ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 154 เกาะบุษผา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 156 กรงขังปีศาจแห่งไป่อัน

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 155 งานชุมนุมชิงเม็ดยา


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 155 งานชุมนุมชิงเม็ดยา

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานเหยียบศีรษะของเฉินซื่อฮัวและกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “จากผู้หญิงทั้งหมดที่เจ้ากล่าวถึง มีสามคนที่ฆ่าตัวตาย ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไร แต่ข้าขอเตือนเจ้า อย่าทำให้ข้าโกรธ!”

“ทราบแล้ว...ทราบแล้ว...” เฉินซื่อฮัวกล่าว เดิมทีเขาคิดว่าเขาสามารถต่อสู้กับจอมยุทธ์ขั้นสอง แม้เขาจะไม่สามารถเอาชนะแต่เขายังสามารถหลบหนี อย่างไรก็ตามตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาคิดผิด ความเร็วของหลี่ฉิงซานไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถตอบสนองได้

สำหรับจิตสังหาร เขาพบว่ามันยังทรงพลังยิ่งกว่าแรงที่กดลงบนศีรษะของเขา

หลี่ฉิงซานค่อยๆยกเท้าขึ้น “ตัดสินใจซะ!”

เฉินซื่อฮัวคิดก่อนจะยกศีรษะขึ้น “หากข้าทำ ท่านจะไว้ชีวิตข้าหรือไม่?”

หลี่ฉิงซานกล่าว “ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับเจ้า เจ้าสามารถยอมรับหรือปฏิเสธ จะลองเสี่ยงโชคหรือไม่?”

ภายใต้สายตาที่เย็นชาของหลี่ฉิงซาน เฉินซื่อฮัวตอบ “ข้าจะทำ”

หลี่ฉิงซานยิ้มและช่วยประคองเฉินซื่อฮัวขึ้นมา “เจ้าควรพูดเช่นนี้ตั้งแต่แรก” เขาไม่มีแผนการไว้ชีวิตเฉินซื่อฮัว อย่างไรก็ตามตั้งแต่เขาต้องการใช้งานคนผู้นี้ เขาก็ไม่สามารถแสดงเจตนาว่า “ข้าจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน” มิฉะนั้นผู้ใดจะโง่พอที่จะทำงานให้เขา

การแสดงออกของเฉินซื่อฮัวผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลี่ฉิงซานพิจารณาใบหน้าของฝ่ายหลังและกล่าว “เจ้าต้องมาครอบครัวที่มีฐานะดี มันควรเป็นตระกูลใหญ่ เหตุใดเจ้าถึงทำเรื่องเช่นนั้น?”

เฉินซื่อฮัวตอบ “มันเป็นความโง่เขลาในวัยเยาว์ นายท่าน ท่านต้องการให้คนเหล่านี้มารวมตัวกันที่นี่เมื่อใด?”

หลี่ฉิงซานกล่าว “ยิ่งเร็วยิ่งดี”

เฉินซื่อฮัวกล่าว “มีบางคนที่ข้าไม่รู้จัก บางคนก็มีแผนการของตัวเอง แม้ข้าจะเชิญพวกเขา พวกเขาก็อาจไม่มา”

หลี่ฉิงซานกล่าว “นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าในฐานะเจ้าเกาะบุปผา ในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องเป็นพวกเขา เจ้าสามารถเชิญสหายที่ไร้มโนธรรมและเคยก่ออาชญากรรมมารวมตัวกัน ยิ่งมากยิ่งดี หากน้อยเกินไป มันจะไม่สนุก ข้าอาจอารมณ์เสีย”

หัวใจของเฉินซื่อฮัวสั่นสะท้านขึ้น คนตรงหน้าเขายังเด็กแต่กลับมีหัวใจที่เย็นชา แต่ไม่ว่าอย่างไรสิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงทำตามแผนการของอีกฝ่ายเท่านั้น

เขาเชิญหลี่ฉิงซานไปพักที่เรือนหลังเล็กใกล้ทะเลสาบและสั่งให้คนรับใช้ดูแลแขกคนสำคัญอย่างระมัดระวัง

วันต่อมา เทียบเชิญถูกส่งไปถึงมือของหลี่ฉิงซาน หลังจากได้รับการอนุมัติจากหลี่ฉิงซาน เทียบเชิญจำนวนมากก็ถูกส่งไปยังหลายรายชื่อในบัญชีดำ

มันกลายเป็นข่าวที่คนในยุทธภพพูดถึง จอมยุทธ์นอกรีตที่ทรงพลัง เจ้าเกาะบุปผาที่เก็บตัวเงียบมานานได้รับยาวิเศษมาหนึ่งขวด มันเป็นเม็ดยาที่ทำให้นักสู้สามารถก้ามเข้าสู่ขอบเขตจอมยุทธ์ เขาต้องการขายมัน ดังนั้นเขาจึงเชิญทุกคนมาที่เกาะบุปผาในวันที่แปดเดือนแปดต้นฤดูใบไม้ร่วง เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่างานชุมนุมชิงเม็ดยา

หลี่ฉิงซานถอนหายใจอยู่ภายใน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับโสมจิตวิญญาณในอดีต เฉินซื่อฮัวเป็นจอมยุทธ์อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้ยานี้ แต่สำหรับนักสู้ชั้นหนึ่งคนอื่นๆ นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ไม่อาจต่อต้าน แม้พวกเขาจะรู้สึกสงสัย แต่พวกเขาก็ต้องมาตรวจสอบ หากมันเป็นเรื่องจริง พวกเขาก็จะเฝ้ารออยู่อย่างเงียบๆเพื่อหาโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เฉินซื่อฮัวก็มาเยี่ยมหลี่ฉิงซานทุกวันและให้ความสำคัญกับความต้องการของเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก

หลี่ฉิงซานทำสมาธิและบ่มเพาะทุกวันโดยไม่ออกจากเรือน สิ่งเดียวที่คนบนเกาะรู้คือเขาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเจ้าเกาะ นอกจากนั้นพวกเขายังได้ยินเสียงพึมพำกับตัวเองซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกและทำให้พวกเขาลังเลที่จะเข้าใกล้

ทั้งหมดทำให้หลี่ฉิงซานมีช่วงเวลาที่สงบสุข เขาบ่มเพาะทั้งกลางวันและกลางคืน ภายในเวลาไม่ถึงสิบวัน เขากินเม็ดยารวบรวมพลังปราณไปแล้วสองร้อยเม็ด

ผลลัพธ์ชัดเจนมาก ในวันที่สองเดือนแปด เขาก็บรรลุขั้นห้าของเคล็ดวิชาการบ่มเพาะพลังปราณเบื้องต้น พลังปราณของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก สำหรับการบ่มเพาะในฐานะปีศาจ แม้เขาจะไม่ได้เปลี่ยนร่างเป็นปีศาจ เขาก็รู้ว่ามันเติบโตขึ้นเช่นกัน

หลี่ฉิงซานออกมาเดินเล่นในคืนที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝกตกปรอยๆ ความร้อนของฤดูร้อนลดลง มันกำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง

วันที่แปดเป็นวันมงคล ขณะเดียวกันฤดูใบไม่ร่วงก็เป็นช่วงเวลาที่ดีในการสังหารหมู่

หลี่ฉิงซานรู้สึกค่อนข้างกระตือรือร้น เขาปล่อยหมัดและพลังปราณทะลุทะลวงไปในอากาศและทำให้น้ำในทะเลสาบสาดกระเซ็นไปรอบๆ เขาหันกลับไปและเสี่ยวอันยืนอยู่ไม่ไกล นั่นทำให้เขาคิดถึงบางสิ่ง เขามีบางอย่างที่ต้องเตรียมการ

เช้าวันถัดมา เฉินซื่อฮัวไปเยี่ยมเขาอีกครั้ง

หลี่ฉิงซานกล่าว “เตรียมเสื้อผ้าสำหรับเด็กให้ข้า” เมื่อเสี่ยวอันได้รับร่างใหม่ เขาย่อมต้องการเสื้อผ้า

เฉินซื่อฮัวรู้สึกประหลาดใจแต่เขาไม่กล้าคิดมาก “เสื้อผ้าสำหรับเด็ก? ขนาดไหน? เป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง?”

“เด็กชายอายุประมาณเจ็ดหรือแปดขวบ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องขนาดมากนัก” หลี่ฉิงซานกล่าว เขาค่อนข้างตื่นเต้น เขารู้สึกเหมือนพ่อที่กำลังจะต้อนรับลูกของเขาสู่โลกใบนี้

วันรุ่งขึ้น เฉินซื่อฮัวส่งมอบเสื้อผ้าหลากหลายสีสันและหลากหลายรูปแบบ พวกมันล้วนทำมาจากผ้าไหมคุณภาพสูงสุด เขายังนำของเล่นเด็กมากมายมาด้วย

หลี่ฉิงซานยิ้มและคิดว่าเสี่ยวอันไม่ใช่เด็กธรรมดา เขาจะเล่นของเล่นเด็กเหล่านี้งั้นหรือ? อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ เขาบอกให้เฉินซื่อฮัวเตรียมงานชุมนุมชิงเม็ดยาต่อไป

แม้เขาจะรู้สึกว่าแผนการครั้งนี้ดูชั่วร้าย แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับมัน นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะทำให้เสี่ยวอันได้รับชีวิตใหม่ เขาพึมพำ “ความตายย่อมมาพร้อมกับการถือกำเนิด”

เมื่อเฉิงซื่อฮัวจากไป เสี่ยวอันก็โผล่ออกมาจากหลังผ่าน เขาค่อยๆลูบไล้เสื้อผ้าไหมที่งดงามด้วยนิ้วกระดูกของเขาและจินตนาการว่าเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อเขาสวมใส่พวกมัน เขาเงยหน้าขึ้นมองหลี่ฉิงซานอย่างเงียบๆ เสียงเดียวในเวลานี้คือเสียงฝน อย่างไรก็ตามพวกเขากลับรู้สึกถึงความสุขของแต่ละคนอยู่ในใจ

หลังจากนั้นเสี่ยวอันก็เริ่มเล่นของเล่นอย่างมีความสุข นั่นทำให้หลี่ฉิงซานรู้สึกประหลาดใจ แต่มันก็ทำให้เขาตระหนักว่าเขายังดูแลเสี่ยวอันได้ไม่ดีพอ สิ่งเดียวที่เขามอบให้เสี่ยวอันคือการฆ่าคน

การฆ่าคนไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป ในโลกที่โหดร้าย มันเป็นสิ่งสำคัญในการเอาชีวิตรอด สัตว์ที่โตเต็มวัยต้องสอนทักษะการต่อสู้ให้กับสัตว์ที่อายุน้อยกว่า

นั่นเป็นวิธีที่หลี่ฉิงซานปลอบใจตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิดของเขา หลังจากนั้นเขาก็เฝ้ามองเสี่ยวอันและวางแผนที่จะพาเด็กน้อยออกไปสัมผัสธรรมชาติและสิ่งต่างๆในโลกใบนี้ให้มากขึ้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า เขารู้สึกถึงความอบอุ่น อย่างน้อยที่สุดในโลกที่โหดร้ายใบนี้ เขาก็ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง

แม้แต่สิงโตยังใช้กำลังเต็มที่เพื่อจับกระต่าย หนึ่งวันก่อนวันที่แปด หลี่ฉิงซานกินเม็ดยารวบรวมพลังปราณทั้งหมดของเขา

วันรุ่งขึ้น กลุ่มคนโฉดจะมารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ หลี่ฉิงซานคิดว่าเขาควรกล่าวเปิดงานหรือไม่ เขาคิด ‘เพื่อความสุขของข้า โปรดตายไปซะ! ไม่ นั่นดูเหมือนตัวร้ายในละครมากกว่า’

…..

“ข้าน่ารักหรือไม่?” ยายประจิมถาม

“จะ...เจ้าคือ!” ชายไม่สวมเสื้อและเผยให้เห็นรอยสักรูปมังกรเก้าตัวก้มหน้าลงและกรีดร้องด้วยความตกใจขณะที่เลือดของสหายของเขาไหลอยู่ใต้เท้าของเขาเพียงเพราะคนเหล่านั้นหัวเราะเมื่อเห็นหญิงชราที่น่าเกลียดผู้นี้

“เหตุใดเจ้าไม่มองข้า?” ยายประจิมกล่าวเสียงเย็น

ชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆและตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นหญิงที่งดงามเช่นนี้มาก่อน สายตาที่เย็นชาและสูงส่งของนางสั่นคลอนจิตใจของเขาจนถึงจุดที่ทำให้เขาแทบสูญเสียการควบคุมตัวเอง

ทันใดนั้นภาพของชายผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา เสียงที่ไพเราะราวกับนกขมิ้นถาม “เจ้าเคยเห็นคนผู้นี้หรือไม่?”

เขาส่ายศีรษะด้วยความงุนงงและโทษตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเหลือนาง

“เช่นนั้นก็ไปตายซะ!” ปากเหี่ยวๆพ่นคำกล่าวที่โหดร้ายเหล่านี้ออกมา

ชายผู้นั้นทุบกะโหลกศีรษะของตนเองด้วยฝ่ามือและเสียชีวิตพร้อมดวงตาที่มองยายประจิมด้วยความหลงใหล เขายิ้ม เขาตายเพื่อคนที่เขารัก นั่นทำให้เขามีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ

‘ชีวิตของข้า...คุ้มค่าแล้ว...’

เมื่อออกจากถ้ำอสรพิษวารี ยายประจิมกล่าวด้วยความกรุ่นโกรธ “เจ้าสารเลวนั่นอยู่ที่ใด?”

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นางไล่ล่าหลี่ฉิงซานมาตามเส้นทางที่ควรจะเป็น แต่นางกลับไม่พบร่องรอยใดๆของเขา

ในที่สุดนางก็ไม่สามารถอดทนและกระทำการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ ศพของกองโจรอสรพิษวารีนอนเกลี่ยนอยู่บนพื้น พวกเขาไม่สามารถปล้นชิงสมบัติของผู้ใดได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามทุกคนกลับยิ้มอย่างมีความสุขและสามารถตายเพื่อความรัก

เด็กหนุ่มชุดแดงหยิบเทียบเชิญออกมาจากหน้าอกและส่งให้ยายประจิม

ยายประจิมมองเทียบเชิญ หลังจากครุ่นคิด นางก็เผยรอยยิ้มน่าขนลุก “ข้าเข้าใจแล้ว เด็กคนนี้มีสมองอยู่บ้าง ข้าประเมินเขาต่ำเกินไป ไปเกะบุปผากันเถอะ”

ในวันที่แปดเดือดแปด บนเกาะบุปผา

หลี่ฉิงซานจัดระเบียบความคิดของตนเองและนำดาบวายุแขวนไว้ที่เอว เขามองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นเรือลำเล็กหลายลำแล่นฝ่าพายุฝนเข้ามาเทียบท่า

คนส่วนใหญ่ถืออาวุธและดูดุร้าย หลี่ฉิงซานสามารถบอกได้ทันทีว่าพวกเขาไม่ใช่คนดี

คนนอกรีตเหล่านี้กังวลว่านี่จะเป็นกับดัก พวกเขาระแวงกันเอง ดังนั้นพวกเขาจึงนำผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากมาด้วย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้เลยว่าบางคนที่ยืนอยู่ใต้เงาของต้นหลิวกำลังนับพวกเขาเหมือนลูกแกะ

สองร้อยแปดสิบเอ็ด...สามร้อยสี่สิบสอง...ห้าร้อยห้าสิบเจ็ด...

ตัวเลขดังกล่าวเกินความคาดหมายของหลี่ฉิงซานไปแล้ว

โคมไฟมากมายถูกแขวนไว้ทั่วเกาะ งานเลี้ยงจัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่โดยมีเฉินซื่อฮัวเป็นเจ้าภาพ

เฉินซื่อฮัวยิ้มและทักทายแขกอย่างร่าเริงแต่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องเม็ดยา

บางคนเริ่มไม่สามารถอดทนและเปิดปากกล่าวด้วยความกระวนกระวาย “เจ้าเกาะเฉิน ยาอยู่ที่ใด? โปรดนำออกมาแสดงต่อหน้าพวกเรา!”