ตอนที่ 592 ความสุขที่รอไม่ได้
ทุกคนคำนับแสดงความเคารพเย่ว์หยาง และจากไปอย่างเงียบงัน
รวมทั้งผู้เฒ่าหนานกง
เขาพยักหน้าให้เย่ว์หยางและยิ้มเล็กน้อยจากนั้นเดินออกไปอย่างสบายใจ สีหน้าของเขาราวกับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกมีความสุขใจขนาดนี้ เขามองดูเย่ว์หยางค่อยๆ เติบโตกลายเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ เทียบกับฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่ว เขาปกป้องหอทงเทียนไม่ได้หยุดพักมาทั้งชีวิต ด้วยการปรากฏตัวของเย่ว์หยางผู้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เขาย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา
“ในตอนนี้ ยังคงเร็วเกินไป รอให้เขาแข็งแกร่งมากกว่านี้ก่อน จากนั้นข้าจะบอกความลับทั้งหมดกับเขา” ผู้เฒ่าหนานกงพึมพำเบาๆ ขณะที่เขาหันไปมององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียกำลังกอดเย่ว์หยางแน่น
ผู้เฒ่าซิงผาน, ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ย, ท่านหญิงเยี่ยนและอัศวินเผ่าสมุทรอื่นๆ ทุกคนคุกเข่ากับพื้นแสดงความเคารพเย่ว์หยาง จากนั้นหมอบคำนับไห่อิงอู่
จากนั้นพวกเขาค่อยจากไปทีละคน
พวกเขารับรู้แล้วว่าไห่อิงอู่เป็นจักรพรรดินีรุ่นใหม่ของทะเลไร้ขอบเขต แน่นอนก่อนนี้ พวกเขาเข้าใจว่าเบื้องหลังของจักรพรรดินีสมุทร มีจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่คอยหนุนหลัง มีบุคคลทั้งสองนี้ เผ่าพันธุ์ทะเลจะฟื้นฟูขึ้นใหม่ได้เร็ว เหมือนกับสิ่งที่ราชินีแมงกะพรุนมองเห็น ในฐานะบริวาร พวกเขาจำเป็นต้องทำหน้าที่ของพวกเขาให้เหมาะสม ไม่จำเป็นที่พวกเขาต้องทำอะไรเป็นพิเศษ
เย่ว์หยางรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากและรอไม่ไหวที่จะกลับเข้าไปพักผ่อนในโลกคัมภีร์ของเขา
เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับเข้าไป นางคุยกับไห่อิงอู่ที่กำลังยืนรอ “มาด้วยกันเถอะ ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ถ้าจะมีคนเพิ่มเข้ามาอีก”
เมื่อไห่อิงอู่ได้ยินเช่นดี นางดีใจทันที แต่นางยังมองเสวี่ยอู๋เสียอย่างกระวนกระวาย นางรู้จักภรรยาของเย่ว์หยางทุกคน, เจ้าเมืองโล่วฮัว, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียเป็นภรรยาที่มีอำนาจ หญิงงามอู๋เหินนุ่มนวลเอาใจ อี้หนานยังคงอายุน้อยและมารกฎฟ้าที่ได้เป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนล่าสุด นางไม่ใส่ใจต่อใครๆ อยู่แล้ว
ถ้าเสวี่ยอู๋เสียไม่เห็นด้วย ไห่อิงอู่ไม่กล้าเข้าโลกคัมภีร์
นางรู้ว่าสถานะของเสวี่ยอู๋เสียในหัวใจของเย่ว์หยางนั้นเป็นคนสำคัญคนหนึ่ง ยังค่อนข้างมากกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวเล็กน้อย
“...” เสวี่ยอู๋เสียมองดูไห่อิงอู่และนิ่งดุษฎี
“ขอบคุณแม่นาง” ไห่อิงอู่เป็นหญิงสาวผู้ฉลาด นางรู้ว่าเสวี่ยอู๋เสียไม่พูดก็หมายถึงยอมรับโดยปริยาย ไห่อิงอู่มีความสุขมากจนนางเกือบโลดเต้น นางรีบแจ้งองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียว่านางไม่กล้าขอสถานะภรรยาของเย่ว์หยาง นางแค่ต้องการสถานะที่ต่ำกว่า แค่เหมือนกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์ นางยินดียอมรับสถานะเหมือนสาวใช้ ยิ่งกว่านั้น ในหัวใจของไห่อิงอู่ การเป็นหญิงรับใช้ของเย่ว์หยางดีกว่าเป็นจักรพรรดินีสมุทร
เมื่อได้เห็นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์มีความสุขในชีวิตมากขนาดไหน? นางสามารถวาดเขียน ตัดเย็บเสื้อผ้าหรือปรุงอาหารให้เย่ว์หยางได้ทุกวัน
แม้ว่าทั้งสองนางจะได้พบกับเย่ว์หยางที่หอทงเทียนในช่วงเวลาเดียวกัน แต่สาวลูกครึ่งเอลฟ์หน้าเด็กอกโตกลับได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของเขาได้สำเร็จ
ขณะที่ตัวนางเองยังต้องขออนุญาต
นี่คือความแตกต่างในเรื่องสถานะของพวกนาง
พวกนางเข้าโลกคัมภีร์พร้อมกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ไห่อิงอู่เข้ามาในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง
นางประหลาดใจกับความงามของโลกคัมภีร์ และขณะเดียวกันก็ตกใจกับโครงสร้างในสถานที่นี้ คะเนจากสายตานาง นางสามารถเห็นว่าอาคารทั้งหมดสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของคนบางคน แต่ละอาคารหรือพื้นที่การออกแบบจะแตกต่างกัน อาคารถูกสร้างแบบเรียบง่าย ละเอียดอ่อนและแม้แต่การออกแบบก็ง่ายๆ... ไม่ใช่แค่ภรรยาของเขาเท่านั้น ยังมีกระทั่งที่พักอาศัยที่สร้างให้พวกอสูรอัญเชิญของเขาด้วย ไห่อิงอู่หวังว่านางจะสามารถเข้ามาในที่แห่งนี้และกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของพวกเขา
ไม่ใช่แค่เพียงวันนี้ แต่นางตั้งความหวังนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
“พี่ไห่อิงอู่, ทางนี้! ข้าดีใจจริงๆ!” คนแรกที่ออกมาต้อนรับไห่อิงอู่ก็คือสาวลูกครึ่งเอลฟ์
แม้ว่านางจะไม่มีพลังต่อสู้แต่อย่างใด แต่เย่ว์หยางก็ยืมทักษะพิเศษของสาวลูกครึ่งเอลฟ์เป็นบางครั้ง ตัวอย่างเช่นทักษะธรรมชาติรับรู้กลิ่นหรือทักษะความรู้สึกทางหัวใจของนาง สาวลูกครึ่งเอลฟ์มีประโยชน์ต่อเย่ว์หยางไม่ด้อยไปกว่าหลิวเย่ผู้มีทักษะกวางทะลวงมิติและทักษะแฝงเร้นชำระใจ เพียงแต่สาวลูกครึ่งเอลฟ์ไม่มีพลังต่อสู้ใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นนางได้แต่ช่วยเย่ว์หยางเป็นครั้งคราว
ไห่อิงอู่ดีใจกอดสาวลูกครึ่งเอลฟ์ผู้น่ารักจากด้านหลังนาง “เรียกข้าว่าไห่หลาน! ท่านแม่ข้าตั้งชื่อไว้เช่นนั้น ถึงจะไม่มีใครรู้ แต่ชื่อจริงของข้าก็คือไห่หลาน ไห่อิงอู่เป็นเพียงฉายาที่เผ่าพันธุ์ทะเลตั้งให้ข้า! ตอนนี้ เจ้าเรียกข้าว่าไห่หลานได้แล้ว...”
สาวลูกครึ่งเอลฟ์พยักหน้าจริงจัง บอกว่านางจดจำชื่อนั้นไว้แล้ว
ทันใดนั้น นางคิดเรื่องหนึ่งขึ้นได้
นางตกใจยกกระโปรงสาวใช้และรีบวิ่งกลับไปอย่างเร็วเท่าที่จะทำได้ ร่ำร้องอย่างน่ารัก “โอว ไม่นะ, ข้าลืมเตรียมน้ำบ้วนปากให้นายท่าน นายท่าน, นายท่านไม่ควรใช้น้ำล้างหน้ามาบ้วนปากนะเจ้าคะ” ขณะที่นางก้าวขึ้นบันได ด้วยความรีบนางแทบจะก้าวข้ามบันไดทีละสามขั้น โชคดีที่เย่ว์หยางรั้งนางไว้ทัน ขณะที่เขายิ้มปลอบใจนาง “ไม่ต้องรีบร้อน, ข้ายังไม่ได้ดื่มอะไร... ทำไมเจ้าไม่ไปเตรียมน้ำดื่มมาให้ข้าเล่า? ข้ากระหายจริงๆ”
สาวลูกครึ่งเอลฟ์หน้าแดงด้วยความอาย ขณะที่นางรีบวิ่งไปที่ครัว หายวับไปในทันใด
นั่นคืออาณาเขตน้อยๆ ของนาง นอกจากเย่ว์หวี่และสาวงามอู๋เหินผู้เข้าไปเป็นครั้งคราว ปกติคนอื่นจะไม่ยอมเข้าไปในนั้น เช่น เจ้าเมืองโล่วฮัว, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, นางเซียนหงส์ฟ้าและคนอื่นจะรออาหารที่ปรุงเสร็จแล้วเท่านั้น
ไห่อิงอู่รีบตามนางไปช่วยตระเตรียมบางอย่างให้เย่ว์หยางกินและดื่มพร้อมกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์
ในป้อมสายฟ้าก่อนหน้านั้น ไห่อิงอู่ไม่เคยแสดงฝีมือปรุงอาหารมาก่อนเลย
ความจริง นางนับเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง
ตั้งแต่นางยังเด็ก มารดานางผู้ปลอมตัวเป็นทาส ราชินีแมงกะพรุนมารดานางไม่สามารถได้ยินธิดาของนางเองเรียกนางเป็นแม่ แม้แต่เวลาที่นางตายก็ยังสอนบางอย่างนางไว้ก่อนตาย “ในฐานะที่เป็นลูกผู้หญิง ถ้าเจ้าต้องการกุมหัวใจบุรุษ เจ้าต้องทำให้ท้องเขาอิ่มให้ได้เสียก่อน...”
ภายในบ้าน เย่ว์หยางเปลื้องผ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจนเปลือยและรักษาบาดแผลนางด้วยปราณก่อกำเนิด
เสวี่ยอู๋เสียแกล้งทำเหมือนว่าไม่เห็นอะไร ขณะที่นางช่วยทำความสะอาดบาดแผลของเย่ว์หยางและพันให้อย่างชำนาญ นอกจากปล่อยให้เย่ว์หยางช่วยรักษาบาดแผลแล้ว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังช่วยเสวี่ยอู๋เสียเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หลังจากเสวี่ยอู๋เสียพันแผลให้เย่ว์หยางเสร็จ นางจะช่วยผูกโบว์ให้อย่างน่ารัก ทั้งสามคนช่วยทำแผลให้กัน บางทีตอนแรกอาจขัดเขินอยู่บ้าง แต่หลังจากต่อสู้มาหลายศึก ทั้งสามคนไม่ได้คิดนอกลู่นอกทางอะไร พวกเขาเพียงแต่ใช้ทักษะที่ดีที่สุดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของกันและกัน นอกจากนี้ ภายในโลกคัมภีร์ไม่มีคนนอก พวกเขาทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกอึดอัดใจแต่อย่างใด
ไห่อิงอู่ยืนพูดไม่ออกอยู่หน้าประตู นางกำลังนำอาหารจานร้อนมาให้
นางไม่สามารถทำตัวได้กลมกลืนเต็มที่ ดังนั้นนางจึงทำอะไรไม่ถูกในสถานการณ์เช่นนี้
นางไม่รู้ว่านางควรจะลุกล้ำเข้าไปหาพวกเขาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สาวลูกครึ่งเอลฟ์กับแตกต่าง นางไม่มีความลังเลใจขณะที่นางรีบเดินตรงเข้ามาช่วย เมื่อเย่ว์หยางรักษาอาการบาดเจ็บภายในของเสวี่ยอู๋เสียเสร็จ นางมาช่วยทำความสะอาดแผลและพันแผลให้เสวี่ยอู๋เสียทันที ปล่อยให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่เหนื่อยอ่อนได้พัก
เมื่อไห่อิงอู่เห็นเช่นนี้ นางค่อยกระพริบตาพร้อมกับเข้าใจในสัมพันธ์ที่แท้จริง
พวกเขาอยู่ภายในเป็นเวลาสามวัน
ในหมู่เกาะฝนดาวตกในทะเลไร้ขอบเขต หอทงเทียนชั้นสิบ
วันนี้ความไม่สงบในเผ่าพันธุ์ทะเลก็มาถึงที่สุด และพวกเขาต้อนรับจักรพรรดินีสมุทรคนใหม่
ภายใต้การสนับสนุนของพะยูนนรกทั้งสองและผู้เฒ่าหนานกงแห่งพันธมิตรปราณก่อกำเนิดและจักรพรรดิใต้พิภพแห่งทวีปมืดเป็นสักขีพยาน ไห่อิงอู่ซึ่งมีชื่อจริงว่าไห่หลานจะครองตำแหน่งจักรพรรดินีสมุทรอย่างเป็นทางการ ราชพิธีอภิเษก เย่ว์หยางไม่ได้เข้าร่วมโดยตรง เขาเพียงแต่มองจากที่ไกลอย่างเงียบๆ สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ดูนางได้รับอภิเษกเป็นจักรพรรดินีสมุทร ความจริงทุกคนต่างรู้และเข้าใจดีถึงเหตุผลที่จักรพรรดินีสมุทรคนใหม่สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างราบรื่นเป็นเพราะคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้.... ส่วนเหตุผลอื่นเป็นเพราะพระมารดาของจักรพรรดินีสมุทร ราชินีแมงกะพรุนได้วางแผนพันปีเพื่อฟื้นฟูเผ่าพันธุ์สมุทรและเพื่อธิดาของนาง นางไม่ลังเลใจที่จะเสียสละชีวิตนางเพื่อการนี้
หลังจากได้รับแสดงความยินดีจากทูตานุทูตและเชิดชูบูชาจากข้าราชบริพารแล้ว ชาวเผ่าพันธุ์ทะเลก็เริ่มเข้ามาเฉลิมฉลอง
จักรพรรดินีสมุทรคนใหม่สืบทอดราชบัลลังก์ ย่อมเป็นความความหวังใหม่สำหรับการฟื้นฟูเผ่าพันธุ์ทะเล
หลังจากนั้น ราชาฉลาม, ผู้เฒ่าซิงผาน, ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยนพาบริวารของตนถอยกลับออกไปเหมือนคลื่นน้ำ วังฝนดาวตกเหลืออยู่แต่เพียงเย่ว์หยางและไห่อิงอู่
ไห่อิงอู่ผู้นั่งสีหน้าเคร่งขรึมอยู่บนบัลลังก์เมื่อครู่นี้ลุกขึ้นทันทีและวางสามง่ามจักรพรรดิสมุทรในมือนางและวิ่งเข้าไปหาเย่ว์หยาง
นางโผเข้าอ้อมกอดเขาทั้งที่ยังมีน้ำตานองหน้า
เทียบกับอยู่บนบัลลังก์จักรพรรดินีแล้ว นางอยากอยู่ในอ้อมกอดของเขามากกว่า
อย่างไรก็ตาม นางไม่สามารถปฏิเสธปณิธานสุดท้ายของมารดาและความหวังของเผ่าพันธุ์ทะเล นางไม่มีทางเลือกอื่น แต่จำต้องรับเป็นจักรพรรดินีสมุทรเพื่อนำเผ่าพันธุ์ทั้งหมดฟื้นฟูและพัฒนาก้าวหน้า แน่นอนว่านี่จะเป็นประโยชน์ต่อเย่ว์หยาง เพราะเขาคือจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ ดังนั้นเขาจะต้องได้คนช่วยปกป้องหอทงเทียน
“นั่งเถอะ เชิญนั่งตรงนี้...” ไห่อิงอู่พาเย่ว์หยางไปที่บัลลังก์จักรพรรดินี และขอให้เขานั่ง นางกลับทำตรงกันข้าม คุกเข่าต่อหน้าเขาด้วยความเคารพ นางดึงมือเขาและจูบนิ้วของเขา “วันนั้น ท่านบอกว่าท่านจะทำให้ข้าเป็นจักรพรรดินีคนใหม่ ตอนนี้ข้ากลายเป็นจักรพรรดินีแล้ว เป็นเพราะท่านจัดการให้ ข้าจึงมีทุกอย่างในวันนี้ ท่านเห็นข้าร้องไห้ เวทนากับคำวิงวอนของข้าและเติมเต็มความปรารถนาให้ข้า ท่านมอบทุกอย่างเหล่านี้ให้กับข้า สิ่งเหล่านี้ข้าได้แต่เพียงฝันถึง... ท่านจำได้ไหม? วันนั้น, ข้าสัญญากับท่านด้วยว่าข้าจะทำทุกอย่างด้วยกำลังของข้าเพื่อตอบแทนท่าน... ด้วยความรักของข้า, ด้วยทุกอย่างที่ข้าเป็น, ด้วยความสามารถทุกอย่าง, ด้วยปัญญา, ด้วยความภักดี ทุกอย่างที่ข้ามี...”
“เจ้าแน่ใจนะ? ข้าไม่สามารถอยู่ร่วมที่นี่กับเจ้าได้!” เย่ว์หยางยื่นมือเชยคางนางช้าๆ และเช็ดน้ำตานางที่อาบแก้มอย่างนุ่มนวล
“ข้าอยากอยู่ในโลกคัมภีร์มากกว่าจะได้รับใช้ท่านทุกวัน ข้าไม่เคยคิดหวังจะกลายเป็นจักรพรรดิสมุทร ถ้าเพียงแต่ข้าไม่เป็นจักรพรรดิสมุทรและสามารถทุ่มกำลังช่วยท่านได้ ข้าไม่เคยสนใจสถานะเช่นนั้น” ไห่อิงอู่สะอื้นส่ายศีรษะ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ สิ่งที่ข้าต้องการที่สุดก็คือใช้ชีวิตอยู่ภายในโลกคัมภีร์อย่างอบอุ่น รอท่านกลับมาอย่างสงบสุข”
“ยังมีเรื่องก่อนหน้านี้...” เย่ว์หยางจำได้ว่าเขาปลอมเป็นหัวหน้าคนใช้จอมลามกเพื่อกลั่นแกล้งนางก่อนนั้น ตอนนี้พอนางเห็นสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงนางจึงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตอนนั้นความจริงข้าโกรธท่านมาก แต่เมื่อข้ารู้ว่าเป็นท่าน ข้าคิดว่าเป็นเรื่องตลกมาก พอคิดย้อนกลับไปช่างน่าประหลาดจริงๆ บางทีนั่นอาจเป็นพรหมลิขิต! เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นชีวิตของเราจึงมีเรื่องยุ่งเหยิงตามมา แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ประหลาดอยู่บ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ร่วมกันของเราที่ไม่เหมือนใคร ข้าจะจดจำไว้ตลอดไปอย่างแน่นอน” ขณะที่นางพูด ไห่อิงอู่เปลื้องภูษาจักรพรรดินีช้าๆ จากนั้นก็เป็นชุดชั้นในไหม เผยให้เห็นร่างอวบอิ่มสมบูรณ์ของนาง
“นี่คือบัลลังก์จักรพรรดินีของเจ้านะ” เย่ว์หยางหัวใจเต้นแรงขึ้น เขารู้ตัวว่าตื่นเต้นเหมือนกับว่าเขามีเรื่องรักใคร่แบบลับๆ ล่อๆ ความรักความหลงใหลของเขาประดังขึ้นแต่เขาเกรงว่าคนอื่นจะเห็น
“ภายในโลกคัมภีร์ ทุกคนอยู่ที่นั่น ที่นั่นข้าไม่ค่อยรู้สึกสะดวกใจ วังฝนดาวตกนี้ ณ ท้องพระโรงจักรพรรดิสมุทรนี้, บัลลังก์แห่งนี้เป็นของเราเท่านั้น โปรดให้ไห่หลานได้ปรนนิบัติท่านทุกอย่างตรงนี้เถิด แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของข้า แต่ไห่หลานเคยแอบมองนายหญิงทำมาก่อน หลายครั้ง ถ้าการปรนนิบัติของข้าไม่ยังไม่ถึงใจท่าน โปรดบอกให้ข้าทราบได้ทุกเมื่อ ไห่หลานจะปรนนิบัติเป็นอย่างดีแน่นอน เจ้านายยอดรักของข้า ข้าจะปรนนิบัติท่านอย่างดีที่สุด เพราะนั่นคือการแสดงออกว่าข้ารักท่านมากเพียงไหน...”
ไห่อิงอู่ปรือตาลงช้าๆ
เหมือนกับว่านางกำลังเมาและมึนงง
นางข่มความอายในใจขณะที่นางยื่นมืออย่างกล้าหาญ และถอดชุดของคนรักของนางอย่างนุ่มนวล
เนื่องจากนางหลงรักเขามาก นางจึงสนองเขาทุกอย่าง ในฐานะหญิงสาว นี่คือรักแรกของนาง นางต้องเรียนรู้ให้ไวและกลายเป็นผู้ชำนาญการในอนาคต เพื่อที่ว่าคนรักของนางจะได้พอใจ เพียงเท่านั้นเขาก็สามารถมีความสุขและพอใจได้
ท่านไม่อาจได้รับความสุขโดยรอแต่สวรรค์ประทานให้ได้ ท่านจะได้รับต่อเมื่อท่านเพียรพยายามไขว่คว้าด้วยตนเอง