ตอนที่ 585 ความเปลี่ยนแปลงในเพลิงปีศาจ
ความดุร้ายของหยาหยาก็ทำให้ถังเทียนกลัวเหมือนกัน แต่ความคิดแรกของเขาก็คือเจ้านั่นกินได้ทุกอย่าง แต่ท้องไส้ไม่เป็นอะไรด้วยหรือ? แต่เมื่อเห็นหยาหยามีท่าทางพอใจดูเหมือนมันจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับท้องไส้ แต่มันดูโง่และมึนซึม ดูเหมือนคงจะกินอิ่มเกินไปจนเกียจคร้าน
เมื่อเห็นว่าหยาหยาไม่เป็นไร ถังเทียนก็ใจเย็นและหันไประมัดระวังซุนเจี๋ย
ระดับเซียนเงิน!
เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้พบกับเซียนเงินและเขาไม่เคยคิดว่าเลยว่าจะมีอยู่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เซียนเงินของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และเซียนเงินของสวรรค์วิถีมีความแตกต่างกัน เซียนเงินสวรรค์วิถีมีเตาหลอมพลังวิญญาณซึ่งการแปลงพลังงานจะเกิดได้และสำเร็จในนั้น แต่ซุนเจี๋ยไม่ใช่ เขาไม่มีเตาหลอมจิตวิญญาณและจัดการแปลงพลังงานสำเร็จได้โดยตรง
เกี่ยวกับเคล็ดควบคุมพลังงานเซียนเงินของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ย่อมเหนือกว่าแน่ เนื่องจากเซียนของสวรรค์วิถียังจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากเตาหลอมวิญญาณเพื่อให้แปลงพลังงานได้สำเร็จ แต่ในแง่ของประสิทธิภาพ ถังเทียนรู้สึกว่าเซียนเงินของสวรรค์วิถีจะแข็งแกร่งกว่าเพราะเตาหลอมวิญญาณนั่นเอง
สนามพลังวิญญาณในเตาหลอมวิญญาณก่อนที่จะมาถึงดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ถังเทียนจะรู้สึกว่าเป็นเส้นทางปกติที่ต้องใช้เป็นธรรมดา
เทียบกับดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แล้ว สวรรค์วิถีมีพลังจิตวิญญาณ วิทยายุทธทุกอย่าง การฝึกฝน วิชาจักรกลการฝึกฝนทุกอย่างในสวรรค์วิถีผูกพันและเกี่ยวข้องกับพลังจิตวิญญาณทั้งนั้น
ในเรื่องขอบเขตแดนเซียนในสวรรค์วิถีและเซียนที่เกิดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นสวรรค์วิถีจะมีความก้าวหน้ายังไง? นั่นคือสิ่งที่ถังเทียนกำลังคิดเป็นส่วนใหญ่หลังจากติดตามไปกับลุงปิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดถังเทียนก็มีความคิดลางๆ ในเรื่องกลยุทธ์สงครามและเกี่ยวกับระบบของมัน นอกจากนั้นเขายังไม่รู้อะไรมาก วิธีคิดของเขาง่ายๆและถ้าความแตกต่างระหว่างพวกเขาและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีช่องว่างห่างกันมากและไม่สามารถตามกันได้ทัน พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
ใครจะสนใจกันเล่าว่ามดตัวหนึ่งคิดอะไรอยู่?
ไม่ว่าจะเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธหรือวิหารเซียนหรือผู้หนุนหลังวิหารเซียน ถ้าเขาต้องการเอาชนะพวกเขา อย่างนั้นเขาก็ต้องแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าคนพวกนั้น
ดังนั้นปัญหาจึงต้องย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิด สวรรค์วิถีได้เปรียบอะไรอยู่บ้าง?
จิตวิญญาณ!
นั่นคือคำตอบของถังเทียน ในแง่ที่ว่าแท้จริงแล้วจิตวิญญาณคืออะไรยังมีอยู่หลายทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทฤษฎีที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางที่สุดก็คือแก่นแท้หลังจากแปลงพลังงานไปแล้ว ห้องปฏิบัติการค้นคว้าได้พิสูจน์แล้วว่าเมื่อพลังงานเข้มข้นจนเกินกว่าจุดวิกฤติ การกัดกร่อนของพลังงานจะกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่เพียงแก่นสาระจะไม่สามารถแปลงพลังงานได้เท่านั้นแต่จะถูกกัดกร่อนกลับไปเป็นพลังงานธรรมดาเหมือนเดิม
สวรรค์วิถีมีสภาพแวดล้อมที่มีพลังงานต่ำ ทำให้พวกเขาแพ้ตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ว่าสภาพแวดล้อมที่มีพลังงานต่ำก็ยังสร้างสีสันให้โลกเต็มไปด้วยจิตวิญญาณมากมาย
ดังนั้นอะไรคือประโยชน์ของพลังจิตวิญญาณ?
พลังจิตวิญญาณมีสำนึกเป็นของตนเองซึ่งก็หมายความว่า พวกมันมีวิญญาณ จิตวิญญาณยุทธหรือขุนพลวิญญาณระดับสูงขึ้นก็ยิ่งมีสติปัญญามากขึ้น นี่คือบทพิสูจน์ต่อไปในวิชาจักรกลซึ่งก็คืออาวุธจักรกลวิญญาณที่เซรีนได้สร้างขึ้นเมื่อเทียบกับอาวุธจักรกลธรรมดา จะมีสติปัญญามากกว่าและสนับสนุนนักสู้จักรกลได้ดีกว่า
สติปัญญาก็คือการทำงานเฉพาะตัวที่ดีที่สุดของจิตวิญญาณ
เดี๋ยวก่อน! คุณลักษณะนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง...
เมื่อเกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นถังเทียนก็จับเค้าไว้ได้ทันที ในฐานะหนุ่มชาวฟ้าเขาย่อมเฉลียวฉลาดที่สุดเป็นธรรมดา
แต่การขาดความเชื่อมั่นเกินกว่าจะพูดได้นี้ มันมาจากไหนกันเล่า...
ความคิดไขว้เขวนี้ช่างรบกวนใจแท้
ถังเทียนโยนความคิดนั้นออกไปจากหัวทั้งหมด โดยเฉพาะความคิดกวนใจ เขาเลียริมฝีปากสายตาของเขากลายเป็นดุร้าย ด้วยวิชาปรับสภาพในที่สุดเขาก็มีความสามารถในการรบในอากาศได้อย่างอิสระ
ถ้าอย่างนั้นให้ข้าได้ลองลิ้มรสสิ่งที่เรียกว่าพลังงานแปลงสิ่งที่เรียกว่าขอบเขตพลังเซียนเงินดู!”
ทันใดนั้นถังเทียนเรียนรู้การก้าวย่างไปบนอากาศที่อัดสุญญากาศ หลังจากทดลองปรับพลังเป็นเวลานานแล้ว ถังเทียนก็ตระหนักได้ เขาคิดถึงลักษณะที่ซับซ้อนเกินไป ตราบใดที่เขาสามารถสร้างแผ่นสุญญากาศได้ เขาก็สามารถสร้างพลังสะท้อนได้สิ้นเชิงการก้าวไปบนแผ่นสุญญากาศอัดทำให้เขาพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้งและร่างของเขามาปรากฏในที่สูงทันที
ในกลางอากาศร่างของเขาบิดและหมุนในลักษณะที่แปลกประหลาดขาของเขาจะยันใส่แผ่นสุญญากาศที่ปรากฏในตำแหน่งที่สอดคล้องกับการยันเท้าใส่แผ่นของเขา เมื่อยันเท้าใส่แผ่นสุญญากาศร่างของถังเทียนจะชลอและความเร็วจะเร่งขึ้นอีกครั้ง
แผ่นสุญญากาศจำนวนมากปรากฏขึ้นในอากาศอย่างกะทันหัน แผ่นเหล่านั้นวางอยู่ในตำแหน่งลักษณะแตกต่างกันมีทั้งแนวนอนแนวตั้งลาดเอียงอยู่ทุกตำแหน่ง ถังเทียนเป็นเหมือนลูกเด้งที่พุ่งไปจากแผ่นสุญญากาศหนึ่งไปยังอีกแผ่นหนึ่งขณะเขาเคลื่อนไปข้างหน้า แผ่นสุญญากาศทุกแผ่นแตกสลายหลังจากใช้ไปแล้วเกิดเป็นระลอกคลื่นในอากาศ
ในทุกๆก้าว ความเร็วของถังเทียนจะเพิ่มขึ้นทีละนิดหลังจากผ่านการเสริมความแข็งแรงด้วยทองเข้ม ร่างของเขาสามารถทนรับภาระได้มาก
แต่หน้าของถังเทียนไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย มีแต่คลั่งไคล้และความตั้งใจต่อสู้ไม่มีที่สิ้นสุด
ท้องฟ้าอยู่ใต้เท้าของข้า!
ระดับเงินอยู่ต่อหน้าข้า
ถ้าอย่างนั้นเรามาสู้กันเถอะ สู้กันให้เต็มที่
หยาหยาที่กินอิ่มแปล้มากเกินไปนั่งอยู่ในท้องฟ้ายิ้มด้วยท่าทีโง่งม ถังเทียนแว่บผ่านมันไปเหมือนสายฟ้า ลมที่กระโชกรุนแรงทำให้หยาหยาลอยขึ้นและพลิกไปมาอย่างไม่ทันตั้งตัว หยาหยากระเด็นอยู่ในอากาศก็ยังยิ้มโง่งมได้มันไม่ได้แม้แต่จะเปลี่ยนท่าด้วยซ้ำ ต่างจากท่าทางที่ดุร้ายห้าวหาญก่อนหน้านั้นมาก
มันอิ่มเกินไป...มันมากเกินไป ข้าอยากนอนหลับ...
หยาหยาลอยตัวขณะที่ศีรษะของมันส่ายไปมายิ้มอย่างโง่งม ขณะที่มันหาว ตาของมันพลันสลึมสลือ
เขาระเบิดพลังที่น่าตระหนกต่อหน้าซุนเจี๋ยทันที เขาไม่เคยเห็นวิธีการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดเช่นนั้นเสียงที่หนักแน่นของแผ่นสุญญากาศถูกกระแทกเหมือนกับรัวกลองศึกเป็นจังหวะที่นุ่มนวลเต็มไปด้วยความตั้งใจต่อสู้ และพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
ไม่!
ซุนเจี๋ยเป็นแม่ทัพที่มากประสบการณ์และช่ำชองมีความรู้สึกไวต่อพลังเหนือคนธรรมดาเขารู้ว่าความตั้งใจต่อสูของคู่ต่อสู้พุ่งทะยานจากนั้นเวลานั้นแม้แต่ด้วยพลังของเขา ก็ยากจะสู้ได้
คนที่บ้าและบุ่มบ่ามเป็นศัตรูที่ขุนทหารไม่ชอบที่สุด คนประเภทนี้ทำนายได้ยากและต่อให้พวกเขาได้รับชัยชนะ ก็มักจะมีความสูญเสียอยู่ในระดับที่สูง
ซุนเจี๋ยกลัวหยาหยาซึ่งมีคุณสมบัติที่ไม่รู้จักอย่างอธิบายไม่ถูก แต่สำหรับถังเทียนซุนเจี๋ยไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย วิธีโจมตีตรงๆ เช่นนั้นทำให้เขานัยน์ตาเป็นประกาย แต่ภายใต้การแสดงพลังของถังเทียนในความรู้ของเขา เขาสามารถคาดเดาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีอุปสรรคพลังงาน
ไม่ว่าเจ้าจะทรงพลังมากแค่ไหน เมื่อมีอุปสรรคพลังงานแล้ว เจ้าจะทำอะไรได้?
ตราบใดที่พวกเขาขัดขวางเขาไม่ให้สร้างแรงเหวี่ยงได้ ซุนเจี๋ยเชื่อว่าพวกเขาจะเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าของถังเทียนดวงตาของซุนเจี๋ยทอประกายวูบ เขาไม่ถอยและพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับมีดในมืออีกเล่มหนึ่ง
มีดเล่มนี้คุณภาพยังด้อยกว่ามีดนางแอ่น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่มีอุปสรรคในการใช้พลังงาน นับว่าเพียงพอเหลือเฟือ
มีดถูกถือในแนวขนานกับพื้นเขางอร่างเหมือนกับคันธนูและพุ่งไปข้างหน้าเป็นแนวตรง
รังสีสว่างเจิดจ้าเปล่งออกมาจากร่างของเขาและครอบคลุมมีดในมือของเขาช้าๆ
ซุนเจี๋ยบินออกไปด้วยความเร็วสูง
แสงรัศมีรอบตัวเขาทั้งหมดกลายสภาพเป็นรังสีดาบที่คล้ายกับนกนางแอ่นแสงกำลังกระพือปีกและส่งเสียงร้องลั่น มันเร่งความเร็วเข้าหาถังเทียนราวกับสายฟ้า
ถังเทียนกำลังวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลังรู้สึกถึงรู้สึกถึงแก่นบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เขาเป็นคนที่สนุกกับการต่อสู้ แต่หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนวิธีการรบเปลี่ยนไป การบินคือบางอย่างที่เขายังอ่อนหัด ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกได้แต่พึ่งพาเสี่ยวเอ้อมากขึ้น
ถังเทียนทึ่งกับวิธีและกลยุทธของเสี่ยวเอ้อ แต่เขาไม่มีความสุขกับการสู้อย่างนั้น เขาเกลียดที่มันไม่ยุติธรรม
เขาชอบสู้ระยะประชิด!
การต่อสู้ระยะประชิดในพื้นที่แคบๆปะทะกันทั้งอาวุธ หมัดหรือร่างกายที่เป็นวิถีการต่อสู้ของลูกผู้ชายที่แท้จริง!
ในที่สุดเขาก็ได้เคล็ดวิธีปรับสภาพได้ เขาเอาชนะปัญหาในเรื่องการบินได้ และพบหนทางกลับไปต่อสู้ของเขา
มาเลยมาซัดกันให้เต็มที่สักครั้ง!
รังสีดาบที่เย็นยะเยียบเต็มไปด้วยอันตราย แต่ครั้งนี้ถังเทียนไม่ตั้งใจจะถอนถอย แผ่นสุญญากาศใต้เท้าเขาแหลกสลายเมื่อสัมผัส และเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเพิ่มประสิทธิภาพของการปรับสภาพ เขารู้สึกถึงความเร็วในตัวเองอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนมันเร็วมากจนเขาต้องใช้พลังทั้งหมดควบคุมอย่างยากลำบาก
สายลมอื้ออึงผ่านหูและพัดใส่ดวงตาของเขาจนมองได้ไม่เต็มที่ผิวของเขารู้สึกแสบราวกับถูกมีดกรีดใส่ ท้องฟ้าสว่างวาบพื้นดินสว่างวาบ เปลวไฟปรากฏในทุกที่เหมือนเป็นทะเลเพลิงเขาไม่รู้ว่าเป็นเลือดที่ปะทุออกมาจากความตั้งใจจะสู้ของเขาหรือว่าเจตจำนงสู้กำลังเผาผลาญเลือดกันแน่ เส้นประสาทของเขาถูกเผาจนแดงทำให้ทั่วทั้งตัวเดือดและสั่นสะท้าน เขากำลังจะคลั่งเพราะความตื่นเต้น
มาเลย!
เซียนเงิน!
เขาคำรามเหมือนฟ้าลั่นกางแขน นิ้วทั้งสิบงองุ้มเป็นกรงเล็บ กรงเล็บเพลิงภูตพรายพร้อมใช้แล้ว
ทันใดนั้นร่างของถังเทียนชะงัก ตาของเขาเบิกกว้างทันที
ฟู่วววเปลวเพลิงสีสดใสลุกพรึ่บออกมาจากฝ่ามือของเขา เพลิงปีศาจ!
เพลิงปีศาจคือวิชาจิตวิญญาณที่วิลเลียมสร้างขึ้น แต่เพลิงปีศาจที่ปะทุออกมานี้ถูกถังเทียนทำให้เบาบางลงคงเหลือแต่เพียงกฎธรรมชาติในเพลิงเท่านั้น
ดูเหมือนกับเครื่องสายดนตรีบรรเลง เพลิงปีศาจเย็นเฉียบรุนแรงเหมือนน้ำแข็ง เปลวเพลิงสีแดงลุกโหมออกมาข้างนอก
ถังเทียนถูกดึงเข้าไปในโลกสีแดง เมื่อบุรุษหนุ่มผมแดงหน้าขาวนัยน์ตาดำปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาทันที
“ข้าคือวิลลเลียม”
เสียงของบุรุษหนุ่มเยือกเย็นฟังชัด
ในช่วงแลกเปลี่ยนกันสั้นๆนั้นวิลเลี่ยมทิ้งความประทับใจลึกไว้กับถังเทียน บุรุษผู้ถือความเป็นความตายเท่ากัน บุรุษผู้เกลียดกรอบจารีตของโลกและภายใต้ความระห่ำนั้นจิตตานุภาพและปณิธานของเขากล้าแข็งประดุจเหล็ก บุรุษที่คำพูดของเขาเต็มไปด้วยประสบการณ์โหดร้ายนับไม่ถ้วนวิธีที่เขาพูดยังเหมือนกับแต่ก่อน ราวกับว่าถอดวิญญาณของผู้คนออกและทำให้ร่างของเขาสลายไป
“ทุกคนมีปีศาจอยู่ในตัวกันทั้งนั้น และมีเพียงเจ้าสามารถกำจัดมันได้”
บุรุษผมแดงยิ้มล้อเลียนเล็กน้อย ภายในดวงตาที่บ้าคลั่งนั้น ถังเทียนเห็นน้ำแข็งไร้ที่สิ้นสุด
“แม้ว่าเราจะมีศัตรูเหมือนกันและข้าชอบเจ้า แต่ข้าก็อยากจะล้างแค้นด้วยตนเอง”
บุรุษผมแดงหัวเราะดึงดูดความสนใจ นัยน์ตาของเขาเย็นเหมือนน้ำแข็ง เปลวไฟลุกพรึ่บและร่างของเขาผสานเข้าในเปลวเพลิง
ถังเทียนสั่น,นั่นเป็นไปได้ยังไง! ยังคงมีจิตสำนึกของวิลเลียมอยู่ในเพลิงปีศาจได้ยังไง? ข้ากำจัดทุกอย่างไปแล้วไม่ใช่หรือ?
เขาตระหนักได้ทันที
เป็นข้ออ้าง! ข้ออ้างที่วิลเลียมใช้หลอกถังเทียนและเสี่ยวเอ้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และช่วงเวลานี้เสี่ยวเอ้ออยู่ในช่วงอาการหนัก เมื่อประสบโอกาส วิลเลียมจึงเปิดเผยตัวเองออกมา
“เจ้าโกหกข้าหรือ?” ตาของถังเทียนเบิกกว้าง หน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“ข้าเพียงแต่เชื่อตัวเอง” วิลเลียมหัวเราะ และหยีตาพูดอย่างร่าเริง “สู้อย่างยุติธรรมให้ข้าแสดงเพลิงปีศาจที่แท้จริง และให้ข้าดูหน่อยหนุ่มชาวฟ้า เจ้ามีคุณสมบัติอะไรบ้าง”
ขณะพูดอย่างนั้นเพลิงปีศาจระเบิดและทะลุผ่านทุกซอกทุกมุมของร่างกายถังเทียน
“คุณสมบัติอะไร?” ถังเทียนโมโหฉุนเฉียว “เอาเถอะ งั้นข้าบอกเจ้าเองว่าข้ามีคุณสมบัติอะไรอยู่บ้าง!”