ตอนที่ 50 : เมนูเด็ด !?
เมื่อฟ่านหลินเดินผ่านประตูเมืองเข้ามา เขาก็ถึงกับตกตะลึงเพราะด้านในนั้นเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมหาศาล แม้จะเป็นถนนสายหลักแต่ก็ยังหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่เดินกันเต็มไปหมด
“อะไรกันเนี้ย… คนเยอะขนาดนี้ ยิ่งกว่างานปีใหม่หรืองานเทศกาลวันชาติจีนอีกมั้ง”
ฟ่านหลินถึงกับอุทานออกมา เจ้าระบบเองก็กล่าวเสริมขึ้นมาทันทีว่า
[ แน่นอนอยู่แล้วนายท่าน เทศกาลดอกไม้ของเมืองโออาเทียร์นั้นถือว่าเป็นงานกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของทวีปอิสเทลเรียร์เลยทีเดียว ]
[ เนื่องด้วยทวีปอิสเทลเรียร์แห่งนี้โดดเด่นด้านการเกษตรกรรม และยังเป็นทวีปที่ส่งออกเกี่ยวกับการเกษตรเป็นอันดับ 1 ของโลกแห่งนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าอิสเทลเรียร์นั้นเป็นทวีปแห่งเกษตรกรรมโดยแท้จริงเลยล่ะ ]
นอกจากนั้นระบบยังเสริมอีกว่าเมืองโออาเทียร์นั้นถือเป็นเมืองแห่งจุดเริ่มต้นของการเกษตรของทวีปนี้และยังได้รับพรจากเทพแห่งพืชผลอีกด้วย จึงไม่แปลกที่งานเทศกาลส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรจะถูกจัดขึ้นที่เมืองแห่งนี้
“อย่างงี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนจะเต็มเมืองไปหมด”
[ ผู้คนส่วนใหญ่นั้นมักจะแวะเวียนมายังเมืองแห่งนี้ปีละครั้งเพื่อขอพรกับเทพแห่งพืชผลให้พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปีอีกด้วยนะ ]
“หยั่งกะงานเทศกาลศาลเจ้าของญี่ปุ่น”
ฟ่านหลินพูดออกมาก่อนจะเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนพร้อมกับเดินชมเมืองไปด้วย ตอนแรกฟ่านหลินคิดว่าต่างโลกนั้นจะเหมือนกับหลุดออกมาจากช่วงยุโรปยุคกลาง เหมือนในหนังสือ หรือการ์ตูนที่เขาอ่าน
แต่เมืองโออาเทียร์นั้นแตกต่างออกไป แม้สิ่งปลูกสร้างจะคล้ายกันก็เถอะ แต่ก็นะในยุคสมัยแบบนี้จะสร้างบ้านได้สักกี่แบบกันละจริงไหม ?
แต่ดูเหมือนว่าโลกนี้จะเจริญกว่าที่คิด หรือว่าเป็นเพราะมีเวทมนต์กันนะ ?
ฟ่านหลินคิดอยู่ในใจขณะกำลังเดินไปตามท้องถนน ในขณะนั้นเองจมูกของฟ่านหลินก็ได้กลิ่นอันหอมหวญมีแตะจมูก เขารีบหันขวับไปมองทันที ก่อนจะพบกับแผงขายอาหารย่างอยู่ไม่ไกล
ฟ่านหลินรีบเดินตรงดิ่งไปหาทันทีก่อนจะถามกับคุณลุงเจ้าของแผงไปว่า
“ลุง ไอนี่คืออะไรอ่ะ ?”
ฟ่านหลินมองเนื้อย่างเสียบไม้ชิ้นโตที่ลุงกำลังพลิกไปพลิกมาอยู่ตะแกรง คุณลุงที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะตอบคำถามของเขา
“โห่ ! ถามแบบนี้แปลว่าเจ้าไม่ใช่คนแถวนี้สินะ นี่น่ะคือของดีของเมืองนี้เชียวนะ !!”
คุณลุงโฆษณาขายของเต็มที่ ฟ่านหลินก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ
“เหรอๆลุง แล้วมันคือเนื้ออะไรละ ?”
“มันคือเนื้อของ สคอร์โร่แบร์น่ะ”
ฟ่านหลินที่ได้ยินก็ถึงกับสตั้นไปพักหนึ่งก่อนจะยืนคิดว่าอะไรคิดตัว ‘สคอร์โร่แบร์’ กัน แต่ฟังจากชื่อแล้วมันก็น่าจะเป็นหมีชนิดหนึ่งละมั้ง เขาจึงถามกับคุณลุง
“มันคือหมีเหรอลุง ?”
คุณลุงพยักหน้า
“ใช่แล้วเจ้าหนุ่ม สคอร์โร่แบร์นั้นเป็นหมียักษ์ที่อาศัยอยู่ในป่าปีศาจที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองนี้เท่าไหร่นักหรอกนะ ในอดีตมันเป็นที่เกรงกลัวของเหล่าชาวบ้านมากเพราะมันมักจะบุกเข้ามาโจมตีชาวบ้านและทำลายสวนอยู่เสมอ”
“แต่หลังจากที่มีคนรู้ว่าเนื้อของมันโครตจะอร่อยเพราะมีชาวบ้านคนนึงบังเอิญฆ่ามันได้และเอาเนื้อไปทำอาหาร ทำให้เนื้อของมันกลายเป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ ราคาของมันจึงสูงลิบเชียวในช่วงแรก”
“หลังจากนั้นนั่นแหละนักผจญภัยจำนวนมากก็ต่างบุกป่าฝ่าดงเข้าไปล่าเจ้าหมีพวกนั้นเพื่อเอาเนื้อมาขายกันใหญ่”
คุณลุงเล่าไปพร้อมกับหัวเราะ ฟ่านหลินเองก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี แต่สายตาของเขากลับเอาแต่จ้องเนื้อบนเตาย่าง กลิ่นหอมฉุยของมันทำให้ฟ่านหลินทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ลุงไม้ละเท่าไหร่อ่ะ ?”
“ไม้ละ 200เหรียญเงินเท่านั้น !”
คุณลุงชูสองนิ้ว ฟ่านหลินพยักหน้าก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าในขณะนั้นเองเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้
‘ชิบหายละ เราไม่มีเงินของโลกนี้นี่หว่า !’