ตอนที่ 590 ข้ายังค้นไม่เจอ
ความตายของซุนเจี๋ยกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับกองทัพที่กำลังจะตาย ทั่วทั้งกองทัพล่มสลายสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีนายทหารพยายามปลุกเร้าทหารของเขา แต่เป็นสือเซินและกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่โจมตี และสิ่งที่สำคัญก็คือพวกเขาถูกทำลายความตั้งใจไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขาฆ่านายทหารสองสามคนจึงไม่มีใครกล้าทำอะไรโง่ๆอีก
ตาแก่พวกนี้เป็นใครกันแน่?
ทหารกองพลที่แปดที่ยังเหลือรอดชีวิตยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัว คู่ต่อสู้มีเพียง 46คนและยังกำจัดหน่วยของพวกเขาได้จนเกือบหมด หลายๆ คนเสียใจ ถ้าเจ้านายยังคงอยู่ตรงนั้นพวกเขาจะต้องกำจัดฝ่ายตรงข้ามกับพวกเขาได้แน่นอน แต่พวกเขายังคงรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากเกินกว่าที่พวกเขาคาดไว้
ไม่ต้องคำนึงถึงเวลาและโอกาส วิธีการโจมตีของพวกเขา หรือการผสานพลังงานพวกเขาทำได้ในระดับที่น่าอัศจรรย์
ถ้าเป็นทหารธรรมดา แม้ไม่มีเจ้านายนำ สำหรับคน 40 ที่พยายามและลุกขึ้นสู้นั้น นั่นเป็นการโง่บริสุทธิ์ แม้แต่กองทัพที่มีชื่อเสียงอื่นในทวีปฝานซิงโจวก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นแน่นอน
พวกเขาไม่เคยได้ยินกองทหารที่น่ากลัวขนาดนั้นมาก่อน และพวกเขากลับซ่อนตัวอยู่ในกองพลที่ 36? พวกเขาเป็นแค่ทหารเลวไม่ใช่หรือ?
เว้นแต่...
กลุ่มคนฉลาดสองสามคนคิดถึงความเป็นไปได้ว่าสือเซินมาจากที่ซึ่งมีเบื้องหลังทรงอำนาจบางแห่งและจงใจทำตัวต้อยต่ำในทวีปฝานซิงโจวอย่างนั้นหรือ? นั่นเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด ถ้าข้อมูลดังกล่าวถูกส่งกลับไปยังฐาน พวกเขาน่าจะได้รับอภัยโทษในความผิดพลาดของพวกเขา...
เมื่อคิดถึงจุดนั้นแล้ว พวกเขามีแรงกระตุ้นทันทีและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลบหนีให้ได้ พวกเขาเป็นทหารฝีมือดีทั้งนั้น และทั้งหมดมีวิธีรับมือกับศัตรูที่ไล่ตามพวกเขา พวกเขามีกลยุทธ์แยกย้ายหลบหนีไปในทุกตำแหน่ง ดังนั้นศัตรูจะเลือกทิศทางไหนนั่นขึ้นอยู่กับโชค
สือเซินมีคนเพียง 46คนและความเสียเปรียบก็แสดงออกมาในที่สุด
ถังเทียนแบกศพซุนเจี๋ยและวางลงกับพื้น เขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นต่อสู้ แต่เขาไม่มีความสนใจประหารฆ่าฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเขาสังเกตว่าทหารที่เหลือกำลังจะหลบหนี เขาตะโกนบอกสือเซิน “ไม่มีความจำเป็นต้องไล่ตาม!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สือเซินหยุดไล่ตามจำนวนผู้โชคดีรอดตายมีเพียงไม่กี่สิบคน
ในการสู้รบ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาสู้กันด้วยหัวใจแท้ๆด้วยพลังของอาวุธใหม่ที่พวกเขาได้แสดงออกได้ลบข้อสงสัยทั้งมวลได้ถ้าเป็นในอดีต ถ้าพวกเขาต้องการได้รับความสำเร็จเช่นนั้น พวกเขาจะต้องมีการตายมากกว่าครึ่งแน่นอน
เป็นครั้งแรกที่สือเซินพบกับความได้ปรียบจากพลังหนุนหลังที่ยิ่งใหญ่ เขามองดูซุนเจี๋ยซึ่งอยู่ในเงื้อมมือของนายท่านเหมิ่งหนานและมีแววสงสารในดวงตาของเขา แม่ทัพทหารที่โดดเด่นขนาดนั้นต้องมาตายในการสู้ตัวต่อตัวแทนที่จะสู้ในสงคราม น่าเสียดายจริงๆ
และจากการสู้รบนั้นสือเซินค่อยเข้าใจอย่างแท้จริงว่านายท่านเหมิ่งหนานทรงพลังขนาดไหน
แม้ว่าซุนเจี๋ยจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นคนกล้าหาญ แต่เขาก็ยังเป็นเซียนระดับเงินแต่เขาก็ยังตายในเงื้อมมือนายท่าน ในการต่อสู้ทั้งหมดนายท่านไม่ได้ใช้วิธีการอะไรที่ไม่เหมาะสมและฆ่าซุนเจี๋ยอย่างยุติธรรมและมีเกียรติ นั่นหมายความว่าพลังของนายท่านอยู่ในระดับเซียนเงิน!
บทสรุปนั้นทำให้สือเซินตกใจ
ซุนเจี๋ยเป็นเซียนเงินที่อายุเยาว์ที่สุดของทวีปฝานซิงโจวและนายท่านเหมิ่งหนานยังดูอายุน้อยว่าซุนเจี๋ยเสียอีก เขาเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวเคารพนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุด สือเซินและคนของเขาเห็นการต่อสู้ครั้งนี้อย่างประจักษ์ก็มีความเชื่อมั่นต่อถังเทียนยิ่งขึ้น ปากของสือเซินมีรอยยิ้ม พี่น้องที่ติดตามเขามาหลายปีทุกคน เขาไม่ต้องการให้พวกเขามีปัญหาคาใจ
หลังจากจบการต่อสู้นอกจากคนไม่กี่สิบคนที่หลบหนีไปได้ ซุนเจิ้งและกลุ่มของเขาถูกจับหมด เทียบกับกองพลที่แปดแล้ว กองพลที่ 36 ก็แค่ทหารชั้นเลว ไม่สามารถหลบหนีได้ เมื่อคนของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวไม่กี่คนปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็ยอมแพ้ทันที
“นายท่านกล่องบรอนซ์นี้ท่านพอให้ผู้น้อยสักกล่องได้ไหม?
พลังของกล่องพลังต้นกำเนิดทำให้พวกเขาตกใจ ถ้าพวกเขาพบเจอกับของอย่างนี้ เขาคงไม่มีความมั่นใจว่าจะหลบหนีได้พ้น หรือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของทวีปทอง?
ถ้าใช้ได้ถูกต้อง มันก็เป็นอาวุธที่ดีแน่นอน
“กล่องพลังต้นกำเนิดน่ะหรือ?” ถังเทียนคาดไม่ถึงว่าสือเซินจะสังเกตได้และรู้สึกยินดีอย่างยิ่งทันที เขาใช้พวกเวลาอยู่นานจึงสามารถผลิตมันออกมาได้ และเก็บเอาไว้ปล่อยให้ฝุ่นขึ้นเนื่องจากมีคนมองเห็นค่าของมัน จึงทำให้เขามีความสุขมาก และเขาเอาหีบไม้ออกมาโดยไม่ลังเล “เฮ้, แบ่งกันให้ได้ทุกคนคนเลยนะ”
สือเซินตะลึง ของอย่างนี้ทรงพลังมากต้องมีราคาที่แพงมากแน่นอน เขาต้องการขอถังเทียนสักสองสามชิ้น แต่ใครจะรู้กันว่าถังเทียนเอาออกมาให้พวกเขาทั้งหีบ
เขารับไว้อย่างงงๆ ในใจยังเต็มไปด้วยความตกใจ โชคเข้ามาอย่างกระทันหันเหลือเกิน
“หีบนี้มีอยู่300 กล่อง การใช้กล่องพลังต้นกำเนิดนั้นง่ายมาก พวกท่านแค่โยนมันออกไป มันจะมีเศษของกฎธรรมชาติสองสามชิ้นอยู่ในนั้นและทุกกล่องจะมีกฎธรรมชาติแตกต่างกันไป แต่พลังของมันค่อนข้างจะพอๆ กัน ข้าใช้เวลาและความพยายามนับไม่ถ้วนจึงสร้างออกมาได้” ถังเทียนพูดอย่างมีความสุข
กฎธรรมชาติ!
สือเซินสั่นและพูดออกมาทันที “นายท่าน เราไม่ต้องการมากนักหรอก ของดีราคาแพงอย่างนี้เราใช้อย่างประหยัดจะดีกว่า...”
ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรตราบที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎธรรมชาติในนี้ จะกลายเป็นของมีราคาสุดแพง หลังจากรู้ว่ากล่องพลังต้นกำเนิดคืออะไร สือเซินรู้สึกว่าหีบที่เขาถืออยู่นั้นหนักขึ้นมาทันที
สมาชิกกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวคนอื่นมองดูสือเซินอย่างไม่พอใจ พวกเขาต้องการชิงหีบไม้มาจากสือเซินแทบแย่เมื่อหัวหน้ามีความจริงใจ สือเซินยังจะคืนของขวัญอีก
300 กล่อง พวกเขามีไม่ถึง 50 คนดังนั้นแต่ละคนจะได้กล่องพลังต้นกำเนิดอย่างน้อย 6 กล่อง อาวุธทรงพลังอย่างนั้นถ้าทุกคนได้คนละ6 กล่อง ทุกคนจะรู้สึกว่าเอวของพวกเขาเต็มไปด้วยเหล็กทุกคนมองดูหีบไม้ในมือของสือเซินด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ทำไมเราต้องเก็บเอาไว้ด้วย?” ถังเทียนถามอย่างงงงวย
“อนาคตยาวนานและจะต้องพาท่านไปอีกไกลนายท่าน มันเป็นของยกระดับกองทัพราคาแพงมาก” สือเซินแนะนำ เขาเคยชินกับความยากจนและรู้ว่ามันไม่ง่าย ถ้าเขามีอุปกรณ์ที่ดีกว่าในอดีตความสูญเสียของเขาก็คงไม่สูงมาก
ถังเทียนโบกมือ “ไม่สำคัญ แม้ว่าข้าจะไม่มีเงินมาก แต่ข้ามีของอย่างนี้เยอะแยะ ข้ายังมีมากกว่านี้อีกหีบหนึ่ง เจ้าจะเอาอีกไหม?”
มีมากกว่าหีบ...
ขณะนั้นกองกำลังปีศาจทุกคนตะลึงกันหมด พวกเขาคือทหารผ่านศึกกันทุกคนและพบเจออุปกรณ์มาทุกประเภท ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจชัดเจนว่าอะไรแพงอะไรไม่แพง กล่องนี้ไม่ใช่ของถูกแน่นอนและมีหนึ่งหีบก็ทำให้พวกเขาตกใจอยู่แล้ว จากนั้นก็ได้ยินอีกว่านายท่านมีอีกหีบ
สวรรค์ครั้งนี้เขาได้พบผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงแล้ว
สือเซินตื่นจากฝันและด้วยความยากลำบากเขากลืนน้ำลายและส่ายศีรษะ“หนึ่งหีบก็พอแล้ว แค่นั้นพอแล้ว”
ชิ้งงง, กองกำลังปีศาจทุกคนหันควั่บจ้องมองหน้าของเขา ทุกคนอยากจะทุบตาแก่นี่ยิ่งนัก สองหีบก็คนละ 12กล่อง มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในคลังอาวุธของพวกเขา ทำให้พวกเขากล้าลุยเข้าไปในทวีปฝานซิงโจวด้วยซ้ำ
“พอจริงๆหรือ?” ถังเทียนเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน “ข้ายังมีอีกมาก”
“ใช่แค่นั้นแหละแค่นั้นแหละ!” สือเซินพยักหน้าอย่างโง่งม เอ่.. ทำไมขาข้ามันอ่อนอย่างงี้?ดูเหมือนท้องฟ้าชักจะหมุนติ้ว...
กองกำลังปีศาจที่อยู่ด้านข้างทุกคนมีสีหน้าเจ็บปวดบางส่วนก็ทึ้งผม บางส่วนก็เอามือตบหน้าผาก บางส่วนก็ส่ายหัวรัว หัวหน้าพวกเขานี่ช่างเป็นตัวถ่วงความเจริญเสียจริงต้องสูญเสียกล่องพลังต้นกำเนิดไปถึงครึ่งหนึ่ง พวกเขารู้สึกเหมือนมีเลือดไหลอยู่ในใจ
โดยไม่ต้องให้พวกเขาเพิ่มอีกหีบ ถังเทียนยังไม่หนำใจ เขาไม่ได้สังเกตสีหน้าเจ็บปวดของพวกเขา ทันใดนั้นเขาตบหน้าผากทันที “โอวจริงสิ นี่ก็ของดีเหมือนกัน”
เขาเอากิ่งไม้น้ำแข็งฟ้าออกมาหนึ่งกิ่ง
สือเซินตะลึง และตะโกนลั่น “หะ..หอกต้นน้ำแข็งฟ้า...”
กองกำลังปีศาจทั้งหมดชะงักค้าง สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่หอกต้นน้ำแข็งฟ้าในมือของถังเทียนอย่างไม่วางตาไม่กล้าจะเบือนหน้าไปแม้แต่น้อย
อาจกล่าวได้ว่าอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของคนแคระน้ำเงินก็คือหอกต้นน้ำแข็งฟ้า มันเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงคนแคระน้ำเงินระดับสูงและเป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งและสถานะสำหรับคนแคระน้ำเงินและเป็นหอกที่หาในตลาดยากมาก
ถังเทียนพรรณนาประสบการณ์มากมายและพูดต่อ“สิ่งนี้ใช้ประโยชน์ได้ดีมาก”
สือเซินเพิ่งหายจากอาการตกใจ ของสิ่งนี้เป็นของมีคุณภาพสูงสุดสามารถเห็นได้กับตาตนเองก็นับว่าหาได้ยากอย่างยิ่งแล้วเขาหมดคำจะพูดกับเจ้านายจริง “นี่คือของที่ใช้ได้ดี” หอกต้นน้ำแข็งฟ้าจะแย่ได้ยังไง?
ที่พูดไม่ออกพอๆ กันก็คือหน่วยปีศาจบางคนมองดูถังเทียนอย่างไม่พอใจ ท่านเหมิ่งหนานพยายามจะล้อเราเล่นหรือ?
เมื่อเห็นว่าสือเซินไม่ยอมพูด ถังเทียนกระวนกระวาย “นี่มันของใช้ได้ดีจริง! ลองเอาไปใช้ดูก็ได้ ถ้าท่านไม่เชื่อข้า!”
สือเซินเป็นคนซื่อสัตย์ซื่อตรงเมื่อได้ยินว่าเขากระวนกระวายมากขึ้นเกี่ยวกับของเหล่านั้นมากเกินไป ถ้ามันต้องสูญเปล่าเขาคงไม่ยกโทษให้ตนเองแน่นอน เขาไม่รู้จะปฏิเสธนายท่านยังไง ก็เลยกังวลมากขึ้น หน้าของเขาแดง เขาส่ายศีรษะและตอบไปโดยไม่รู้ตัว “ข้าไม่ลอง ไม่ลองแน่นอน!”
หนึ่งในสมาชิกกองกำลังปีศาจไม่สามารถทนดูสือเซินรับมือสถานการณ์ได้ต่อไปจึงยืนขึ้นแนะนำว่า “นายท่าน พลังของหอกต้นน้ำแข็งฟ้า เราทุกคนเคยได้ยินมาแล้ว และถ้าเอาไปทดสอบ นั่นจะเสียเปล่าจริงๆ”
ถังเทียนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเขาพูด “ข้าแค่ถามว่ามันมีประโยชน์ต่อพวกเจ้าทุกคนไหม?”
กองกำลังปีศาจพูดไม่ออกสิ้นเชิง ไร้สาระเกินไปหรือเปล่า? หอกต้นน้ำแข็งฟ้าไร้ประโยชน์? ใครจะกล้าบอกว่ามันไร้ประโยชน์? มันคือของชั้นสูงที่ขายในตลาด ถ้าพวกเขาได้ไปขาย พวกเขาจะไม่มีทางซื้อกลับคืนมาได้ ของอย่างนั้นเป็นของไร้ประโยชน์ไปได้อย่างไร?
กลายเป็นการแข่งขันจ้องตากัน
สถานการณ์แย่ลงทุกทีเพราะถังเทียนหงุดหงิดจนกลายเป็นความโกรธ “แล้วมันมีประโยชน์หรือไม่เล่า”
ทุกคนสะดุ้งตกใจเพราะถังเทียนตวาด ถังเทียนสถาปนาสถานะตนเองไปแล้วหลังจากต่อสู้ ดังนั้นทุกคนตะโกนพร้อมกัน “มันมีประโยชน์”
ทุกคนมีนิสัยแบบไหนกันแน่! พวกเจ้าทุกคนคุยด้วยยากจริงๆ กวนใจจริงๆ!ข้าต้องหาเวลาเอาชนะพวกเจ้าทีละคนให้ได้!
ข้ายังหาเหตุไม่พบว่าจะกระหายเลือดอยากสู้กับพวกเจ้าทุกคนยังไง!
ถังเทียนแอบดุพวกเขาในใจ ความโกรธในใบหน้าของเขายังไม่จางหายไป เขาเอากิ่งต้นน้ำแข็งฟ้าออกมาจากตู้อควาเรียสและโยนลงพื้นอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าเอาไปแบ่งกันซะ!”
ถังเทียนรู้สึกว่าถ้าเขายังอยู่กับพวกนี้ต่อไป เขาจะต้องโกรธตายแน่ ดังนั้นเขาหมุนตัวเดินออกมา
กิ่งต้นน้ำแข็งร่วงอยู่บนพื้น ทำให้ฝุ่นฟุ้งขึ้น เสียงของกิ่งต้นน้ำแข็งฟ้าร่วงลงพื้นดูเหมือนทำให้เวลาหยุดนิ่ง
กิ่งต้นน้ำแข็งฟ้าใสเป็นประกายเหมือนผลึกสีฟ้า
ปากของทุกคนอ้าค้าง พวกเขาจ้องมองกองกิ่งต้นน้ำแข็งฟ้าอย่างตกตะลึง พวกเขากลั้นหายใจ พยายามห้ามไม่ให้ใจเต้นแรง
หะ..หอกต้นน้ำแข็งฟ้า...
มีตั้งมากมาย
กองสูงครึ่งส่วนสูงของมนุษย์...