ตอนที่ 591 บอกแล้วว่าไม่มีเงิน
ซุนเจิ้งและคนอื่นยอมแพ้ทำให้การรบที่ตามมาจบง่ายมากขึ้น
กองพลที่36 เดิมทีก็เป็นกองทัพชั้นเลวอยู่แล้ว ทหารของพวกเขามีมาตรฐานต่ำ และเมื่อสือเซินควบคุมในอดีตการฝึกฝนประจำวันจะหนักหน่วงมาก ซุนเจิ้งทำลายกองทัพโดยสิ้นเชิงหลังจากเข้าควบคุม ความตั้งใจต่อสู้ของพวกเขาอ่อนมากนอกจากนั้นยังมีซุนเจิ้งและสือเซินปรากฏตัว ทุกคนจึงตัดสินใจยอมแพ้
ทวีปซางโจวไม่ได้รับความเสียหายมากนักทำให้หวังจุนเซียนและพวกที่เหลือสบายใจได้ในที่สุด
แต่ทุกคนรู้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ยิ่งใหญ่มากและนั่นทำให้ทวีปฝานซิงโจวจะไม่ยอมปล่อยไว้แน่นอน การสู้รบที่จะมาถึงจะต้องรุนแรง ดังนั้นทุกคนจึงกังวล ความกังวลก่อให้เกิดความกังวลซ้ำซ้อน แต่เมื่อถึงจุดนี้แล้วย่อมไม่มีที่ให้ถอย พลเมืองที่ถูกเกณฑ์ต่างกลับไปยังที่ของพวกเขา ตอนนี้กองพลที่แปดถูกทำลายไปแล้วเพราะเหตุนั้นทวีปฝานซิงโจวต้องการจะทำลายทวีปซางโจวนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
พลเมืองชาวดาวหญ้าแดงทุกคนเข้าใจจุดนี้ ดังนั้นบางคนเลือกจากไป ขณะที่คนอื่นๆ เลือกที่จะอยู่และคนเหล่านี้ได้รับการจัดสรรให้อยู่ในพื้นที่ปราสาทดำ โชคดีที่ปราสาทดำจัดการพื้นที่ไว้ขนาดใหญ่ และพวกเขาสามารถจัดสรรให้ประชาชนเหล่านี้ลงได้
แทนที่จะกังวลมาก ปิง..จิ้งจอกเฒ่ากลับตื่นเต้นมาก
เมื่อคิดถึงปฏิบัติการและการอยู่ควบคุมพื้นที่หัวของเขาแทบบวมโต และเขาไม่กลัวการต่อสู้ที่สุด
ทหารอ่อนแอ? ไม่มีปัญหา ทหารอ่อนแอก็ใช้วิธีการต่อสู้ของพวกเขาเอง ไม่มีใครรู้การต่อสู้ในสงครามดีกว่าเขา เนื่องจากเขาเป็นผู้ชำนาญการที่สุด
เขาเริ่มขยายและเตรียมการสู้ศึกเมื่อเขาเห็นกองพลที่ 36แล้ว เขากระพริบตาปริบๆจากนั้นพาคนสองคนจากไป ทั้งสองคนเป็นสือเซินแนะนำให้ ศักยภาพของพวกเขาดี และพวกเขาซื่อตรงสองคนนี้ถูกซุนเจิ้งรังเกียจเช่นกัน และหลังจากปิงทดสอบเขาแล้วเขารู้สึกว่าสองคนนี้เหมาะสม
ถ้าเป็นกองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงแม้ว่าสมาชิกดั้งเดิม พวกเขาจะขยันและฝึกฝนประจำวันอยู่แล้ว และทัศนคติของพวกเขาก็เหมาะสมด้วย
นั่นเป็นส่วนดีเพียงเรื่องเดียว
“นี่มันบ้าอะไรกัน! ฝึกบ้าอะไรกันแบบนี้!”
ปิงดุอย่างไม่เกรงใจ ต่อหน้าของเขาคือหวังจุนเซียนสือหย่งและพวกที่เหลือยืนก้มหน้าเหมือนกับนักเรียนโดนครูดุ พวกเขาไม่โกรธแม้แต่น้อย นายท่านปิงเป็นแม่ทัพทหารระดับสูงขนาดนั้นสามารถกู้วิกฤติได้ นั่นถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่
ปิงปล่อยวางอย่างเลือกไม่ได้ เขาตระหนักว่าเมื่อเขาพูดกับพวกเขาดีๆ ใบหน้าของพวกเขาจะแสดงความอึดอัดและหวาดกลัว แต่เมื่อเขาดุด่าพวกเขา สีหน้าของพวกเขาจะพอใจและอารมณ์ดี
เขาเยาะเย้ยพวกนี้ในใจช่างเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจอะไรเช่นนี้!
แต่สำหรับเขาแผนการฝึกฝนของพวกเขาเป็นชั่วโมงของมือสมัครเล่นชัดๆ แม้ว่าหวังจุนเซียนจะขยัน,แต่มาตรฐานของพวกเขายังอ่อนด้อย ก็ได้ขอให้ขยันเป็นพอ นั่นพอจะรับผิดชอบกับการฝึกฝนได้แล้ว ถ้าเอาพวกโง่ๆ เข้ามาฝึกฝนอย่างนั้นเขาจะต้องฉุดพวกเขาออกมาเป็นพรวน และปิงแทบจะรู้สึกบ้าจริงๆ
“จากวันนี้เป็นต้นไปเนื้อหาการฝึกฝนทั้งหมดจะถูกยกเลิก และพวกเขาจะต้องฝึกเพียงอย่างเดียว, การร่วมผสาน! ข้าต้องการให้พวกเขาฝึกร่วมผสานพลังอย่างเดียว และระดับผสาน 50% คือขั้นต่ำที่สุด! จากวันนี้ไปพวกเจ้าทุกคน ต่อให้ตายก็ต้องฝึกให้ดีขึ้น!”
ปิงโบกมือ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอำมหิต ผสานพลังได้ 32% นี่เล่นตลกหรือเปล่า?
“ขอรับ!”
“เราจะฝึกสู้ตาย!”
“ไม่ว่านายท่านจะสั่งอะไรก็ตามเราจะทำตาม!”
ทุกคนเริ่มพูดอย่างตื่นเต้นทำให้ปิงอดเอามือก่ายหน้าผากไม่ได้ พวกเขาเป็นฝูงผู้คน แต่ปิงเรียกร้องมาตรฐานสูง ดังนั้นเขาโบกมือไล่อย่างเหลืออด “ไปได้แล้ว! ไปเริ่มฝึกกันเดี๋ยวนี้ ทุกคนเลย!”
ฝูงคนแตกกระจายแยกย้ายไปเหมือนนก
ปิงตัดสินใจตามหาถังห้าวเพื่อพูดคุยถึงแผนต่อไป และเมื่อเขาก้าวออกจากห้อง เขาได้ยินเสียงโวยวายของถังห้าว
“ข้าไม่มีเงิน! ข้าบอกพวกเจ้าแล้วว่าข้าไม่มีเงิน!” ถังเทียนหงุดหงิด, กลุ่มคนที่ไม่ชัดแจ้งและสับสนกำลังปั่นป่วนมาก
“นายท่านนี่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก ราคาตลาดปัจจุบันของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวไม่สูงและถูกมาก แค่สองล้านคราวด์ก็สามารถจ้างกองกำลังได้แล้ว ข้าน้อยรู้ว่าจะค้นหากองกำลังปีศาจแท้จริงได้ที่ไหนเราแค่ต้องการจ้างคนมากกว่า 60 คน ไม่สิ, มากกว่า 30 คนยังเป็นไปได้และหลังจากบูรณาการแล้ว กำลังรบของเรา...”สือเซินชักชวนไปเรื่อย
หลังจากสู้รบแล้วอาจกล่าวได้ว่าเขาพยายามทำให้กองกำลังปีศาจได้รับความโปรดปราน แต่ในเวลาอันรวดเร็วเขาก็สงบจิตใจได้จากชัยชนะที่ตื่นเต้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากความตายของซุนเจี๋ยและการทำลายล้างกองพลที่แปดที่มีต่อทวีปฝานซิงโจว
อำนาจของทวีปฝานซิงโจวไม่ใช่สิ่งที่ทวีปซางโจวหวังจะต่อต้านได้
ตอนแรกเริ่มเขาแนะนำให้นายท่านไปจากทวีปซางโจวชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายเป็นทางเลือกที่สมเหตุผลที่สุด ในภูมิภาคใต้มีสองสามทวีปที่มีความสามารถเทียบเคียงได้กับทวีปฝานซิงโจว
ข้อเสนอแนะของเขาถูกนายท่านบอกปัดโดยไม่ลังเล
ความจริง เขาไม่พบว่าแปลก นายท่านได้สร้างปราสาทดำและนั่นเป็นเบาะแสในตัวอยู่แล้ว
เนื่องจากสงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องหาทางเพิ่มพลังความแข็งแกร่งของตนเอง และเขาเชื่อมั่นในนายท่านเหมิ่งหนานเพราะเขาเข้าใจในพลังของเงินตรา
ด้วยกล่องพลังต้นกำเนิดซึ่งมีกฎธรรมชาติอยู่ภายใน ประกอบกับอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของคนแคระน้ำเงิน หอกของต้นน้ำแข็งฟ้า สือเซินเชื่อว่านายท่านเหมิ่งหนานมีความมั่งคั่งและแม้แต่ทวีปฝานซิงโจวก็เป็นที่รู้กันดีเพราะธุรกิจของพวกเขาไม่สามารถเทียบกับเขา แต่ทวีปเถื่อนเป็นที่รู้จักกันว่ากันดารและแห้งแล้งไม่ใช่หรือ? ดูเหมือนข้อมูลเช่นนั้นผิดไป
ถ้าพวกเขาสามารถเติมเต็มตำแหน่งของพวกเขาด้วยกองกำลังปีศาจอีกสองสามตำแหน่ง บวกกับได้อาวุธยุทโธปกรณ์ชั้นดี สือเซินเชื่อว่าพวกเขาจะเตรียมการรับสงครามที่จะมีมาถึงได้
เขารู้สึกว่าข้อเสนอแนะของเขาคงจะสำเร็จแน่นอนในตลาดปัจจุบันนี้เป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะระหว่างกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวได้ ด้วยปัญหาศักดิ์ศรีของพวกเขาทำให้มูลค่าของพวกเขาตกลงอย่างมากสำหรับนายท่านเหมิ่งหนานผู้เป็นผู้ทรงอิทธิพลผู้มั่งคั่ง แค่เพิ่มอัตรากองกำลังปีศาจยังไม่อาจเทียบเคียงอุปกรณ์ในตัวพวกเขา
แต่เขาคาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่านายท่านของเขาจะบอกไม่มีเงิน!
เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ สือเซินแทบกระอักโลหิต เขาจ้องมองถังเทียนอย่างตกใจและคิดว่าเขาได้ยินผิดไป
ไม่มีเงิน....
ถังเทียนไม่สบายใจที่สือเซินจ้องหน้าเขาและเสริมกำลังทั้งที่เขาบอกว่าไม่มีเงิน พวกเจ้าทุกคนน่ารำคาญนัก หนุ่มน้อยนี้ก็ห่วงเรื่องเงินอยู่แล้วเข้าใจบ้างไหม? หลังจากนี้ไปครึ่งวัน ข้าก็ยังไม่มี! เฮ้, พวกเจ้ายังจะเสนอหน้าต่อข้าไปเพื่ออะไรอีก?
พวกเจ้าต้องการสู้ใช่ไหม? ข้ามีอารมณ์พอแน่!
คนซื่อตรงก็แค่ผิดไปเพราะตาบอดและสือเซินก็พ่ายแพ้ไปแล้ว ไม่มีเงินหรือ? นายท่านจะเชื่อมโยงคำเหล่านี้ได้ยังไง? นายท่านพูดคำอย่างนี้ออกมาได้ยังไง ไม่มีเงินนายท่านล้อเล่นหรือเปล่า? ทำไมท่านต้องทำหน้าโกรธเกรี้ยวบิดเบี้ยวอย่างนั้น
สือเซินพยายามสูดหายใจลึกจากนั้นพูดอย่างเป็นงานเป็นการ “นายท่าน ถ้าท่านมีเงื่อนไขอะไรกับข้าโปรดบอกข้ามาเถิด!โปรดอย่าใช้คำพูดเหล่านี้ทำให้ข้าสับสน มันทำร้ายจิตใจกันเกินไป”
ถังเทียนทำท่านตะกุยอากาศ เขากลอกนัยน์ตาไปมาและทำปากยื่นจนแทบแตะพื้น เขารู้สึกตัวว่ากำลังจะบ้า...
เย็นไว้ ข้าต้องเย็นไว้!
ถังเทียนกัดฟัน “เจ้าต้องการให้ข้าพิสูจน์ยังไง ถึงจะพิสูจน์ได้ว่าข้าไม่มีเงิน?”
“นายท่านไม่สามารถพิสูจน์” สือเซินมีสีหน้าทำนองว่า ‘ข้าต้องใจเย็น ต้องใจเย็นเช่นกัน’
ถังเทียนพูดไม่ออก เขาจ้องมองสือเซินและไม่รู้จะพูดยังไง
“หอกต้นน้ำแข็งฟ้าก็คืออาวุธที่ล้ำค่ามากสำหรับนายท่านยังสามารถเอาออกมากองได้ นั่นเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะไม่มีเงิน” สือเซินแสดงความเห็นอย่างสร้างสรรค์
“เดี๋ยวก่อน,ท่านกำลังบอกว่านั่นมีค่ามากอย่างนั้นหรือ?” ถังเทียนถามจริงๆ
“มีค่ามากๆ!” สือเซินตอบ
“จริงเหรอ?” ถังเทียนถามย้ำอีกครั้ง
“แน่นอน!” สือเซินยืนกรานหนักแน่น
ถังเทียนก็คร้านจะพูดต่อ ปัง,เขาโยนกองต้นน้ำแข็งฟ้าอีกกองหนึ่ง ครึ่งหนึ่งของส่วนสูงของเขา เขาโยนอีกกองหนึ่งครึ่งหนึ่งของส่วนสูงเขา
ปัง ปัง ปัง.....
กิ่งต้นน้ำแข็งฟ้ากองแล้วกองเล่าที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของส่วนสูงของเขากองพะเนินเป็นภูเขาย่อมๆ
ถังเทียนมองดูสือเซินและถามด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “ท่านแน่ใจนะว่าของพวกนี้มีค่า?”
ถ้าพวกมันมีค่าจริงอย่างนั้นปัญหาเรื่องเงินจะคลี่คลายออกไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเขาสามารถขายกิ่งทั้งหมดได้ทันที สำหรับถังเทียน กิ่งพวกนี้ ไม่ต่างจากฟืนจุดไฟ
เมื่อวานนี้ หอกต้นน้ำแข็งฟ้าก็ทำให้สือเซินตกใจอยู่แล้ว เขาต้องใช้เวลาทั้งคืนสงบสติอารมณ์และเขาคิดว่าเขาไม่ควรจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองเหมือนเมื่อวานนี้ แต่ความจริงมันโหดร้ายจริงๆ...
มันโหดร้ายเกินไป!
ฉากภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นเหมือนความฝัน ถึงขั้นที่สือเซินรู้ว่าแม้แต่จะเป็นในฝันของเขาก็ตาม ภาพเช่นนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้น
หลังจากยืนอึ้งไปสองสามนาทีแล้ว สือเซินหันหน้ามาคล้ายๆกับหุ่นยนต์ สีหน้าของเขาน่าเกลียดกว่าร้องไห้เสียอีก “นายท่าน, ตอนนี้ข้าชักไม่แน่ใจแล้ว ว่ามันจะมีค่าหรือไม่”
หอกต้นน้ำแข็งฟ้า สำหรับสือเซิน พวกมันถูกมองว่าเป็นอาวุธเทพเจ้า อาวุธเทพอย่างนั้นยากยิ่งนักที่จะได้รับและมีเป็นกองๆ หรือ.. อาจเป็นสิบกอง...
สือเซินคิดว่าเขาผิดไป สิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาไม่ใช่หอกต้นน้ำแข็งฟ้า แต่เป็นสิ่งที่ดูคล้าย และนั่นค่อยดูสมเหตุผล
ข้าบอกท่านแล้ว ของเหล่านี้มีค่าเท่าใด? ตั้งแต่แรกถังเทียนไม่เชื่อว่าของเหล่านี้จะมีค่ามาก ทะเลแสงน้ำเงินต้องมีต้นน้ำแข็งฟ้ามากมายจนถึงจุดที่ทำให้คนโกรธ เป็นไปได้หรือที่ของกระจอกถูกๆเหล่านี้จะกลายเป็นของมีค่า ...
ถังเทียนรู้สึกว่าเขาได้พิสูจน์เรียบร้อยแล้วว่าเขาไม่มีเงินก็ให้รู้สึกยินดี เจ้าต้องรู้นะสามารถโน้มน้าวกลุ่มสหายที่สับสน ความยากลำบากมีมากกว่าการต่อสู้ในสงคราม
ถังเทียนพอรู้สึกตัวว่าตนชนะก็พอใจเป็นธรรมดา
เขาตบไหล่สือเซินและปลอบโยนเขา “อย่าเศร้าไปเลย เรายังคงอยู่ขั้นเริ่มต้น แม้ว่าตอนนี้เราจะจน แต่ในอนาคตเราจะดีขึ้น”
สีหน้าของสือเซินยิ่งน่าเกลียดกว่าร้องไห้
ใจของถังเทียนเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อฝันของใครๆ ที่จะร่ำรวยต้องแหลกสลาย พวกเขามักจะเป็นแบบนี้
นี่แหละชีวิตนะลุง, ถังเทียนถอนหายใจ แต่ก็มีความพอใจ
ปิงผู้ปรากฏออกมาและได้เห็นภาพเช่นนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความเห็นใจสือเซิน
เขาไตร่ตรองถึงปัญหาเรื่องเงินซึ่งต้องคลี่คลายให้เร็ว เขาเดินไปหาสือเซินและกล่าว “ทำไมเจ้าไม่เอาไปขายสักสองสามชิ้นเล่า ดูว่าจะขายอะไรได้บ้าง ตัวอย่างเช่น ดาบพายุทมิฬเรามีอีกเยอะ เจ้ามีประสบการณ์เพียงพอ เนื่องจากเจ้ามีสมาชิกไม่มาก จุดมุ่งหมายเล็กต้องรีบ และให้ยืดหยุ่นเรียกราคาให้ดี ความจริงการทำธุรกิจไม่เหมาะสมกับพวกเจ้าเท่าใดนัก แต่ตอนนี้เจ้าก็เห็นข้อจำกัดของกำลังคนของเรา ข้าได้แต่พึ่งพาเจ้า แต่เจ้าต้องรีบด้วยข้าคาดว่าการตอบโต้จากทวีปฝานซิงโจวจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
สือเซินตื่นจากความรู้สึกที่สูญเสียของเขา เขาเคยจนมาแล้วการร่ำรวยกระทันหันทำให้เขารู้สึกไม่สะดวกสบายเอามากๆ ตอนนี้ที่เขากลับไปจุดเริ่มต้นเขามีภาระที่พูดไม่ออกอยู่บนบ่า
บุรุษคนหนึ่งไม่เคยพอใจ แต่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเราดีกว่าในอดีตของเรามาก ดาบทะเลหิมะค่ำ ดาบวายุทมิฬ เพิ่มด้วยเกราะปีกของเรา กล่องพลังต้นกำเนิด หอกต้นน้ำแข็งฟ้าปลอมและทั้งหมด ของทั้งหมดเหล่านี้ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถมีได้
และนายท่านเชื่อใจในเราว่าเป็นของล้ำค่าอย่างแท้จริง
สือเซินพยักหน้าของเขาและตอบ “เมื่อสินค้าถูกจัดเตรียมไว้ เราจะแยกไปทันที”