ตอนที่ 27 ยิงถล่มในห้องทดลอง
ตอนที่ 27 ยิงถล่มในห้องทดลอง
แยกออกเป็นสองฝั่ง
เรนและตำรวจต่างก็มีสีหน้าคิดหนัก แหวนพลังแยกเก็บไว้สองที่ คือห้องทดลอง 005 และ 019 หมายความว่าถ้าพวกเขาอยากได้พวกมันทั้ง 4 วงก็ต้องแยกกันไป แต่ทำแบบนั้นก็จะเสี่ยงมากขึ้น
“ผู้กองเราควรจะไปหาพวกมันพร้อม ๆ กัน” ตำรวจเต้เสนอในทันที เขาไม่อยากจะแยกกลุ่ม มันอันตรายเกินไป
“แบบนั้นช้าไป ผู้กองเราควรแยกกันไปค้นพาพวกมันแล้วกลับมารวมกันให้เร็ว” เดฟพูดขึ้นมา
“ฉันกำลังคิดอยู่” ผู้กองเชนพูดขึ้นมา เขากำลังตัดสินใจ
ตอนนั้นเองจ่าวัฒน์ก็กล่าวขึ้นมา “ผู้กองผมเห็นด้วยที่เราควรแยกกันไป เวลาของพวกเรามีไม่มากนัก ถ้าไปทีละห้องมันช้าเกินไป พวกเราจะกลับออกจากที่นี่ไม่ทันก่อนจะมืด”
ผู้กองเชนได้ยินก็เงยหน้ามองเรนและถาม “นายคิดยังไง”
“ผมจะไปอีกฝั่ง แต่ว่านอกจากแหวนพลังของจากระบบอย่างอื่นจะต้องให้ผม” เรนเจรจากันใหม่อีกครั้ง
“ตกลง” ผู้กองเชนพยักหน้าตกลง
จ่าวัฒน์ขมวดคิ้วชนกัน เมื่อได้ยินคำตอบของผู้กองและอยากจะพูดบางสิ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ได้พูดออกมา
พวกเขาเริ่มแบ่งทีมกัน
ผู้กองเชนและเต้จะไปที่ห้อง 005 ที่อยู่เส้นทางด้านซ้ายมือ ส่วนเรนจะไปห้อง 019 ที่อยู่ทางเดินด้านขวา จ่าวัฒน์เสนอว่าตนและเดฟจะไปกับเรน
ผู้กองเชนเห็นด้วย
เรนพอเข้าใจความคิดของตำรวจเหล่านี้ สองคนนี้ถูกส่งมาเพื่อคอยจับตาดูเรน แต่เรนไม่ได้เปิดเผยความคิดของพวกเขา
“นายจะไปด้วยกันไหม” เรนถามทหารหนุ่ม
“ไม่ ผมจะไปรอที่ลิฟต์” ทหารหนุ่มปฏิเสธทันที เขาไม่มีทางเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อได้แหวนเพิ่มหรอก เพราะคนหนึ่งคนใช้เพียงหนึ่งแหวนก็เพียงพอ
พวกเขาย้อนกลับมาที่ลิฟต์ทางเข้า ก่อนจะทิ้งทหารหนุ่มไว้ให้เฝ้าอยู่ที่นี่
“ถ้านายหนีไปก่อนที่พวกเราจะกลับมา พรรคพวกของฉันที่อยู่ด้านบนจะยิงนายทันที” ผู้กองเชนพูดข่มขู่ทหารหนุ่ม
“ผมเข้าใจ” ทหารหนุ่มพยักหน้าตกลง เขาไม่กล้าหนีไปก่อนอยู่แล้ว ถึงค่ายทหารจะไม่อันตราย แต่เส้นทางออกไปจากภูเขาต้องผ่านหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ ถ้าไม่มีคนพวกนี้ไปด้วยทหารหนุ่มคิดว่าเขาอาจจะไม่รอดออกไปเช่นกัน
กลุ่มของพวกเขาแยกออกเป็นสอง หนึ่งนำโดยผู้กองเชนและอีกหนึ่งคือฝั่งของเรน
เรนเดินนำหน้าตำรวจทั้งสองไป จ่าวัฒน์และตำรวจเดฟตามหลังเรนไป ขณะนั้นจ่าวัฒน์ก็เดินขึ้นมาเสมอกับตำแหน่งของเรนและถามเขา
“นายบอกว่าแหวนจะมอบพลังให้กับผู้ที่สวมมันใช่ไหม” จ่าวัฒน์เริ่มชวนเรนคุย ขณะที่เขาเล็งปืนไปด้านหน้าด้วย
“ก็ใช่ แต่สิ่งสำคัญจริง ๆ คือรูนิก”
“แล้วนายมีแค่รูนิกธนูอย่างนั้นเหรอ”
“ประมาณนั้น แต่ละคนมีรูนิกได้จำกัด มีอะไรหรือเปล่า?” เรนหันไปมองหน้าจ่าวัฒน์ด้วยความสงสัย
“เปล่าหรอก ฉันก็แค่ตื่นเต้น ถ้าได้แหวนพลังมาแล้วจะได้ลองใช้งานมัน” จ่าวัฒน์ตอบด้วยรอยยิ้มที่คาดหวัง ก่อนจะเดินนำหน้าเรนไป
เรนหรี่ตามองไปที่ตำรวจนายนี้ เขาหันกลับไปมองตำรวจเดฟด้านหลังด้วย แต่เดฟไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เขาตั้งใจตรวจสอบรอบ ๆ
“ดูนี่สิ ห้อง 010” เดฟเรียกทั้งสองให้ดูป้ายที่ติดอยู่ที่ประตูห้อง
“ห้องถัดไปเป็นห้อง 011และ012 ระวังด้านในห้องมีผู้ติดเชื้ออยู่” เรนกล่าวขึ้นมาและเตือนไม่ใช้พวกเขาเปิดประตู ด้านในห้องมีผู้ติดเชื้ออยู่ห้องละคนสองคน
ส่วนใหญ่เป็นทั้งทหารหรือไม่ก็พวกนักวิจัยที่อยู่ด้านใน พวกมันยังไม่เห็นเรนและอีกสองคน
“แสดงว่าเราอยู่ใกล้ห้อง 019 มากแล้วรีบไปกันเถอะ” จ่าวัฒน์กล่าวเสียงเบาและยกมือส่งสัญญาณให้เดินหน้ากันต่อ
ทั้งสามคนก้มตัวให้ต่ำลงกับพื้น เพื่อหลบพวกผู้ติดเชื้อในห้องต่าง ๆ และรีบวิ่งไปที่ห้อง 019 เรนมองผ่านกระจกหน้าประตู และพบว่าด้านในห้อง 019 ดูจะใหญ่กว่าห้องอื่น ๆ
“ไม่มีผู้ติดเชื้อ” เรนหันไปบอกทั้งสองคน ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่เขาพบว่าห้อง 019 นั้นต่างจากห้องอื่น ๆ เพราะมันดันมีระบบล็อกไฟฟ้าที่ต้องใช้บัตรผ่าน
“มันต้องใช้บัตรผ่าน”
“พวกผู้ติดเชื้อที่เป็นนักวิจัยน่าจะมีมันอยู่” จ่าวัฒน์บอก
พวกเขาทั้งสามเริ่มมองหาผู้ติดเชื้อที่มีบัตรผ่านและก็พบกับผู้ติดเชื้อที่ใส่เสื้อกาวน์คนหนึ่งมีบัตรติดแขวนอยู่ที่คอ แต่ว่าห้องที่ผู้ติดเชื้อคนนี้อยู่มีผู้ติดเชื้อคนอื่น ๆ อยู่อีก 5 ตัวด้วยกัน
“เอายังไงดี” เดฟถามขึ้นมา
“ต้องมีคนเป็นเหยื่อหนึ่ง” เรนกล่าวขึ้นมา
“ฉันเป็นเอง” จ่าวัฒน์เสนอตัว เขาลุกขึ้น เดินไปเปิดประตู ผู้ติดเชื้อด้านในเห็นจ่าวัฒน์ก็หันไปมองและรีบวิ่งมาหาด้วยความหิวกระหาย
จ่าวัฒน์ถอยออกมาจากห้อง แต่ทันทีที่ผู้ติดเชื้อตามออกมา มันก็โดนเรนสอยล่วงไปทีละตัว เรนจัดการไป 3 ตัว ตาตัวที่สามนั้นออกมาพร้อมกับตัวที่ 4 และ 5 ทำให้เขายิงมันไม่ทัน
หนึ่งในสองที่ยังรอดอยู่คือผู้ติดเชื้อนักวิจัยที่มีบัตรแขวนอยู่ที่คอ อีกตัวเป็นทหาร ตัวนักวิจัยหันไปเล่นงานจ่าวัฒน์ ทั้งสองจึงต่อสู้กัน
จ่าวัฒน์ใช้มีดพกเล่นงานมัน เพราะไม่อยากใช้ปืนเพื่อดึงดูดผู้ติดเชื้อในห้องอื่น ๆ
อีกตัวหันมาเล่นงานเรน แต่เดฟก็วิ่งเข้าไปผลักมันจนหงายหลัง ก่อนจะใช้เข่ากดหน้าอกไม่ให้มันลุกขึ้นมาและใช้มีดเสียบเข้าไปที่เบ้าตาของมันซ้ำ ๆ จนแน่นิ่งไป
ด้านจ่าวัฒน์ก็กำลังจัดการมันได้ เขาแทงไปที่ท้องมันและกระแทกผู้ติดเชื้อเข้าไปที่ข้างกำแพงจากนั้นก็แทงไปที่ข้างขมับด้วยมีดพก
ตุบ!
ร่างของผู้ติดเชื้อนักวิจัยล้มลงกับพื้น จ่าวัฒน์ดึงมีดออกมาเช็ดกับเสื้อกาวน์ของผู้ติดเชื้อและหยิบบัตรที่ห้อยคอมาด้วย
เรนมองดูภาพตรงหน้า แม้ทั้งสองจะไม่ใช้ปืน แต่การจัดการกับผู้ติดเชื้อตัวต่อตัวก็ยังสามารถรับมือได้อย่างไม่มีปัญหา
‘สมแล้วที่เป็นตำรวจที่ฝึกมา ทักษะพวกเขาสูงกว่าคนธรรมดามาก’ เรนคิดในใจ
เรนเก็บเหรียญทองระบบ 6 เหรียญกับหินพลังงาน 1 ชิ้นมา จ่าวัฒน์และเดฟก็เก็บเหรียญทองระบบเช่นกัน หลังจากได้บัตรมาพวกเขาก็ไปเปิดประตูห้อง 019 ในทันที
เรนถือบัตรและลองเปิดดูปรากฏว่ามันสามารถเข้าไปได้
ประตูห้องเปิดออกมาพวกเขาก็เข้าไปด้านใน
ไฟในห้องไม่ทำงานทำให้พวกเขาต้องใช้ไฟฉายส่องดูรอบ ๆ ด้านในห้องชั้นครึ่งที่สามารถเดินลงไปด้านล่างได้อีก ด้านในไม่มีผู้ติดเชื้อคนอื่น ๆ แต่สภาพด้านในกลับเต็มไปด้วยแทงค์ทดลองที่ด้านบนเป็นตู้กระจกและด้านล่างเป็นเครื่องควบคุมที่มีสายไฟจำนวนมากเชื่อมต่อกันตามพื้น มันคืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่พบได้ในห้องทดลอง แทงค์เหล่านั้นตั้งเรียงรายหลายสิบอันจนเต็มพื้นที่ห้องด้านบน
ด้านในแทงค์พวกนี้ว่างเปล่า แต่บางแทงค์ก็มีชิ้นเนื้อแปลก ๆ บรรจุอยู่
เรนเห็นว่าไม่ไกลมีโต๊ะทำงานอยู่ตัวหนึ่ง มันเต็มไปด้วยเครื่องมือและแฟ้มเอกสาร แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเรนคือกระเป๋าใบสีเงินใบหนึ่งที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่บนโต๊ะ
เรนเปิดกระเป๋าขึ้นมาในทันที เขาก็พบว่ามันมีแหวนและหินรูนิกเปล่าอยู่
“แหวนพลังและหินรูนิกเปล่า พวกเราเจอมันแล้ว” เรนพูดขึ้นมาด้วยความยินดี แต่ตอนนั้นเองสัมผัสถึงตายจากรูนิกลางสังหรณ์เตือนเรนอย่างรุนแรง
ตาย!
เรนตกใจกับสิ่งที่เขาพบเจอ เขารีบตอบสนองคว้ากระเป๋าที่ใส่แหวนและรูนิกชิ้นนั้นมาและกระโจนหลบออกไปในทันที
ปัง! ๆ ๆ ๆ
เสียงปืนยิงตามหลังของเรน โต๊ะที่มีแฟ้มเอกสารโดนยิงจนกระจุย คนที่ลงมือคือเป็นจ่าวัฒน์และตำรวจเดฟ ทั้งสองหวังจะฆ่าเรน
เรนหลบอยู่หลังแทงค์ทดลองใกล้ ๆ จนกระทั่งเสียงปืนหยุดลง
“พวกคุณทำบ้าอะไร!?” เรนตะโกนถามกลับไป
ขณะที่สายตาของเขากวาดไปรอบตัว เพื่อหาทางหนี แต่ห้องโดยรอบนั้นมืดสนิท ส่วนไฟฉายของเรนตกลงไปข้าง ๆ โต๊ะทำงาน มันสิ่งไปทางสองตำรวจนั้นพอดี
“ส่งกระเป๋าใบนั้นมาและของในตัวแกด้วย แล้วฉันจะไม่ทำอะไร” จ่าวัฒน์ตะโกนบอกเรน แต่เขาไม่ได้เข้าไปใกล้เรนในทันที เพราะรู้ดีว่าในมือเรนยังมีรูนิกอย่างคันธนูที่ยิงลูกศรพลังงานออกมาได้
“แต่ถ้าไม่ส่งมาฉันจะยิงแกทิ้งแล้วค่อยไปค้นหา” ตำรวจเดฟพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยม
“พวกแกเล่นเป็นตำรวจดีตำรวจเลวอย่างนั้นเหรอ ตกลงแล้วแค่ต้องการแหวนและรูนิกถึงกับจะฆ่าฉันหรือยังไง” เรนตะโกนกลับไป ก่อนจะคลานไปยังแทงค์ทดลองที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อเว้นระยะห่าง
ปัง! ๆ ๆ ๆ
สองตำรวจยิงใส่เมื่อเห็นว่าเรนนั้นเคลื่อนไหว ทำให้เรนถอยกลับมาหลบที่หลังแทงค์ทดลองเดิม
“ไม่เอาน่า นายจะขัดขืนพวกเราไปทำไม” จ่าวัฒน์พูดกับเรน ขณะที่มือของตนนั้นส่งสัญญาณให้เดฟอ้อมไปข้าง ๆ ส่วนตนนั้นส่องไฟและเล็งปืนไปที่เรน
“ถามหน่อยผู้กองเชนสั่งพวกนายอย่างนั้นเหรอ” เรนที่หลังพิงแทงค์ทดลองถามขึ้นมา
“ผู้กองเชนนะเหรอ ไอ้หน้าโง่นั้นเหรอ! ที่เชื่อว่าควรเอาแกมาเป็นพวกคือสิ่งถูกต้อง ทั้งที่แกมันก็แค่พลเรือนเท่านั้น แต่ยังยอมให้ปืนพวกเราไป แถมมันมักปฏิบัติต่อพวกเราเหมือนเป็นลูกน้องมันตลอด ทั้งที่ยศมันก็ได้มาจากเส้นสาย และถ้าไม่ใช่เพราะสารวัตรตายไปและยศของมัน มันจะควบคุมสถานีตำรวจวอริกที่ 8 ได้ยังไง โลกมันล่มสลายแล้ว ฉันคือคนที่จะมีพลังและกลายเป็นผู้แข็งแกร่งปกครองวันสิ้นโลก ไม่มีทางยอมโดนกดหัวอยู่ใต้มันแน่นอน รีบส่งรูนิกเปล่ามาซะ” จ่าวัฒน์ที่ปกติเป็นคนเชื่อฟังคำสั่งของผู้กองเชน แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจต่อสถานะของตนเอง
“นี่มันพวกเบี้ยววันสิ้นโลก” เรนพึมพำออกมา
“แล้วทำไมต้องลงมือด้วย ยังไงซะพวกนายก็ได้แหวนพลังอยู่แล้ว รอให้ฉันจากไปนายจะจัดการผู้กองเชนตอนไหนก็ได้” เรนตะโกนถามอีกครั้ง
“นายคิดว่ายังไง แหวนมีแค่ 4 วงจะพอพวกเราทุกคนหรือยังไง อีกอย่างยังต้องมาแบ่งส่วนแบ่งจากของอื่น ๆ ให้แกอีก ถ้าฆ่าแกได้พวกเราจะเอาของทั้งหมดไป ส่วนผู้กองเชนแกไม่ต้องห่วงหรอก” จ่าวัฒน์พูดด้วยความมั่นใจและเริ่มขยับเท้าเดินเข้าไปใกล้เรน
เรนได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ก็รู้ว่า ตนเองกำลังโดนล้อมก็มีสีหน้ามืดมนในทันที
ขณะที่เรนหลบซ่อนและหาทางรอดอยู่นั้น รูนิกลางสังหรณ์ก็เตือนถึงอันตรายกับเขา เรนรีบกระโจนออกจากจุดที่อยู่ในทันที เดฟที่อ้อมมากระหน่ำยิงใส่พระเอก แต่มันช้าไปแล้ว
จ่าวัฒน์เห็นเรนออกมาก็รีบยิงตามไปทันที แต่เรนหลบไปหลังแทงค์ทดลองแล้ว
ถึงจะยิงไม่โดนตัวเรน แต่ก็ทำให้กระเป๋าที่ใส่แหวนพลังและหินรูนิกตกอยู่หลังแทงค์ทดลองที่เรนหลบอยู่ก่อนหน้า
เดฟเห็นจึงคิดจะวิ่งเข้าไปเก็บ แต่ยังไม่ทันก้าวขาออกไปเรนก็ยิงสวนกลับไปด้วยรูนิกปืนลูกซองฯ
ปัง!
กระสุนที่เรนยิงออกมานั้นเข้าไปที่แทงค์ที่เดฟยืนอยู่ กระสุนที่เรนใช้คือลูก 9 เม็ด ซึ่งมีกระสุนเม็ดหนึ่งกระจายออกไปโดนแขนของเดฟ
“อ้า! ซัดเอ๊ย!” เดฟสบถด้วยความเจ็บ เขารีบพลิกตัวไปหลบหลังแทงค์ทดลองทันทีด้วยความตื่นตกใจ เพราะไม่คิดว่าเรนจะมีปืนลูกซองซ่อนอยู่
เรื่องนี้ไม่แปลก เพราะเรนได้เปลี่ยนปืนลูกซองเป็นรูนิกแล้วและนอกจากกลุ่มของเรนก็ไม่มีคนนอกรู้เรื่องนี้
ปัง! ๆ
เรนหันกลับไปยิงใส่จ่าวัฒน์ด้วย ทำให้จ่าวัฒน์ต้องหลบ เรนจึงใช้โอกาสนี้วิ่งลงไปด้านล่างของห้องทดลองแห่งนี้ เพื่อรักษาระยะห่าง ที่จริงเขาอยากจะไปที่ประตูทางออกที่มีทางเดียว แต่จ่าวัฒน์คุมเส้นทางตรงนั้นอยู่
“ไอ้เวรนี่!” จ่าวัฒน์ไม่คิดว่าเรนจะยังมีปืนอยู่กับตัว เขารีบยิงกดดันเรนไปหลายนัด ไม่เปิดโอกาสให้เรนโตกลับมาได้อีก
“บ้าจริง” เรนกัดฟันสบถออกมา ขณะที่หลบอยู่หลังแทงค์ทดลองด้านล่าง
ตอนนั้นก็มีเสียงดังเกิดขึ้นที่แทงค์ทดลองด้านล่าง ปรากฏว่ากระสุนที่จ่าวัฒน์ยิงถล่มเรนพวกมันบางส่วนไปโดนแทงค์ทดลองที่เต็มไปด้วยหมอกสีดำ
หมอกพวกนั้นค่อย ๆ กระจายออกมา