ตอนที่ 605 ไล่ตามข้าทำไม?
พวกแก๊งกางเกงไหมตกตะลึงกับความบ้าระห่ำของถังเทียน
เขากลับตัวกะทันหันและพุ่งไปข้างหน้าเมื่อระหว่างเขากับลูกพี่หญิงห่างกันสามเมตร เขาเบี่ยงตัวออกข้าง ใช้เงาร่างตามหลังสร้างความสับสนให้ลูกพี่หญิง พอลูกพี่หญิงสูญเสียการควบคุมร่างก็ปะทะเข้ากับบ้านไม้
โอวพระเจ้า...เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง...
พวกกลุ่มกางเกงไหมไม่อยากเชื่อสายตาพวกเขา การลงมือในทันทีนั้นมันเหลือเชื่อเกินไป การหยุดอย่างกะทันหันได้นั้นขัดกับสามัญสำนึกสิ้นเชิงและการปล่อยพลังเต็มที่ในแต่ละตำแหน่ง และในขณะที่จะปะทะกับอีกฝ่ายการเบี่ยงตัวระดับเก้าสิบองศาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และภาพเงาตามหลังกลายเป็นมีชีวิตชีวาขณะจะเข้าปะทะกัน
แข็งแกร่งมาก!
ยอดฝีมือ!
ทุกคนยิ่งตกใจหนักเมื่อเห็นเจ๊หญิงใหญ่ของพวกเขาเสียท่า! เมื่อเห็นว่านางสร้างม่านพลังขึ้นและปะทะกับบ้านไม้ที่กางม่านพลัง หน้าของพวกเขาซีดขาว
นั่นคือลูกพี่หญิง,ลูกพี่หญิงที่สามารถเที่ยวอยู่ในโลกของพวกกางเกงไหม ไม่เคยมีใครเคยเห็นลูกพี่หญิงตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นมาก่อน
เจ้านั่นเป็นใคร?
นั่นคือคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของทุกคนพร้อมกัน
หลิงเซี่ยกะโผลกกะเผลกขณะพยุงตัวให้มั่นคง แม้ว่านางจะได้รับการปกป้องจากม่านพลังงานนางก็ยังเจ็บตัวจากการกระแทก หลังจากนั้น10 วินาทีนางจึงค่อยเรียกความรู้สึกกลับมาได้หมด
หน้าของหลิงเซี่ยแดงด้วยความอับอายทันที
ข้าถูกหลอก
ข้าถูกหลอกด้วยลูกเล่นภาพเงาตามหลังธรรมดาๆ! บัดซบเอ๊ย!
นางกำหมัดอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ เส้นเลือดของนางปูดโปนขึ้น นางดูน่ากลัว ห้าวหาญเต็มไปด้วยความโกรธ นางวิ่งไปตามซอยตามส่วนต่างๆที่ผ่านมาก่อนนั้นและมองดูรอบๆ เขาอยู่ไหน?
หมู่บ้านไม้ที่อยู่นอกเมืองเพราะผู้คนจะต้องอ้อมบ้านเหล่านี้ไป ที่นี่เหมือนเขาวงกตหลากสีสัน และผู้คนมักพลัดหลงกันได้ง่ายสภาพภูมิประเทศซับซ้อนเหมือนกับสวรรค์ของคนบาป ง่ายที่จะสลัดให้พ้นจากการติดตามและลอบทำร้ายหรือฆ่าได้ทันที
บัดซบ!
เพียงชั่วขณะแผ่นโลหะสื่อสารบนตัวนางก็สั่นทันที นางถ่ายเทพลังงานเปิดการทำงานเครื่องเปล่งแสงนวลตาและมีเสียงคุ้นเคยดังขึ้น
“ลูกพี่หญิง, ไปทางตะวันตก! หมอนั่นอยู่ท้ายบ้านที่เจ็ด ทางตกตะวันตกของท่าน!”
ถังเทียนเป็นเหมือนปลาคล่องแคล่วเคลื่อนไหวระหว่างถนนระหว่างบ้านที่ซับซ้อน เมื่อคิดวิธีที่เขาฉุดดึงฝ่ายตรงข้ามที่มาเร็วได้สำเร็จ ถังเทียนดีใจมากต้องการสู้กับหนุ่มชาวฟ้าหรือ ไม่มีทาง!
เขาตระเวนผ่านบ้านรูปร่างแปลกประหลาดทั้งหมดนั้นมีป้ายแขวนอยู่ที่ประตูของพวกเขา บ่งบอกธุรกิจและสินค้าต่างๆที่พวกเขามี
บ้านไม้ทุกหลังเป็นร้านประจำครอบครัวจากที่ดูก็มีอยู่มากมายหลายหลัง มีหลายครอบครัวทำธุรกิจการค้าที่นี่ ถังเทียนเห็นแล้วพูดไม่ออก
เขาเตรียมจะเข้าไปดูสักร้านหนึ่ง แต่จากหางตาของเขา เขาเห็นแสงสีแดง
ยัยบ้านั่นคนที่ไล่ตามเขามาเมื่อก่อนไม่ใช่หรือ
ถังเทียนตกใจและวิ่งออกไปโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น
ภูมิประเทศเหมาะกับการหลบหนี วิชาปรับสภาพพลังของถังเทียนไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานใดๆ ออกไป และเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเปลี่ยนตำแหน่ง ดังนั้นเขาจึงลื่นไถลไปเหมือนปลาลดเลี้ยวไปมาในระหว่างบ้านในพริบตาเขาก็หนีพ้นคนไล่ล่าอีกครั้ง
ถังเทียนโล่งใจอีกครั้งและมีท่าทีพอใจและผ่อนคลาย ต้องการจะสู้กับพี่หรือน้อง ยังอ่อนประสบการณ์เกินไป!
ในพริบตาเขาโยนเรื่องเหล่านี้ทิ้งไปหมด นี่เป็นแค่เรื่องจุกจิกในวันธรรมดาและเขาไม่สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยแบบนั้นด้วย
หลิงเซี่ยคาดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะลื่นไหลและคลาดกันกับร่องรอยเขาอีกครั้ง แต่นางจัดกำลังไว้แล้ว และอุปกรณ์สื่อสารของนางดังขึ้นอีกครั้ง
“ลูกพี่หญิง,เขาอยู่ทางขวามือของท่านห่างออกไป 100 เมตร ทางเข้าร้านเฒ่าหลิน!”
พวกกางเกงไหมอีกคนจับตำแหน่งของถังเทียนได้
นางไม่พูดสักคำและเลี้ยวบินไปทางขวา นางคือคนท้องถิ่นเมืองทรายขาวและเล่นซ่อนหามาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นนางคุ้นเคยกับทุกร้านมาก
ร่างของเขาปรากฏในสายตานางอีกครั้ง
คราวนี้นางไม่ได้เพิ่มความเร็ว แต่พยายามไปถึงตัวเขาเงียบๆ แต่สัญชาตญาณของถังเทียนแข็งแกร่งกว่าที่นางคิดไว้มาก เมื่อนางอยู่ห่างจากเขาระยะ 30 เมตรถังเทียนก็สังเกตนางออก
ถังเทียนตกใจและเลี้ยวหนีทันที
หลิงเซี่ยกัดฟันแน่นและนางเร่งความเร็วไล่ตามโดยไม่ลังเลใจ
อีกฝ่ายหนึ่งบินด้วยวิธีการแปลกประหลาดและแก้ปัญหาในการเลี้ยวได้ทั้งแปลกประหลาดแต่ก็เร็วมาก ในพริบตาหลิงเซี่ยก็คลาดกับเขาอีกครั้ง
แผ่นโลหะสื่อสารบนตัวนางสั่นอีกคราและตำแหน่งของถังเทียนถูกเปิดเผยอีกครั้ง หลิงเซี่ยยิ้มมั่นใจ พวกแก๊งกางเกงไหมทุกคนถูกนางใช้เป็นหน่วยสอดแนม แยกย้ายกันไปตามซอกมุมต่างๆ ไม่ว่าถังเทียนจะไปที่ใดเขาจะไม่สามารถหลบพ้นเครือข่ายไปได้
เคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวนางก็หายวับไปอีกครั้ง
ทั้งสองฝ่ายเริ่มไล่ล่าไปรอบๆกลุ่มบ้านไม้ ทุกครั้งที่ถังเทียนหนีรอดนางได้ นางจะโผล่กลับมาได้อีก
แม่นี่ บ้าหรือเปล่า!
ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง ทำไมนางต้องตามพัวพันด้วยเล่า
ถังเทียนรู้สึกว่าไม่สมเหตุผล นางกำลังหาเรื่องสู้? เขาคร้านจะหนีต่อ เนื่องจากไม่มีที่สิ้นสุดงั้นสู้ๆ กันไปเลย ง่ายกว่าและเร็วกว่า
เดี๋ยวก่อนเขานึกได้ทันที แล้วทำไมข้าจึงต้องหนีด้วยเล่า? เขาตบหน้าผาก
เขายืนอยู่กับที่และรอให้นางปรากฏตัว
แสงสว่างลุกโชนอยู่ที่ซอยข้างหน้าเขา สีหน้าของถังเทียนเย็นชาและรอให้ฝ่ายตรงข้ามวิ่งเข้ามา
ความโกรธในใจของหลิงเซี่ยลดลงกว่าครึ่ง นางต้องยอมรับ หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากสหายของนาง นางไม่มีทางไล่ตามเขาทัน นี่ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถในการหลบหนีสูงมาก คนที่มีความแข็งแกร่งแท้จริงสมควรได้รับความนับถือจากผู้อื่น
นางกำลังคิดอยู่ว่าเขาเป็นใคร วิธีการบินที่แปลกประหลาดพอจะบอกได้ว่าโดดเด่นเฉพาะทาง แต่ไม่ว่านางจะเค้นสมองยังไง นางก็ไม่สามารถคิดออกว่าเขาเป็นใคร
ทันใดนั้นจากมุมสายตาของนาง นางเห็นร่างหนึ่ง
เขาไม่พยายามหนี แต่ลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าเงียบๆ
ภาพของเขาหายไปจากสายตานาง!
สีหน้าของหลิงเซี่ยเปลี่ยน นางตระหนักได้ทันทีว่าการกระทำของนางเป็นเรื่องต้องห้ามนางเตรียมจะเอ่ยปากพูด เมื่อร่างนั้นมาปรากฏอยู่ต่อหน้านาง ก่อนที่นางจะได้พูดอะไรออกมานางทำได้เพียงป้องกัน
ปัง!
หมัดกระแทกใส่ม่านพลังของนาง ม่านพลังของนางแตกกระจายเป็นผุยผงทันที
หน้าของหลิงเซี่ยเปลี่ยนไปสิ้นเชิง เขาตั้งใจจะฆ่า
การสนองตอบของนางรวดเร็วมาก นางรู้ว่าไม่ว่าจะพูดยังไงก็สายเกินไปแล้วและที่สำคัญก็คือปัดป้องการโจมตีของเขา
ประกายไฟรุนแรงสว่างวาบทันทีและมันเหมือนกับงูเพลิง ฉกเข้าหาถังเทียน
ถังเทียนแค่นเสียงเขากระแทกใส่รังสีเพลิง เพลิงสุญญตาขดรอบงูเพลิงทำให้แสงของงูเพลิงระยิบระยับมอดลงราวกับถูกน้ำเทใส่
พลังวิญญาณของหลิงเซี่ยตก นางรู้ตัวว่านางเดินหมากผิดในครั้งนี้
เมื่อถังเทียนเคลื่อนไหวต่อสู้กับหลิงเซี่ย กลุ่มกางเกงไหมตกใจกันหมด และจากนั้นก็เริ่มหัวเราะ เขาพยายามสู้กับเจ๊ใหญ่หรือนี่?
สำหรับพวกเขาคนผู้นั้นก็เหมือนหนู ไม่มีความสามารถอย่างอื่น นอกจากวิ่งหนี ไอ้เรื่องจะชักกระบี่ต่อสู้ เขาจะเป็นคู่ต่อสู้กับลูกพี่หญิงได้ยังไง? ในสายตาพวกเขาการดำเนินการทั้งหมดก็เป็นเหมือนการละเล่นอวดกันเพื่อความสำราญใจ
แต่เมื่อถังเทียนทำลายม่านพลังของหลิงเซี่ยด้วยหมัดเดียวหน้าของพวกแก๊งกางเกงไหมถึงกับเปลี่ยน ทุกคนเต็มไปด้วยประสบการณ์การต่อสู้และการทะเลาะเห็นจนเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกินข้าว ไม่ว่าเขามีฝีมือหรือไม่พวกเขาสามารถบอกได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
แก๊งกางเกงไหมที่อยู่ใกล้ที่สุดวิ่งไปหาพวกอีกสองคนทันที ไม่ว่ายังไงจะปล่อยให้ลูกพี่หญิงบาดเจ็บไม่ได้
ถังเทียนที่ไม่เคยอดกลั้นจนถึงที่สุดอยู่แล้วถึงกับหงุดหงิด บางทีคนอื่นอาจจะออมมือให้สตรีอย่างหลิงเซี่ย แต่ในสายตาของถังเทียนเขาไม่เคยจำแนกความแตกต่างระหว่างบุรุษกับสตรี
สตรีอ่อนแอหรือ?เจ้ากำลังเล่นตลกหรือเปล่า เมื่อเชียนฮุ่ยอยู่ในสถาบันแอนดรูว์ นางเอาชนะบุรุษตั้งมากมาย
และสตรีที่กล้าก่อกวนวุ่นวายก็ยากจะรับมือทั้งนั้น
ถังเทียนปล่อยหมัดและแข้งโดยไม่มีปราณี
ทั้งตัวของหลิงเซี่ยต้องรับพลังโจมตีต่อเนื่อง ถังเทียนปล่อยพลังโจมตีเป็นชุดถี่มากและนางไม่อาจตามทันได้เลย พลังโจมตีที่รุนแรงนั้น นางไม่มีโอกาสพักหายใจ จิตใจนางว่างเปล่า และที่ทำได้ทั้งหมดก็คือป้องกัน
ปัง ปัง ปัง!
หมัดของอีกฝ่ายหนักหน่วงและแข็งแกร่งเกินกว่าที่นางจะคาดได้ นางได้แต่เพิ่มม่านพลัง แต่ภายใต้หมัดเหล็กม่านพลังของนางอ่อนแอราวกับกระดาษ สิ่งที่ทำให้หลิงเซี่ยกลัวก็คือเปลวเพลิงสีเทาที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่รอบหมัดของเขาปลดปล่อยรังสีที่ทำให้ใจนางกลัวมาก ไม่ว่าจะใช้พลังอะไรต่อสู้ตราบใดที่ปะทะกับเพลิงสีเทา พลังงานก็จะสลายไป
ในไม่ช้าหัวใจของหลิงเซี่ยก็ถูกความกลัวรุนแรงครอบงำ นางเสียใจที่ด่วนลงมือ
“ลูกพี่หญิง!”
“เราอยู่นี่!”
สภาพใจของหลิงเซี่ยค่อยฟูขึ้น ร่างสองสามร่างกระโจนเข้าหาถังเทียน
พยายามจะรุมกินโต๊ะข้าหรือ?
ตาของถังเทียนเปลี่ยนเป็นจริงจัง
ดวงตาของบุรุษผมทองเต้นระริกและร่างปรากฏวับเหมือนกับภูตพราย เขาสั่นและเรียกม่านพลังคุ้มกันทันที
เขารู้สึกเหมือนถูกค้อนหวดใส่อย่างแรง ม่านพลังของเขาแตกกระจายหายไปทันทีไม่สามารถต้านทานพลังได้ บุรุษผมทองเหาะออกไปเหมือนสัตว์ตื่นกลัววิ่งหนี
ถังเทียนไม่หยุดแค่สะกิดปลายเท้าร่างก็พุ่งตัดขวางไปข้างหน้า เขาพุ่งโค้งสวยงามและบังเอิญขวางทางบุรุษอ้วนคนหนึ่งไว้
เขาย่อเอวขาสะบัดเหมือนแส้ขณะที่หวดกวาด
ปัง!
ม่านพลังแตกกระจายเหมือนฝนและอีกร่างหนึ่งก็ปลิวกระเด็น
อาศัยแรงดีดสะท้อนถังเทียนเคลื่อนตัวต่อเนื่องและมาปรากฏตัวที่ด้านหลังหลิงเซี่ยปล่อยหมัดไปข้างหน้า
หลิงเซี่ยที่รู้สึกตัวว่านางเพิ่งได้โอกาสหายใจในช่วงที่จนใจนั้นสามารถทำได้แต่เพียงป้องกันอย่างสุดกำลัง ประกายแสงกระจายทั่วร่างของนางสะท้านและไม่สามารถควบคุมร่างนางได้ นางถลาไปข้างหน้าสองก้าว
แต่ถังเทียนเลี้ยวเข้าขวางการเสริมกำลังจากอีกฝ่าย หมัดของเขาส่งผลให้อีกฝ่ายปลิวไปทันที
ปง ปง ปงแสงยังระเบิดดังต่อเนื่องเหมือนกับลั่นกลองศึก
ถังเทียนเป็นเหมือนสายฟ้าคะนองที่แล่บแปลบปลาบเดี๋ยวข้างหลังเดี๋ยวข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง วนอยู่รอบตัวหลิงเซี่ยด้วยความเร็วที่น่าทึ่งไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครสามารถฝ่าแนวของเขาเข้าไปได้ถ้าใครพยายามเข้าไปใกล้ก็จะกระเด็นออกมา
ตาข่ายที่เลี่ยงไม่ได้
เป็นวลีที่ปรากฏขึ้นมาในใจของชาวเมืองที่เริ่มสังเกตเห็นแนววงแหวนในอากาศ
หลิงเซี่ยเป็นเหมือนนกที่ติดอยู่ในกรงไม่ว่าจะดิ้นรนขนาดไหนก็ไม่สามารถหนีออกมาได้
เมื่อคนหลายคนพ่ายแพ้ไปทีละคนๆตามมาด้วยเสียงระเบิดและเสียงร้อย แต่แค่อาศัยตัวคนเดียว กับดักที่บุรุษหนุ่มสร้างขึ้นนี้เริ่มเงียบไป
คนผู้นี้เป็นใคร?
เพียงคนเดียวเอาชนะพวกเราได้หลายคนแต่เขาก็ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ
คอเรียวยาวของนางถูกมือข้างหนึ่งจับไว้
มือที่แข็งราวกับกรงเล็บเหล็กกล้าทำให้หลิงเซี่ยรู้สึกหลังคอของนางตึง หายใจไม่ออก ความรู้สึกว่างเปล่า
“เจ้าไล่ตามข้ามาทำไม?”
เสียงของบุรุษหนุ่มดุเคร่งขรึม