ตอนที่ 592 ปากอ่าว
ในที่สุดก็ต้องเป็นถังเทียนที่เดินทางร่วมกับสือเซินและปัญหาก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์ ขณะที่เลือกสินค้า ปิงตะลึง ถังเทียนเก็บของเอาไว้กองเป็นพะเนินทั้งหมดนั้นเป็นของที่แตกต่างกัน และเป็นของประหลาดทั้งหมด แล้วอะไรดีล่ะ? เมื่อพวกเขาถามสือเซินเขามีสีหน้าจนใจกับเรื่องนั้น สือเซินไม่เคยเห็นของประหลาดแบบนั้นมาก่อน พอๆ กับไม่รู้ราคา
ปิงตัดสินใจไปหาอาเฮ่อเพื่อขอคำแนะนำ แต่เมื่อเห็นอาเฮ่อฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ปิงไม่มีแก่ใจไปรบกวนเขา หลิงซิ่วและจิ่งหาวก็คร่ำเคร่งฝึกฝนเช่นกัน ความล้มเหลวของพวกเขากระทบกระเทือนจิตใจพวกเขามาก
ปิงได้แต่หาร้านค้าท้องถิ่นผ่านหวังจุนเซียน แต่ผู้ค้าท้องถิ่นส่ายศีรษะ เขาไม่เคยเห็นของประหลาดแบบนั้นมาก่อน ดังนั้นเขาจะตีราคาได้ยังไง
จากนั้นปิงคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดและนั่นก็คือให้ถังเทียนติดตามสือเซิน สุ่มหาไปตามที่เห็นว่าเหมาะสม เขาค่อยออกมา
ปิงคาดว่าทวีปฝานซิงโจวจะยังไม่ตอบโต้รวดเร็วนัก พวกเขายังตั้งหลักไม่ได้และการตายของซุนเจี๋ยทำให้พวกเขาไม่ประมาทความแข็งแกร่งของถังเทียน เนื่องจากพวกเขาสงสัยเบื้องหลังของถังเทียน
ช่วงเวลาที่ว่างเว้นนี้เป็นเวลาที่สำคัญสำหรับทวีปซางโจว และปิงมีเรื่องสำคัญมากขึ้นต้องดำเนินการ
โดยดำเนินการผ่านหวังจุนเซียน ดาวอีกสองดวงของทวีปซางโจวเริ่มอพยพและคนพวกนั้นไม่ยินดีไปจากทวีปซางโจวจึงถูกดึงมาที่ปราสาทดำ แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทวีปซางโจว แต่ประชากรของปราสาทดำก็เพิ่มถึง 60,000อย่างรวดเร็ว ปราสาทดำไม่สามารถรองรับคนได้มากเกินไป ดังนั้นด้วยความช่วยเหลือของเซรีนความคิดสร้างป้อมปราการจึงเกิดขึ้น
โดยมีปราสาทดำเป็นศูนย์กลาง หอคอย 12แห่งถูกขยายออกไปข้างนอกและใช้เคล็ดการสร้างเมืองสมบัติ หอคอยเหล่านั้นจะแบ่งพลังงานรอบๆสร้างเป็นป้อมปราการขนาดยักษ์
ปิงที่เป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วเมื่อเห็นแผนของเซรีนถึงกับสูดหายใจหนาวเหน็บ
ตามแผนการของเซรีน ถ้าป้อมปราการสร้างสำเร็จ พวกเขาจะสามารถควบคุมพลังงานของดาวหญ้าแดงได้ถึงหนึ่งในสี่ และนี่จะทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ในการต่อสู้เพื่อรักษาพื้นที่ของตนเอง เซรีนต้องการรวมป้อมปราการนั้นและเรียกว่า“ป้อมปราการไพรกระบี่” และนางคำนวณไว้ว่าถ้าจำนวนหอคอยมีถึง 36 เนื่องจากผลทับซ้อนกัน อาคารเหล่านั้นจะสามารถควบคุมพลังงานได้ทั้งดาวหญ้าแดง
เมื่อถึงเวลานั้นดาวหญ้าแดงจะกลายเป็นดาวป้อมปราการที่ไร้เทียมทานใครทำลายไม่ได้
ปิงพยายามทำแบบจำลองด้วยตนเองสองสามครั้งและตระหนักได้ว่าเพื่อให้สามารถโจมตีและโค่นล้มป้อมปราการก็ต้องทุ่มเทราคาที่สูงเกิน
เขาไม่ลังเลใจ เริ่มผลักดันแผนป้อมปราการไพรกระบี่ ด้วยกำลังคนที่มีอย่างเพียงพอในมือของเขาแต่ขณะเดียวกันเสิ่นหรงกับเซี่ยอันสองผู้อาวุโสแห่งกองพลที่36 ก็คิดคำนวณงบประมาณสงครามที่กำลังจะมาถึงได้ แม้ว่ากำลังคนจะฟรี ความสามารถในการสู้ก็ฟรี แต่อาหาร ยา อุปกรณ์การฝึกฝน ฯลฯทั้งหมดนี้ถึงราคา 120 ล้านคราวด์อย่างน่าประหลาด
การขาดแคลนเงินกลายเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด
ถังห้าวโกรธจัดเขาเริ่มโวยวายไม่พอใจที่แผนการฝึกของเขาเองถูกตัดจนสั้น แต่ประโยคหนึ่งของปิงว่า “เจ้าเป็นนายใหญ่ถ้าเจ้าไม่คิด ใครจะคิด” ทำให้เขากลับมาสู่ความเป็นจริง
ก็ได้ ใครมาขอให้ข้าเป็นนายใหญ่เล่า ถังเทียนไม่มีทางเลือกได้แต่บังคับตนเองไปกับสือเซิน
แต่ไม่นานหลังจากพวกเขาเริ่มออกเดินทางถังเทียนก็กลับคืนอาการดังปกติ
ปัง ปัง ปังถังเทียนก้าวไปบนแผ่นสุญญากาศและตะโกนดังลั่นขณะวิ่งมาข้างหน้าปล่อยระเบิดความเร็วเสียงไว้ด้านหลังเขา
เมื่อเห็นดังนั้นสือเซินรั้งสายตากลับมาที่พวกของเขาและกล่าว “รักษาตำแหน่งไว้ ใส่ใจอย่าให้เกิดข้อผิดพลาด”
ทุกคนปฏิบัติตามขณะที่ทั้งหน่วยแยกกันอย่างรวดเร็ว เหมือนกับนกยักษ์กำลังกางปีก คนสังเกตการณ์กวาดไปมารอบๆ
เทียบกับเสียงเฮของถังเทียนแล้ว กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวของสือเซินกลายเป็นเงียบเหมือนกับฝูงค้างคาวที่บินอยู่ในท้องฟ้า กองกำลังปีศาจมีความแข็งแกร่งวินัยส่วนบุคคลที่โดดเด่นแสดงออกมาถึงความอยู่ตัว ระหว่างทางไม่มีใครปรากฏให้พวกเขาเห็นและพวกเขายังคงเงียบอยู่ตลอด
ถังเทียนกำลังสนุกกับการบินของเขา หลังจากได้วิชาปรับสภาพพลัง เขาก็ชอบเคล็ดวิชานี้ทันที เขาทดลองพลังในระดับต่างๆ หลายรูปแบบ การเดินทางที่รุนแรงกลายเป็นการฝึกตัวเขาเองโดยการฝึกซ้อมต่อเนื่องไม่ขาดสาย มักจะมีผลลัพธ์ตามมาเสมอและวิชาพลังปรับสภาพของถังเทียนก็สร้างคลื่นระเบิดเสียงได้ขนาดเล็กและน้อยลงเรื่อยๆ
หลังจากบินมาเป็นช่วงเวลานาน สือเซินพูดทันที “นายท่าน เราจำเป็นต้องบินสูงขึ้นไปกว่านี้ เราอยู่ที่ปากอ่าวแล้ว”
“ข้างหน้า? ปากอ่าว? นั่นคืออะไร?” ถังเทียนประหลาดใจ
สือเซินลอบตกใจ นายท่านไม่รู้จักว่าปากอ่าวคืออะไร? เป็นไปได้หรือที่ทวีปคนเถื่อนจะแตกต่างจากภูมิภาคใต้? เขาอธิบาย “เราจำเป็นต้องเพิ่มระดับขึ้นไปอีก 25 กิโลเมตรในท้องฟ้าและตรงไปที่ปากอ่าวก็จะสามารถเข้าไปในทะเลพลังงานได้”
“ทะเลพลังงาน? พวกท่านไม่ใช้ประตูดวงดาวกันหรือ?” ถังเทียนประหลาดใจ
“ประตูดวงดาว?” สือเซินประหลาดใจเช่นกัน แต่เขาตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและส่ายศีรษะ “ภูมิภาคใต้ไม่มีประตูดวงดาวผู้น้อยไม่เคยได้ยินของอย่างประตูดวงดาว อาจเป็นไปได้ไหมนั่นเป็นการค้นพบล่าสุดของทวีปคนเถื่อน?”
ก่อนที่ถังเทียนจะสามารถตอบ สายพานแสงก็ปรากฏในสายตาของเขา ทำให้เขาตกใจ
ขนาดของสายพานแสงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 150 เมตรสร้างจากเส้นใยแสงมากมายลอยละล่องเหมือนแม่น้ำแสงและที่ปลายอีกด้านหนึ่งมันทอดยาวลึกเข้าไปในท้องฟ้า
“นี่คือปากอ่าว?” ถังเทียนหลงใหลกับสายพานแสงอย่างสิ้นเชิง เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ใช่แล้ว” สือเซินรู้ว่านายของเขาไม่เคยเห็นปากอ่าวมาก่อน เขามองดูสายพานแสงและกล่าว “โชคดีที่สายพานแสงนี้เล็กและเรือรบไม่สามารถผ่านไปได้ ถ้าไม่อยางนั้น เราจะอยู่ในอันตราย”
“เรือรบ?” ถังเทียนสนใจวลีใหม่ที่ดึงดูดใจอีกครั้ง
ดูเหมือนนายท่านไม่ค่อยไปที่ไหนในอดีตที่ผ่านมา...
สือเซินอธิบาย “เมื่อเราออกปากอ่าวไป เราจะไปถึงทะเลพลังงาน ทะเลพลังงานจะเป็นที่เต็มไปด้วยพลังงานไม่มีที่สิ้นสุดและมีสิ่งสกปรกจำนวนมากและมีคุณสมบัติกัดกร่อนที่รุนแรงดังนั้นจึงไม่ใช่สถานที่สำหรับคนอ่อนแอ ถ้าระยะทางไกลเกินไป เราก็จำเป็นต้องนั่งเรือไป ซึ่งจะมีนักสู้ผู้แข็งแกร่งจะคอยป้องกันเรือจากพลังกัดกร่อน เรือรบถูกใช้เป็นพิเศษในการใช้รบในทะเลพลังงานและทรงพลังมาก มีเรือรบบางลำที่สามารถรับทหารได้ทั้งกองทัพมันสามารถช่วยให้ทหารมีพลังเพิ่มขึ้น”
“ทรงพลังมาก!” ตาของถังเทียนเป็นประกาย “เมื่อไหร่เรามีเงินเราจะซื้อเรือรบสักลำ!”
เมื่อสือเซินได้ยินเช่นนั้น แววตื่นเต้นวาบผ่านในดวงตาของเขา เขาต้องการเป็นเจ้าของเรือรบของตนเอง แต่แม้แต่เรือรบลำเล็กที่สุดก็เป็นภาระที่เขาไม่เคยแบกรับมาก่อน ทุกครั้งที่พวกเขาบินอยู่ในทะเลพลังงาน ร่างกายของพวกเขาจะถูกกัดกร่อนอย่างมากมาย ถ้าการกัดกร่อนไม่ถูกล้างออกอย่างถูกต้อง พวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บที่ไม่สามารถเยียวยาได้
การฟื้นฟูหลังจากสู้รบ มักจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากมาย
หลังจากเข้าไปในสายพานแสง สือเซินเตือนถังเทียนทันที “นายท่าน บินขึ้นไป”
“ตกลง!” ถังเทียนกระตือรือร้น ก้าวขึ้นไปบนแผ่นสุญญากาศเขายังคงใช้วิชาปรับสภาพพลัง เขาบินขึ้นไปเร็วขึ้นทุกทีและทิ้งห่างพวกที่เหลือไปอย่างรวดเร็ววิชาปรับสภาพพลัง ครอบงำได้สมบูรณ์แบบขณะที่บินขึ้นในแนวตั้งหรือแนวนอน
ยี่สิบห้ากิโลเมตรบินขึ้นไปในท้องฟ้าถังเทียนไม่เคยบินสูงมากมาก่อน แต่ในอดีตจุดสูงสุดที่เขาไปถึงก็คือเหนือเมฆ
ยิ่งเขาบินสูง สายพานแสงก็หนาขึ้นจะเหมือนว่าพวกเขากำลังบินขึ้นไปในท่อขนาดใหญ่
หลังจากใช้วิชาปรับสภาพพลังบินสูงขึ้น 25 กิโลเมตรแม้เพราะถังเทียนมีร่างกายน่ากลัว แต่เขาก็รู้สึกเพลีย สือเซินและพวกที่เหลือไม่มีตรงไหนที่ดีกว่า ทุกคนมีสีหน้าเหนื่อยล้า การบินตรงๆภายในพลังงานต้องอดทนมากกว่าการบินธรรมดาหลายเท่า
ในขณะนี้ความเข้มข้นพลังงานรอบตัวพวกเขากลายเป็นหนาแน่นขึ้นมาก แสงรังสีของสายพานแสงมีพลังทะลุทะลวงมากสือเซินและพวกที่เหลือต้องกระตุ้นม่านพลังแสงป้องกัน แต่เมื่อพวกเขาเห็นร่างของถังเทียน พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพต่อหน้าพวกเขา
พลังงานทั้งหมดที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติกัดกร่อนดูเหมือนจะถูกผลักออกจากร่างของถังเทียนในระยะห่างหนึ่งเมตรด้วยพลังไร้ลักษณ์ และไม่สามารถเข้ามาใกล้ตัวเขาแม้แต่นิ้วเดียวมีพื้นที่สุญญากาศอยู่รอบตัวถังเทียน
สือเซินและคนของเขาคิดว่าตนเองเป็นผู้มีความรู้แต่เมื่อเห็นภาพข้างหน้ากับตา พวกเขาถึงกับตกใจ
อะไรกันนี่?
ข้าไม่เคยได้ยินได้เห็นมาก่อน!
อาเหล่งและพวกที่เหลือยิ่งรู้สึกนับถือมากยิ่งขึ้นวิทยายุทธปัจจุบันทั้งหมดถูกผูกขาดโดยสำนักและตระกูลใหญ่และมีอำนาจ วิทยายุทธของท่านเหมิ่งหนานไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อนและนั่นต้องเป็นวิชาพิเศษแน่
สือเซินยิ่งสงบมากว่า เขาคร้านจะคิดเสียแล้ว เป็นเพราะเขาตระหนักว่าไม่ว่าเขาจะคิดมากเท่าใด เขาก็ไม่มีทางเข้าใจได้ ในอดีตเขาเป็นคนทำการตัดสินใจของทั้งหน่วยและรู้สึกว่าเหนื่อยมาก แต่ปัจจุบันนี้ เขาเพียงแต่ฟังคำสั่งและไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก
เขาไม่สนใจแล้วว่าท่านเหมิ่งหนานมาจากที่ใด
ควั่บ, ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาทำลายม่านพลังกั้น ในทันใดนั้นแสงแพรวพราวก็หมองลงและสายตาเขาก็ฟื้นเป็นปกติ
ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจว่าทะเลพลังงานที่สือเซินพูดถึงนั้นคืออะไร
พื้นที่ว่างข้างหน้าของเขาเต็มไปด้วยพลังงานที่วุ่นวายปั่นป่วนและไม่มีที่สุดซึ่งหนาแน่นมาก พลังงานที่ปั่นป่วนทั้งหมดไม่ได้ถูกจำกัดไว้ให้ทำอะไร มีพลังงานที่หมุนวนบางอย่าง บางอย่างที่เหมือนปลากำลังแหวกว่ายส่วนกลายเป็นดาวหางพุ่งเป็นแนวโค้ง บางส่วนก็เป็นดาวลอย
สีสันของพวกมันแตกต่างกันอย่างมากมาย บางส่วนก็สีสันงดงาม
เมื่อเข้าไปในอวกาศที่วุ่นวายมาก ภาพที่เห็นดูงดงามน่าหลงใหลทำให้ถังเทียนตกตะลึงไปหมด เขารู้สึกตัวหลังจากผ่านไปนาน และชื่นชม“สวยจริงๆ”
เมื่อสือเซินได้ยินเช่นนั้น เขารู้ว่านายท่านเหมิ่งหนานไม่เคยเห็นทะเลพลังงานมาก่อน และเขาเตือน “ไม่เพียงแค่สวยเท่านั้น”
“ยังมีอะไรอื่นอีก?” ถังเทียนโพล่งออกมา
“อันตราย” สือเซินอธิบาย “มีกระแสพลังงานที่ปั่นป่วนบางสายลอยอยู่ซึ่งอาจมีขนาดใหญ่พอๆกับดวงดาวก็ได้ ถ้าท่านไม่ระวังให้ดีและบินเข้าไปใกล้มัน ท่านจะถูกมันกลืนก็ได้ สิ่งที่เห็นเหล่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว เนื่องจากไม่อาจพบเห็นได้ง่ายที่น่ากลัวที่สุดก็คือ กระแสพลังงานปั่นป่วนเฉพาะแบบที่ไม่เหมือนใครกระแสพลังงานปั่นป่วนเหล่านี้อันตรายมาก แต่พวกมันก็ยังปกปิดตัวเองและผสานกับกระแสปั่นป่วนอื่นและไม่ง่ายที่จะป้องกัน ถ้าเจ้าสัมผัสเข้ากับมันเจ้าคงได้แต่ตำหนิตนเองว่าเจ้าโชคร้าย”
ถังเทียนตะลึง “อย่างนั้นเราไม่สามารถป้องกันมันได้หรือ?”
“ใช่แล้ว” สือเซินพยักหน้า “นั่นคือเหตุผลที่นั่งเรือย่อมดีกว่า การป้องกันของบนเรืองจะแข็งแกร่งกว่า ปลอดภัยกว่า แม้ว่าจะเป็นเรือสินค้าก็ยังปลอดภัย ตอนนี้มีคนน้อยมากที่บินผ่านได้เนื่องจากจะมีอันตรายแน่นอน”
“เราต้องซื้อเรือสักลำในอนาคตแน่!” ถังเทียนตัดสินใจจากนั้นเขาคิดถึงปัญหาทันทีและถาม “เราจะหาดาวหญ้าแดงเจอได้ยังไงเมื่อเรากลับมา?”
“แผนผังทะเลพลังงานและเสาหลักพลังงาน” สือเซินตอบ “เมื่อบินออกต่อไป นายท่านจะตระหนักได้ว่าปากอ่าวมีความชัดเจนมาก แม้ว่าปากอ่าวของดาวหญ้าแดงจะไม่ใหญ่ แต่ตราบใดที่ท่านยังวนเวียนอยู่ในระยะ 250กิโลเมตร ท่านจะรู้สึกได้”
“ไปต่อเถอะ ไปต่อ” ถังเทียนกระตือรือร้นอย่างมาก สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นก็คืออากาศในอวกาศว่าง
ด้วยอากาศ เขาสามารถใช้วิชาปรับสภาพพลังได้อย่างสะดวก
“ไปกันเถอะ, หนทางไม่สั้น!”สือเซินตั้งข้อสังเกตและนำทางต่อ
กลุ่มของพวกเขาเริ่มเดินทางเข้าไปในทะเลพลังงาน