ตอนที่ 596 ผลกระทบ
ไม่พอใจ! บุรุษหนุ่มไม่พอใจ!
เป็ดย่างบินหนีไป! (อ้อยเข้าปากช้าง) เนื้อเลิศรสที่อยู่ในปากหายไป! บุรุษหนุ่มจึงไม่พอใจ!
ถังเทียนไม่พูดสักคำ เขายังหอบด้วยความโกรธ ริมฝีปากเกรียมที่อยู่ด้านหลังเขาก็คือสือเซินและกองกำลังปีศาจยืนเงียบเหมือนรูปสลัก 46 รูป
พวกเขาเป็นพวกฝีมือดีจริงๆ!
ไป๋เสี่ยวยังคงดูใจเย็น แต่ในใจเขาตกใจ เขาไม่เคยคาดเลยว่าจะได้พบกับพวกฝีมือดี ตั้งแต่เดินเข้าห้องโถงมา ทั้ง 46คนก็ไม่แม้แต่จะกระดิกนิ้ว จากนั้นเขารู้สึกว่าโชคของอวี่หรันดีจริงๆ ที่มีโอกาสรับพวกฝีมือดีขึ้นเรือ
ท้องฟ้าที่เพิ่งเต็มไปด้วยคลื่นพลังเกลียวนี้มาจากคนกลุ่มนี้ แม้จะทำให้เครื่องยิงระเบิดพังก็ตาม
ตามที่คำนวณสำหรับกลุ่มคลื่นพลังเกลียวนับไม่ถ้วนที่ยิงออกไปเป็นพลังยิงที่เกิดจากเครื่องยิงคลื่น 40 ชุด และเมื่อดูกลุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังถังเทียนแล้วบังเอิญมีคนรวม 40 กว่าคนจริงๆ ข้าสงสัยว่าพวกเขาใช้เคล็ดลับอะไรถึงได้สามารถกระจายประจุพลังงานให้แต่ละคนและแบ่งประจุพลังงานทำให้สามารถสร้างพลังโจมตีดังกล่าวได้
“ต้องขอบคุณคุณชายและขุนศึกของท่านที่ช่วยอวี่หรันจากอันตรายร้ายแรง ถ้านางตกอยู่ในเงื้อมมือของสลัดผู้ชั่วร้ายอวี่หรันคงมีชีวิตย่ำแย่กว่าตายเป็นแน่ โปรดรับการคารวะจากอวี่หรันด้วยเถิด” ฉินอวี่หรันแสดงความขอบคุณและจากนั้นนางยิ้มทันที “คุณชายช่างกล้าหาญแข็งแกร่งยิ่งนัก เรายังไม่ทราบนามของท่านเลย”
“ด้วยความยินดี ข้าเหมิ่งหนาน” ถังเทียนไม่สบายใจนัก มีสัตว์ร้ายโหยหวนอยู่ในหัวใจของเขาทำให้เด็กหนุ่มไม่สบายใจ!
ฉินอวี่หรันชะงักเล็กน้อยจากนั้นยกย่อง “สมกับชื่อจริงๆแค่ชื่ออย่างนั้นก็ดูมีอำนาจเข้ากันได้กับความกล้าหาญของพี่เหมิ่งหนาน!”
นางเป็นคนมีปัญญาคนหนึ่งมีทั้งเงินและฐานะทั้งมีปัญญาไว เมื่อได้ยินชื่อของเขานางเดาได้ว่าเป็นชื่อปลอม แต่นางไม่เปิดเผยความคิดของนางแม้แต่น้อย กลับยกย่องถังเทียนแทน
การใช้ชื่อปลอมก็เพราะเขาอาจกลัวขณะที่เดินทางท่องเที่ยว เรื่องแบบนี้ธรรมดามาก
ไป๋เสี่ยวที่อยู่ใกล้ๆยังคงยิ้มอย่างสุภาพและเป็นกันเอง พรึ่บเขาคลี่พัดกระดาษในมือและมีท่าทางประหลาดใจ “พี่เหมิ่งกล้าหาญและแข็งแกร่งจริงๆ ช่วยให้ไป๋เสี่ยวได้เปิดหูเปิดตา ความจริงผู้น้องนี้ต้องรวบรวมความกล้าหาญเพื่อสู้ตายกับพวกโจรสลัดและพอเปิดประตูออกมาเห็นคลื่นพลังเกลียวเต็มท้องฟ้าไปหมด ความกล้าที่รวบรวมได้นิดหน่อยของผู้หายไปหมดจนถึงบัดนี้แข้งขาผู้น้องยังอ่อนอยู่เลย”
ไป๋เสี่ยวยังรู้ด้วยว่าถังเทียนยังใช้ชื่อปลอมและใช้เพื่อทำธุระ ทำไมเขาถึงได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีจากมือดีเหล่านั้นด้วยเล่า? ไป๋เสี่ยวเดินทางมารอบโลกแล้วและเคยเห็นทหารมีชื่อนับไม่ถ้วน ดังนั้นเขารู้ค่อนข้างแน่ว่าผู้คุ้มกันฝีมือดีทั้ง 40 คนเป็นพวกมือดีในมือดีอย่างแน่นอน
แต่ดูจากอาการสนองตอบของอีกฝ่ายดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้เดินทางมามากนัก เพราะอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาต่อชื่อเสียงของเขาหรือฉินอวี่หรันเลย สำหรับคนที่มีความรู้เหตุการณ์ในปัจจุบันบ้างพวกเขาจะต้องเคยได้ยินชื่อของ ‘ขุนนางหนุ่มไป๋เสี่ยว’และ ‘นักร้องตราตรึงวิญญาณฉินอวี่หรัน”
น่าเสียดายแค่อีกนิดเดียว
ถังเทียนยังหงุดหงุดอยู่ในใจ โครงสร้างเรือรบห่วยมากจริงๆพวกเขาทนใช้มันได้ยังไง? เฮ้,นี่คืออาวุธใช้รบของพวกเจ้า พวกเขาเอาแต่ผลิตโดยไม่ตรวจสอบคุณภาพได้ยังไง?
ข้าจะต้องเตือนพวกเขา
ถังเทียนพูดกับทั้งสองอย่างจริงจังและจริงใจ“สำหรับสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้บนเรือรบของพวกท่าน ควรจะต้องทนทานและมีคุณภาพสูงและต้องหากลุ่มผู้เชี่ยวชาญมาคอยตรวจดูเสมอ การมองข้ามเรื่องสำคัญอย่างนี้จะเป็นอันตรายร้ายแรงในสงครามได้”
ไป๋เสี่ยวและฉินอวี่หรันตกใจกับคำแนะนำกระทันหันอย่างจริงใจของถังเทียน
“มีที่ใดในเรือรบซึ่งยังไม่เพียงพออีกหรือ?”ฉินอวี่หรันถามทันที
ไป๋เสี่ยวมองดูถังเทียน เขารู้จักเรือรบข้างในยันข้างนอกเป็นเรือรบที่เจ้าปกครองทวีปหมิงมอบให้ฉินอวี่หรันและรู้กันดีว่าเป็นเรือรบที่ทำจากไม้โลหิต
“แค่ต้องระวังเพิ่มขึ้น” ถังเทียนโบกมือ
ฉินอวี่หรันและไป่เสี่ยวมองหน้ากันเอง พวกเขาตัดสินใจโดยปริยายว่าเมื่อพวกเขาไปถึงทวีปทรายขาว พวกเขาจะทำการตรวจสอบเรือรบอย่างละเอียด
ฉินอวี่หรันหันมาคุยตามตรง “พี่เหมิ่งจะไปทวีปทรายขาว ถ้ามีอะไรต้องการให้ช่วย โปรดมาหาผู้น้อง ผู้น้องจะอยู่ทวีปทรายขาวสักระยะหนึ่งและต้องทำการติดต่ออยู่ในทวีปทรายขาว พี่เหมิ่งท่านอย่าได้กีดกันข้าเหมือนเป็นคนนอกเลย”
ไป๋เสี่ยวและฉินอวี่หรันสังเกตและรู้สึกว่าเหมิ่งหนานไม่ใช่คนที่รู้เรื่องต่างถิ่นแน่นอน นางคุ้นกับการได้เห็นผู้คนทุกประเภท พี่เหมิ่งหนานไม่ได้แกล้งทำเป็นคนไร้เดียงสา และไม่ใช่คนที่มีลักษณะเจ้าเล่ห์มากอุบายเหมือนชาวโลกทั่วไป ทำให้นางรู้สึกสบายใจ
“โอวเร็วๆ นี้ข้าจะทำเงินสดได้ เราเตรียมจะขายของสำคัญบางอย่าง” ถังเทียนไม่ซ่อนความตั้งใจของพวกเขา
ไป๋เสี่ยวและฉินอวี่หรันประหลาดใจ สีหน้าของเหมิ่งหนานไม่ได้โกหก หรือว่าพวกเขามาทำธุรกรรมจริงๆ หรือ? ฉินเสี่ยวหรันคิดแล้ว เมื่อนางได้ยินคำพูดของถังเทียนว่า“ทำเงินได้” นางคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องราว และส่งคุณชายผู้ซื่อสัตย์ที่ไม่เคยออกมาเห็นโลกภายนอกออกมาพร้อมกับผู้คุ้มกันเพื่อขายสมบัติของพวกเขาเพื่อผ่านวิกฤติไปให้ได้
ฉินอวี่หรันปกติจะเป็นคนใจอ่อนถามอย่างใจเย็น “ข้าสงสัยจริงว่าพี่เหมิ่งจะขายอะไร?”
นางตัดสินใจซื้อสมบัติของเขาสองสามชิ้นในราคาสูงเพื่อช่วยเขาให้ผ่านวิกฤติไปได้ นางไม่ห่วงว่าพี่เหมิ่งมีความเคารพตัวเองอย่างกล้าแข็ง นางยินดีช่วยเขาอย่างไม่เห็นแก่ตัว เทียบกับการช่วยชีวิตนางและเป็นผู้มีพระคุณของนาง เงินจะสำคัญอะไร?
ถังเทียนรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ซื่อสัตย์ เขายิ่งมีความสุขมากขึ้น “ข้าคงต้องรบกวนให้พวกท่านช่วยข้าดู ของเหล่านี้มีค่าเท่าใด?”
ฉินอวี่หรันยืนยันกับอาคันตุกะของนาง
ไป๋เสี่ยวไม่ได้คิดอะไรมาก แม้ว่าเขาจะประหลาดใจว่าเหมิ่งหนานผู้ไม่คุ้นเคยกับอะไรหลายๆ อย่าง แต่ก็ยังวิ่งออกมาทำธุรกิจได้ เขาคิดว่าเขาอาจจะออกมาเรียนรู้และพยายามด้วยตนเอง จึงรีบเห็นด้วย“ไม่มีปัญหา”
เขาหัวเราะ “ฝีมือของผู้น้องยังไม่ได้มาตรฐาน แต่ก็พอรู้อะไรมาบ้างและพอจะรู้เรื่องการค้าอยู่บ้างเล็กน้อย”
จากนั้นถังเทียนคิดถึงสิ่งที่ปิงพูดและดึงดาบวายุทมิฬออกมาก่อนและส่งให้
ไป๋เสี่ยวรับดาบมาพินิจพิเคราะห์ดูครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณภาพและระดับฝีมือแบบนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผู้น้องได้เห็น นี่ทำด้วยฝีมือที่ยอดเยี่ยมและรู้สึกกระชับเวลาถือมีความหนาแน่นแข็งแรงมาก แต่พลังของมันการบรรจุพลังยังต้องทดสอบสองสามครั้ง แต่ก็น่าจะขายได้ราคาสัก ห้าหมื่นหรือหกหมื่นคลาวด์ได้ ไม่มีปัญหา”
สือเซินที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดอย่างภูมิใจ “ดาบนี่สามารถทนรับผสานพลังงานของคนสิบคนได้”
เมื่อพวกเขาฝึกอยู่พวกเขาเคยทดสอบมาก่อน พวกเขาสิบคนได้ผสานพลังงานของพวกเขาเข้าไปในดาบวายุทมิฬพร้อมกันและมันไม่ได้แตกหัก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นไป๋เสี่ยวตื่นเต้น “อย่างนั้นราคาก็ต้องเป็นทวีคูณ อย่างน้อยก็ต้องราคาแสนคลาวด์ น่าเสียดายที่มันไม่มีขั้นตอนผลิตของดาบในนี้ถ้ามีจริงๆ ราคาของดาบก็จะแตกต่างขึ้นไปอีกระดับ”
สือเซินรู้สึกนับถือไป๋เสี่ยว เขาลองใช้อาวุธมามากมายตลอดชีวิตและต้องยอมรับว่าไป๋เสี่ยวตั้งราคาได้สมเหตุสมผล
ถังเทียนดึงเกราะทองดำออกมา “แล้วนี่ล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”
ไป๋เสี่ยวทดสอบดูจากนั้นกล่าว “ผลิตออกมาได้ดีราคาของมันก็น่าจะสูงกว่าดาบ ควรจะขายได้ที่ราคา แสนห้าหมื่นคลาวด์”
ซื้อขายอาวุธหรือ?
ไป๋เสี่ยวประหลาดใจ แต่รู้สึกว่ามีเหตุผลทั้งหมด ถ้าพวกเขาเป็นผู้ค้าอาวุธ อย่างนั้นการมีผู้คุ้มกันฝีมือดีก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เห็นอาวุธสีดำและเมื่อเห็นความเป็นมือใหม่ของถังเทียน เขาก็เข้าใจ
ส่วนใหญ่แล้วน่าจะเป็นตระกูลหรือครอบครัวที่พบโลหะชนิดใหม่เหมาะกับการหลอมอาวุธและเกราะ และเพิ่งเริ่มเดินในเส้นทางค้าอาวุธ แต่การทำการค้าใหญ่อย่างนั้นโดยไม่มีการติดต่อที่ดีก็ยากจะหาผู้ซื้อได้
จากนั้นถังเทียนล้วงเอากล่องพลังต้นกำเนิดออกมาแล้วให้ไป๋เสี่ยว “แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง?”
“นี่อะไรเหรอ?” ไป๋เสี่ยวมองดูกล่องบรอนซ์ในมือด้วยความสงสัย
“กล่องพลังต้นกำเนิด” จากนั้นถังเทียนสั่งไป๋เสี่ยว “แค่โยนออกไป”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นไป๋เสี่ยวโยนกล่องพลังต้นกำเนิดออกไปตามปกติ กล่องบรอนซ์แตกออก เกิดมีรังสีแดงแพรวพราว อากาศดูบิดเบี้ยว
ไป๋เสี่ยวลุกขึ้นยืนทันที หน้าของเขามีแววรู้สึกเหลือเชื่อ “นี่มัน.. นี่มัน...”
“เศษกฎธรรมชาติ” ถังเทียนอธิบาย “ภายกล่องพลังต้นกำเนิดทุกกล่องก็คือเศษกฎธรรมชาติ พลังของมันนับว่าไม่เลว”
“เศษกฎธรรมชาติ มันคือเศษกฎธรรมชาติจริงๆ!” ไป๋เสี่ยวพึมพำขณะระบายลมหายใจ เขาถามอย่างกระวนกระวายใจทันที “เจ้ายังมีกล่องพลังต้นกำเนิดนี้อีกไหม? ข้าต้องการทั้งหมด! เจ้าต้องการราคาเท่าใด!”
“ข้ายังมีอีกหนึ่งหีบ” ถังเทียนตอบ
“แล้วมีอยู่กี่ลูก?” ไป๋เสี่ยวตะลึง
“หนึ่งหีบ” ถังเทียนย้ำ “โอว, หนึ่งหีบมีเพียงสามร้อยลูก”
“เพียงสามร้อยลูก...” ไป๋เสี่ยวมองดูถังเทียนราวกับว่าเขากำลังเห็นสัตว์ร้าย หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เขาจึงหัวเราะแก้เก้อ “ได้โปรด ได้โปรดอย่าใช้คำว่า ‘แค่เพียง’ เลย มันมากไปสำหรับผู้น้อง ท่านไปได้กฎธรรมชาติจากไหนตั้งมากมาย?”
เมื่อเขาพูดออกไป เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าตนเองผิดพลาดไป และขอโทษ “ข้าต้องขออภัย ขอโทษด้วย ไม่ใช่เรื่องสมควรที่ข้าจะถาม พี่เหมิ่ง ว่าราคามาได้ ผู้น้องต้องการทั้งหีบ!”
“ถังเทียนส่ายศีรษะ ”เจ้าต้องตีราคาให้ข้า ข้าไม่รู้ว่าของเหล่านี้ควรจะขายราคาเท่าใด ข้าไม่แน่ใจเช่นกัน”
ไป๋เสี่ยวพึมพำ “ลูกละสองล้าน พี่เหมิ่งคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?”
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของถังเทียนตั้งแต่แรกพากันสั่นทั้งหมด และบางคนหายใจแรง ทุกคนมีกล่องพลังต้นกำเนิดหกลูก โอว แม่เจ้า นั่นเท่ากับสิบสองล้านคลาวด์ไม่ใช่หรือ?
ทำไมแข้งขาข้ามันอ่อนอย่างนี้?
ทำไมปากข้าแห้งยิ่งนัก?
ทำไมหัวใจข้าเต้นรัวนักเล่า?
“ตกลงตามนั้น!” ถังเทียนมีความสุขมาก เขาไม่เคยคาดว่ากล่องพลังต้นกำเนิดจะมีราคาขนาดนั้น แต่เมื่อคิดถึงเศษสมบัติวิญญาณว่ากันจริงๆแล้วราคาไม่ถูก แต่เมื่อสามารถทำเงินได้ขนาดนั้น ย่อมไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย
สองล้านต่อลูก กับจำนวนสามร้อยลูกนั่นเป็นราคาหกร้อยล้านคลาวด์
ไป๋เซียวรีบแสดงความเป็นหนุ่มสูงศักดิ์ทันที คนที่ขาดแคลนเงินจะเรียกว่าหนุ่มสูงศักดิ์ได้ยังไง? โดยไม่พูดอะไรอื่น เขาดึงการ์ดออกมาใบหนึ่งและมอบให้ถังเทียน “การ์ดนี้ไม่จำกัดผู้ใช้ มีเงินอยู่หกร้อยล้านคลาวด์พี่เหมิ่งโปรดตรวจดูก่อน”
ถังเทียนรับการ์ดมาเป็นการ์ดสีม่วงสวยงามราคาแพง มีมูลค่าหกร้อยล้าน แล้วจะไม่ยิ่งใหญ่สง่างามได้ยังไง?
ดูเหมือนว่าการหาเงินไม่ใช่เรื่องยาก!
ถังเทียนมีความสุขฉินอวี่หรันที่มองดูอยู่ข้างๆ ตะลึงไปด้วย นางอ้าปากค้าง นางต้องการจะช่วยพี่เหมิ่งหนาน แต่พริบตาเดียวเขาทำรายได้ไปหกร้อยล้านคลาวด์
ถังเทียนล้วงกิ่งน้ำแข็งฟ้าออกมาและยื่นให้ไป๋เสี่ยว “แล้วนี่ล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”
ตาของไป๋เสี่ยวแทบทะลุจากเบ้า เขาอุทานด้วยเสียงแหบแห้ง “หอกต้นน้ำแข็งฟ้า!”
สือเซินได้รับการปลอบประโลมได้ในที่สุด ข้าไม่ใช่คนเดียวที่เข้าใจผิด มันทรงพลังมากจนแม้แต่ไป๋เสี่ยวก็เข้าใจผิดไปด้วย เขาอดกระแอมเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้ และจากนั้นเตือนไป๋เสี่ยวอย่างอารมณ์ดี “คุณชายไป๋ โปรดพิจารณาให้ดี แม้ว่าจะคล้ายกับหอกต้นน้ำแข็งฟ้า แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้”
ไป๋เสี่ยวมองดูพินิจพิเคราะห์พลิกดูไปมา ถ่ายพลังงานลงไปหลังจากนั้นเป็นเวลานาน เขาเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ปักใจ “ข้ามีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งอยู่ในโรงเรียนของข้า เขาชื่อโจเซฟและเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญสามารถคุยได้ว่าค้นคว้าเรื่องหอกต้นน้ำแข็งฟ้ามาถึงสิบปีแล้ว และเผอิญข้าได้ร่วมในงานวิจัยของเขาและรับผิดชอบเต็มรูปแบบ ข้ากล้าพูดได้เลยว่าหอกต้นน้ำแข็งฟ้านี้เป็นของจริงเป็นหอกต้นน้ำแข็งฟ้าเท่านั้น”
สือเซินยิ้มค้าง เขาตะลึงเป็นตุ๊กตาไปแล้ว
ต่อหน้าต่อตาเขาภาพกองหอกต้นน้ำแข็งฟ้ากองพะเนินเต็มลานฝึก
เขาตาเหลือกค้างสิ้นสติทันที