ตอนที่ 607 หมัดหลอมเหล็ก
“มีเรื่องอะไรกัน?”
โซฟี่ถาม เขาเป็นคนที่ผมสั้น คิ้วหนาหน้าเหลี่ยมของเขาราวกับใช้ขวานถาก ริมฝีปากหนา ผิวสีแทนไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนล้วนให้ความรู้สึกที่มั่นคงเหมือนภูเขา
เขาคือผู้บัญชาการกองพลที่หนึ่งและยังเป็นมือขวาของเจ้าปกครองแผ่นดินที่น่าเชื่อถือเป็นผู้ทรงอำนาจที่มีชื่อเสียงที่สุดของทวีปทรายขาว
“เป็นเหลียนไป่จวิน”บริวารของเขารายงานด้วยความเคารพ “เราใช้ความพยายามมากมายและใช้สินบนล่อพวกโจรสลัดและพบว่าเป็นหนึ่งในเรือเสริมกำลังของพวกเขา พวกเขามีเรือโจมตีเร็วอยู่สองสามลำที่ได้รับความเสียหายและอยู่ในช่วงซ่อมแซม ครั้งนี้ความเสียหายของพวกเขาไม่ใช่เล็กน้อย”
“เหลียนไป่จวิน?” โซฟี่ขมวดคิ้ว โจรสลัดส่วนใหญ่เป็นพวกไร้วินัยที่มารวมตัวกัน พวกมันไม่มีระเบียบและพ่ายแพ้จากการโจมตีครั้งแรก แต่ยังคงมีพวกฝีมือดีปนอยู่ในพวกโจรสลัดจริงๆซึ่งมีระเบียบวินัยเคร่งครัดไม่ด้อยไปกว่าเมื่อเทียบกับกองทัพประจำ สลัดประเภทนี้ไม่ควรไปตอแยทั้งยังเป็นจ้าวสลัดระดับโลก
ภูผาทมิฬที่เหลียนไป่จวินสั่งการก็เป็นหนึ่งในนั้น (เรือของเหลียนไป่จวินที่แปลเป็นมังกรดำให้เปลี่ยนชื่อเป็นภูผาทมิฬครับ”
โซฟี่เป็นเพียงไม่กี่คนที่รู้เบื้องหลังของเหลียนไป่จวิน เขาเป็นผู้นำทหารระดับอัจฉริยะจบการศึกษาเป็นอันดับสามจากในสถาบันไพรอากาศ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ใด ทั้งความกล้าหาญและความเด็ดขาดโซฟี่ยังต้องก้มหัวให้กับเหลียนไปจวินทุกด้าน
สลัดภูผาทมิฬจากที่ไม่มีอะไรก็มีเพิ่มมากขึ้น จากที่อ่อนแอมากก็กลายเป็นแข็งแกร่งทุกอย่างสร้างขึ้นจากน้ำมือผู้เยาว์คนนี้และสลัดภูผาทมิฬ แม้ว่าจะปล้นชิง แต่พวกเขาไม่ยินดีฆ่าคนบริสุทธิ์ ดูเหมือนว่าอย่างน้อยก็ยังยึดมั่นหลักการบางอย่าง
แต่คนที่ป้องกันศิษย์ผู้น้องของเขาได้และยังทำให้พวกเขาแพ้ได้ ดูเหมือนว่ามาตรฐานของเขาจะไม่ต่ำทรามเลย
“ใครกันเขาคือใครที่สู้กับพวกเขาได้อย่างนี้?” โซฟี่ถาม
“เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ประกอบไปด้วยคน 46 คนและผู้นำเป็นบุรุษชื่อเหมิ่งหนาน พวกเขาขึ้นเรือที่กลางทางและร่วมเดินทางด้วยว่ากันว่าพวกเขามาเมืองทรายขาวเพื่อทำธุรกิจ” บริวารของเขาเรียนด้วยความเคารพ
“มาทำธุรกิจ?” โซฟี่หัวเราะ จากนั้นกล่าว “ไปตรวจสอบเขา”
นี่มันตลกบ้าอะไรกัน? ต่อให้เป็นข้าข้าคงไม่สามารถทำให้เหลียนไป่จวินต้องถอยหนีเพราะคนเพียง 46 คน พวกเขามีพลังแบบไหนกันถึงได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจ?
“ขอรับ!” บริวารของเขาตอบ
โซฟี่ผงกศีรษะและพูดต่อ “ระมัดระวังความปลอดภัยของเมือง เร็วๆ นี้มีคนมากเกินไปในเมืองและมีความแออัดมาก ขอให้ทุกคนระมัดระวังด้วย”
“ขอรับนายท่าน!” บริวารของเขาตอบ
“ไปได้แล้ว”
เมื่อบริวารของเขาออกไป โซฟี่ไตร่ตรองลึกซึ้ง ถ้าเหลียนไป่จวินเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างนั้นเรื่องนี้ก็คงไม่ง่ายแน่ เขาล้วงเครื่องส่งข้อความออกมาเปิดการทำงานไม่กี่นาทีก็มีเสียงดังออกมา “ศิษย์พี่โซฟี่”
“ไปจวิน, ทำไมเจ้าโจมตีฉินอวี่หรัน?” โซฟี่ถาม
“ศิษย์พี่ ท่านติดต่อมานี่จะวิจารณ์ข้าหรือ?” เหลียนไป่จวินดูเหมือนไม่ประหลาดใจ เสียงของเขาสงบใจเย็นมาก
“ไม่หรอก,ข้าแค่คิดว่าเรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น ก็เท่านั้น” โซฟี่ตอบ
เหลียนไป่จวินไม่ตอบ
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด”น้ำเสียงของโซฟี่กลับเป็นปกติ แต่มีแววเย็นชาในดวงตาของเขา “มีใครบางคนที่ต้องการจะเคลื่อนไหวในทวีปทรายขาวใช่ไหม?”
“สมกับเป็นศิษย์พี่จริงๆ” เหลียนไป่จวินยกย่อง
“อะไรคือเงื่อนไขที่พวกเขามอบให้เจ้า?” โซฟี่ถาม
เหลียนไป่จวินเริ่มจะชาชิน “ศิษย์พี่พยายามติดสินบนข้าหรือ?”
“ใช่” โซฟี่สรรเสริญตามตรง “ทำไมจะไม่ได้เล่า? ข้าเชื่อว่าเมืองทรายขาวสามารถมอบข้อเสนอพิเศษได้เท่าฝ่ายที่เสนอแน่ และข้าเชื่อว่าเมื่อเทียบกับคนอื่น ความน่าเชื่อถือของข้าเป็นไปได้มากกว่า”
เหลียนไป่จวินยังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าว “ข้าเสียใจ”
โซฟี่ไม่โกรธ เขาพยักหน้า “โอว.. ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับเงิน ถ้าในเมื่อไม่ใช่เรื่องเงิน แต่ก็ยังทำให้เจ้าเคลื่อนไหวได้ นั่นชักจะน่าสนใจแล้ว”
“ศิษย์พี่, โปรดระมัดระวัง” เหลียนไปจวินพูดเบาๆโดยไม่เคลื่อนไหวอะไร
“ขอบคุณ, ไป่จวิน” โซฟี่พูดอย่างสุภาพ
เขาจบการสนทนาไว้แต่เพียงเท่านั้น โซฟี่ยังคงจมอยู่ในความคิด ในความมืดมีแสงสว่างเป็นประกายอยู่ในดวงตาของเขา
********
องครักษ์คุ้มกันของเหออิงเป็นนักสู้แข็งแกร่งที่ใช้เงินจ้างมาทุกคน และทุกคนเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการตั้งกระบวนรบ แต่ทุกคนมีพลังความแข็งแกร่งเฉพาะตัวและแม้แต่เหออิงผู้เป็นผู้บัญชาการทหารก็ยกย่องพวกเขาเทียมฟ้า ในอดีตไม่กี่ปีนั้นพวกเขาสร้างชื่อให้กับเหออิงมากทำให้ผู้บัญชาการทหารอื่นอิจฉา ในยามจำเป็นพวกเขาจะกลายเป็นแนวหน้า เป็นเหมือนขวานศึกพวกเขาไม่มีใครหยุดยั้งได้ และเป็นการเคลื่อนไหวอย่างสุดยอดของกองพลที่สอง
เมืองทรายขาวเป็นเมืองทำเลยุทธศาสตร์และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าขณะที่ยอดฝีมือมากมายหลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอนาคต
เงินตำแหน่ง อำนาจ ยอดฝีมือทั้งหมดวางตัวเองอยู่เหนือคนที่เหลือและมองแต่เป้าหมายที่สูงขึ้นไป
มันเป็นความอยู่รอดที่เหมาะสมและองครักษ์ที่อยู่ข้างตัวเหออิงจะเปลี่ยนชุดไปอย่างต่อเนื่อง และแต่ละชุดจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในทวีปทรายขาวกองพันทัพหน้าของกองพลที่สองทวีปทรายขาว มีชื่อเสียงที่ทุกคนรู้จักดี
ความแข็งแกร่งของกองทัพหน้าทำให้เหออิงบุกตะลุยขึ้นหน้าได้มาหลายปีโดยไม่มีใครหยุดยั้งได้
แต่ฉากที่อยู่ต่อหน้าทุกคนทำให้ทุกคนตกตะลึง
ถังเทียนไม่เสียเวลาคิดเหออิงก็แค่สวะที่เขาไม่ชอบ และเด็กหนุ่มจอมห้าวชอบต่อยตีก่อนเจรจาเสมอ การคิดถึงผล สถานการณ์และโอกาสที่จะตามมาปัญหาอาจบานปลายสูง สำหรับเด็กหนุ่มบ้าระห่ำไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เขาเป็นพวกที่ชอบใช้การต่อสู้เพื่อแก้ปัญหา
ถังเทียนลงมือเคลื่อนไหวก่อนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก และในพริบตาเขาก็มาถึงร่างบุรุษร่างใหญ่มหึมา
บุรุษผู้แข็งแรงนี้ร่างสูงใหญ่มาก แม้เขาจะไม่กลัว เขายังคงวิ่งลุยข้างหน้าแขนของเขาสั่นสะเทือนสร้างแรงสะท้อน เขาคำรามและปล่อยหมัดออกไปเหมือนปืนใหญ่!
รัศมีสีแดงสดเปล่งจากร่างเขาทันทีและเริ่มกลายสภาพเป็นเหมือนเหล็กเผาร้อน รอบตัวเขาค่อยๆ คล้ายกับเกราะเหล็กร้อน อุณหภูมิในอากาศรอบตัวสูงขึ้นชัดเจนและพื้นข้างล่างของเขาเริ่มละลาย ปราณของเขาถูกเร่งจนระดับสูงสุด
หมัดของเขาเป็นเหมือนกระสุนที่ยิงออกมาจากปืนใหญ่
ถังเทียนตาสว่างวูบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับคนที่ใช้วิชาหมัดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
เขายกหมัดขวา
เพลิงสุญญตาพันรอบหมัดของเขาอย่างรวดเร็วซี่ ซี่ ซี่ เพลิงสุญญตาที่พันรอบหมัดเปลี่ยนสภาพเป็นวังวนสีเทา
พลังวิญญาณเพลิงสุญญตา!
หนุ่มน้อยผู้นี้ไม่มีเวลาจะเสียเวลาจินตนาการอีกแล้ว
เขาก้าวไปข้างหน้าและทำท่าเหมือนคันธนู และปล่อยหมัดของเขาออกไปเหมือนธนู
หมัดที่มีเพลิงสีเทาหุ้มปะทะโดยตรงกับหมัดที่มีรัศมีแดง
ปัง!
ถังเทียนถอยหลังสามก้าวจึงตั้งหลักได้ แขนขาของเขารู้สึกเจ็บปวดมากเหมือนกับว่าไม่สามารถจะยกได้ แต่หน้าของเขามีอาการตื่นเต้น เซียนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะไม่มีพลังวิญญาณที่ลึกลับ แต่พวกเขาใช้พลังงานได้โดยตรงและระเบิดได้มากกว่า
เซียนหมัดมวยของสวรรค์วิถีชนะในเรื่องวิชาหมัด แต่พลังงานที่สะสมอยู่ในหมัดที่อยู่ต่อหน้าเขาเกินกว่าวิชาใดๆ ที่เขาเคยพบมาก่อน
แม้ว่าร่างกายของถังเทียนจะแข็งแรง แต่เขาก็ยังรู้สึกทรมาน
เขาเหยียดแขนออกและสูดลมหายใจหนาวเหน็บ “เฮ้..เล่นเอาชาไปเลย หึ หึ หึ เจ้าแข็งแกร่งจริงๆ เจ้าแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมาก!”
บุรุษร่างใหญ่นั้นจงใจจ้องมองเขา ตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ หวาดหวั่นและเกรงกลัวพลังงานหลอมเหล็กรอบๆ ตัวเขาลดลงมากมาย และมือขวาของเขา ตลอดจนถึงหน้าอกเปิดออก
นั่นพลังหมัดอะไรกัน?
พลังของข้าถูกทำลายจริงๆ! มันถูกยับยั้งและทำลายอย่างสิ้นเชิง!
พลังประหลาดเหมือนกับเข็มแทงเข้าไปในแขนของเขาไม่อาจจะหยุดยั้งมันได้ และนอกจากนั้นพลังทั้งหมดของเขาถูกทำลาย สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากยิ่งขึ้นก็คือส่วนที่พลังของเขาถูกทำลายรู้สึกเหมือนกับว่าตกอยู่ในสภาพเป็นพิษกัดกร่อนพลังของเขาไม่สามารถฟื้นคืนได้และคืบหน้าได้สักนิด
เขารู้ว่านั่นน่ากลัวเพียงไหน!
ระลอกที่รุนแรงเมื่อหมัดทั้งสองปะทะกันกวาดไปทั่วบริเวณเหมือนเหมือนพายุหมุน
แต่มียอดฝีมือหลายคนอยู่ในเหตุการณ์เหมือนกับว่าไม่รู้สึกอะไร พวกเขาสะบัดฝ่ามือสองสามคราระลอกพลังก็หายไป
ภัตตาคารขาวเป็นภัตตาคารที่ดีที่สุดในเมืองทรายขาวมีลูกค้าที่มีชื่อเสียงในทวีปทรายขาว และเพราะการมาถึงของฉินอวี่หรันทำให้มีคนมีชื่อเสียงและอำนาจจากทวีปอื่นมากมายมายังทวีปทรายขาว ดังนั้นภัตตาคารขาวจึงมีคนเต็มทุกวัน
เจ้าของภัตตาคารขาวไม่ใช่ว่าไม่มีผู้หนุนหลัง ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงจับพวกเขาโยนออกไปแล้ว แต่นี่อีกฝ่ายคือหลิงเซี่ย และอีกฝ่ายคือเหออิง ดังนั้นเขาไม่กล้าทำอะไร หลิงเซี่ยจะได้เป็นผู้บัญชาการกองพลที่ห้า และตระกูลหลิงมีเครือข่ายทุกแห่ง ขณะที่เหออิงมีพลังและอำนาจ เขาฉลาดและเจ้าเล่ห์ ถ้าเขาจดจำบัญชีไว้ ไม่เพียงแต่ภัตตาคารจะต้องล่มสลายเท่านั้น แต่จะมีอันตรายทำให้ครอบครัวถูกฆ่า
ทั้งสองฝ่ายมาจากที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ดังนั้นไม่มีใครกล้าทำอะไร
การปะทะหมัดทำให้ทุกคนตกใจและตื่นเต้น
“นั่นใครกัน? เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ!” ผู้เฒ่าหมิงตกใจ เขาคือแม่ทัพเฒ่าแห่งเมืองทรายขาว และเพื่อให้เจ้าครองทวีปคนปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งได้จนถึงวันนี้เป็นเพราะผู้เฒ่าหมิงสนับสนุน เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดที่อาศัยอยู่ในเมืองทรายขาวและรู้จักกองพันทัพหน้าของเหออิง เมื่อเห็นว่าผู้คนไม่รู้จัก เขาอธิบาย “ยอดฝีมือหมัดมวยนั้นชื่อว่าซืออ้าว”
“หมัดหลอมเหล็กซืออ้าว!” ใครบางคนอุทาน
พวกที่ตอนแรกจะเข้าไปห้ามการทะเลาะกันถึงกับหน้าถอดสีทันที
ไป๋เยี่ยพูดขึ้น “รังสีหมัดที่มีชื่อเสียงของซืออ้าวเหมือนกับเหล็กหลอม ในที่สุดก็ได้พบแล้วในวันนี้ นับว่าสมชื่อจริงๆ”
ผู้เฒ่าหมิงพยักหน้าและสรรเสริญ “ซืออ้าวฝึกหมัดด้วยวิธีการที่แปลกใหม่ เขาเริ่มฝึกฝนในลาวาของภูเขาไฟ และจากนั้นก็ในเหล็กหลอม ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ดังนั้นจึงมีพลังหมัดที่ได้รับการยกย่องไปทั่ว 14 ทวีปในบรรดาขุนพลที่มีอิทธิพลของกองพันทัพหน้า เขาอยู่ในห้าสุดยอดฝีมือ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเห็นเขาพ่ายแพ้เพลงมวย แต่เราผู้เฒ่าสงสัยจริงว่าเจ้าเด็กนั่นเป็นใคร?”
ไป๋เสี่ยวมองดูอย่างตกตะลึง ศักดิ์ศรีของซืออ้าวยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าเขาก็จริง แต่ในเรื่องพลัง ซืออ้าวไม่อ่อนแอกว่าแน่นอน ซืออ้าวต่อสู้มาตั้งแต่ยังอยู่ระดับล่างๆ หมัดเดียวของเขาสร้างชื่อแผดเผาถึง 14 ทวีปอาจกล่าวได้ว่าเขาสร้างชื่อผ่านการต่อสู้ และในสามปี เขาท้าทายยอดฝีมือจาก 14ทวีปสร้างความสั่นสะเทือน
แต่ซืออ้าวพ่ายแพ้จริงๆ!
เขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง ถังเทียนอยู่อีกด้านหนึ่งโบกมือบ่นตามเรื่องตามราวไม่มีราศีของยอดฝีมือแม้แต่น้อย แต่ซืออ้าวยืนนิ่งกับที่สายตาเต็มไปด้วยความกลัว หมัดเหล็กหลอมของเขาเหมือนเกราะพลังงานที่ถูกกัดกิน
ไม่ว่าซืออ้าวจะพยายามยืนหยัดยังไงก็ตาม แต่คนที่มองเห็นสามารถบอกได้ว่าซืออ้าวแพ้ในการปะทะฝีมือ
เมื่อได้ยินผู้เฒ่าหมิงถามว่า“เด็กคนนี้เป็นใคร” ในที่สุดเขาก็ตอบสนองและเตรียมตอบ เมื่อถังเทียนเริ่มตะโกนมาทางซืออ้าว
“เอาอีกครั้ง!”
ถังเทียนคำรามทำให้ทั่วทั้งสถานที่ได้ยินเสียงเขา
ตาของซืออ้าวมีแววหวาดกลัว ขณะนั้นมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นและคำรามทันที “เจ้าช่างไม่รู้จักประมาณตัว!”
ซืออ้าวคลายใจ เขารู้จักพลังของสหายของเขาดีและขยับหลีกทางให้ กระบี่แสงกวาดผ่านร่างของเขาและพุ่งเข้าหาถังเทียน
แสงสีเงินพุ่งออกมาจากฟ้า ชั้นกระบี่ครอบคลุมถังเทียน
ปราณแปลกใหม่ที่ยังคุ้นเคยทำให้ผมขนในตัวของถังเทียนลุกชัน มันเป็นกฎธรรมชาติ!
กระบี่นี้มีร่องรอยของกฎธรรมชาติ
ถังเทียนหรี่ตาทันที