ตอนที่แล้วCD บทที่ 305 ไม่ต้องมาสงสารฉัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 307 การแก้แค้นอย่างเฉพาะเจาะจง

CD บทที่ 306 ได้คืบจะเอาศอก


สไตล์การต่อสู้ของจ้าวหยู่นั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย มันแตกต่างจากวิธีการต่อสู้ทั่วไปมาก

แม้ว่าเหลยปิ่นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ แต่เมื่อเขาถูกจ้าวหยู่คว้าตัวได้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร เมื่อทั้งสองต้องต่อสู้กัน มันจึงมีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างมาก

จ้าวหยู่ต่อสู้ราวกับชีวิตของเขาเดิมพันอยู่กับมัน หากเขาไม่สามารถชนะได้ เขาก็จะตาย ดังนั้นเขาจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่โดยไม่มีเศษเสี้ยวของความลังเล

ส่วนเหลยปิ่นแตกต่างออกไป เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับคนประเภทนี้มาก่อน นอกเหนือจากความเย่อหยิ่งของจ้าวหยู่แล้ว สิ่งต่าง ๆ มันอยู่เหนือการคาดเดาของเขาทั้งหมด

เมื่อเหลยปิ่นตระหนักถึงปัญหา มันก็สายเกินไปแล้ว ในเวลาไม่ถึง 40 วินาที เขาถูกจ้าวหยู่ทุบตีจนสิ้นสภาพ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดในขณะที่เขาคร่ำครวญอย่างต่อเนื่อง

สมาชิกโรงฝึกเทควันโดไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป และรีบวิ่งไปช่วยเหลยปิ่นทันที แต่เห็นได้ชัดว่าเหล่านักสืบไม่ยอมให้พวกเขาทำอย่างนั้น พวกเขาจึงเข้ามาขวางทางทันที และก็เกิดการปะทะฝีปากของทั้งสองฝ่ายกันอีกครั้ง

"เขาถูดกัดจนเลือดออกไม่ใช่เหรอ!? หยุด! หยุด! พอได้แล้ว! อีกฝ่ายเล่นสกปรกอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องสู้ต่อไปแล้ว!"

"เฮ้! พวกเขาตกลงสู้โดยไม่มีกฎ ตราบใดที่เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ! อย่างนี้มันเล่นสกปรกตรงไหน!?"

ในความขัดแย้งที่ร้อนระอุ สมาชิกเทควันโดคนหนึ่งพุ่งฝ่าฝูงชน และเตะจ้าวหยู่ ทางด้านเหมี่ยวอิงที่โกรธไม่แพ้กัน เธอไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป ด้วยการลูกเตะดั่งพายุทอร์นาโด เธอส่งอีกฝ่ายให้ลอยออกไป

จากนั้นเหมี่ยวอิงรีบไปข้างหน้าหักแขนของนักเรียนเทควันโดอีกสองคนที่รีบเข้ามา ในที่สุดพวกเขาก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์และไม่มีใครกล้าที่จะพยายามช่วยเหลือเหลยปิ่นอีกต่อไป

ในขณะนี้ เสียงคร่ำครวญของเหลยปิ่นเริ่มอ่อนแรงและเบาลง และจ้าวหยู่ที่ยังเดือดดาลยังคงเหวี่ยงกำปั้นของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปที่ใบหน้าของเหลยปิ่น ตอนนี้แม้แต่เหล่านักสืบก็ไม่สามารถทนยืนดูได้ ไม่อย่างนั้น เหลยปิ่นอาจจะถูกทุบตีจนตายคามือของจ้าวหยู่ไปเลยก็ได้!

จางเหยาฮุ่ยและคนอื่น ๆ ไปลากจ้าวหยู่ออกมา เมื่อพวกเขานำตัวจ้าวหยู่ออกจากสังเวียนได้สำเร็จ มันก็เผยให้เห็นเหลยปิ่นที่เต็มไปด้วยเลือด ส่งเสียงคร่ำครวญอยู่บนพื้น ไม่สามารถยืนได้

“จ้าวหยู่!” เหมี่ยวอิงรีบไปข้างหน้าและจับตัวจ้าวหยู่ขึ้น "คุณเป็นไงบ้าง? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"

"ฮิฮิฮิ..." จ้าวหยู่ยังคงหัวเราะแปลก ๆ แม้ว่าเขาจะพยุงตัวเองขึ้นได้ แต่เขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว "หัวหน้าทีมเมียว ฉันชนะแล้ว! ฉันชนะแล้ว!!"

"ใช่ คุณชนะ!" เหมี่ยวอิงพยักหน้า สีหน้าของเธอซับซ้อน "จ้าวหยู… ฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล!"

"เดี๋ยว... อย่าเพิ่งพาไป!" จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็ตะโกนใส่นักเทควันโด "เฮ้ย! คนที่วิ่งชนเพื่อนฉัน ก้าวเท้าออกมา แล้วมาขอโทษเพื่อนฉัน!"

"หา!?" สมาชิกของโรงฝึกเทควันโดต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังจำเรื่องนี้ได้

"ใช่แล้ว!" จางเหยาฮุ่ยรับไม่ต่อทันที "ตอนนี้ หัวหน้าของพวกแกได้แพ้แล้ว ดังนั้นรีบขอโทษพวกเราซะ!"

ปรากฏว่าหลังจากที่แผนกสืบสวนรับประทานอาหารเสร็จ และกำลังเดินผ่านประตูโรงฝึกเทควันโด เนื่องจากทางค่อนข้างแคบ สมาชิกในทีมเทควันโดและเสี่ยวหลิวจึงเดินชนกัน แต่เมื่อพวกเขากัน นักเทควันโดแสดงท่าทางไม่พอใจ และจงใจผลักเสี่ยวหลิวลงบนพื้น เห็นได้ชัดว่าเป็นนักเทควันโดเป็นฝ่ายผิด แต่พวกเขาไม่ยอมขอโทษและทำตัวหยาบคาย จึงเป็นเหตุทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมา

ถ้าคุณต้องต่อสู้ คุณต้องเอาชนะจนทำให้พวกเขายอมจำนน นั่นคือคำขวัญของจ้าวหยู่

เมื่อเห็นหัวหน้าของพวกเขาถูกทุบตีเช่นนี้ นักเทควันโดก็เกือบจะเสียสติ ไม่มีใครกล้าลงมืออีก ในไม่ช้า คนที่ผลักเสี่ยวหลิวก็ตะโกนออกมาอย่างไม่เต็มใจ

"ฉันขอโทษ…"

"ว่าไงนะ!" จ้าวหยู่โชว์ฟันที่เปื้อนเลือดของเขาและคำราม "เฮ้! ดังขึ้นอีก ฉันไม่ได้ยิน!"

“ใช่ ใช่ เราไม่ได้ยิน!” แม้ว่านักสืบจะสนับสนุนจ้าวหยู่ แต่ทุกคนก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว! ศักดิ์ศรีของพวกเขาได้รับการกอบกู้โดยเลือดของจ้าวหยู่ ดังนั้นคำขอโทษจึงไม่สำคัญอีกต่อไป ถึงกระนั้นจ้าวหยู่ก็ยังคงไม่คิดจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป และพูดด้วยความโกรธว่า

"เจ้าหนู ถ้าแกไม่ยอมพูด งั้นเราก็จะสู้กันต่อ! ดูเหมือนว่ารุ่นพี่เหมี่ยวของพวกแกคันไม้คันมืออยากที่จะสู้แล้ว!"

เขาเพิ่งเห็นเหมี่ยวอิงหักแขนเพื่อนของเขา เขาตัวสั่นด้วยความกลัวในทันที และคำนับเสี่ยวหลิวด้วยความเคารพ ตะโกนออกมาว่า

"ฉันขอโทษ!"

“อา แกไม่ได้กินข้าวมางั้นเหรอ? ฉันไม่ได้ยินเลย…”

จ้าวหยู่ยังคงปฏิเสธที่จะปล่อยมันไป แต่เหมี่ยวอิงกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของจ้าวหยู่ และอยากจะออกไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว ทุกคนต่างเร่งเร้าให้จ้าวหยู่พอแค่นี้ เพื่อที่เขาจะได้ไปรักษาตัว

หลังจากที่เหล่านักสืบออกไป เหล่านักเทควันโดก็ถอนใจเฮือกใหญ่ แล้วพวกเขาไปช่วยเหลยปิ่นทันที…

...

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ในที่สุด จ้าวหยู่ได้สติโรงพยาบาล ความพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความอดทน แม้ว่าเขาจะถูกเหลยปิ่นทุบตีอย่างหนัก กระดูกของเขาก็ไม่หักแม้แต่นิดเดียว แต่บาดแผลเก่าบนศีรษะของเขาถูกฉีกออกอีกครั้ง และจำเป็นต้องเย็บแผลใหม่ อีกทั้งใบหน้ามีรอยฟกช้ำหลายแห่ง

ในขณะนี้ เหมี่ยวอิงได้ปล่อยให้เหล่านักสืบทั้งหมดออกไปแล้ว ทุกคนยังคงมีคดีสำคัญที่ต้องสืบสวน และพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ได้แล้ว

“จ้าวหยู่…” เหมี่ยวอิงนั่งข้างจ้าวหยูอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วดุเขาว่า “ทำไมคุณไม่ฟังฉันเลย ทำไมคุณต้องต่อสู้กับเขาอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างนี้ด้วย? เรา… เราอาจใช้วิธีอื่นเพื่อจัดการพวกเขาได้!”

"ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อความภาคภูมิใจ!" จ้าวหยู่หัวเราะ "คุณจะฆ่าฉันก็ได้ แต่อย่าทำให้ฉันขายหน้า ต่อให้คุณทำให้ฉันขายหน้าก็ไม่เป็นไร เพราะฉันมีข้อยกเว้นสำหรับผู้หญิงของฉัน!"

"นิสัยของคุณมันกู่ไม่กลับแล้ว! แล้วฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงของคุณด้วย!" เหมี่ยวอิงชินกับนิสัยรักอิสระของจ้าวหยู่แล้ว และตะโกนใส่เขาทันทีพร้อมกับถือผ้าพันแผล "นั่งตัวตรง!"

จ้าวหยู่เห็นผ้าพันแผลในมือของเหมี่ยวอิง และคิดว่าเขายังมีเลือดอยู่บนหน้า และเหมี่ยวอิงจะช่วยเขาทำความสะอาด แต่ในขณะที่เขาลุกขึ้นนั่งเหมี่ยวอิงก็จูบเขาโดยไม่คาดคิด!!!

จูบนี้ช่างแผ่วเบาแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความลึกล้ำ

"อา!?" จ้าวหยู่ถอยหลังด้วยความตกใจและไม่เชื่อสายตา "คุณ... คุณฉวยโอกาสฉัน ทำไมมันถึงได้กลับตาลปัตรอย่างนี้!?"

เดิมทีเหมี่ยวอิงหน้าแดงเล็กน้อย แต่หลังจากได้ยินคำพูดไร้ยางอายจากจ้าวหยู่ เธอไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้

จ้าวหยู่มีประสบการณ์ในด้านนี้ เมื่อเขาเห็นเหมี่ยวอิงจูบเขา เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการมากกว่านี้ เขากลอกตาอย่างเจ้าเล่ห์ วางแผนทันที เขาตะโกนไปที่ประตูทันที

"เฮ้ พวกแกน่ะ ไม่เห็นอะไรใช่มั้ย!?"

"เอ๋!?" เหมี่ยวอิงยังเป็นเด็กสาว เมื่อเธอได้ยินว่ามีคนอยู่ที่ประตู เธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสด เธอหันไปดูยังไม่มีใครอยู่ที่ประตู แต่เมื่อเธอหันกลับมา จ้าวหยู่ก็โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วและจูบเธออย่างดูดดื่ม...

“อื้ม…!!” เหมี่ยวอิงตกใจและพยายามผลักออก แต่จ้าวหยู่ใช้พละกำลังและยังคงจูบเธอต่อไป

ทันใดนั้น มันเหมือนกับว่าเหมี่ยวอิงถูกไฟฟ้าช็อต แม้ว่าเธอจะดิ้นรนอีกสองสามครั้ง แต่การต่อต้านของเธอก็อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ... ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันและความเสน่หาของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้น ด้วยการจูบหญิงสาวที่เขาใฝ่ฝันทุกวัน มันทำให้จ้าวหยู่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ฮอร์โมนของเขาพุ่งพล่านเกือบจะท่วมท้นตัวเขา หัวใจของเหมี่ยวอิงจะเริ่มเต้นรัว และใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง

10 วินาทีต่อมา เธอผลักจ้าวหยู่กลับไปบนเตียง!

"จ้าวหยู่! อย่าให้มันมากเกินไปนะ!" ในช่วงเวลาอันดูดดื่มนั้นจ้าวหยู่ได้วางมือแสนซุกซนของเขาบนหน้าอกของเหมี่ยวอิง และถูกจับได้คาหนังคาเขา

“อะไรนะ? พวกเราโต ๆ กันแล้ว มีอะไรให้ต้องอายด้วย” ถึงกระนั้นจ้าวหยู่ก็ไม่ได้หน้าแดงหรือแสดงท่าทีเขินอาย "ถ้าคุณคิดว่าทางโรงพยาบาลจะรับไม่ได้ งั้นไปบ้านฉันกันเถอะ! ค่ำคืนแห่งความสุขสมกำลังรอเราอยู่"

"ถอยไป!" เหมี่ยวอิงดันเขาอย่างแรงและพูดอย่างจริงจังว่า "จ้าวหยู่ อย่าเข้าใจผิด ฉันจะบอกคุณว่าจูบเมื่อกี้เป็นเพราะฉันแพ้พนันของคุณต่างหาก ฉันแค่ทำตามที่พนันกันไว้เฉย ๆ!"

“เดิมพันอะไร?” จ้าวหยู่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“ฉันเป็นคนรักษาคำพูด ถ้าฉันแพ้พนัน ฉันก็ยองรับว่าฉันแพ้!” เหมี่ยวอิงพูดตรง ๆ “ฉันเลยชิงทำกับคุณก่อน เผื่อคุณจะใช้มันกับฉันทีหลัง!”

“อืม… แต่…” จ้าวหยู่ครุ่นคิดอย่างจริงจัง "แต่เมื่อกี้นี้ ตอนที่เราทำกันครั้งแรก คุณเป็นฝ่ายใช้ลิ้นของคุณ... โอ๊ย! เดี๋ยว! เดี๋ยว!"

เหมี่ยวอิงคว้าหูของจ้าวหยู่ และเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดของจ้าวหยู่ก็ดังมาจากห้องผู้ป่วย...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด