ตอนที่ 581 แย่งชิงคือทักษะแฝงเร้นของข้า
ศิลานับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่ว เย่ว์หยางพยายามควบคุมศิลาเลียนแบบดาวตกของจักรพรรดินีราตรี
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วหัวร่อในใจ เขาคิดว่าเจ้าผู้นี้น่าประทับใจจริงๆ แต่เขากลับใช้เพียงก้อนศิลามาต่อต้านป้องกันเขา ถ้าเป็นดาวตกจากสนามพลังดารานภากาศของจักรพรรดินีราตรีจริงๆ แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วคงไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง แต่เย่ว์หยางเลียนแบบโดยใช้ก้อนศิลาธรรมดา ดังนั้นพลังจึงแตกต่างกันมากและไม่มีพลังคุกคามแม้แต่น้อย
“ครืนนน ครืนนน ครืนนน...” แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วควงหมัดต่อยใส่หินที่ระดมยิงมาเหมือนฝนด้วยท่าทีเหยียดหยาม
พยายามใช้ก้อนหินเอาชนะปีศาจโบราณน่ะหรือ?
ฝันไปเถอะ!
อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ของค้างคาวปีศาจดูเหมือนจะไม่ปลอดโปร่งเหมือนกับของเจ้านายมัน มันถูกเสี่ยวเหวินหลีพันธนาการไว้ และโสตประสาทของมันซึ่งแต่เดิมอ่อนไหวต่อการฟังเสียงที่ละเอียดอ่อนได้แตกระเบิดจากคลื่นเสียงหวีดของนางพญากระหายเลือด เลือดไหลออกจากแก้วหูของมัน
สติของมันว่างเปล่า ชั่วเวลานั้นร่างของมันร่วงลงจากท้องฟ้าเหมือนหนังสัตว์เปล่าๆ
ขณะเดียวกัน เสี่ยวเหวินหลีใช้ดาบน้ำแข็งคู่แทงใส่หัวใจของมัน แม้ว่าบาดแผลจะมีแค่เพียงผิวเผินและไม่สามารถแทงเข้าไปในหัวใจได้ แต่ความเย็นของดาบน้ำแข็งคู่ก็สามารถแช่แข็งอวัยวะภายในของมันได้ ก่อให้เกิดชั้นน้ำแข็งบางๆ สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงถือดาบจันทร์เสี้ยวฟันใส่ปีกซ้ายของค้างคาวปีศาจเต็มกำลัง ส่วนปีกอีกข้างมีควันขึ้นจากแส้ลงทัณฑ์ของนางพญากระหายเลือด
แม้ว่าระดับของมันและพลังของมันจะสูงกว่าและแข็งแกร่งกว่า แต่ค้างคาวปีศาจที่เป็นอสูรฟ้าระดับหนึ่งก็ไม่สามารถรับมือกับอสูรเหล่านี้ได้ ภายใต้การโจมตีอย่างดุร้ายของเสี่ยวเหวินหลีและทักษะแฝงเร้นของอสูรอื่นร่วมกัน ร่างของมันจึงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
โดยไม่มีการเตือนอะไร ค้างคาวปีศาจหลบหนีจากพันธนาการและพลังคลื่นเสียงหวีด มันเปลี่ยนสภาพเป็นแสงสีทอง
มันใช้วิชาเปลี่ยนร่างของมันลดขนาดความเสียหายของร่างและซ่อนตัวจากศัตรู
ถ้ามันไม่แปลงเป็นร่างแสง มันจะติดอยู่ในสภาพแช่แข็ง... เมื่อค้างคาวปีศาจหลบหนี เสี่ยวเหวินหลียกมือขวาบอบบางสีขาวเนียนดุจหยกของเธอ
รัศมีแสงสว่างบริสุทธิ์เจิดจ้าเปล่งออกจากมือของเสี่ยวเหวินหลี
รังสีแสงที่บริสุทธิ์ชนิดนี้มีคุณสมบัติกระจายผลกระทบเชิงลบ ส่วนใหญ่ไม่มีผลช่วยในการเยียวยารักษา หรือสร้างผลร้ายกับร่างของศัตรู หากแต่ว่าใช้โจมตีศัตรู เสี่ยวเหวินหลีน้อยครั้งจะยอมใช้ทักษะนี้ออกมา เว้นแต่เธอใช้จัดการกับนักสู้แดนอเวจีหรือศัตรูที่เก่งในเรื่องใช้พลังงานด้านลบ
เมื่อรังสีทองซึ่งเป็นร่างแปลงของค้างคาวปีศาจปะทะกับรังสีที่บริสุทธิ์ เกิดควันหนาขึ้นทันที
พลังทั้งสองหักล้างกันเองและละลายอย่างรวดเร็ว
ในควันหนาทึบ ค้างคาวปีศาจอยู่ในอาการเจ็บปวดเกลือกกลิ้งอยู่สองสามตลบ จากนั้นแปลงเป็นค้างคาวทองตัวเล็ก 100 ตัวและบินไปทั่วทุกที่พยายามหลบหนี
“ฮึ”
เมดูซาศิลาผู้มีผมเป็นงูเพลิง แสดงฝีมือของนางทันที ดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวของนางมีแสงรังสีเจิดจ้าเปล่งออก พลังงานจากร่างของนางมารวมตัวกันที่มือนางอย่างรวดเร็วและก่อตัวเป็นธนูอสรพิษทองอยู่ในมือนาง ขณะที่นางเหยียดแขนออก ธนูกลายเป็นเหมือนพระจันทร์เต็มดวง ลูกศรรูปร่างประหลาดมากกว่าสิบดอกเรียงรายพาดอยู่บนธนูพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกเผาผลาญ เพียงควับเดียวลูกธนูถูกยิงออกไปเป็นรูปพัดอย่างเกรี้ยวกราด พุ่งเข้าหาแต่ละเป้าหมายของมันโดยอัตโนมัติ
ปรากฏว่าลูกศรทุกดอกยิงถูกค้างคาวตัวเล็กทุกดอก
ค้างคาวทองที่ถูกลูกศรเพลิงยิงม้วนตัวลงมาจากท้องฟ้าทีละตัวๆ
แม้ว่าเพลิงชนิดนี้จะไม่ใช่เพลิงอมฤต แม้ว่านี่จะเป็นเพลิงลอกเลียนแบบเพลิงอมฤตในตัวเย่ว์หยางซึ่งวิหารเจมินี่สร้างขึ้นมา เพลิงอมฤตจำลองนี้เข้ากันได้กับผมงูของเมดูซาศิลาได้เป็นอย่างดี พลังชนิดนี้เพลิงธรรมดามิอาจเทียบได้
นอกจากนี้ หลังจากเย่ว์หยางเชี่ยวชาญพลังหยางและเข้าใจบัวเพลิงฟ้าพิโรธ เขาได้ช่วยเพิ่มพลังเพลิงที่ผมงูของเมดูซาศิลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเอาชนะเยี่ยนจงและเยี่ยนจวินแห่งแดนสวรรค์และได้รับพลังเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์ที่ทรงพลัง เย่ว์หยางจงใจหลอมรวมเพลิงนี้เข้ากับเมดูซาศิลา แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับนั้น แต่ผมงูเพลิงของนางก็แทบจะใกล้เคียงเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์ ยิ่งกว่านั้น นางยังมีอำนาจควบคุมได้ ดังนั้นเพลิงนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในไม้ตายลับของเมดูซาศิลา
ค้างคาวปีศาจรู้ตัวว่าเมื่อมันแปลงร่างเป็นค้างคาวเล็ก มันยิ่งพ่ายแพ้ได้เร็วมากขึ้นและจะตายอย่างน่าสยดสยอง
มันรีบรวมตัวเข้าด้วยกันกลายสภาพเป็นร่างขนาดมหึมาอีกครั้ง
ธนูทองของเมดูซาศิลาปักเข้าที่เหนือริมฝีปากของค้างคาวปีศาจ.... ริมฝีปากของค้างคาวปีศาจค่อยๆ กลายสภาพเป็นศิลาช้าๆ ผิวสีทองเข้มแต่เดิมเริ่ม เปลี่ยนเป็นสีเทาหม่นของหิน และพื้นผิวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
สายฟ้าสีม่วงสายหนึ่งฟาดลงที่ปีกขนาดยักษ์ของค้างคาวปีศาจทะลุเป็นช่อง เหลือแต่เพียงกระดูกปีกสีดำ ขนของมันไหม้เกรียม เลือดเนื้อของมันได้รับความเสียหาย ค้างคาวปีศาจเรียกกระทิงอสูรซึ่งเป็นอสูรทองแดงระดับสิบออกมาขณะที่มันเจ็บปวด การปรากฏตัวของกระทิงตัวนี้ดูเหมือนไม่ได้ใช้เป็นผู้ช่วย แต่เป็นเหมือนอาหารมากกว่า.... ค้างคาวปีศาจกระโจนลงบนหลังกระทิงยักษ์และดูดเลือดของมันอย่างบ้าคลั่ง อาการบาดเจ็บบนตัวของมันสมานตัวอย่างรวดเร็ว แต่กระทิงป่าอสูรทองแดงระดับสิบร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นคุกเข่าลงกับพื้นเนื่องจากสูญเสียพลังงาน
“ตาย!” ปีศาจอสรพิษน้ำแข็งซึ่งมิได้ลงมือในช่วงก่อนหน้านี้ ตัดศีรษะของกระทิงป่า
ขณะเดียวกัน ตั๊กแตนมัจจุราชปรากฏตัวอยู่ในท้องฟ้า กระโจนใส่หลังของค้างคาวปีศาจ และในตำแหน่งเดียวกันมันเริ่มกัดคอของค้างคาวปีศาจ
ดาบน้ำแข็งคู่ของเสี่ยวเหวินหลี, ดาบจันทร์เสี้ยวของเจี้ยงอิงและแส้ลงทัณฑ์ของนางพญากระหายเลือดต่างระดมโจมตีใส่ร่างค้างคาวปีศาจพร้อมกัน ค้างคาวปีศาจที่เพิ่งจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกลับบาดเจ็บอีกครั้งภายในไม่กี่วินาที
“กี๊ซซซซ”
ค้างคาวปีศาจแปลงร่างทันที มันเปลี่ยนเป็นร่างปีศาจสูงสิบเมตร ลักษณะคล้ายกับจ้าวปีศาจ
แสงสีทองสายหนึ่งพุ่งวาบลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับมังกรตัวน้อยโผล่ออกมาจากมหาสมุทร
อสูรทองที่ร่างเหมือนมังกรร่อนลงมาจากท้องฟ้าด้วยท่าทางที่สง่างาม มันอ้าปากขนาดเล็กของมันและกัดที่ศีรษะของค้างคาวปีศาจ ความแตกต่างจากจ้าวปีศาจที่แท้จริงก็คือร่างแปลงปีศาจของค้างคาวปีศาจไม่มีเขาขนาดใหญ่ที่จ้าวปีศาจมี มันมีแต่หูขนาดใหญ่อยู่บนหัวของมัน
เมื่อไม่มีการปกป้องจากเขาปีศาจ ก็เป็นเรื่องง่ายมากที่อสูรทองน้อยจะกัดกินทะลวงศีรษะของมัน เหมือนกับเปิดประตูวังทำให้มันโจมตีเข้าไปได้ง่ายๆ
ตอนแรกมันแค่กัดเปิดกะโหลกของค้างคาวปีศาจและชอนไชเข้าไป
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วกำลังลิงโลดดีใจ แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่าเขาถูกหลอก คุณชายสามตระกูลเย่ว์แค่หลอกล่อให้ไขว้เขวไม่ได้โจมตีจริงๆ
เมื่อเห็นอสูรพิทักษ์ของเขากุมศีรษะและเอาศีรษะไถกับพื้น แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วโกรธแค้นเดือดดาล แม้ว่าอสูรพิทักษ์ของเขาจะไม่ตายจริงๆ แต่ความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายนี้ทำให้พลังของมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้มันอาจสูญเสียสติปัญญาบางส่วนและศักยภาพที่เติบโตบางอย่าง
“ไสหัวไป!” แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วต้องการตบเย่ว์หยางให้กระเด็นไปไกลๆ และช่วยเหลืออสูรรักของเขา
“ไม่ต้องห่วง เราคุยกันดีๆ ได้” เย่ว์หยางมองดูราชันย์พันปีศาจ แสงสีเงินกระจายขึ้นไปในท้องฟ้า ก่อตัวเป็นวงเวทผนึกอักษรรูน มันคือสิ่งที่พิเศษที่สุดซึ่งเย่ว์มี วงจักรอนันตกาล
มือของแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วยังคงถูกวงจักรอนันตกาลกักไว้ในอากาศ
เว้นแต่ว่าแขนปีศาจถูกตัดออกไป เขาจะต้องรอให้วงจักรอนันตกาลหายไปก่อน จากนั้นเขาจึงจะสามารถใช้ความสามารถฟื้นฟูแขนปีศาจของเขาได้
เมื่อเย่ว์หยางและแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วกำลังต่อสู้กัน ราชันย์พันปีศาจปรากฏตัวอยู่ที่มุมสนามต่อสู้อีกด้านหนึ่ง เขากำลังยิ้มขณะถือบอลแสงในมือ มือซ้ายของเขาขาวแสดงให้เห็นรูปลักษณ์เทวทูตที่อ่อนโยน มือขวาเป็นสีเขียวแสดงถึงรูปลักษณ์ของปีศาจเก้าหัว ก่อนที่แสงจะหายไปอย่างสิ้นเชิง ขาทั้งสองที่อ่อนแรงและซวนเซราวกับดินเหลวปรากฏขึ้น... เป็นเสียงหวี่ผู้ต้องคำสาปและนาคราชสมุทรเก้าหัวที่ยังบาดเจ็บหนัก พวกเขาดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงยิ่งบุรุษที่เที่ยวซ่องต่อเนื่องสิบวันสิบคืนโดยไม่ได้พัก
ภายในนาทีเดียว รูปร่างพวกเขาก็ชัดเจนขึ้น
ปรากฏว่าปีกของเสียงหวี่ผู้ต้องสาปมีขนร่วงดุจนกแร้ง และบนพื้นเต็มไปด้วยขนสีดำเทา
นัยน์ตาเขาที่เคยมีประกายกลายเป็นหมองเหมือนคนตาย ไร้ประกาย นอกจากนี้ นอกจากนี้เบ้าตาของเขายังหมองคล้ำเหมือนกับคนอดนอน
เมื่อดูใกล้ๆ หน้าที่เต็มไปด้วยความเยาว์วัยนี้เริ่มมีความชรา รอยย่นปรากฏให้เห็นที่หน้าผาก
เป็นที่ชัดเจนว่าพลังของเสียงหวี่ลดลงอย่างชัดเจน
ตอนนี้เขาเหลือพลังเท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก....
นาคราชสมุทรเก้าหัวมีชะตาน่าอนาถยิ่งกว่าเสียงหวี่ เนื่องจากเขานอนอยู่ด้านขวาของเสียงหวี่เหมือนกับดินเหลว เขามีพลังลดลงต่ำกว่าระดับหกเสียอีก เหลือเพียงพลังปราณก่อกำเนิดระดับห้า ผมของเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน และผิวของเขาดูราวกับว่าเขากำลังป่วยอย่างหนัก
“ทำไม?” เสียงหวี่ตระหนักว่าคำสาปไม่ได้ถูกกำจัดไปแม้แต่น้อย แต่กลับต้องเสียพลังบริสุทธิ์ไปนับไม่ถ้วน
“เจ้าพวกโง่, ถูกแล้ว, พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด พวกเจ้าช่างโง่เสียจริง เกิดมาโง่แท้ๆ นอกจากคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้ว ข้าฉลาดเกินไปสำหรับคนอื่นๆ!” ราชันย์พันปีศาจดูดพลังงานบริสุทธิ์ของบอลพลังทั้งสองในแขนเขาอย่างมีความสุข เหมือนกับว่าเขากำลังกินอาหารรสโอชะน่าชุ่มชื่นใจเหลือเชื่อ
“ทักษะแฝงเร้นแยก...” เสียงหวี่ตระหนักว่าเขาผิดไปแล้วในตอนนี้ มีบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับทักษะแฝงเร้นแยกของราชันย์พันปีศาจแน่นอน
“เจ้าคาดไม่ผิด ทักษะแฝงเร้นแยก ตราบใดที่เป้าหมายเต็มใจ ทุกอย่างก็สามารถแยกออกมาได้ เช่นพลังงานของร่างกายเจ้า หรือกระบี่สมบัติในมือของเจ้า เกราะศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้ากำลังสวมใส่ แม้กระทั่งอวัยวะภายใน เลือด กระดูก ไขสันหลัง มันสมอง ทักษะแฝงเร้นแยกของข้าสามารถแยกสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จและกีดกันสิ่งต่างๆ ได้ พวกเจ้าหมดประโยชน์แล้ว! แทนที่จะเสียพลังงานบริสุทธิ์ที่ไม่มีการปนเปื้อน มิสู้มอบให้ข้าดีกว่า หลังจากข้าควบคุมหอทงเทียน พิชิตแดนสวรรค์แล้ว ข้าจะคิดถึงการเสียสละของพวกเจ้าเป็นครั้งคราว” ราชันย์พันปีศาจเดินออกมาโดยไม่มองเสียงหวี่และนาคราชสมุทรเก้าหัวอีกต่อไป
“ราชันย์พันปีศาจ เจ้าบัดซบ ข้าอุตส่าห์ปฏิญาณว่าจะภักดีต่อเจ้าแท้ๆ” นาคราชสมุทรเก้าหัวสูดลมหายใจและใช้พลังเฮือกสุดท้ายตะโกน
“เจ้าควรจะรู้สึกละอายใจบ้าง! ทำไมข้าจะหลอกพวกเจ้าบ้างไม่ได้? ไม่ใช่เพราะว่าข้าฉลาด ไม่ใช่ว่าทักษะแฝงเร้นแยกของข้าน่าประทับใจ แต่เป็นเพราะพวกเจ้าทั้งสองคนโง่เกินไป ประการที่สอง พวกเจ้าทั้งสองคนประกาศตัวเองว่าเป็นยอดนักรบ คิดจะกลายเป็นห้าจักรพรรดิแห่งหอทงเทียน พวกเจ้ามีพลังเพียงน้อยนิดเท่านี้ไม่มีอะไรต่างจากขยะเลย สุนัขที่อยู่แทบเท้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังจะดีกว่าพวกเจ้าเสียอีก มันน่ารำคาญที่ข้าต้องพูดเรื่องนี้ ข้าเสียพลังทักษะแฝงเร้นแยกไปมากมายกับพวกเจ้าทั้งสอง แต่ได้รับพลังบริสุทธิ์กลับมาเพียงน้อยนิด” ราชันย์พันปีศาจดูเหมือนพยายามข่มความโกรธของเขา เขาสูดลมหายใจและเรียกความเย่อหยิ่งของเขากลับมา “ถ้าข้าไม่ฆ่าพวกเจ้าทั้งสองด้วยตัวเอง พลังที่ข้าเอามาก็จะหายไป พวกเจ้าทั้งสองมันคือเศษสวะที่ควรสับให้สุนัขกิน พวกเจ้าในตอนนี้ก็เหมือนกับพวกตัวตลก เป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นห้าจักรพรรดิแห่งหอทงเทียน แค่รอดชีวิตอยู่ได้ก็เลิศหรูสำหรับชีวิตพวกเจ้าแล้ว”
“พรวดด” เสียงหวี่กระอักโลหิต ตาของเขากลายเป็นสีดำและเขาสิ้นสติทันที
“ฆ่าเจ้า, ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” นาคราชสมุทรเก้าหัวเหวี่ยงหมัดอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาไม่เหลือแม้แต่แรงจะยืน
“พูดคุยกับพวกเจ้านับเป็นการดูถูกสติปัญญาข้าอย่างแท้จริง” ราชันย์พันปีศาจเบะปากอย่างรังเกียจบินขึ้นไปบนอากาศที่โดมทันที เขาค่อยๆ ดึงรูปกลุ่มดาวด้วยมือตนเอง ขณะที่เขาพยายามเปิดผนึกกลุ่มดาวที่โดม
ทันใดนั้นเขานึกอะไรบางอย่างได้ จึงหยุดและมองดูเย่ว์หยางซึ่งอยู่บนพื้นในสนามต่อสู้ “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ เจ้าจะไม่มายับยั้งข้าหรอกหรือ?”
เย่ว์หยางเล่นงานแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วไปยิ้มไป “ข้าไม่สามารถทำลายผนึกที่โดมได้ เมื่อท่านทำลายได้และรับเอาร่างของจ้าวปีศาจโบราณ ถึงตอนนั้นข้าค่อยมีส่วนร่วมก็ได้”
ราชันย์พันปีศาจมองอย่างเย็นชา “พ่อหนุ่ม อย่ามั่นใจเกินไป”
เย่ว์หยางชี้นิ้วไปที่ท้องฟ้าและตอบ “ข้ากำลังบอกเจ้า แย่งชิงคือทักษะแฝงเร้นของข้า!”