บทที่ 5 บทสนทนาลับ
หลี่หรานตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
วิหารโหยวหลัวเป็นนิกายปีศาจระดับต้นๆ และอาจารย์ผู้งดงามของเขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะปรมาจารย์ของนิกายชั้นนำแห่งดินแดนอันกว้างใหญ่ ชื่อเสียงของปีศาจสาว เหลิงอู่เหยียนสามารถหยุดเสียงสะอื้นไห้ของเด็กได้ ว่ากันว่านางได้ฆ่าคนมามากพอที่จะสร้างภูเขาจากกระดูก
ยิ่งกว่านั้นวิหารโหยวหลัวยังมีข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเสมอมา ผู้ที่ละเมิดข้อห้ามจะถูกขับออกจากนิกายหรือแม้กระทั่งสูญสิ้นชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขาละเมิดคือข้อห้ามที่ร้ายแรงที่สุดของเหลิงอู่เหยียน
‘ผู้นำนิกายต้องได้ศิลาเงานี้มาจากศิษย์น้องหญิง!’
‘สตรีนางนั้นหักหลังข้าจริงๆ! ตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรดี?’ หลี่หรานเริ่มเค้นสมองของเขา
ในขณะที่หลี่หรานกำลังหาทางออกจากสิ่งนี้ เหลิงอู่เหยียนก็จ้องมองเขาอย่างใกล้ชิด
‘หล่อมาก! ใบหน้าของเขาขาวราวกับหิมะ และผิวของเขาก็บอบบางจนสตรีต้องอิจฉา คิ้วดั่งคมดาบและดวงตาที่เปล่งประกายแวววาวนั้นช่างเย้ายวน รูปร่างของเขาสูงและสมส่วน แม้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันของข้าเขาก็ยังสามารถสงบนิ่งได้’
‘หล่ออะไรขนาดนี้!’
แม้แต่ในโลกแห่งการบ่มเพาะที่ซึ่งไม่ขาดแคลนบุรุษรูปงาม หลี่หรานก็เป็นหนึ่งในคนที่ดูดีที่สุด
บวกกับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะที่น่าสะพรึงกลัวของเขา คงไม่มีใครสามารถปฏิเสธคำสารภาพรักของเขาได้ ใช่ไหม?
แม้แต่สตรีเหล็กผู้เย็นชาอย่างเหลิงอู่เหยียนก็ยังหวั่นไหว!
‘ปรากฎว่ามีคนชอบข้า นอกจากนี้เขายังเป็นอัจฉริยะอีกด้วย’
‘แต่ข้าเป็นอาจารย์ของเขา ไม่เช่นนั้น...’
เหลิงอู่เหยียนรีบส่ายหัวอย่างแรง
‘เขาเป็นลูกศิษย์ของข้า ข้ากำลังคิดอะไรอยู่?’ นางพยายามสงบจิตให้มั่นคงและพูดอย่างเย็นชา “ไม่มีอะไรจะอธิบายหน่อยหรือ?”
หัวใจของหลี่หรานสั่นสะท้าน เขาถูกจับได้โดยไม่มีที่ว่างสำหรับการปฏิเสธ
“ท่านอาจารย์ ศิษย์ไม่มีอะไรจะอธิบาย” หลี่หรานตอบด้วยเสียงแผ่วเบา
เหลิงอู่เหยียนเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
หลี่หรานกล่าวว่า “ฉากและคำพูดนั้นอธิบายตัวมันเอง พวกมันทั้งหมดถูกสร้างโดยศิษย์ ศิษย์ไม่มีอะไรจะอธิบาย”
เหลิงอู่เหยียนตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้าก็รู้ว่านิกายห้ามความสัมพันธ์ระหว่างบุรุษและสตรี และเจ้า ในฐานะเซิงจื่อ ผู้สืบทอดและผู้นำนิกายในอนาคตกลับริเริ่มที่จะละเมิดข้อห้าม คิดว่าข้าไม่กล้าลงโทษเจ้าหรือ?” น้ำเสียงของเหลิงอู่เหยียนเย็นชายิ่งขึ้น
หลี่หรานส่ายหัวและตอบว่า “ท่านอาจารย์ ตอนที่ศิษย์ใช้งานศิลาเงา ศิษย์ได้ไตร่ตรองถึงผลที่ตามมาแล้ว”
เหลิงอู่เหยียนตกตะลึง “ในเมื่อเจ้ารู้ถึงผลที่ตามมา ทำไมเจ้ายังกล้า...”
หลี่หรานก้าวไปข้างหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเร่าร้อน “เพราะแม้แต่กฎของนิกายก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกของศิษย์ได้!”
ชั่วพริบตา ราวกับสายลมและหิมะหยุดลง
เขากำลังเดิมพัน
เหลิงอู่เหยียน ไม่ว่าจะโหดเหี้ยมเพียงใดโดยพื้นฐานแล้วนางก็ยังเป็นสตรี เขาสวมหน้ากากเป็นบุรุษที่เต็มใจจะถูกลงโทษเพื่อให้ได้อยู่กับสตรีที่เขารัก ตราบใดที่เขาสามารถทำให้หัวใจที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งของนางอ่อนลงได้แม้เพียงเล็กน้อย เขาก็มีโอกาสรอดชีวิต
ร่างกายที่มีเสน่ห์ของเหลิงอู่เหยียนสั่นเล็กน้อย นางไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าหาญขนาดนี้ เขากล้าพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้านางได้อย่างไร!
“ข้าจะแสร้งทำเป็นว่าวันนี้ข้าไม่ได้ยินสิ่งใด เจ้าควรละทิ้งความรู้สึกนั้นเสีย มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะยอมรับ” เหลิงอู่เหยียนตอบกลับอย่างใจเย็น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หรานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ข้าไม่เคยคาดหวังว่าท่านจะยอมรับอยู่แล้ว! จบแบบนี้ก็ยังดีกว่าสูญเสียชีวิตเล็กๆของข้าไป จริงไหม?
อย่างไรก็ตาม จำกัดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงยังมาไม่ถึง ดังนั้นเขาจึงยังมีที่จะโอกาสทำภารกิจให้สำเร็จ
ขณะที่เขากำลังจะจากไป เสียงเย็นชาของเหลิงอู่เหยียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ดูเหมือนว่าสาเหตุที่การบ่มเพาะของเจ้าชะงักงันจะมาจากเรื่องนี้ ดังนั้นเจ้าจะถูกลงโทษ ไปเก็บตัวที่ถ้ำโหยวฮันเป็นเวลาหนึ่งเดือนเพื่อทบทวนความผิดพลาดของเจ้า”
เจตนาของเหลิงอู่เหยียนไม่ใช่เพื่อลงโทษหลี่หราน แต่นางไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร
“ถ้ำโหยวฮัน?” หลี่หรานขมวดคิ้ว ‘นี่มันปัญหาใหญ่!’
มันเป็นถ้ำตามธรรมชาติบนเทือกเขาซวนหลิง ส่วนที่เย็นที่สุดของเทือกเขาทั้งหมดถูกควบแน่นอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ หากมนุษย์ก้าวเข้าไป พวกเขาจะถูกแช่แข็งในหนึ่งลมหายใจ
มีเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตแก่นทองคำและสูงกว่าเท่านั้นที่สามารถทนต่อความเย็นภายในได้ เนื่องจากพวกเขาสามารถใช้เทคนิคการบ่มเพาะของวิหารโหยวหลัว
ถ้าเขายังเป็นเซิงจื่อคนเดิม การลงโทษนี้ไม่นับเป็นอะไร แต่ตอนนี้มันต่างออกไป
ปัจจุบันฐานการบ่มเพาะของหลี่หรานถูกปิดกั้น เขาไม่สามารถใช้เทคนิคการบ่มเพาะของวิหารโหยวหลัวได้ เขาจะแข็งตายทันทีที่เข้าก้าวเท้าเข้าไป!
และแม้ว่าเขาจะรอดชีวิตโดยบังเอิญ เขาก็จะทำภารกิจล้มเหลวเช่นกัน
‘ไม่! ข้าไม่สามารถเข้าไปในถ้ำโหยวฮันได้!’ หลี่หรานได้ตัดสินใจแล้ว
เขาก้าวไปด้านหน้า เสียงสูงของเขาก้องกังวานผ่านพายุหิมะ “ท่านอาจารย์ ยกโทษให้ข้าด้วย ข้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งของท่านได้!”
“หืม?” การแสดงออกของเหลิงอู่เหยียนเย็นเยียบลง “ตามกฎของนิกาย ใครก็ตามที่ละเมิดข้อห้ามนี้จะถูกทำลายฐานการบ่มเพาะและขับไล่ออกจากนิกาย!”
“เจ้ามีอนาคตที่ดีและนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าทำผิดพลาด ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจให้โอกาสเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เต็มใจที่จะยอมรับการลงโทษเล็กน้อยเช่นนี้หรือ?”
“มิใช่!” หลี่หรานพูดเสียงดัง “เนื่องจากเป็นคำสั่งของท่าน ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งเดือน ห้าปี หรือสิบปี ข้าก็มิกล้าโต้แย้ง!”
เหลิงอู่เหยียนถามด้วยความสงสัย “แล้วทำไมเจ้าถึงบอกว่าไม่สามารถปฏิบัติตามได้?”
“สิ่งที่ข้าไม่สามารถปฏิบัติตามได้คือคำสั่งที่ให้ละทิ้งความรู้สึกของข้า มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ข้า...ข้ายอมรับไม่ได้จริงๆ!”
“คนที่ข้าชอบคือตัวตนที่งดงามที่สุดในโลกหล้า คนๆนั้นได้ขโมยหัวใจของข้าไปจนหมดสิ้น”
“ถ้าให้ข้าลืมความรู้สึกนี้ มันไม่เท่ากับว่าให้ข้าควักหัวใจตัวเองออกมาหรือ!?”
“เพราะฉะนั้น โปรดยกโทษให้ข้าด้วยที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้!” เสียงของหลี่หรานสั่นสะท้าน คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ
เหลิงอู่เหยียน: “!!!”
//////////