บทที่ 11 สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ!
ใบหน้าของลู่ซินหรานซีดเซียวและหัวใจของนางก็แทบจะแหลกสลาย ความเจ็บปวดในหัวใจของนางรุนแรงยิ่งกว่าภายนอกมาก
“ช่องว่างนั้นกว้างเกินไป ข้าไม่สามารถแม้แต่จะสัมผัสชายเสื้อคลุมของเขาด้วยซ้ำ!”
“การโจมตีของเขาทั้งโหดเหี้ยมและไร้ความปราณี ในสายตาของเขา ข้าคงไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ”
ลู่ซินหรานรู้สึกราวกับหัวใจของนางถูกแทงด้วยเข็มนับพันเล่ม
“ซินหราน!” ผู้อาวุโสซุนอุทานและเหาะขึ้นไปบนลานประลอง
อย่างไรก็ตาม หลี่หรานยืนขวางนางไว้
ผู้อาวุโสซุนกระวนกระวาย “เซิงจื่อ นางถูกทุบตีขนาดนี้แล้ว ความโกรธของเจ้าควรจะสงบลงแล้วใช่ไหม? ได้โปรดเมตตานางด้วย!”
หลี่หรานไม่สนใจนางและจ้องมองลู่ซินหราน
“ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?”
“ใช่...” เสียงของลู่ซินหรานแหบแห้งราวกับว่านางสูญเสียจิตวิญญาณ
“เส้นทางสู่ความเป็นอมตะนั้นโหดร้าย เราจำเป็นต้องก้าวย่างด้วยความระมัดระวัง หากเจ้าไม่ต้องการเลือนหายไปเช่นเดียวกับผู้บ่มเพาะทั่วไปในประวัติศาสตร์ เจ้าต้องใช้ความพยายามที่เหนือกว่าพวกเขา แม้ว่าพรสวรรค์จะเป็นตัวกำหนดขีดจำกัดบน แต่ระดับความพยายามจะเป็นตัวกำหนดขีดจำกัดล่างของเจ้า” หลี่หรานพูดด้วยน้ำเสียงคมชัด
“ข้าได้เรียนรู้แล้ว เซิงจื่อ” ลู่ซินหรานพยักหน้า
“เส้นชีพจรของเจ้าถูกปิดกั้นก่อนหน้านี้ มันกระทบกับการไหลเวียนพลังปราณของเจ้า นี่คือสาเหตุที่เจ้าไม่สามารถเข้าถึงขอบเขตสร้างรากฐานได้” หลี่หรานพูดต่อ “เจ้ายังจำตำแหน่งจุดฝังเข็มที่ข้ากดบนร่างกายของเจ้าได้หรือไม่?”
“จุดฝังเข็ม?” ลู่ซินหรานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าจำได้...”
“โคจรเทคนิคการบ่มเพาะของเจ้าไปตามจุดฝังเข็มเหล่านั้น” หลี่หรานกล่าว
“ทราบแล้ว” ลู่ซินหรานไม่ได้ตั้งคำถามเขา นางฝืนทนกับความเจ็บปวดบนร่างกาย ขณะที่นางนั่งไขว่ห้างและเริ่มหมุนเวียนเทคนิคการบ่มเพาะของนาง
นางตกใจมากหลังจากโคจรพลังปราณของนางเพียงรอบเดียว ตอนนี้เส้นชีพจรที่ถูกปิดกั้นของนางเปิดออกแล้ว และอัตราการไหลเวียนของพลังปราณของนางก็เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า!
พลังปราณโดยรอบถูกดึงดูดและหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนาง
“นี่...”
ผู้อาวุโสซุนเหลือบมองหลี่หรานด้วยความประหลาดใจ
มันกลับกลายเป็นเช่นนี้เอง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้นำนิกายไม่ให้ข้าเข้าไปยุ่ง!
ลู่ซินหรานโคจรเทคนิคการบ่มเพาะของนางเป็นจำนวนสี่สิบแปดรอบ พลังปราณในร่างกายของนางถูกบีบอัดจนสุดขีดแล้ว และเสื้อคลุมของนางก็ปลิวไสวแม้จะไร้สายลม
“เปิดปากของเจ้า”
หลี่หรานปล่อยเม็ดยาออกจากมือของเขาอย่างรวดเร็ว
ลู่ซินหรานเปิดริมฝีปากของนางอย่างเชื่อฟัง และเม็ดยาก็เข้าไปในปากของนาง จากนั้น เม็ดยาก็กลายเป็นกระแสความอบอุ่นที่ไหลไปตามเส้นชีพจรของนาง
บูม!
พลังปราณในร่างกายของนางหลั่งไหลออกมาทันที มันยกตัวนางลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า!
หลังจากผ่านไปราวครึ่งก้านธูป พลังปราณทั้งหมดก็หยุดรั่วไหลและเริ่มรวมตัวกันในร่างกายของนาง
ลู่ซินหรานเปิดตาของนาง แสงจางๆส่องผ่านดวงตาขณะที่นางร้องออกมาด้วยความไม่เชื่อ “พลังปราณของข้าถูกกลั่น ข้าเข้าสู่ขอบเขตสร้างรากฐานแล้ว!”
“อะไรนะ!”
“ศิษย์น้องหลู่เข้าถึงขอบเขตสร้างรากฐานแล้ว?”
เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบๆลานประลองต่างตกตะลึง
ไม่ใช่ว่านางกำลังถูกเซิงจื่อทุบตีหรือ? เหตุใดนางจึงทะลวงไปยังขอบเขตสร้างรากฐานอย่างกะทันหัน?
ผู้อาวุโสซุนเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่ใช่เพราะเซิงจื่อเปิดเส้นชีพจรที่ปิดกั้นของเจ้าและใช้เม็ดยาชำระไขกระดูกอันล้ำค่า เจ้าจะเข้าสู่ขอบเขตสร้างรากฐานอย่างราบรื่นได้อย่างไร? ทำไมเจ้ายังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอีก? รีบขอบคุณเซิงจื่อสำหรับความช่วยเหลืออันใหญ่หลวงครั้งนี้สิ!”
ผู้อาวุโสซุนประหลาดใจมาก การเปิดเส้นชีพจรเป็นสิ่งที่ใครๆก็ต้องกระทำอย่างระมัดระวัง ความช่วยเหลือจากภายนอกมีแต่จะทำลายรากฐานของคนๆหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หลี่หรานสามารถทำมันได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องใช้พลังปราณของเขา เทคนิคนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ!
“เขาคู่ควรกับฉายาเซิงจื่อจริงๆ... นี่เป็นสัญญาณว่าเซิงจื่อต้องการดึงข้าไปอยู่ข้างเดียวเขาหรือเปล่า? ข้าควรเริ่มสนับสนุนเขาตั้งแต่ตอนนี้หรือไม่?” ผู้อาวุโสซุนชำเลืองมองหลี่หรานอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
“ขอบคุณท่านมาก เซิ่งจื้อ!” รอยยิ้มของลู่ซินหรานเบ่งบานราวกับดอกไม้
หัวใจของนางหวานล้ำราวกับน้ำผึ้ง ปรากฎว่าแม้เซิงจื่อดูเหมือนจะโกรธนาง แต่จริงๆแล้วเขากลับต้องการช่วยนางทะลวงขอบเขต
ด้วยเหตุนี้ เขาถึงกับใช้เม็ดยาชำระไขกระดูกอันล้ำค่ากับนาง
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ข้าทำไปเพราะไม่สามารถทนได้กับพรสวรรค์ห่วยๆของเจ้า” หลี่หรานพูดอย่างไม่แยแส
ลู่ซินหราน: o(〃▽〃)o
เห็นได้ชัดว่าเขากังวลเกี่ยวกับข้า แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
หยิ่งผยองและน่ารักมาก!
ข้าอยากจะเข้าไปกัดเขาจริงๆ
หลี่หราน: “นอกจากนี้ ข้าไม่ได้ให้เม็ดยาแก่เจ้าฟรีๆ อย่าลืมตอบแทนข้าเป็นสองเท่า!”
ลู่ซินหราน: “ใช่! ร่างกายทั้งหมดของข้าเป็นของเซิงจื่อ ท่านสามารถมารับมันได้ทุกเมื่อ!”
หลี่หราน: “......”
ศิษย์สตรีคนอื่นๆก็มองเขาด้วยความสับสนเช่นกัน ดูเหมือนว่าเซิงจื่อจะไม่เหมือนกับในข่าวลือ ใบหน้าที่เย็นชาแต่ภายในที่นุ่มนวลของเขาช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน!
ทั่วทั้งลานประลองเต็มไปด้วยบรรยากาศสีชมพู
ณ มุมหนึ่ง เหลิงอู่เหยียนเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งที่ปลดปล่อยความหนาวเย็นเสียดแทงกระดูก
“ฮี่ฮี่...” มุมปากของนางกระตุก “ศิษย์ที่กำลังเอะอะเหล่านั้น ข้าควรขับไล่พวกเขาทั้งหมดออกจากนิกายดีหรือไม่?”
หลี่หรานอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
ขณะนี้ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็หายตัวไปในทันที
......
ดินแดนโฮ่วซาน ด้านหลังของภูเขา
หลี่หรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เหล่าสตรีของวิหารโหยวหลัวนั้นเหมือนกับหมาป่าและเสือตัวเมีย สายตาของพวกนางจับจ้องมาที่เขาราวกับว่าพวกนางต้องการกลืนกืนเขาจนหมดสิ้น
โชคดีที่ภารกิจเสร็จสิ้นเสียก่อน
หลี่หรานเปิดหน้าระบบ
【ภารกิจเสร็จสิ้น】
【ระดับความสำเร็จ: สมบูรณ์แบบ】
【รางวัล: หีบสมบัติระดับสูง x2】
“หีบสมบัติระดับสูงเพียงสองหีบเท่านั้นหรือ? ครั้งที่แล้วมีหีบสมบัติระดับสุดยอดถึงสามใบ”
มันแสดงให้เห็นว่าการสารภาพรักกับเหลิงอู่เหยียนครั้งล่าสุดนั้นยากเย็นเพียงใด...
หลี่หรานเปิดหีบสมบัติ
【ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับ “ร่างวิญญาณพรหมจารีย์”!】
【ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับ “พระสูตรแสงเร้นลับ”】
//////////