ตอนที่แล้วตอนที่ 21 แลกเปลี่ยนข้อมูลและเบาะแส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 ค้นพบกล่องเก็บของมิติ

ตอนที่ 22 พิสูจน์พลัง


ตอนที่ 22 พิสูจน์พลัง

ตอนนี้ในห้องเหลือแต่เรนและตำรวจของสถานีตำรวจวอริกที่ 8 แล้ว ผู้กองเชนปรับท่านั่งของตนเอง ก่อนจะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเรนอย่างจริงจัง

“เอาละ เขาออกไปแล้วทีนี้พูดได้หรือยัง” ผู้กองเชนใช้น้ำเสียงเชิงสอบสวน

เรนพยักหน้าเบา ๆ มือของเขายื่นไปด้านหน้า พริบตาต่อมาก็ปรากฏรูนิกลูกศรขึ้นมาในมือ

“นี่มันบ้าอะไร” เมฆตะโกนด้วยความตกใจ

“เขาทำได้ยังไง มันโผล่มาจากไหน” ลีตำรวจใหม่พูดออกมาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

การปรากฏขึ้นมาของลูกศรทำให้ตำรวจทุกคนที่ดูอยู่ต่างพากันอึ้งไป พวกเขาจ้องไปที่รูนิกในมือของเรนด้วยความสงสัยใคร่รู้

เรนไม่สนใจเสียงฮือฮาจากพวกตำรวจรอบ ๆ

“พวกคุณรู้จักพวกที่เรียกว่าผู้ติดเชื้อแล้วใส่ไหม”

“นายเรียกมันว่าผู้ติดเชื้ออย่างนั้นเหรอ” ผู้กองเชนสนใจ

“ใช่ พวกมันมีชื่อแบบนั้น พวกมันคือผู้ติดเชื้อ ผมเจอมันอยู่สองแบบคือแบบที่พูดได้และแบบที่พูดไม่ได้ แบบที่พูดได้พวกมันจะแข็งแรงและฉลาดกว่าแบบที่พูดไม่ได้ แต่พวกที่พูดไม่ได้ก็มีความสามารถในการเรียกพวกผู้ติดเชื้อตัวอื่น ๆ มา” เรนเริ่มอธิบายให้ฟัง

ทุกคนในนี้มีสีหน้าครุ่นคิดและก็พยักหน้าตามคำพูดของเรน พวกเขาก็เจอพวกมันมาเหมือนกัน แต่เรื่องการที่พวกมันเรียกพวกมาได้ นั้นถือเป็นข้อมูลใหม่

“พวกมันเรียกตัวอื่น ๆ ได้ไกลแค่ไหน” ผู้กองเชนถามขึ้นมา

เรนเงียบไป ก่อนจะตอบว่า “ไม่แน่ใจอาจจะในระยะ 500 เมตรหรืออาจจะ 1 กิโลเมตร แต่ผมคิดว่าน่าจะในระยะที่เสียงของพวกมันไปถึง”

ผู้กองเชนถามต่อว่า “แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกนี้”

“พวกคุณเคยฆ่าพวกมันมาแล้วใช่ไหม ได้เจอเรื่องแปล ๆ อย่างมีบางสิ่งปรากฏขึ้นมาจากตัวของพวกมันไหม” เรนถาม

ผู้กองเชนและตำรวจนายอื่น ๆ ได้ยินก็มีสีหน้าที่จริง

“ดาบอิน ช่วยไปหยิบพวกมันออกมาหน่อย” ผู้กองเชนพูดกับดาบอิน

“เรื่องนี้เป็นความลับไม่ใช่เหรอผู้กอง” ดาบอินพูดขึ้นมา ดูเหมือนเขาไม่อยากเต็มใจจะเอาออกมา เพราะของพวกนั้นทุกคนตกลงกันว่าจะเอาไปขายและแบ่งเงินกันทีหลัง

“ไปเอามา” ผู้กองสั่งย้ำอีกครั้ง

ดาบอินตกลงและเดินไปเปิดตู้เซฟเอาเหรียญทองออกมา มันมีมากกว่า 30 เหรียญ แต่ไม่มีของอย่างอื่นอยู่เลย

‘ดูเหมือนดวงของพวกเขาจะไม่โชคดี’ เรนคิดในใจ ก่อนที่เขาจะเอาเหรียญทองออกมาจากแหวนพลัง

การปรากฏขึ้นมาของแหวนทำให้ทุกคนประหลาดใจ

“ผมก็เจอเรื่องคล้าย ๆ พวกคุณ ดังนั้นผมไม่ได้สนใจเหรียญทองของพวกคุณมากนักหรอก” เรนพอคาดเดาความคิดของคนพวกนี้ได้ เขาอธิบายต่อว่า “เหรียญพวกนี้ปรากฏขึ้นมาจากศพที่ตายของพวกผู้ติดเชื้อที่จริงมันมีของอย่างอื่นอยู่ด้วย มันคือสิ่งที่เรียกว่า หินรูนิกเปล่าและหินพลังงาน”

“หินรูนิกเปล่าใช้เพื่อสร้างอุปกรณ์รูนิกและหินพลังงานใช้เพื่อเป็นพลังในการสนับสนุนให้อุปกรณ์รูนิกสามารถใช้งานได้”

“ถ้าอย่างนั้น ลูกธนูที่อยู่ในมือนี้คือ อุปกรณ์รูนิก ถ้ามีหินรูนิกเปล่าและหินพลังงานก็สามารถสร้างรูนิกได้” ผู้กองเชนถาม

“เปล่า” เรนตอบจากนั้นก็ส่ายหัวเบา ๆ และพูดต่อว่า “มันต้องใช้อีกสิ่งหนึ่ง นั้นคือ แหวนพลัง มีแต่พวกทหารที่จะมีมัน”

เรนยกนิ้วที่มือให้กับผู้กองเชนดู ผู้กองเชนมองดูแหวนสีดำที่มีลักษณะโบราณและลึกลับที่นิ้วของเรน คนอื่น ๆ ก็สนใจเช่นกัน ถ้าพวกเขาเอาแหวนมาได้ก็จะใช้สิ่งที่เรียกว่ารูนิกได้

“นายต้องการอะไรแลกกับแหวนนั้น” ผู้กองเชนถาม

“ไม่ต้องการแลก เพราะมันแลกไม่ได้ เมื่อแหวนเลือกเจ้านายแล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้ หรือจะพูดง่าย ๆ ก็เป็นของที่ใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดเจ้าของตายก็จะหายไปตลอดกาลเช่นกัน” เรนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

อันที่จริงเขาโกหก จากที่เขาสัมผัสกับแหวน แม้มันจะถอดออกจากนิ้วไม่ได้ในตอนนี้ แต่ถ้าตายแล้วก็ถอดออกมาได้แน่

และการที่เรนพูดแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้พวกนี้ฆ่าเขาชิงแหวนก็เท่านั้น เรนเชื่อว่าคนฉลาดอย่างผู้กองเชนคงไม่ทำลายห่านทองคำแบบเขา

แน่นอนว่าเรนเผื่อแผนสำรองไว้อยู่ เพียงแต่เขาไม่อยากจะใช้มันก็เท่านั้น

ผู้กองเชนและตำรวจนายอื่น ๆ ตกอยู่ในความเงียบ พวกเขากำลังคิดว่าเรนพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่

“พวกเราอยากจะได้แหวน แต่ว่าดูแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้และนายก็ไม่ต้องหวงพวกเราเป็นตำรวจไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน” ผู้กองเชนพูดด้วยท่าทีจริงจังและหันไปเตือนตำรวจนายอื่น ๆ โดยเฉพาะเมฆ

“ผมรู้อยู่แล้ว” เรนพูดด้วยแววตาสงบนิ่ง

“ด้วยความสามารถของนายฉันอยากจะชวนให้นายเข้าร่วมกับกองตำรวจของพวกเราด้วย” ผู้กองเชนเกริ่นนำ

เรนส่ายหัวเบาๆ เป็นการปฏิเสธ

“ผมจะอยู่ที่นี่แค่วันสองวันเท่านั้นและก็จะจากไป”

“ทำไมถึงรีบออกไปจากที่นี่” ผู้กองเชนถามอย่างสนใจ

“ก็แค่รู้สึกว่าที่สถานีก็ไม่ได้ปลอดภัยจริง ๆ อย่างแรกมันอยู่ใกล้เขตเมืองวอริกเกินไป ขนาดพวกรัฐบาลที่มีกำลังพลและอาวุธครบมือยังเลือกจะทิ้งเมืองและพื้นที่นี้ไปตั้งค่ายอพยพที่อื่น ผู้ติดเชื้อที่อาจจะออกมาจากเมืองวอริก ในเมืองวอริกมีประชาชนหลักล้าน ถ้าพวกมันจะหลงมาทางนี้สักพันหรือหมื่นตัวก็คงไม่แปลก พวกคุณคิดว่ารับมือไหวไหม” เรนถามผู้กองเชน

ผู้กองเชนนิ่งเงียบไปทันที ถ้าไม่กี่ตัวอาวุธของพวกเขาพอจะสู้ไหว แต่ถ้าเป็นพันเป็นหมื่นก็มีแต่ตายเท่านั้น ก่อนหน้านั้นผู้กองเชนไม่ได้คิดถึงเรื่องที่มีกลุ่มผู้ติดเชื้อจำนวนมากมาโจมตี

แต่พอได้ยินข้อมูลที่บอกว่าพวกผู้ติดเชื้อที่พูดไม่ได้สามารถเรียกให้ผู้ติดเชื้อตัวอื่น ๆ มารวมกันโจมตีได้ ทำให้เขาต้องเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเกิดที่สถานีตำรวจโดนโจมตีโดยผู้ติดเชื้อหลักพันหลักหมื่นจะทำยังไง

ผู้ติดเชื้อหลักพันเรนเคยเห็นมันที่สะพาน มันน่าสยองมาก แต่ผู้ติดเชื้อหลังหมื่นเรนเองจินตนาการไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไง เพราะแค่ไม่กี่ร้อยก็เกือบจะฆ่าพวกเขาทั้งกลุ่มแล้ว

ผู้กองเชนได้ยินคำตอบของเรนก็พ่นลมหายใจอย่างเสียดายและจิตใจที่หนักอึ้ง

“เอาละตามที่ตกลงในเมื่อนายแบ่งปันข้อมูลนี้ ถ้าอย่างั้นฉันก็จะบอกเรื่องของค่ายทหาร ที่นั่นถูกเรียกว่า ‘ค่ายในหุบเขา’ ห่างจากนี้ไปไม่ไกลนัก แต่มันต้องผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งก่อน”

“ค่ายในหุบเขา” เรนพึมพำ ถ้าจะมีที่ไหนที่พอมีเบาะแสของค่ายลี้ภัยที่รัฐบาลพวกนั้นจัดตั้งขึ้นมาก็คงมีแค่ค่ายนี้ที่จะให้คำตอบแก่เรนได้

“ช่วยวาดแผนที่ให้ผมได้ไหม” เรนพูดขึ้นมา

“ไม่จำเป็น อันที่จริงแล้วพวกเราอยากจะไปที่นั่นอยู่แล้ว” ผู้กองเชนตอบ

เรนเอียงคอถามอย่างสงสัย “ทำไมถึงอยากจะไปที่นั่น หรือพวกคุณอยากจะได้แหวนจากที่นั่น บอกไว้ก่อนผมรู้แค่ว่าพวกทหารมีมัน แต่ไม่ได้บอกว่าทุกที่จะมีมัน”

“ไม่ใช่เรื่องแหวนพลัง พวกเราต้องการอาหาร” ผู้กองเชนตอบสั้น ๆ

“หมู่บ้านที่คุณบอกคงอันตรายสินะ” เรนพูดขึ้นมาและจ้องไปที่ผู้กองเชน ถ้าไม่อันตรายผู้กองเชนคงไม่คิดให้เขาไปด้วย

“เป็นหมู่บ้านใหญ่ที่มีประชากรอยู่ประมาณ 100 หลังคาเรือน แต่ขาดการติดต่อไปทั้งหมู่บ้าน” ผู้กองเชนพูดขึ้น เขาเดาว่าที่ค่ายทหารก็อาจจะไม่ต่างกัน

เรนเงียบไป เพราะรู้ว่ามันต้องอันตรายแบบสุด ๆ

“ผมจะได้อะไร” เรนถามขึ้นมา ทำให้สีหน้าของตำรวจทั้งหมดประหลาดใจ

“นายต้องการเบาะแสไม่ใช่เหรอ” ผู้กองเชนถาม

“ใช่ แต่ถ้าไปลุยกับผู้ติดเชื้อเป็นพัน ๆ ผมเลือกจะไปที่อื่นจะดีซะกว่ารีบไปตายที่นั่น” เรนตอบไป

“บัดซบ มึงนะเผาอาหารในร้านสะดวกซื้อที่เต็มไปด้วยอาหารจนหมด แล้วยังจะมาเรียกร้องอีกอย่างนั้นเหรอ ไอ้เชี่ยนี่แทนที่จะรับผิดชอบไปช่วยพวกเราขนอาหารที่ค่ายมา” เมฆเริ่มโวยวาย

“แล้วยังไง ต่อให้ไม่เผาก็ไม่มีใครเข้าไปเอาอาหารพวกนั้นได้หรอก หรือนายคิดว่าจะยิงผู้ติดเชื้อเป็นร้อย ๆ คนและเดินไปหยิบเอาแซนด์วิชเดินออกมากินโดยไม่ตายอย่างนั้นเหรอ” เรนหันไปพูดด้วยแววตาเย็นชา

เมฆตาขวางใส่เรนในทันที มันทำท่าจะลุกขึ้นมาจากโซฟา เพื่อสั่งสอนเรน

“พอได้แล้ว!” ผู้กองเชนตวาดเสียงดัง ทำให้เมฆต้องหยุดทันที

เดฟก็จับไหล่ของเมฆและดึงตัวเขากลับมานั่ง ซึ่งเมฆไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ที่นี่ผู้กองเชนคุมเขาทำอะไรไม่ได้

ผู้กองเชนส่งสายตาตำหนิไปที่เมฆ ก่อนจะหันไปพูดกับเรนว่า “บอกความต้องการมา อยากได้อะไรถึงจะไปกับพวกเรา”

“ปืนพก 3 กระบอกกระสุน 6 กล่อง ปืนลูกซอง 2 กระบอกกระสุน 10 กล่อง” เรนบอกความต้องการของตนเองไปตรง ๆ

“มากไป ปืนพกได้แค่ 1 กระบอก กระสุน 4 กล่อง ปืนลูกซอง 1 กระบอก ส่วนกระสุน 6 กล่องไม่มีปัญหา” ผู้กองเรนเสนอขึ้นมาใหม่

“ตกลง” เรนตอบตกลงในทันที

แต่ตอนนั้นก็มีเสียงพูดขัดขึ้นมา เป็นดาบอินนั้นเอง

“ผู้กอง เขาควรจะแสดงพลังของตัวเองก่อนหรือเปล่า ต่อให้เขาจะเป็นคนที่รอดมาจากผู้ติดเชื้อจนมาถึงที่นี่ แต่ก็ไม่มีใครในกลุ่มพวกเราที่เห็นการลงมือจริง ๆ ของเขาเลย” ดาบอินพูดด้วยน้ำเสียงสงสัยต่อเรน

ซึ่งทำให้คุณอื่นเริ่มคิดตามว่ามันก็จริงที่พวกเขาไม่เคยเห็นฝีมือของเรนจริง ๆ และไอ้สิ่งที่เรียกว่ารูนิกก็เหมือนกับของธรรมดาไม่ใช่หรือยังไง

ผู้กองเชนหันไปมองหน้าเรน

เรนเห็นดังนั้นก็ยกมือขึ้น วินาทีต่อมารูนิกคันศรก็ปรากฏขึ้นมาที่มือของเรน เรนใช้รูนิกลูกศรที่ถืออยู่อีกมือใส่เข้าไปที่สายธนูและยิงใส่ตู้เซฟที่ดาบอินเคยเอาพวกเหรียญทองออกมา

ฟุบ!

รูนิกลูกศรยิงทะลุตู้เซฟ มันปักคาอยู่อย่างนั้นภายใต้สายตาตื่นตะลึงของคนรอบ ๆ

ตู้เซฟทำมาจากเหล็กกล้า แม้แต่กระสุน .45 ก็ยังยิงไม่เข้า แต่ตู้เซฟกลับโดนลูกศรยิงทะลุง่าย ๆ แบบนี้แต่นั่นยังไม่หมด วินาทีต่อมารูนิกลูกศรก็กลับไปหาเรนและหายไปอย่างน่าอัศจรรย์

ทำให้ตอนนี้พวกเขาเห็นแล้วว่าเรนมีอาวุธที่ยิงได้ไม่จำกัดและอานุภาพก็ไม่ได้ธรรมดาอยู่กับตัว

“นี่เพียงพอไหม” เรนหันไปถามดาบอิน

“พอ เพียงพอแล้ว” ดาบอินตอบเสียงตะกุกตะกัก

“ดูเหมือนพวกเราจะประเมินพลังของมันต่ำไปจริง ๆ” จ่าวัฒน์ขมวดคิ้วพูดขึ้นมา

คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย และการแสดงของเรนก็ทำให้ทุกคนอยากจะได้แหวนพลังขึ้นมาเพื่อสร้างอุปกรณ์รูนิกขึ้นมา พวกเขารู้ว่าต่อไปพลังวิเศษนี้จะเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าใครได้ครองมันก็คงมีโอกาสรอดมากขึ้น

เรนมองเห็นในแววตาของพวกเขาทุกคน ถึงความหวัง ความโลภและอื่น ๆ ผสมกันไป แต่เรนไม่ได้บอกเรื่องหนึ่งแก่พวกเขา

โลกนี้ไม่ยุติธรรม มันไม่ใช่ทุกคนจะเป็นผู้ใช้วงแหวนได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด