ตอนที่ 593 ขึ้นเรือ
“ที่นี่แหละ”
หลังจากพวกเขาดูสภาพแวดล้อมและสังเกตว่ามีกระแสพลังผันผวนที่ไม่อันตรายนัก สือเซินคาดว่าเป็นที่ดีต่อการตั้งค่ายพักแรมทุกคนค่อยมีสีหน้าคลายใจ หลังนั้นสองสามคนก็ซัดโลหะเงินในมือกระจายออกไป
“พร้อมแล้ว” อาเหล่งตะโกน
คนอื่นๆ ตอบรับพร้อมกัน
“เปิดการทำงาน!”
พวกเขาสองสามคนถ่ายเทพลังงานเข้าไปในบอลโลหะ และบอลโลหะทั้งหมดสว่างวาบด้วยแสงสีเงินพร้อมกันวืดดดดดดด.. แสงสีเงินยิงออกมาจากบอลพร้อมกัน และบรรจบกันด้านบน ก่อตัวเป็นกรอบกระโจมที่ตามมาจากนั้นก็เป็นแผ่นที่สว่าง แผงแสงสว่างทั้งหมดเริ่มก่อตัวและอุดช่องว่างทั้งหมด
นี่เรียกว่ากระโจมบอลลูกโซ่มีบอลเงินเป็นสื่อกลางใช้พลังงานสร้างม่านขึ้น
ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันเบาบางภายในกระโจมบอลลูกโซ่และพากันนั่งลงทุกคน
ด้านนอกกระโจมบอลลูกโซ่เป็นกระแสพลังงานที่ผันผวน แต่กระโจมไม่มีการขยับเคลื่อนไหวอย่างใด ไม่มีการกัดกร่อนจากกระแสพลังผันผวนด้านนอก ในที่สุดทุกคนก็สามารถพักผ่อนและเริ่มฟื้นฟูร่างกายตนเอง ถังเทียนไม่จำเป็นต้องฟื้นฟู แต่เขารู้สึกเหนื่อยเช่นกัน
การเดินหน้าภายในทะเลพลังงานยากมากจริงๆร่างกายของเขาสามารถขับไล่พลังงานได้ซึ่งก็หมายความว่าทะเลพลังงานก็กำลังขับไล่ต่อต้านร่างกายของเขา ดังนั้นแรงกดดันไม่ให้เขาเดินหน้าไปได้จึงหนักหน่วงกว่าคนอื่น ทุกย่างก้าวล้วนเหน็ดเหนื่อยและสร้างความอ่อนเพลียให้เขาอย่างรวดเร็ว
ตลอดทั้งร่างของถังเทียนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขานั่งลงหอบหายใจ ความก้าวหน้าของเขาปรากฏขึ้นด้วยการเดินทางไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ร่างกายหยาบของเขาได้รับการขัดเกลาอย่างมากมาย
ภายในกระโจมบอลลูกโซ่ ช่างเงียบสงบนัก เสียงหวีดหวิวของกระแสพลังงานที่ปั่นป่วนหายไปหมดแล้ว ไม่มีใครพูดเนื่องจากเวลาพักผ่อนมีค่าและยิ่งกระโจมบอลลูกโซ่ตั้งอยู่นานก็ยิ่งสิ้นเปลืองพลังงานมาก ถ้าพลังงานภายในบอลเงินถูกใช้หมดสิ้น พลังปกป้องกระโจมก็จะหายไปหมด
เมื่อไม่มีกระโจมบอลลูกโซ่ ถ้าพวกเขาไม่สามารถพักภายในทะเลพลังงานได้ ก็อาจกลายเป็นการเดินทางสู่ความตายก็ได้
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถพักกันได้ทั้งหมดกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวห้าคนจะต้องนั่งเฝ้าที่ห้ามุม ด้านหลังพวกเขาเชื่อมโยงกับบอลเงินซึ่งมีเส้นสายพลังงานที่ละเอียดแผ่กระจายออกไปหากระแสพลังงานผันผวน เส้นแสงทั้งหมดเหล่านี้เป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ดีและใช้ประโยชน์ในการตรวจจับอันตรายรุนแรงและที่ซ่อนเร้นอยู่ในกระแสพลังผันผวนของกระแสคลื่นทะเลพลังงาน
สือเซินและสหายที่เหลือทุกคนชินกับมันแล้ว ไม่มีใครบ่นเหนื่อยล้า
พวกเขาพักเป็นเวลาสิบชั่วโมง จากนั้นจึงเดินทางกันต่อ
********
เรือรบลำหนึ่งแล่นอยู่ในทะเลพลังงานอย่างรวดเร็ว
“ในช่วงสามวันนี้ข้าจะไปถึงทวีปทรายขาวและเวลานั้นข้าต้องมีช่วงเวลาที่ดีแน่นอน” ฉินอวี่หรันยืดตัวอย่างเกียจคร้านเผยให้เห็นรูปร่างที่ยั่วยวนใจของนางซึ่งเหมือนดอกไม้บานนางดูเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าราวกับแบกโลกอยู่ตลอดเวลา
แววชื่นชมฉายผ่านดวงตาไป๋เสี่ยววูบหนึ่งขณะที่เขาหัวเราะ “ทวีปทรายขาวคือเมืองยุทธศาสตร์การค้าในภูมิภาคใต้ และแม้จะไปมารอบหนึ่งแล้วข้าเกรงว่าอาจทำให้คุณหนูต้องเสียเวลาขณะหนึ่ง ในทวีปทรายขาวสถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือถนนย่านการค้าเรียกว่าถนนลาดทรายขาว เป็นสถานที่รุ่งเรืองชั้นหนึ่ง และเป็นหนึ่งใน16 ถนนทองของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”
ฉินอวี่หรันตื่นเต้นทันที “โห โห, ข้าอยากไปเยือนที่นั่น!”
“คุณหนู,เรายังจำเป็นต้องซักซ้อม” สุภาพสตรีวัยกลางคนเตือนนางทันที ชื่อท้ายของนางคือชิว ทุกคนจึงเรียกนางว่าป้าชิวและนางเป็นผู้ดูแลของฉินอวี่หรัน
ฉินอวี่หรันออดอ้อนอย่างน่าสงสาร “ซักซ้อมครั้งเดียวก็พอแล้ว เถอะน่านะ”
“ไม่ได้!”ป้าชิวชำเลืองมาทางฉินอวี่หรัน “นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดที่จะแสดงในปีนี้และนอกจากนี้ครอบครัวและตระกูลชั้นสูงของทวีปต่างๆในภูมิภาคใต้จะมาปรากฏตัวกัน ถ้าแค่มีการสะอึกระหว่างแสดงแล้วก็จะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณหนูแน่ การเลือกจะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้และในเวลานี้ชื่อเสียงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราไม่สามารถประมาทได้”
ฉินอวี่หรันทำปากยื่นหลุบตา หน้าของนางบูดบึ้งไม่สบอารมณ์
ไป๋เสี่ยวหัวเราะลั่น
ทันใดนั้นมีบางคนตะโกนรายงานขึ้นข้างหน้า “คุณหนู เราพบกระโจมกลมลูกโซ่ที่ข้างนอกและมีคนจะขอขึ้นเรือของเรา”
ฉินอวี่หรันและป้าชิวหันไปมอง ไป๋เสี่ยวพยักหน้า “ฉายรูปขึ้นจอ”
“ขอรับ!”
ภาพจอบนผนังสว่างขึ้น และกระโจมกลมลูกโซ่ปรากฏอยู่ในจอ ไป๋เสี่ยวไตร่ตรองดูและรู้สึกประหลาดใจ “เอ, เป็นระบบวิธีการของทหาร พวกเขาเป็นใคร?”
“พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นผู้ค้ากำลังมุ่งหน้าไปยังทวีปทรายขาว” บริวารของเขารายงาน
“ผู้ค้าขาย?” ไป๋เสี่ยวไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ และบอกฉินอวี่หรันและป้าชิว “พวกเขาดูเหมือนไม่ใช่โจร”
“ข้าไม่กลัว ต่อให้พวกเขาเป็นก็เถอะ!” ฉินอวี่หรันชูกำปั้นขาวเหมือนหิมะ ด้วยท่าทางตื่นเต้น “ดีที่สุดขอให้เขาเป็นเถอะ วิธีนี้เสี่ยวไป๋จะได้ทุบตีพวกเขาจนฉี่ราดกางเกงเลย”
ป้าชิวดุ “เป็นกุลสตรีพูดจาหยาบโลนแบบนั้นได้ยังไง!”
ฉินอวี่หรันแสร้างเป็นกลัวแลบลิ้นออกมา
ป้าชิวพูด “เนื่องจากพวกเขาไม่เหมือนโจรอย่างนั้นให้พวกเขาขึ้นเรือได้ ช่วยเกื้อกูลกันและกันถือเป็นการสร้างกุศล”
ไป๋เสี่ยวหัวเราะ “ป้าชิวพักอย่างวางใจ ข้าจะดูแลพวกเขาเอง”
เขาพูดไม่แยแสแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความมั่นใจในตนเองอย่างแรงกล้า
ภายในกระโจมบอลลูกโซ่ ถังเทียนสงสัย “พวกเขาจะยอมรับเราขึ้นเรือหรือ?”
เขามองเรือขนาดใหญ่ต่อหน้าเขา มีขนาดยาวเกิน 700 เมตรสร้างด้วยแผ่นไม้กระดานแดงยาวสิบเมตรหลายแผ่น สือเซินอธิบายว่าเป็นไม้กระดานที่เรียกว่าไม้โลหิตซึ่งมีราคาแพงมากมีคุณสมบัติป้องกันที่แข็งแกร่ง เรือรบจอดที่ศาลาสองสามแห่งมีร่างเคลื่อนไหวสองสามร่างและเรือรบมีม่านพลังป้องกันเป็นชั้นๆ
เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้เห็นม่านพลังงานที่หนาขนาดนั้นซึ่งหนาอย่างน้อยสิบเมตรทำให้เขาตกตะลึง มนุษย์ทุกคนรู้สึกต่ำต้อยเมื่อเผชิญหน้ากับเรือรบมหึมาอย่างนั้น
“ใครจะรู้ นี่ขึ้นอยู่กับโชค บางคนก็กังวลเรื่องความปลอดภัยบางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องกวนใจทำให้ลำบาก แต่นี่คือเรือรบลำหนึ่ง และข้าเกรงว่าการป้องกันของมันจะแข็งแกร่งมากและพวกเขาไม่ต้องกลัวว่าเราจะเป็นโจร” สือเซินส่ายศีรษะ เขาหันไปพูดกับพวกที่เหลือ “ทุกคน เก็บของที่มีค่าทุกอย่างเอาไว้”
ทุกคนถอดชุดเกราะและเก็บดาบวายุทมิฬไว้
ในไม่ช้าก็มีเสียงดังออกมา “เจ้านายข้ายินดีต้อนรับพวกเจ้าทุกคนขึ้นเรือ”
“ขอบคุณใต้เท้า” สือเซินร้องตอบ พวกเขารีบเก็บกระโจมกลมลูกโซ่และลอยตัวขึ้นเรือรบ
ม่านพลังงานเปิดออกทันที ด้วยชั้นวงกลม 3 เมตรที่สมบูรณ์และสือเซินเดินนำผ่านทางผ่านไป เมื่อเขาขึ้นเรือรบได้ถังเทียนรู้สึกตระการตาและรู้สึกถึงความสง่างามของเรือรบ เขารู้สึกเต็มไปด้วยความตกใจ สวรรค์วิถีไม่เคยมีอาวุธจักรกลมหึมาอย่างนั้นมาก่อน
ป้อมปราการ!
เป็นป้อมปราการอย่างหนึ่ง ป้อมปราการที่เคลื่อนที่ได้
เขารู้สึกไวต่อพลังงานได้เป็นอย่างดี และรู้สึกได้ชัดถึงพลังงานของเรือรบหนึ่งเดียวกันและไม่กล้าคิดว่าถ้าเรือรบระเบิดพลังเต็มที่จะมีพลังที่น่ากลัวมากมายเพียงไหน
ผู้จัดการคนหนึ่งพาพวกเขาไปที่ห้องโดยสารและหลังจากจัดที่พวกเขาแล้ว เขากล่าว “เราเหลือแต่ห้องเก็บสินค้าเหลืออยู่เท่านั้น ข้าเกรงว่าพวกเจ้าต้องทนอุดอู้ชั่วคราวโปรดอย่าเพ่นพ่านไปทั่ว เราจะไปถึงเมืองทรายขาวในอีกสามวัน”
“รับทราบ!” สือเซินตอบตกลงทันที “แล้วก็..ช่วยขอบคุณใต้เท้าของท่านแทนข้าด้วย”
เมื่อเห็นว่าสือเซินมีทัศนคติที่ดี สีหน้าขอผู้จัดการค่อยดีขึ้น “ถ้ามีอะไรที่เจ้าต้องการมาติดต่อที่ข้าได้ทุกเวลา ข้าอยู่ที่ห้อง 13 ข้างหน้านี้”
“ขอบคุณ!”
ความรู้สึกเมื่อก้าวลงบนพื้นน่าอัศจรรย์และทุกคนเริ่มนั่งลง ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่นั้นเป็นพื้นที่เก็บสินค้า ไม่มีเตียงหรือโต๊ะ แต่ทุกคนพอใจ พลังงานภายในเรือรบมีมากมาย และพวกเขาไม่จำเป็นต้องป้องกันกระแสพลังงานที่ปั่นป่วน
ทุกคนนั่งลง พวกเขาทุกคนยังคงรักษาตำแหน่งอย่างมีสติโดยมีถังเทียนป้องกันตำแหน่งกลาง
“เรือรบแบบนี้ราคาเท่าไหร่?” ถังเทียนถามทันที
สือเซินฝืนหัวเราะ “ข้าไม่รู้เป็นครั้งแรกของผู้น้อยเหมือนกันที่ได้นั่งเรือรบชั้นดีแบบนี้ คงมีราคามากแน่นอน”
ถังเทียนน้ำลายไหลอยู่แล้ว ก่อนนี้เมื่อเขาคุยกับสือเซินเรื่องเรือรบ เขานึกภาพไม่ออก แต่หลังจากเห็นเรือรบด้วยตนเอง เขาจึงค่อยรู้ว่าเรือรบทรงพลังมากขนาดไหน
วัตถุมหึมายาวเกินกว่า 700 เมตร ทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมากป้อมปราการเคลื่อนที่ได้ ทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมาก ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ไม่เหมือนใครจริงๆสามารถสร้างวัตถุที่น่ากลัวอย่างนั้นได้ มีม่านพลังงานหนาเกิน 10 เมตร นี่ทิ้งความประทับใจลึกซึ้งให้กับถังเทียน เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าการโจมตีประเภทไหนจึงจะทำลายม่านพลังที่หนาได้
มีหลายอย่างที่ถังเทียนไม่รู้ แต่ตราบเท่าที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้สัญชาตญาณที่เฉียบคมเหมือนสัตว์ป่าจะผุดขึ้นมา
หลังจากคิดอยู่นาน เขาเพียงแต่คิดวิธีที่เป็นไปได้สองวิธี
พลังงานที่แข็งแกร่งและเข้มข้นมากกว่ากระแทกใส่เรือ ถังเทียนเดาว่าเรือคงจะใช้วิธีตอบโต้แน่นอน
นอกจากนั้นอาจบังคับใช้พลังกฎธรรมชาติ
อำนาจกฎธรรมชาติที่มีระดับสูงกว่าและ ในเรื่องของทฤษฎีม่านพลังใดๆ จะแข็งแกร่งเพียงไหนก็ล้วนสร้างจากพลังงานก็ไม่สามารถต่อต้านด้วยพลังกฎธรรมชาติในตัวได้ แต่ถังเทียนรู้จะทำลายม่านพลังที่หนาอย่างนั้นได้ผู้โจมตีต้องมีความรู้สึกและเข้าใจกฎธรรมชาติที่ลึกซึ้งมากจึงจะสามารถทำได้
เซียนชั้นทองในตำนานจะเป็นยังไง?
มีเซียนระดับทองน้อยมากในสวรรค์วิถีไม่ว่าจะมีเหลืออยู่หรือไม่ก็ตามก็ไม่มีใครรู้ แต่เรือรบในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่วัตถุหายาก
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวถือโอกาสฟื้นฟูกำลัง และทำให้ที่นั้นเงียบลง
สือเซินสังเกตว่าถังเทียนมีท่าทีกังวลจึงถาม “นายท่านมีเรื่องใดกังวลอยู่หรือ?”
“ข้ากังวลนิดหน่อย” ถังเทียนลูบศีรษะ เขารู้สึกจนใจจากนั้นจึงพูดว่า “ผู้อาวุโสสือ ช่วยเล่าสถานการณ์ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ให้ข้าฟังที”
สถานการณ์ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์?
สือเซินสะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่คาดเลยว่าถังเทียนจะโยนคำถามใหญ่เช่นนั้นออกมาและตอบอย่างระมัดระวัง “ข้าน้อยรู้ไม่มาก”
“บอกข้าเท่าที่จะบอกได้” ถังเทียนไม่ถือสา “อย่างเช่นใครคือมหาอำนาจใหญ่ ท่านไม่ต้องเจาะลึกก็ได้ มันไม่สำคัญ”
“โอว ก็ได้” สือเซินพอเข้าใจ เมื่อคิดถึงว่านายท่านแสดงว่ายังอ่อนข้อมูล เขาพบว่านายท่านไม่เคยออกจากบ้านมาก่อนแน่นอนเขาสูดหายใจลึก “อย่างนั้นข้าน้อยจะพูดแค่ที่มาที่ไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แบ่งออกเป็นภูมิภาคตะวันออก ใต้ ตะวันตกและเหนือและปัจจุบันนี้เราอยู่ในภูมิภาคใต้ เป็นพื้นที่รุ่งเรืองไปด้วยการค้าและสมาคมการค้าที่แข็งแกร่งที่สุด ว่าด้วยพลังของภูมิภาคใต้ไม่มีกลุ่มไหนแข็งแกร่งนัก เป็นเพราะบรรยากาศการค้า จึงมีการต่อสู้ที่นี่น้อยครั้งนัก บ้านเกิดของนายท่านก็คือทวีปแดนเถื่อนอยู่ในภูมิภาคเหนือซึ่งมีมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุด ทวีปแดนเถื่อนเป็นคำเรียกทั่วไปมีหลายทวีปซึ่งดูเหมือนจะตกอยู่ในช่วงสงครามซึ่งนายท่านอาจจะรู้มากกว่าก็ได้ ในภูมิภาคตะวันออกที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือทวีปทองซึ่งเชี่ยวชาญในเรื่องงานจักรกลมีอิทธิพลทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออก เพราะมีความแพร่หลายในที่นั้น ส่วนมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคตะวันตกก็คือทวีปเกียรติยศนักสู้...”
“ทวีปเกียรติยศนักสู้!” คำพูดคุ้นๆ นี้ทำให้ถังเทียนผมขนลุกทั้งตัวเขาอุทานออกมาเสียงดัง และแววตาของเขาทอประกายหนาวเหน็บวูบ