรุษแล้ว
“จ่ายมาซะดีๆ!” ทหารรับจ้างร่างผอมและสหายของเขาได้วางเดิมพันกันคนละเหรียญว่าใครจะชนะ และเขาชนะเดิมพัน
“ใครจะไปสนใจเรื่องเปลี่ยนคู่กันเล่า แต่เจ้าทำร้ายคนได้ยังไง?” สตรีของบุรุษอ้วนเตี้ยฉุนเฉียวเอ็ดตะโรลั่น แต่นางไม่กล้าโจมตีเย่ว์หยางและได้แต่วิ่งไปช่วยประคองบุรุษอ้วนเตี้ย และบ่นพลาง “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าเจ้าคนไร้ประโยชน์ เจ้าบอกว่าเป็นห้าสุดยอดในสถาบันไงเล่า แต่เจ้ากลับโดนเจ้าบ้านนอกตีทำร้ายครั้งต่อไปอย่านึกว่าข้าจะมากับเจ้าอีก ขายหน้าจริงๆ!”
“โธ่, คอยดูข้าจะฟาดเจ้าเด็กนั่นให้เจ้าดู!” คนอ้วนเตี้ยถูกสหายหญิงต่อว่า เขาหน้าแดงและวาดแขนไปมาเตรียมสู้กับเย่ว์หยาง
“เกิดอะไรขึ้น? หยุดนะ!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางส่วนวิ่งเข้ามา พอเห็นเย่ว์หยางและอี้หนาน พวกเขาตะลึง “เจ้าสองคนอีกแล้วหรือ?”
ถึงตอนนี้มีบางคนเข้าไปหาบุรุษอ้วนเตี้ยและกระซิบที่หูเขา
คนผู้นี้เห็นเย่ว์หยางตีนายตรวจมาแล้วและรีบบอกว่าเจ้าคนบ้านนอกนี่อาจเป็นพวกผู้ดีปลอมตัวมา มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เขาอาจมีคนที่มีอำนาจคอยหนุนหลัง เพราะหลังจากตีนายตรวจข้างนอกแม้แต่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยก็ยังไม่กล้าทำอะไร
เมื่อได้ยินเช่นนี้เจ้าอ้วนเตี้ยหน้าซีด เขาสูดหายใจลึกหลายครั้งเพื่อระงับความโกรธ
แม้แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ยังปวดหัวกับเย่ว์หยาง
คนผู้นี้ไม่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้น แต่เขากลับก่อปัญหาได้เก่งที่สุดในโลกเจ้าผู้นี้มีแนวโน้มว่าอาจทะเลาะได้กับทุกคนบนเรือสำราญ พวกพนักงานรักษาความปลอดภัยอ่อนอกอ่อนใจมองหน้ากันเองไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี คนที่หยิ่งยโสขนาดนั้นเป็นคนบ้านนอกไม่มีพลังอะไรหนุนหลังจริงๆ หรือ? เป็นไปไม่ได้! เขาต้องเป็นลูกเจ้าเมืองที่ปลอมตัวเป็นสามัญชนมาหยอกล้อกับผู้คนทั่วไป ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะมีสหายหญิงที่งดงามอย่างนั้นได้ยังไง? และเขายังอารมณ์ไม่ดีขนาดนั้นได้ยังไง?
ถ้าคนผู้นี้เพิ่งมาจากชนบทบ้านนอกจริงๆ เขาก็ควรหัวหดเหมือนกับนกกะทา
คนบ้านนอกที่ไหนกันถึงได้กล้าตีคนบนเรือสำราญลอยฟ้า?
แน่ใจได้เลยว่าเขาต้องเป็นพวกขุนนาง หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นเด็กผู้มีอัจฉริยภาพของเจ้าสำนักที่ยิ่งใหญ่ คนพวกนั้นแม้โดยส่วนตัวเขาก็ยังได้รับการสนับสนุนที่ทรงพลัง
“ถ้าเจ้าไม่ชอบเต้นรำ ทำไมไม่ไปยังห้องอัญมณีเพื่อเล่นสักสองสามรอบเล่า! ที่นั่นใหญ่กว่าและมีบริการที่ดีกว่า!” พนักงานรักษาความปลอดภัยบางคนรู้สึกว่าถ้าปล่อยให้พวกชนชั้นสูงไว้ที่นี่ก็อาจจะก่อปัญหาให้อีกแน่นอน พวกเขาแค่ชักชวนเย่ว์หยางให้ไปเล่นพนันในบ่อนของเรือสำราญ ใครๆ ก็รู้กันว่าพวกคนชั้นสูงที่มีเงินอยู่ในกระเป๋า ล้วนชอบพนันทั้งนั้น
“ห้องอัญมณี?” ก็ดีน่ะสิ เย่ว์หยางต้องการหาเงินเอาไว้ใช้จ่าย เพราะลูกผู้ชายที่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยเป็นเรื่องยากทนทานจริงๆ
“.....” เจ้าอ้วนนั้นจ้องมองตามหลังเย่ว์หยาง แววโกรธแว่บผ่านในดวงตา
“เราจะปล่อยไว้แบบนี้หรือ?” สหายหญิงของเขายังคงรู้สึกเจ็บใจ
“มาเถอะ, เราก็ไปห้องอัญมณีด้วย เราจะเล่นเจ้าเด็กจิ๊กโก๋นั่นให้ตาย”เจ้าอ้วนเตี้ยไม่มั่นใจในการดวลหมัด แต่เขารวยกว่า เขาอาจทำให้เจ้าบ้านนอกนั่นต้องแพ้พนัน ต่อให้ดูเหมือนเขาจะมีผู้หนุนหลังที่ทรงพลังก็ตาม ถ้าสู้กันด้วยสมองและไม่ใช่หมัดมวย เจ้าอ้วนเตี้ยคิดว่าเขาฉลาดและรวยเขาฉุดสหายหญิงตามเย่ว์หยางและอี้หนานไปติดๆ มังกรตาเดียวและทหารรับจ้างร่างผอมเหลียวมองหน้ากันเองและลอบพยักหน้าให้กัน ตามเข้าไปในห้องอัญมณีพลางหัวเราะ “มาเถอะ ไปเสี่ยงดวงกันสักสองรอบวันนี้เทพธิดาแห่งโชคดูเหมือนจะอยู่ข้างเรา!”
ขณะที่พูดอย่างนั้น มืออีกข้างหนึ่งของมังกรตาเดียวก็ลูบสะโพกที่กลมกลึงของสตรีคนหนึ่ง
ถึงตอนนี้ทหารรับจ้างร่างผอมเหมือนกับว่าไม่อาจรอต่อไปได้แม้แต่วินาทีเดียวเขารีบฉุดสาวร่างโย่งไปเปิดห้องพัก เมื่อเขาและสาวร่างโย่งเข้าไปในห้อง พวกเขาแทนที่จะล้มตัวนอนลงบนเตียง แต่เขาล้วงเอาผลึกปีศาจนับไม่ถ้วนออกมาจากภายในกระโปรงของสาวเผ่าม้าน้ำและวางลงเป็นรูปวงเวทแก้วผลึกแปลกๆ
วงเวทนั้นเปล่งแสงและมีสัญญาณภาพแปลกประหลาด
ดูเหมือนจะเป็นการส่งข้อความออกไป
แม้ว่าผู้ตรวจสอบข่าวประจำเรือคอยจับตาดูสัญญาณที่ได้รับก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีแต่เย่ว์หยางซึ่งกำลังจูงมือน้อยๆของอี้หนานขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาชำเลืองมองดูมังกรตาเดียวและตระหนักว่าทหารรับจ้างร่างผอมหายไป
“มีอะไรหรือ?” เมื่อเห็นเย่ว์หยางหยุด อี้หนานคิดว่าเขามองหาคนอ้วนเตี้ยที่ติดตามมาข้างหลังและชักชวนอย่างอ่อนโยน “เอาอย่างนี้เป็นไง ข้าจะหลีกไปก่อนและหลังจากเจ้าจัดการทุกอย่างแล้ว ข้าค่อยมาหาเจ้า?”
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญ” เย่ว์หยางไม่เคยกังวลเรื่องเจ้าอ้วนเตี้ย เขากังวลพวกทหารรับจ้างที่ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา
เย่ว์หยางเป็นคนยากไร้
เขาเป็นคนร่ำรวยในหอทงเทียน แต่ในแดนสวรรค์ เขาไม่มีแม้แต่เหรียญทองเดียว
ผลึกปีศาจสองสามลูกสามารถแลกได้เพียงหนึ่งเหรียญทองการถือสกุลเงินที่เล็กที่สุดนี้ทำให้เย่ว์หยางเจ็บปวดใจนัก.. อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราในแดนสวรรค์นั้นโหดเกินไป เขาใช้ผลึกปีศาจระดับเจ็ดแลก ถ้านี่เป็นหอทงเทียน จำนวนเหรียญทองที่แลกเปลี่ยนมาคงได้ทับถมฝังร่างคนได้ ที่นี่กลับมีค่าเพียงเหรียญทองเดียวและยังมีการเก็บภาษีผลึกปีศาจระดับสามอีกด้วย
อี้หนานรู้ว่าเย่ว์หยางเป็นคนตระหนี่ที่ไม่ยอมใช้เงิน นางหัวเราะคิกคัก “ก็เอาไปใช้เป็นต้นทุนของเรา อย่างน้อยเราชนะได้สัก สองร้อยสามร้อยเหรียญทองและทำเงินกลับมาได้แทนสิ่งที่เราสูญเสียไปทั้งหมดก็ย่อมได้”
เย่ว์หยางไม่เห็นด้วย “ไม่, อย่างน้อยเราต้องชนะสองสามหมื่น สองร้อยสามร้อยน่ะหรือ? นั่นยังไม่พอจ่ายทำขวัญข้าด้วยซ้ำ”
เจ้าอ้วนเตี้ยด้านหลังเพิ่งแลกชิปด้วยเหรียญทองหมื่นหนึ่งหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า ยาจกสองคนดีแต่เพ้อฝัน! แค่เจ้ายอมแพ้และคุกเข่าเรียกข้าว่าคุณชาย คุณชายผู้นี้จะให้รางวัลเจ้าสักสองสามเหรียญทอง! หลังจากแลกมาแค่เหรียญทองเดียวเจ้ายังต้องการหน้าอีกหรือ เจ้ารู้ไหมว่าอันใดเรียกว่าความขายขี้หน้า?”
“แน่นอนคนอย่างเจ้านั่นแหละจะต้องขายขี้หน้า” เมื่อเย่ว์หยางพูดเช่นนี้ พวกทหารรับจ้างที่ยืนอยู่ด้านหลังแทบหัวเราะกลิ้ง
“เหลวไหล...” หน้าของเจ้าอ้วนเตี้ยบิดเบี้ยวยิ่งกว่าคนตาย