ตอนที่แล้วตอนที่ 602 ไม่ยอมแพ้? ซ้อมเขา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 604 ว่าไงนะ? เจ้ามีคัมภีร์อัญเชิญ?

ตอนที่ 603 กลับแดนสวรรค์


พระราชวังต้าเซี่ย ทวีปมังกรทะยาน

ข่าวที่น่าตกตะลึงก็คือราชินีซิกแห่งเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์พาชนเผ่าของนางมากกว่าสามร้อยคน และทุกคนเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดเดินทางเข้าเยี่ยมจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย  จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้, ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งหอทงเทียน กำลังพลที่นางนำมาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดมากกว่าสามร้อยคน  ไม่มีกลุ่มยอดฝีมือกลุ่มใดในหอทงเทียนสามารถเทียบกับกองกำลังนั้นได้  แม้แต่เผ่ามนุษย์มีปีกในทวีปกวงหมิง, เผ่าใต้พิภพในทวีปเฮยอัน หรือแม้แต่เผ่าปีศาจตะวันออกซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในหอทงเทียน  ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์เหล่านี้ซึ่งไม่ทราบว่าโผล่มาจากที่ใด... เนื่องจากมีชื่อว่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์ย่อมเป็นที่แน่นอนว่ามาจากแดนสวรรค์  แทบทุกคนเดาว่าพวกเขาเป็นสหายที่คุณชายสามตระกูลเย่ว์พามาจากแดนสวรรค์

บางคนก็รู้สึกว่าเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์ถูกเย่ว์หยางล่อลวงมาที่นี่เพราะใช้แผนชายงาม

มีหลักฐานเพียงพอสนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้ เนื่องจากมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ทุกคนเป็นสตรีล้วนๆ และพวกนางไม่มีคนสวยงามเลยสักคน

พลังของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่มีอิทธิพลเหนือสตรีได้รับการยอมรับทั่วทั้งหอทงเทียนอยู่แล้ว  แม้ว่าแต่ละเผ่าพันธุ์จะมีมาตรฐานความงามที่แตกต่างกัน  ถ้าใครถามว่าใครคือบุรุษที่มีเสน่ห์มากที่สุดในหอทงเทียน คำตอบมักจะเหมือนกันเสมอ

สตรีทุกคนจะต้องตอบว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์แน่นอน

นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้  ที่สำคัญ พลังอำนาจก็คือเสน่ห์เช่นกัน!”

“ท่านไม่ต้องมากมารยาทก็ได้ ราชินีซิก... องค์หญิงเซี่ยอี.. เชิญนั่งเถอะ”  เมื่อเห็นว่าราชินีซิกไม่กล้านั่งต่อหน้าเย่ว์หยาง  จุนอู๋โหย่วให้ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่พาเย่ว์หยางออกไปนอกห้อง  ถ้านักสู้ปราณก่อกำเนิดเหล่านี้ไม่กล้านั่ง  กลุ่มผู้เฒ่าเหล่านี้คงต้องยืนสนทนากันทุกคน  สตรีชาวเผ่าที่ราชินีซิกพามาด้วยย่อมเป็นทาสหญิงของเย่ว์หยางแน่นอน  แต่อย่างไรก็ตาม พวกนางล้วนแต่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดกันทุกคน  ในหอทงเทียนพูดกันด้วยพลัง  แม้ว่าสตรีเหล่านี้จะมีสถานะต่ำกว่าพวกเขา  แต่กระนั้นพวกนางก็ยังเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดจำนวนมากกว่าสามร้อยคน!

พวกนางทุกคนอาจถูกมองว่าเป็นระดับองครักษ์พิทักษ์ฟ้าของสมาพันธ์นักสู้ปราณก่อกำเนิดได้

ตอนนี้ ต่อหน้าเย่ว์หยางพวกนางไม่กล้านั่ง

ถ้าคนภายนอกเห็นภาพเช่นนี้  พวกเขาอาจจะเข้าใจผิดว่าผู้เฒ่าเหล่านี้ไม่ให้เกียรตินักสู้ปราณก่อกำเนิด

ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่กระแอมเบาๆ  เขากวักมือเรียกที่ด้านหลังเขา บอกใบ้ให้พวกผู้เยาว์ที่ยืนอยู่ข้างหลังพาเย่ว์หยางออกไป  เย่ว์หวี่ฉลาดที่สุดในกลุ่มผู้เยาว์เข้าใจได้จึงรีบพากลุ่มผู้เยาว์ออกไปทันที  “เสี่ยวซาน!  ซวงเอ๋อคิดถึงเจ้ามาก นอกจากนี้แม่สี่ยังตัดชุดใหม่ไว้ให้เจ้า  เจ้าไปลองชุดเหล่านั้นดูก่อนว่าพอดีกับตัวเจ้าหรือไม่!”

เมื่อเห็นเย่ว์หวี่พาเย่ว์หยางออกไป  เซี่ยอีสูญเสียเป้าหมายในสิ่งที่จะทำทันที  ในสภาพที่นางตื่นเต้น  นางต้องการออกไปพร้อมกับเขาเช่นกัน

แต่ขณะเดียวกัน  นางเกรงว่าจะถูกหัวเราะเยาะ  นางรู้สึกใจหายจริงๆ

จุนอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า พวกผู้เฒ่าเหล่านี้ความจริงก็เข้าใจ  พวกเขาละอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา  ราชินีรีบเข้ามาทักทายราชินีซิกก่อนที่จะกระตือรือร้นดึงมือน้อยๆ ของเซี่ยอี “องค์หญิงไม่ต้องห่วงหรอกนะ  คุณชายสามแค่ไปเดี๋ยวเดียว ถ้าท่านไม่ว่ากระไรขอเชิญมาดื่มน้ำชากันก่อน”

“ไม่, ไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิงก็ได้  เรียกข้าว่าเซี่ยอีก็พอ!” เซี่ยอีโบกมือด้วยความอาย  แต่เมื่อเห็นว่าทุกคนยืนยันที่จะเรียกนางเป็นองค์หญิง นางจึงได้แต่ยอมรับ

“เราต้องขอขอบคุณจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยจริงๆ”  หลังจากส่งเย่ว์หยางและเซี่ยอีออกไปแล้ว  ราชินีซิกทักทายทุกคนแล้วจึงยอมนั่ง

เมื่อเห็นนางนั่ง  ผู้เฒ่าทุกคนถอนหายใจโล่งอกในที่สุด

โธ่เอ๋ย, เย่ว์หยางเจ้าเด็กนี่ผิดปกติคนอย่างแท้จริง  คราวก่อนเขาก็เพิ่งนำพะยูนนรกกลับมา  คราวนี้กลับทำเกินตัวถึงกับพามนุษย์มังกรแดนสวรรค์กลับมาหลายร้อยคน แม้ว่าคิดหาวิธีปิดบังสำหรับเขาก็กลายเป็นภาระหนักอกสำหรับทุกคน  แน่นอนว่า ผลประโยชน์เช่นนั้นย่อมได้รับการต้อนรับจากทุกคน รวมทั้งจุนอู๋โหย่ว, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่และหัวหน้าตระกูลแต่ละคน

ขอเพียงมีสตรีเผ่ามังกรแดนสวรรค์หลายร้อยคนเหล่านี้อยู่ ทวีปมังกรทะยานจะปลอดภัย

ตามธรรมดาจุนอู๋โหย่วจะไม่ปฏิบัติต่อสตรีเหล่านี้เหมือนกับเป็นทาสอย่างที่เย่ว์หยางทำ  เขาพอใจที่จะปฏิบัติเสมอภาคกับราชินีซิก  นอกจากนี้ สำหรับราชินีซิกซึ่งเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ดยอมทักทายเขาด้วยความนับถือเนื่องจากเขาเป็นผู้อาวุโสของเย่ว์หยาง  เขาก็ยิ่งรู้สึกยินดี

เย่ว์หยางไม่กังวลสนใจเรื่องที่ราชินีซิกกับจุนอู๋โหย่วกำลังปรึกษากัน

เขาไม่สนใจเรื่องการเมือง

ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ใส่ใจ

ไม่ว่าจะยุ่งยากขนาดไหน ตราบใดที่เย่ว์หยางตัดสินใจทำ จุนอู๋โหย่ว, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยสนับสนุนเขา

หลังจากพบกับแม่สี่  เย่ว์หยางกลับไปที่สวนดอกไม้น้อยพร้อมกับจูงซวงเอ๋อไปด้วย

นอกจากหนานอี้และอู๋เหินแล้ว  สตรีนางอื่นทุกคนฝึกฝนอยู่กับจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี

เหตุผลที่อี้หนานยังรั้งอยู่เป็นเพราะการฝึกฝนของนางต่างจากคนอื่น

ไม่ใช่แค่เพียงเย่ว์หยางตัดสินใจพาสาวน้อยนางนี้ไปเที่ยวในแดนสวรรค์เท่านั้น  เขาต้องการแสดงความรักที่หวานซึ้งกับนางซึ่งล่าช้าออกไปเพราะต้องต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เดิมทีเย่ว์หยางตั้งใจจะพาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เสวี่ยอู๋เสียและโล่วฮัวติดตามไปด้วย  แต่จักรพรรดินีราตรีไม่อนุญาต  นางรู้สึกว่าสิ่งที่จำเป็นต่อสาวๆ คือการฝึกฝน ไม่ใช่ความรัก  ไม่มีเย่ว์หยางอยู่ใกล้ๆ พวกนางจะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด  นี่คือเหตุผลที่จักรพรรดินีราตรีขอให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพาพวกนางไปด้วยตัวเอง

ไม่ต้องพูดถึงพวกนาง  แม้แต่นางเซียนหงส์ฟ้าก็ยังถูกจื้อจุนพาตัวไปด้วย

เนื่องจากนางเซียนหงส์ฟ้าเกือบจะบรรลุพลังปราณฟ้าระดับสามแล้ว จื้อจุนตัดสินใจแนะนำน้องสาวน้องให้เป็นการส่วนตัว.... หลังจากศึกที่สังเวียนมรณะและในแดนสวรรค์  นางเซียนหงส์ฟ้าเริ่มตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างนางเองกับพี่สาวนาง และเริ่มสะท้อนใจถึงความตั้งใจของนางในอดีต

แม้ว่านางเซียนหงส์ฟ้าจะไม่สามารถขอโทษจื้อจุน  แต่ความตั้งใจยอมรับการฝึกฝนจากพี่สาวนางก็เป็นเหมือนการแสดงสัญลักษณ์สำนึกผิดของนางแล้ว

หญิงงามอู๋เหินดูเหมือนต้องการจะรั้งอยู่เพื่อศึกษาจากแม่สี่  แต่นางไม่ยอมบอกเย่ว์หยางว่านางได้รับความรู้ใดกันแน่

บางทีอาจเป็นแม่สี่ไม่ต้องการให้เย่ว์หยางรู้ความลับของนาง

นอกจากเมื่อตอนที่เย่ว์หยางค้นคว้าตุ๊กตาหุ่นรบ  เย่ว์หวี่จะไม่ใช้เวลาอยู่กับเย่ว์หยางตามลำพังอีกเลย เมื่อไม่นานมานี้นางจะเอาแต่หลบซ่อนตัวอยู่ห่างๆ จากเขา  แม้เมื่อตอนพบกันนางจะวางท่าเป็นพี่สาว  เย่ว์หวี่ไม่ต้องการติดตามเย่ว์หยางไปสำรวจแดนสวรรค์  ตรงกันข้ามสิ่งที่เย่ว์ปิงหวังที่สุดก็คือฝึกฝนกับพี่ชายนาง  แม้ว่าเย่ว์หวี่จะเตือนอยู่หลายครั้ง  แต่เย่ว์ปิงก็ยังถามอย่างมึนงง  “ทำไมข้าถึงไปด้วยไม่ได้ในเมื่อพี่อี้หนานยังไปได้เลย?”

เย่ว์หวี่ไม่ตอบปัญหานี้

“เอ่อ, ถ้าเจ้าติดตามไปด้วย  เจ้าจะกลายเป็นหลอดไฟที่พี่ชายเจ้ามักพูดถึง...”  ก่อนที่เจ้าอ้วนไห่จะพูดจบประโยค  เย่คงใช้เท้ายันเขาจนปลิวไปก่อนแล้ว  “เจ้าหัวหมู  อย่าทำให้ปิงเอ๋อเสียคน, ไสหัวไปอยู่ข้างๆ เลยไป!”

“เจ้าก็ไปได้  แต่นั่นหมายความว่าพี่ชายจะต้องปกป้องคนเพิ่มขึ้นสองคน  แต่ถ้าเจ้าไม่ไป  เขาจะต้องปกป้องแต่เพียงอี้หนานคนเดียว ซึ่งสำหรับเขาแล้วจะง่ายกว่า  ครั้งต่อไปค่อยขอให้เขาพาไปอีกก็ได้  เนื่องจากเขามีเข็มทิศสามดินแดนอยู่  เขาสามารถไปเมื่อใดก็ได้  รอให้เจ้าและพี่ชายเจ้าแข็งแกร่งมากกว่านี้ จากนั้นไม่เพียงแต่เขาจะพาเจ้าไปเท่านั้น  ยังพาพวกเราไปได้หมดเช่นกัน”  แค่เพียงหลิวเย่ช่วยอธิบาย  เย่ว์ปิงจึงยอมยกเลิกความตั้งใจทันที

“โอว, เป็นแบบนั้นเอง  ข้าคิดว่าเป็นเพราะระดับข้ายังไม่สูงพอไปแดนสวรรค์นี่เอง”  เย่ว์ปิงมีหัวใจที่บริสุทธิ์ นางไม่คิดอะไรที่เลยเถิด นางเพียงแต่รู้ว่าพี่ชายนางสนิทกับนาง  นางจะไปรู้ได้อย่างไรว่าการปรากฏตัวของนางจะรบกวนเหมือนเป็นก้างขวางคอระหว่างพี่ชายนางกับอี้หนาน  นางกำหมัดแน่นพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นว่า “ข้าจะต้องฝึกหนักและแข็งแกร่งให้มากขึ้นแน่นอน  และจะไม่ยอมเป็นภาระพี่ชายเด็ดขาด  ฝึกให้หนัก!”

เมื่อมองตามหลังเย่ว์ปิงขณะที่นางวิ่งออกไปฝึกฝนต่อ  เจ้าอ้วนไห่น้ำตาไหลเต็มหน้า  “นางแซงข้าไปแล้ว....”

เย่คงตะโกนใส่เจ้าอ้วนไห่ “เจ้าโง่อ้วน  ถ้านางไม่พยายามรักษาหน้าตาพวกเรา  นางเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดไปนานแล้ว  แล้วเจ้าอยู่ที่นี่ทำอะไร?  รีบไปฝึกได้แล้ว เจ้าไม่อายบ้างเหรอติดอยู่ที่ชั้นเตรียมปราณก่อกำเนิดอยู่นานแล้ว?  ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าคงเอาหัวโขกพื้นตายไปนานแล้ว  เจ้าโง่ขนาดนั้นเชียวหรือ?  ความก้าวหน้าของเจ้าครั้งนี้ไม่มีอะไรเลย”

เจ้าอ้วนไห่โกรธ  “เจ้าลิงผอม, เจ้าก็ติดอยู่ที่เตรียมปราณก่อกำเนิดเช่นกัน  ถ้าเจ้าทำได้ ก็แสดงวิธีการบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดให้ข้าดูในวันนี้เลยได้หรือเปล่า?”

เสวี่ยทันหลางผู้เงียบขรึมมาโดยตลอดโพล่งขึ้นทันที  “พวกเจ้าทั้งสองช่างเป็นสวะจริงๆ  ข้ากำลังคิดทบทวนอยู่ว่าควรจะเลิกคบกับพวกเจ้าทั้งสองคนดีหรือเปล่า   เป็นสหายกับสวะนี่มันช่างน่าอายเสียจริง”

“เจ้า!”  เจ้าอ้วนไห่แทบสะอึกด้วยความโกรธ  แต่เขาไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ เนื่องจากเสวี่ยทันหลางได้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดก่อนพวกเขาไปแล้ว  เขาย่อมพูดได้ตามที่ต้องการ

“เจ้าอ้วนงี่เง่า  มาฝึกกัน!”  เย่คงก็โกรธโมโหด้วยเช่นกัน  ขณะที่เขารู้ชัดเจนว่าเสวี่ยทันหลางต้องการทดสอบจิตใจของพวกเขา  แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาไม่สามารถทนได้  ความจริงเขากับเจ้าอ้วนไห่มีความสามารถเหนือกว่าปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งไปแล้ว  แต่ยิ่งพวกเขากระวนกระวาย พวกเขาก็ยิ่งติดขัดอยู่ช่วงก่อนจะเข้าเขตแดนปราณก่อกำเนิดและไม่สามารถบรรลุได้  เนื่องจากเย่ว์หยางยังคงยุ่งเกินกว่าจะให้คำแนะนำพวกเขา  การฝึกฝนของพวกเขาจึงกลายเป็นหยุดนิ่ง  ไม่เพียงแต่เท่านั้น พวกเขายังคงแข่งขันกันและไม่ยอมพึ่งพาคำแนะนำของเย่ว์หยางต้องการจะบรรลุขอบเขตใหม่ด้วยความสามารถตนเอง...

เมื่อเย่ว์หวี่เข้ามาพาเด็กหญิงไป  อี้หนานรู้สึกตื่นเต้น

โลกที่มีพวกเขาเพียงสองคน!

โลกที่มีแต่นางกับเย่ว์หยาง นางปรารถนามานานแล้ว  ในที่สุดก็มาถึงวันนี้

ความจริงนางไม่สนใจว่าพวกเขาจะไปแดนสวรรค์หรือไม่  ตราบใดที่นางอยู่กับเย่ว์หยางในบรรยากาศที่ดูดดื่ม ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ย่อมได้  กลับกลายเป็นแผนการออกท่องเที่ยวกับเย่ว์หยางของนางก็คือไปบันไดสวรรค์เพื่อติดตามร่องรอยของบรรพบุรุษ  เนื่องจากเย่ว์หยางไม่รีบร้อนสำรวจบันไดสวรรค์ในตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งสำรวจแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเลย

ด้วยเข็มทิศสามดินแดน  สถานที่ซึ่งเย่ว์หยางต้องการไปสำรวจที่สุดก็คือแดนสวรรค์

ตั้งแต่ราชันย์พันปีศาจตาย และร่างแยกอีกร่างหนึ่งไม่ได้เคลื่อนไหว  ก็ไม่มีความจำเป็นต้องลงมืออะไรในตอนนี้  ราชาเฮยอวี้ก็ยังซ่อนตัวอยู่ไม่ยอมให้เย่ว์หยางได้โอกาสคร่ากุมง่ายๆ  จักรพรรดิชื่อตี้หลบหนีเข้าแดนสวรรค์  ดังนั้นเย่ว์หยางไปแดนสวรรค์ก็เพียงสืบค้นข่าว  ที่น่ากลัวมากว่าจักรพรรดิชื่อตี้ก็คือซิวคงและจิ่วเซียวซึ่งฟื้นตัวขึ้นทีละน้อยๆ ครั้งกระโน้น ซิวคงและจิ่วเซียวคือสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ได้ต่อสู้กับจักรพรรดิอวี้

ไม่ว่ายังไงก็ตาม เย่ว์หยางต้องการขึ้นแดนสวรรค์เพื่อไปสืบดู  รู้ทั้งเรารู้ทั้งเขาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ได้สำรวจ ได้ขยายเขตแดนขณะเดียวกันก็เกี้ยวสาวๆ ไปด้วย จะมีอะไรในโลกนี้ที่สุขกว่านี้?  เย่ว์หยางต้องการแสดงความรักกับสาวน้อยอี้หนานให้นาน แต่เขาไม่ได้มีโอกาสเช่นกัน ตอนนี้เวลาที่เขาต้องการคืออยู่กับอี้หนานที่นี่  ไม่มีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสีย  ไม่มีสาวงามอู๋เหินและเจ้าเมืองโล่วฮัวอยู่ใกล้ ระหว่างช่วงเวลาเดินทางที่สู่แดนสวรรค์ในบรรยากาศเหมือนฝันนี้ ... เย่ว์หยางคงได้สานสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับอี้หนาน... นี่คือความปรารถนายิ่งใหญ่ของเย่ว์หยาง และเป็นผลของความรักที่คาดหวัง การตามหาเซี่ยอีก่อนนั้นทำให้เสียเวลาไปเล็กน้อย โชคดีที่เขาได้ผลเก็บเกี่ยวจากการช่วยมนุษย์มังกรแดนสวรรค์มาด้วย

“ข้ากังวลมากจริงๆ ข้าจะสวมชุดไหนดี ตอนนี้ข้าเตรียมถุงไว้หลายใบเลย กะว่าจะเอาของฝากพิเศษจากแดนสวรรค์มาเป็นของฝากทุกคน”  อี้หนานบิดตัวไปมาด้วยความตื่นเต้น

“อย่าเอาอะไรไปมากนักเลย  ความจริงลืมๆ ไปบ้างก็ได้  ทำสิ่งที่เจ้าต้องการ!”  เย่ว์หยางลูบวงหน้าของนางอย่างนุ่มนวล

สหายหญิงที่สนิทคนแรกที่เขาพบก็คืออี้หนาน  นางเป็นสตรีคนแรกที่มีส่วนร่วมกับเขา  แต่เวลาที่เขามีให้นางช่างน้อยนิด

ตอนนี้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาต้องปฏิบัติกับนางอย่างเหมาะสม  เขาต้องทำให้การเดินทางไปแดนสวรรค์ราบรื่นดูดดื่มที่สุด เหมือนกับการไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์... เย่ว์หยางโน้มตัวลงจูบอี้หนานเบาๆ ครั้งนี้นางไม่ปฏิเสธเขา  นางโค้งคำนับศีรษะนางเอียงอายจากนั้นวิ่งออกไปเก็บสัมภาระ แม้ว่าแม่สี่และเย่ว์หวี่จะบรรจุสัมภาระให้นางนานแล้ว   แต่นางอดไม่ได้ที่จะตรวจสอบดูอีกครั้ง กลัวว่าจะมีอะไรขาดหายไป

เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว  เย่ว์หยางอำลาทุกคนและกระตุ้นการทำงานของกุญแจสามดินแดนอีกครั้งหนึ่ง

กลับไปที่แดนสวรรค์

จุดหมายปลายทางคือ ตุ๊กตาหุ่นรบที่เขาฝังไว้ใต้รูปปั้นเทพเจ้า

แดนสวรรค์และแดนสวรรค์ของเมื่อหกพันปีที่แล้ว  มีการเปลี่ยนแปลงอะไร?  แดนสวรรค์ที่ลึกลับ แท้จริงมีสีสันเช่นไร?  นี่คือสิ่งที่เย่ว์หยางเชื่อ  เขาจะเข้าใจหลังจากย่างเท้าเข้าสู่แดนสวรรค์แล้ว

เมื่อเย่ว์หยางย่างเท้าเข้าพื้นที่แดนสวรรค์  เขาจำได้ถึงวันต่อสู้ที่ดุเดือดวันนั้น  เขาอดถอนหายใจไม่ได้  “แดนสวรรค์, ข้ามาถึงนี่แล้ว....”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด