ตอนที่ 586 เนตรประหาร, เนตรโลหิตประหารซ้ำสอง
จื่อซั่วตกตะลึงและมีสีหน้าซึมเซา
ราชันย์พันปีศาจวิ่งมาถึง ฮุยไท่หลางในร่างของหมาป่าปีศาจทำลายโลกตวัดกรงเล็บที่แหลมคมสร้างรอยเลือดเป็นทางยาวบนหลังของเขา
“ไม่” ราชันย์พันปีศาจผลักเย่ว์หยางออกไป และคว้าร่างของจื่อซั่วและกู่ร้องอย่างโศกเศร้า
สำหรับราชันย์พันปีศาจ แม้ว่าเย่ว์หยางจะฆ่าร่างเหมือนที่สามของเขา แต่มันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเขา นั่นเหมือนกับเขาเองต่างหากที่ตาย ข้อแตกต่างก็คือร่างหลักยังคงมีชีวิตอยู่ ร่างเหมือนที่หนึ่งชี่เหยียนและร่างเหมือนที่สองชิงเยี่ยนต้องการจะไปที่นั่นเช่นกัน แต่ฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วยังคงไล่กวดพวกเขาไปด้วย ฟงจู้และเป่ยเฟงเจียสั่วไม่มีพลังพอจะรับมือชี่เหยียนและชิงเยี่ยน แต่พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุด
แสงทองที่สว่างเป็นพิเศษเปล่งออกมาจากเสากักมังกร กักทั้งสองไว้ที่เสา พันธนาการชิงเยี่ยนและเป่ยฟงเจียสั่วไว้ด้วยกัน ในทำนองเดียวกัน โซ่จันทราบั่นเศียรของเป่ยฟงเจียสั่วก็ปลดปล่อยพลังแสงเงินออกมาพันธนาการชี่เหยียนและฟงจู้ไว้ด้วยกัน
ชิงเยี่ยนและชี่เหยียนยังคงดิ้นรนใช้คลื่นพลังอัดกระแทกหวังว่าจะสั่นสะเทือนกระแทกคู่ต่อสู้ที่มัดพวกเขาให้ตาย
ฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วฝืนกอดรัดไว้
ตราบใดที่พวกเขายังมีจิตตานุภาพอยู่และยังไม่หมดสติ อย่างนั้นศัตรูจะไม่มีทางหลบหนีออกไปได้
เป็นเวลาหกพันปี พวกเขาต่างคนต่างอยู่ในสภาพฝึกฝนและใช้พลังอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง วิชาต่อสู้แบบนี้ถูกพวกเขาบัญญัติขึ้นมาเมื่อพวกเขาเกิดความเบื่อหน่ายระหว่างคุ้มกันร่างของจ้าวอสูรโบราณ
สำหรับเป่ยฟงเจียสั่วและฟงจู้ล้วนคุ้นเคยกับขอบเขตพลังกักกันของเสากักมังกรและโซ่จันทราบั่นเศียรดีอยู่แล้ว
แต่สำหรับชิงเยี่ยนและชี่เหยียนไม่เพียงแต่ต้องกังวลถึงพลังกักกันของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องระวังการโจมตีจากฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่ว พวกเขาติดอยู่ในหลุมพรางกับดัก ต้องหนีออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แม้ว่าจะมีคนมาช่วยพวกเขา แต่ก็คงช่วยอะไรได้ไม่มาก เพราะเสากักมังรและโซ่จันทราบั่นเศียรป้องกันไม่ให้ศัตรูมาช่วยพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่ฆ่าเจ้าของ สมบัติก็ยังไม่มีทางคลายออก
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่ววิ่งตามเข้ามา
เข้าต้องการฉวยโอกาสจากวิกฤติที่เกิดขึ้น
แต่เมื่อเห็นจื่อซั่วถูกเย่ว์หยางฆ่าตายทันที เขากลัวทันทีจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง เขาถอยกลับทันทีและไม่กล้าเคลื่อนไปข้างหน้าอีก เนื่องจากกลัวถูกสังหาร
กระบี่กุยจ้างค่อยๆ จางหายไป กระบี่ซวงหัวยังคงหายไปอย่างรวดเร็ว
แต่แผลบาดเจ็บจากกระบี่เทพทั้งสองนี้บนตัวของร่างเหมือนที่สามจะไม่มีทางฟื้นฟูเยียวยาได้
จุดอ่อนของทักษะแฝงเร้นตรึง, แช่แข็ง และพลังงานของร่างกายถูกพลังจักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางตรวจเจอ จื่อซั่วจะไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้ ไม่ว่าราชันย์พันปีศาจจะชุบชีวิตเขายังไงก็ตาม ล้วนเปล่าประโยชน์ วงจักรล้างโลกได้ตัดแก่นพลังงานในร่างกายของเขา ต่อให้เย่ว์หยางไม่ใช้กระบี่กุยจ้างและกระบี่ซวงหัวก็ตาม จื่อซั่วจะไม่มีวันฟื้นคืนชีพได้
“ไม่, ไม่.....” ราชันย์พันปีศาจกู่ร้องอย่างสิ้นหวัง
“ไม่เป็นไร, ร่างหลัก, ต่อให้เจ้าไม่มีข้า ร่างแยกที่สามนี้ ท่านก็ยังสามารถพิชิตหอทงเทียนและพิชิตแดนสวรรค์ได้ แต่ให้ข้าจากไป ท่านก็จะมีร่างแยกที่สามใหม่ในอนาคต ข้ามีตัวตนได้ ข้าก็มีความสุขพอแล้ว” พลังงานหลั่งไหลออกมาจากหัวของจื่อซั่ว พลังงานพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุจากรูใหญ่ที่อกและหลังมากกว่า ปรากฏว่าขณะที่ร่างของเขากำลังจะตาย เขาสูญเสียพลังงานจนลดลงเหลือพลังปราณฟ้าระดับหนึ่งภายในหนึ่งนาที
“จื่อซั่ว ข้าไม่มีวันมีร่างที่สามอื่นอีก ตำแหน่งของร่างเหมือนที่สามจะเป็นของเจ้าตลอดไป เจ้าคือผู้สมบูรณ์ที่สุดในโลก” ราชันย์พันปีศาจหลั่งน้ำตา
“ข้าอดบอกไม่ได้จริงๆ เลยว่าเจ้าช่างหลงตัวเองเสียเหลือเกิน” เย่ว์หยางกระแอมสองสามครั้งและปาดเลือดที่มุมปากของเขา “อย่าห่วง ข้าจะส่งเจ้าไปโลกหน้าในไม่ช้า เพื่อให้เจ้าได้อยู่ร่วมกับร่างแยกที่สมบูรณ์ที่สุด ราชันย์พันปีศาจ วันนี้จะเป็นวันตายของท่าน”
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ข้าสาบานได้เลยว่าเข้าจะทำให้เจ้าชดใช้เป็นหมื่นเท่า!”
“วันนั้น เมื่อบริวารของท่านฆ่าคนใช้ของข้าและลักพาตัวคนในครอบครัวของข้า ข้าก็สาบานอย่างนั้นเหมือนกัน เทียบกับราชาเฮยอวี้แล้ว ข้าเกลียดเจ้ายิ่งกว่า!” เย่ว์หยางรวบรวมอารมณ์ความรู้สึก “บริวารของท่าน, ประมุขนิกายพันปีศาจและผู้ติดตามคนอื่นๆ วางแผนฆ่าอาสี่และแม่นางแห่งตระกูลเฟิง จากนั้นลักพาตัวแม่สี่และซวงเอ๋อเกือบฆ่าล้างครอบครัวของข้าเพื่อต้องการกุญแจบันไดสวรรค์ ข้ายังไม่พูดถึงเรื่องเล็กน้อยอย่างการเข้าบันไดสวรรค์ ทำลายหลายสิ่งหลายอย่าง แผนของเจ้าจะทำลายรากฐานของหอทงเทียน ถล่มมิติของหอทงเทียนหรือเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพคนเดียว... แต่เจ้าบังอาจทำอันตรายครอบครัวข้า ดังนั้นเจ้าต้องตาย! ราชันย์พันปีศาจ อย่าทำตัวเหมือนเรียกร้องความสงสารอยู่เลย เจ้าฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลา ความเสื่อมโทรมของหอทงเทียนล้วนเกิดขึ้นจากฝีมือเจ้าทั้งหมด นักสู้ปราณฟ้าและผู้อาวุโสที่มีศักยภาพดีต้องถูกเจ้าสังหารไปกี่คนแล้ว? เจ้านั่นแหละที่เป็นสวะตัวจริง เพราะเจ้าอาศัยทักษะแยกพลังเพื่อขโมยพลังที่คนอื่นใช้เวลาและความเพียรพยายามฝึกฝนมา ข้าตกใจจริงๆ ที่เจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ!”
“วันนี้, ระหว่างเราทั้งสองจะต้องมีคนหนึ่งที่ต้องตาย...” ราชันย์พันปีศาจค่อยเรียกความสงบกลับคืนมาได้
“ไม่, ร่างหลัก, รีบจากไปเร็วๆ! นี่เป็นแผน, เป็นกับดัก, อย่าอยู่ที่นี่ต่อไป!” ร่างที่ใกล้ตายของจื่อซั่วดิ้นรนและพุ่งเข้าหาเย่ว์หยาง “รีบไปเดี๋ยวนี้ ขณะที่ข้ายังมีพลังอยู่”
ร่างที่ใกล้ตายของจื่อซั่วเตรียมใช้พลังอึดสุดท้ายกอดหลังเย่ว์หยางไว้ เพื่อที่ว่าร่างหลักจะได้สามารถหนีผ่านประตูลับไป
เมื่อใช้พลังอึดสุดท้ายเหวี่ยงหมัดใส่เย่ว์หยางด้วยพลังมากเท่าที่เขาจะรวบรวมขึ้นได้
นางฟ้านักรบอิคคาเหยียดแขนขวาของนางและต่อยที่ศีรษะของจื่อซั่ว ทันทีที่จื่อซั่วกระเด็นถอยหลังจากพลังโจมตี นางเคลื่อนไหวทันทีและใช้มือกดหน้าผากของจื่อซั่วกระแทกลงไปในพื้น
บึ้มมมม..
เสียงระเบิดสนั่นดังขึ้น
หลุมลึกคล้ายกับหลุมอุกกาบาตที่เกิดจากแรงระเบิดปรากฏอยู่บนพื้นด้วยพลังแขนข้างเดียวของนางฟ้านักรบอิคคาโดยมีนางเป็นศูนย์กลาง แรงระเบิดกระจายออกไปทุกด้านเกิดเป็นหลุมลึกสิบเมตรและกว้างกว่าสิบเมตร
ฆ่าด้วยพลังโจมตีเพียงครั้งเดียว
จื่อซั่วไม่มีโอกาสใช้พลังทำลายตัวเองในท้ายที่สุด เนื่องจากอิคคาสังหารเขา
เย่ว์หยางไม่สนใจแม้แต่น้อย แต่มองดูราชันย์พันปีศาจอยู่เงียบๆ คอยระมัดระวังทุกความเคลื่อนไหวของเขา คัมภีร์อัญเชิญของเขาฉายรัศมีอยู่ข้างตัวเขา นั่นคืออสูรโลก อสูรประเภทม่านคุ้มกันและมันกำลังดูดซับพลังงานจากร่างที่ตายของเขาจื่อซั่วแล้วแปลงเป็นพลังของตนเองเพื่อยกระดับ
ตอนนี้ราชันย์พันปีศาจรู้สึกเสียใจมาก
เขารู้ว่าเขาเร่งเวลาช่วงนี้จนเกินไป... ถ้าไม่ใช่เนื่องจากความจริงที่ว่าเขายังไม่ฟื้นคืนพลังสุดยอดหลังจากทำลายผนึกที่ผ่านเข้าบันไดสวรรค์ เขาคงไม่ต้องดูร่างแยกที่สามต้องตายไปต่อหน้าต่อตาเขาแน่ คุณชายสามตระกูลเย่ว์มีอสูรและสมบัติมากมาย ศักยภาพที่ไม่มีขีดจำกัด แต่คนผู้นี้อายุยังน้อยมาก ในสภาพที่พลังเขายังสุดยอด เย่ว์หยางจะไม่สามารถป้องกันเขาได้ แต่เขาต้องการร่างของจ้าวปีศาจโบราณมากและยังหลงกลของราชินีแมงกะพรุนและคุณชายสามตระกูลเย่ว์
ราชันย์พันปีศาจมีความเกลียดอยู่ในใจมากมาย
เขาเกลียดเย่ว์หยางและนอกจากนี้ก็ยังเกลียดตัวเอง
ร่างแยกที่สามเป็นร่างที่ดีที่สุด แต่เดิมเขาเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดในการพิชิตหอทงเทียน น่าเสียดายที่ความโลภอยากได้ร่างของจ้าวปีศาจโบราณของเขาทำให้เขาต้องสูญเสียขุนพลฝีมือดีไป
สายเกินกว่าที่เขาจะเสียใจ
นี่คืออารมณ์ที่แท้จริงของราชันย์พันปีศาจ
ตุ้บ... ตุ้บ.... ฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วบาดเจ็บหนัก ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปล้มลงหมดสติกับพื้น
เสากักมังกรและโซ่จันทราบั่นเศียรร่วงลงกับพื้นทั้งหมด
ฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วใช้พลังของตนไปจนหมด เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเขามาก พวกเขาสู้อย่างต่อเนื่องและได้รับบาดเจ็บหลายแห่งและหมดพลัง พวกเขาไม่อาจฝืนทนได้อีกต่อไปและล้มลงหมดสติ เย่ว์หยางมองดูพวกเขาด้วยความรู้สึกยกย่องนับถือ ทั้งสองคนนี้ยืนหยัดทำตามคำสั่งที่ได้รับจากจักรพรรดิอวี้ ไม่มีใครนอกจากพวกเขาที่สามารถอดทนมาได้ถึงหกพันปีอย่างเดียวดายและพยายามปกป้องผนึกเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจักรพรรดิอวี้ตายแล้ว เมื่อคำสั่งใช้ไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาก็ยังยืนยันคุ้มครองผนึกบนโดมที่ป้อมมาเป็นเวลาหกพันปี จนกระทั่งเย่ว์หยางกลายเป็นจักรพรรดิอวี้คนใหม่ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็ยังไม่หยุดภารกิจ
อะไรคือสิ่งที่คนเหล่านั้นให้ความสำคัญที่สุด
คนผู้ยังรักษาสัญญามาตลอดหลายพันปีอย่างฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วคือผู้ที่ควรแก่การเคารพมากที่สุด
ขณะที่เย่ว์หยางและราชันย์พันปีศาจยังคงสู้กันต่อไป โคเงาอาหมันผู้เตรียมหาจุดอ่อนของศัตรูกำลังไล่ล่ามังกรปีศาจแดนสวรรค์และแทบไม่เหลือมังกรเพลิงยักษ์อยู่ในสนามประลองมรณะแล้ว
อาหมันมีทั้งโซ่ล่ามเทพ, ทวนทองฆ่ามังกร, มีดทองฆ่ามังกรและร่างที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทำให้เป็นฝ่ายมีเปรียบ
แต่เนื่องจากมังกรปีศาจแดนสวรรค์รู้สึกได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา มันใช้ทักษะที่เก่งกาจเหลือเชื่อหลบหนีจากพันธนาการของโซ่ล่ามเทพได้
นี่คือทักษะพิเศษมากของสัตว์ตระกูลมังกร, “ตายแทน”
มังกรปีศาจแดนสวรรค์กลืนมังกรเพลิงยักษ์ที่บาดเจ็บหนักลงท้องและใช้ทักษะตายแทนหลอกว่ามันตายแล้ว จากนั้นบูชายัญด้วยมังกรอายุพันปีที่มันทำสัญญาด้วย เนื่องจากข้อเสนอนั้นเอง มันสามารถหลอกโซ่ล่ามเทพได้สำเร็จ ทำให้โซ่ผ่านร่างและกระดูกของมังกรแดนปีศาจและเข้าไปรัดตัวมังกรพันปีภายในท้องของมันและพยายามรัดแน่นเข้าด้วยกัน
ทั้งที่เจ็บปวดหนัก มังกรปีศาจแดนสวรรค์คายมังกรเพลิงยักษ์พันปีออกจากปากมาไม่ทันเวลา ก่อนที่อาหมันจะเห็นว่าหลายอย่างไม่ชอบมาพากลจึงลากมังกรเพลิงยักษ์ออกมาจากพื้นที่บริเวณซี่โครงของมัน
แถบร่างกายด้านซ้ายตรงบริเวณท้องเกิดรูขนาดใหญ่และและซี่โครงของมันหักหลายซี่
เมื่อมังกรเพลิงยักษ์พันปีถูกลากออกมาจากร่างมังกรปีศาจแดนสวรรค์ มันเจ็บปวดมากจนแทบขาดใจตาย
โชคดีที่ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่มันก็ได้รับอิสรภาพ มังกรปีศาจแดนสวรรค์ไม่สนใจซี่โครงที่หักและอวัยวะภายใน มันรีบเร่งบินขึ้นฟ้า พลางส่งเสียงครวญครางเจ็บปวดและใช้พลังรักษาบาดแผลตามวิธีการของมัน
“เจ้าหนอนเจ้าเล่ห์ พวกเจ้าไม่มีทางหลบหนีได้” อาหมันโกรธ
โซ่ล่ามเทพยังไม่ถูกเย่ว์หยางกลั่นให้บริสุทธิ์ ถ้ามันผสานเข้ากับวิญญาณเย่ว์หยาง อย่างนั้นอาหมันในฐานะอสูรพิทักษ์ก็คงใช้มันได้ ตราบเท่าที่นางสามารถผสานเข้ากับโซ่ล่ามเทพได้ มังกรยักษ์แดนสวรรค์นี้จะไม่มีทางหลบหนีไปได้ อาหมันคงไม่ปล่อยให้มันใช้ทักษะตายแทนหลอกนางได้ ตอนนี้มังกรปีศาจแดนสวรรค์ได้รับอิสระและบินขึ้นสู่อากาศ คงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่ามันได้
มังกรเพลิงยักษ์ที่แทบจะไม่รอดชีวิตยังคงเหลืออยู่ เพื่อให้มังกรปีศาจแดนสวรรค์มีเวลาฟื้นฟูมากขึ้น มันพุ่งเข้าหาอาหมันโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
มันพ่นไฟเป็นสายใส่อาหมัน
วัตถุประสงค์ของมันไม่ใช่เพื่อฆ่าศัตรู แต่เพื่อดึงดูดความสนใจของศัตรู
“ตายซะ!” อาหมันยิ่งโกรธหนักขึ้น นางรู้สึกว่าตลอดร่างของนางแทบจะระเบิด นางโกรธสะสมอยู่ในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางคาดการณ์ว่าทักษะที่ใช้งานยากและควบคุมได้ยากจะทำงานได้สำเร็จ ตาของอาหมันกลายเป็นสีเลือด เปลวเพลิงออกมาจากปากและจมูกของนาง และทั้งร่างของนางเปล่งแสง
เนตรประหารถูกใช้งานออกมาโดยอาหมันไม่ได้ควบคุม
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือในเวลานี้ หลังจากเนตรประหารถูกใช้งานแล้ว แม้แต่พลังเนตรโลหิตประหารซ้ำสองที่ใช้งานได้ยากกว่า ก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน
ในท้องฟ้า มังกรเพลิงยักษ์ซึ่งกำลังโผลงขณะพ่นไฟใส่อาหมันและมังกรปีศาจแดนสวรรค์ที่โชคดีเพิ่งหนีไปได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกัน.....