ตอนที่ 587 ลาก่อนมารโลหิต
หิ่งห้อยขาวและกรวดแดงเต้นระบำอยู่ในท้องฟ้า
ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นซุนเจี๋ยใช้ม่านพลังป้องกันพลังงาน เขาสังเกตได้ถึงอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดเล็กน้อยกรวดแดงเรืองแสงซึ่งปล่อยปราณอันตรายมากและเขาไม่คุ้นเคยเป็นพลังงานที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้
ม่านพลังงานเป็นวิชาสู้ที่ใช้กันบ่อยที่สุดและซุนเจี๋ยมีความโดดเด่นมากในเรื่องนี้
เขาใช้โล่นางแอ่นป้องกันเทียบกับที่ทหารสองกองก่อนหน้าที่ใช้นั้นไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อยนางแอ่นแสงบินขึ้นลง หิ่งห้อยและจุดแสงแดงกระจัดกระจายแต่ไม่ได้หายไปไกลยังคงรวมตัวเป็นชั้นกระจายอยู่รอบๆ เหมือนรัศมีแสง
โลกเงียบสงัดถังเทียนมีสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเปล่อยเสียงคำรามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจราวกับว่าการได้ทำเช่นนั้น เขาจะสามารถคลี่คลายความเจ็บปวดจากเพลิงปีศาจได้ แต่สายตาของเขาไม่เคยละห่างจากซุนเจี๋ยเลย
วิลเลียมเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งที่แท้จริง!
ถังเทียนไม่รู้ว่าในอดีตวิลเลี่ยมจะทรงพลังมากมายเพียงไหน แต่เพราะเพลิงปีศาจนั่นเองทำให้ซุนเจี๋ยซึ่งเป็นเซียนเงินรู้สึกกลัว นั่นไม่ธรรมดาแน่
พอกระโจนขึ้นไปในอากาศเป็นแนวตรงราวกับสายฟ้าลมกล้าแข็งรุนแรงปะทะใส่หน้าของถังเทียน แต่ก็ยังไม่เพียงพอช่วยลดอุณหภูมิเผาผลาญในร่างกายของเขา
โลกเงียบสนิท ถังเทียนคิดและละเลยความจริงไปว่าเขากำลังคำรามไม่หยุด กายและใจของเขาดูเหมือนจะแยกออกจากกัน ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าความคิดของเขาถูกปลดปล่อยไปจากร่าง
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงหิ่งห้อยและจุดสีแดงเหมือนกับไฟในภาพฝัน
ภายในฝันลวงตานี้ ถังเทียนกำลังวิ่งอยู่ในท้องฟ้าชูกำปั้นขึ้นสูงทั่วทั้งร่างของเขาเหมือนกับสายธนูที่เขม็งตึง หมัดของเขากระแทกใส่โล่แสง
วืดดนกนางแอ่นแสงสองสามตัวเข้ามาขวางหมัดของถังเทียนไว้
ปัง!
พลังงานทะลักระเบิดออกมาทันที ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังชนใส่สัตว์ป่า เขาครางและมีปฏิกิริยาไวไม่พอและแฉลบไปข้างหน้าเหมือนลูกบอล
หลังจากบินออกไปไกล30 เมตร ถังเทียนค่อยๆ หมุนตัวหลังจากใช้การปรับพลังไม่กี่ครั้งเขาก็ตั้งหลักในที่สุดดวงตาของเขาส่องประกายแวววาว นี่คือพลังงานหลังจากแปลงพลังหรือ?
เขากลั่นกรองความรู้สึกจากการถูกแสงนางแอ่นปะทะ
พลังงานของนางแอ่นแสงมีบางอย่างคล้ายคลึงกับหิ่งห้อยจ้าวปีศาจเป็นไปได้ไหมว่า... นี่คือการแปลงพลัง ความจริงแล้วก็แค่การเผาผลาญพลังงานหรอกหรือ? และหิ่งห้อยจ้าวปีศาจของเขายังเผาผลาญไม่พออีกหรือ?
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจเขาทันที เขามีท่าทีไตร่ตรอง แต่เขาไม่ลังเลใจพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง เขามีความคิดหลายอย่างที่ต้องการยืนยัน และการต่อสู้คือโอกาสดีที่สุดที่จะทำเช่นนั้น
ซุนเจี๋ยไม่ประหลาดใจที่โล่นางแอ่นสามารถป้องกันหมัดได้ เขาเป็นเซียนระดับเงินและถ้าม่านพลังของเขาถูกคนอื่นทำแตกสลายได้ง่าย คงจะเป็นเรื่องตลก นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่มีอุปสรรคในการใช้พลังงานหมัดของเขาไม่มีอะไรที่สร้างมาจากพลังงานล้วนๆ
ทันใดนั้นตาของซุนเจี๋ยกลายเป็นเป็นซึมเซา
นางแอ่นแสงที่ถูกกระแทกโดยหมัดกลับพังทลายและสลายไปในอากาศทันที ตาของซุนเจี๋ยเบิกกว้างมองดูอย่างเหลือเชื่อเป็นไปไม่ได้!
ถังเทียนสาวเท้าในอากาศด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าเต็มไปด้วยรังสีก้าวร้าว!
อีกหมัดหนึ่ง!
ครั้งนี้ซุนเจี๋ยตื่นตัวและในทันทีที่นางแอ่นแสงและหมัดสัมผัสกันตาของเขาเบิกกว้าง หมัดของเขาคู่ต่อสู้บรรจุไปด้วยพลังสั่นสะเทือนประหลาด ในช่วงเวลาสั้นๆ มันสั่นสะเทือนเกิน 200 ครั้ง และนางแอ่นแสงสลายไปทันที!
ซุนเจี๋ยมองดูถังเทียนอย่างมึนงง เขาทำแบบนั้นได้ยังไง?
สำหรับซุนเจี๋ยความถี่ของการสั่นสะเทือนเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่ว่าแม้จะทำโดยผ่านพลังงาน ถ้าเขาไม่ใช้พลังงาน เขาก็ทำไม่ได้
เขาคือคนที่มีอุปสรรคทางพลังงานคนหนึ่ง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีพลังงานสนับสนุน เขาอาศัยพลังร่างกายล้วนๆ สามารถสร้างผลเช่นนั้นออกมาได้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาเลย
ซุนเจี๋ยรู้สึกได้ถูกต้อง ถังเทียนกำลังใช้วิชามหาวินาศ (ถล่มทลาย)(ไม้ตายของวิชาจุลวินาศที่ถังเทียนฝึกยุคแรกๆ)
หลังจากประสบกับความสำเร็จในการใช้กรงเล็บเพลิงภูตพรายด้วยร่างของเขาซึ่งไม่มีพลังงานแล้ว นั่นก็หมายความว่าวิทยายุทธอื่นก็อาจเอามาใช้ได้
ตัวอย่างเช่น‘มหาวินาศ’
ด้วยความสำเร็จของหมัดแรก ถังเทียนรีบคว้าความสามารถพิเศษของการทำเช่นนั้นไว้ทันทีทำให้ความถี่ในการสั่นสะเทือนของหมัดที่สองของเขามีความก้าวหน้ามากทันที
นางแอ่นแสงตัวที่สองสลายกลายเป็นธุลีทันทีที่มันสัมผัสหมัดของเขา
แม้ว่าถังเทียนจะถูกสะท้อนกลับมาเขาก็ยังพอใจ หมัดมหาวินาศได้ปลดปล่อยออกมาจากพลังร่างกายของเขาสร้างเป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อตอนเขาใช้ในอดีต เขาไม่เข้าใจเหตุผลแต่ตราบใดที่มันใช้ได้เขาก็พอใจ!
ถังเทียนถูกเหวี่ยงออกไปด้านนอกและพบว่าการย่ำเท้าของเขาเขาได้สร้างและทำลายแผ่นสุญญากาศอย่างรวดเร็ว ทำให้เขารักษาสมดุลได้มั่นคงอีกครั้ง
ทันทีที่เขารักษาสมดุลได้มั่นคงถังเทียนเริ่มโจมตีอีกครั้ง!
วิลเลียมกำลังซ่อนตัวอยู่ในเพลิงมารและเฝ้าดูการสู้รบ พรสวรรค์ในการต่อสู้ที่ถังเทียนแสดงออกมาทำให้เขาชื่นชมเต็มเปี่ยม ถังเทียนมีความเฉียบคมในการต่อสู้อย่างประหลาดและมักคิดวิธีการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆได้
แต่วิลเลียมยิ่งทึ่งต่อสภาพร่างกายของถังเทียนมากกว่านี่เป็นร่างที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เขาเชื่อว่าถ้ากุ่ยอู๋มาพบร่างเช่นนี้ก็คงกระตือรือร้นฉกฉวยเข้าชิงร่างกายนี้
หมัดมหาวินาศซึ่งเป็นเพียงวิทยายุทธระดับต่ำไม่ได้อยู่ในวิถีที่ยอดเยี่ยมอัศจรรย์แต่ยากที่คนธรรมดาจะพึ่งพาร่างกายเพื่อใช้มันได้ เนื่องจากเหตุผลง่ายๆคือคนธรรมดาไม่สามารถทนต่อการสั่นสะเทือนความถี่สูงเช่นนั้นก่อนที่หมัดของพวกเขาจะสัมผัสฝ่ายตรงข้าม ร่างกายของเขาต่างหากที่จะพังเสียหายก่อน
ดังนั้นร่างกายของถังเทียนจึงน่ากลัวอย่างแท้จริง!
นอกจากนี้ ร่างของถังเทียนแตกต่างจากเซียนพลังสายเลือดอื่น ลักษณะภายนอกของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วิลเลียมเป็นผู้มีความชำนาญแค่คาดเดาไม่กี่ครั้งเขาก็เดาเหตุผลเช่นนั้นออก
วิวัฒนาการของร่างกายถังเทียนไม่ได้มาจากพลังงาน แต่มาจากพลังเลือดและเนื้อของเขา มุ่งเน้นไปที่พัฒนาร่างกายล้วนๆเขาจะพัฒนาไปได้ไกลเพียงไหน?
การต่อสู้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ถังเทียนยังคงทดสอบวิธีการต่อสู้ใหม่ๆและซุนเจี๋ยเริ่มคุ้นเคยกับการโจมตีของถังเทียน
ทันใดนั้นวิลเลียมขมวดคิ้วเขาตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล
ถังเทียนทำกับเขาเหมือนกับว่าเป็นอากาศไม่สนใจความคงอยู่ของเขา
นั่นไม่ถูกต้อง!
ในแง่ของความอันตรายเขาอันตรายยิ่งกว่าซุนเจี๋ย วิลเลียมเชื่อว่าถังเทียนรู้เรื่องนั้น ถังห้าวผู้ไม่เคยประมาทในการต่อสู้ทั้งหมดของเขาถังเทียนในการต่อสู้จะมีสัญชาตญาณสัตว์ป่าไวต่ออันตรายนั่นคือสิ่งที่วิลเลียมรู้เช่นกัน
ทำไมถังเทียนจึงไม่สนใจเขา?
หรือว่าเขาพบวิธีโต้ตอบข้า?
วิลเลียมหยีตาและค่อนข้างคาดหมาย แม้ว่าเขาจะลองเปลี่ยนเป็นอย่างถังเทียนเขาก็ไม่พบวิธีการใดที่ใช้คลี่คลายสถานการณ์
หนุ่มชาวฟ้าเจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังดีกว่า
ปังปัง ปัง!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันรุนแรงในสนามรบซึ่งถูกผนึกไว้ด้วยหิ่งห้อยและจุดสีแดง
การป้องกันของซุนเจี๋ยไม่ได้มีข้อบกพร่องใดๆ เนื่องจากเขาสนองตอบได้เร็วเมื่อเผชิญหน้ากับพลังโจมตีของถังเทียน ก่อนที่นางแอ่นแสงจะสลายหายไป พวกมันจะกินนางแอ่นอีกตัวและด้วยวิธีนี้อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของเขาจึงลดลงมากมาย
ซุนเจี๋ยตรวจสอบปริมาณพลังงานในร่างของเขาและตัดสินใจ
แม้ว่าพลังโจมตีของถังเทียนจะดุดัน แต่วิชาที่ใช้เป็นวิชาระดับต่ำและสิ้นเปลืองไม่มาก ในแง่ของการใช้พลังงานซุนเจี๋ยมั่นใจในตนเอง แม้ว่าพวกเขาจะติดอยู่ในทางตันแต่สำหรับเขากลับหมายถึงชัยชนะ
เขาไม่เร่งตอบโต้กลับ วิธีการโจมตีของคู่ต่อสู้เปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบและวิธีการซึ่งช่วยเปิดหูเปิดตาซุนเจี๋ย ซุนเจี๋ยไม่รู้จักวิทยายุทธหลายอย่าง ดังนั้นในฐานะของคนมากระแวงและตื่นเต้นเขารู้ว่าเขาต้องฉวยโอกาส
ในฐานะแม่ทัพทหารเขายากจะมีโอกาสสู้ส่วนตัว และยากจะได้พบคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจเช่นนั้น เพื่อให้เพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองได้ถือว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า
ถังเทียนยังคงเปลี่ยนวิทยายุทธอย่างต่อเนื่องหมัดประกายไฟ, มหาวินาศ, พลังมังกรฟ้า...
วิทยายุทธทั้งหมดที่เขาเรียนรู้มาในอดีต เขาก็ยังเอามาสลับกันใช้และยังคงทำความเข้าใจมากขึ้นและค้นพบอะไรหลายอย่างมากขึ้น ในอดีตเขามักคิดอยู่ตลอดว่าฐานวิทยายุทธเหล่านี้ต้องใช้พลังงานกระตุ้น แต่ความจริงแล้วการใช้พลังร่างกายในปัจจุบันของเขาและเขาตีความวิทยายุทธเหล่านี้เสียใหม่จึงตระหนักว่าพลังของวิทยายุทธกลับก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด
ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าความรู้และความเข้าใจที่เขามีอยู่ทั้งหมดนั้นมีเพียงผิวเผิน
พลังทางร่างกายของเขาหมดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าร่างกายของเขาจะดูไม่สมเหตุสมผลมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเซียนเงินความสิ้นเปลืองพลังของเขาก็มากอย่างน่าทึ่งและในเวลาอันรวดเร็วร่างของเขามีเหงื่อโทรมและเขาเริ่มหอบหายใจ
แต่เขาไม่หยุดและเขายังคงคึกคะนองต่อไป
ซุนเจี๋ยตกใจ เขาสามารถเห็นได้ว่าถังเทียนทุ่มเทพลังไปหมดแล้ว ขณะที่เวลาผ่านไปโอกาสที่คู่ต่อสู้จะชนะได้น้อยลงทุกที แต่ทำไมเขายังบุกโจมตีอย่างสนุกมือ?
และขณะนั้นเองวิลเลี่ยมที่ตั้งสติได้ก็สั่นสะท้านทันที ในที่สุดเขาก็เข้าใจแผนของถังเทียน
แต่...มันสายเกินไปเสียแล้ว
พลังกายของถังเทียนอยู่ในสภาพอ่อนล้ามากทะเลพลังสายเลือดในเตาหลอมเจมินี่เหือดแห้งไปมากและมันถูกทะเลพลังงานข่มเอาไว้ให้อยู่ตามมุมความเสี่ยงที่ถังเทียนทุ่มเททำทั้งหมดนี้ เตาหลอมพลังสายเลือดก็จะถูกเปิดใช้งาน มันเป็นสัญชาตญาณในการรักษาตนเอง และทันทีที่เปิดใช้มันจะทำงานอย่างบ้าคลั่งและเริ่มต้นใช้ความสามารถตามธรรมชาติของมันดูดซับสิ่งต่างๆ
ตัวอย่างเช่นเพลิงปีศาจ!
เพลิงปีศาจที่เข้าไปอยู่ในทุกซอกมุมของร่างกายถังเทียนคือยาบำรุงที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเตาหลอมสายเลือด
เส้นเลือดทุกเส้นในร่างกายของถังเทียนจะกลายเป็นหลุมไร้ก้นขณะที่มันจะดูดซับเพลิงปีศาจอย่างบ้าคลั่งเพลิงปีศาจทั้งหมดจะถูกดูดซึมเข้าไปในเลือด
วิลเลี่ยมได้แต่ฝืนหัวเราะเนื่องจากเขารู้สึกได้ถึงพลังดูดกลืนที่รุนแรง เขาคาดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนจะคิดวิธีเช่นนั้นออกมาได้ ช่างแยบยลจริงๆเศษส่วนสติที่ยังเหลือของวิลเลียมเพียงแต่รอดอยู่ในเพลิงปีศาจ ถ้าเป็นการดูดซับในเตาหลอมสายเลือดก่อนที่เขาจะได้สามารถกัดกร่อนใจของถังเทียนได้ สติของเขาและเพลิงปีศาจคงถูกเตาหลอมสายเลือดย่อยสลายไปหมด
แต่เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะทำสำเร็จก่อนที่เพลิงปีศาจจะกัดกร่อนใจของเขา
และเขาไม่คิดถึงผลที่ตามมางั้นหรือ? สิ่งเปลี่ยนแปลงอะไรที่จะตามมาหลังจากร่างของเขาดูดซับเพลิงปีศาจ
แม้แต่วิลเลียมเองก็ไม่สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ และเขาเชื่อว่าถังเทียนก็ทำนายไม่ได้เช่นกัน
แต่ในความเป็นจริงวิลเลี่ยมเข้าใจ
เป็นแค่เพราะถังห้าวตั้งใจจะทำลายเขาอยู่แล้วโดยไม่สนใจอะไรอย่างอื่น เป็นความเด็ดขาดเพื่อทำลายศัตรูของเขา เขาจะไม่ยอมให้ตนเองสิ้นหนทางแน่
วิลเลียมค่อยสงบอีกครั้ง เนื่องจากเขาชื่นชมถังห้าว เขาไม่สนใจว่าเขาจะเป็นหรือตายและไม่สนใจเกี่ยวกับชื่อเสียงและการยอมรับ ไม่สนใจความเกลียดชังของถังเทียนและรังเกียจเขา
เขาเพียงแต่คิดว่าถังเทียนมีพลังจะกำจัดซุนเจี๋ย
เขาเพียงแต่ต้องการผลเช่นนี้โดยไม่คำนึงผลว่าเขาจะเป็นหรือตาย ถ้าเขาหายไปหรือยังคงอยู่ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเพียงแต่ต้องการผลเช่นนั้น เพื่อให้ถังเทียนกำจัดซุนเจี๋ย
ข้าขอให้เจ้าโชคดีถึงที่สุด
วิลเลียมถูกดูดซึมเข้าไปในสายเลือดอย่างสงบภายในเลือดที่เดือดสติของเขาถูกดูดซับและละลายไปอย่างรวดเร็วและก่อนที่เขาจะหลอมละลายไปสิ้นเชิง เขาหัวเราะให้ตนเองบางทีข้าคงเป็นอาหารบำรุงชั้นดีได้
เพลิงปีศาจทั้งหมดถูกชำระอยู่ในร่างกายของถังเทียน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดูดเข้าไปในพลังสายเลือด เส้นเลือดของเขาทั้งหมดขยายขึ้น เลือดที่หมุนเวียนโคจรเหมือนกับลาวาทำให้ทั่วทั้งร่างของถังเทียนอุณหภูมิสูงขึ้นราวกับท่อนเหล็กแดง
หน้าของถังเทียนบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิม เขายังคงสูดอากาศเย็น แผนของเขาสำเร็จได้ในที่สุด! แต่ในดวงตาของเขายังมีไฟต่อสู้ร้อนแรงเผาผลาญ สีหน้าของเขาไม่สนใจความเย็นยะเยือกเลย
เฮ้,มารโลหิต....ลาก่อน