ตอนที่ 580 หอกวิ่งและพลังต้นกำเนิด
ถังเทียนไปเร็วมากจนอาเฮ่อต้องฉุดจิงหาวซึ่งมีความเร็วไม่พอมาพร้อมกันอาเฮ่อมีปีกมารอยู่ด้วยทำให้ตอนนี้เขาเร็วที่สุด
ที่อยู่ข้างถังเทียนก็คือเสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อฉุดถังเทียนกับหวังจุนเทียนและหยาหยามาด้วยและอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการออกแรงทั้งหมด ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือหลิงซิ่ว ไม่ใช่ความเร็วเท่านั้น แต่เป็นความก้าวหน้าของเขา
แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะเป็นละมั่งเขาดาบตัวหนึ่ง(พาหนะน้ำแข็งเงิน) และมันยังไม่กระตุ้นสายเลือดนักรบของมันถ้าต้องการให้มันถึงระดับเดียวกับบรรพบุรุษของมันจำเป็นต้องผ่านหลายศึกเพื่อหล่อเลี้ยงและสร้างประสบการณ์ให้กับมัน
หลิงซิ่วไม่มีความคิดอะไรมากเกี่ยวกับละมั่งเขาดาบก็เช่นเดียวกับที่เขาไม่มีความรู้เรื่องพาหนะน้ำแข็งเงิน เขาปฏิบัติตามเส้นทางของเขาเอง แต่ในเนื้อแท้เขารู้สึกรังเกียจต่อประเพณีของพาหนะน้ำแข็งเงิน
โลกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา พวกที่สูญหาย ก็สูญหายไปแล้วพวกที่ถูกทำลายก็ถูกทำลายไปแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองที่เป็นของคนอื่นมีอะไรที่เกี่ยวกับเขาด้วย?
ตำแหน่งของหอกจุดของเขามุ่งตรงไปที่แกนกลางต้นกำเนิดของเขาเอง
เขาวางแผนขอให้เซรีนช่วยสร้างพาหนะให้เขา แต่เซรีนวุ่นอยู่กับงานวิจัยค้นคว้าและไม่มีเวลาสร้างความพอใจให้เขา หลิงซิ่วเองเมื่อไม่ได้ดังใจก็ทิ้งเรื่องทั้งหมดไว้เบื้องหลัง
เร็วมากหลิงซิ่วพบวิธีทำให้พวกที่เหลือตกใจ
ควั่บ หอกเงินเป็นประกายวาบเหมือนสายฟ้า ร่างของเขาพุ่งไปตามหอกทำให้ร่างของเขาปรากฏห่างออกไป 60 เมตร หลังจากนั้นเขาแทงหอกอีกครั้ง ควั่บรังสีเงินอีกสายหนึ่งฉาย เขายังคงปล่อยหอกของเขา แสงเงินกระพริบอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
วิธีการไปข้างหน้าอย่างประหลาดนี้ให้ชื่อว่าหอกวิ่ง!
คนอื่นๆ คิดว่ามันต้องใช้แรงมาก แต่หลิงซิ่วที่มากระแวงกลับชอบหอกวิ่ง เขาสามารถไปข้างหน้าและฝึกฝีมือไปพร้อมกันยังมีอะไรที่ดีกว่านี้อีก?
เขาคำนวณแล้ว หนึ่งหอกไปได้ 60 เมตร600 เมตรคงจำเป็นต้องใช้ 10 หอก 6 กิโลเมตรจะต้องใช้ 100 หอก...
เหนื่อยไหม?
ถ้ากลัวเหนื่อยจะฝึกทำไม?มันสามารถฝึกความอดทนของเขาได้ นั่นคือแนวที่หลิงซิ่วเห็น
ถังเทียนมองดูหอกวิ่งของหลิงซิ่วขณะที่น้ำลายหก เด็กหนุ่มจอมห้าวรู้สึกอายมันคือวิธีที่ก้าวหน้าสะดุดตา เมื่อคิดว่าข้าไม่มีวิธีแบบนั้น ข้ายังจะสู้หน้าเสี่ยวซิ่วซิ่วได้อีกหรือ? ไม่ ไม่ข้าจะต้องมีอะไรอย่างนั้นบ้างให้ได้ หนุ่มชาวฟ้าต้องแข็งแกร่งรอบด้าน!
ถังห้าวเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจและเขาไตร่ตรองระหว่างทาง
ความจริงแม้แต่จิ่งหาวก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย จิ่งหาวบินได้ แต่เขาไปไม่ไว วิชากระบี่ปัจจุบันของเขาไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับความเร็วของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช้เวลามากกับวิทยายุทธ แต่ความเข้าใจเรื่องกฎของเขาลึกซึ้งที่สุดในบรรดาทุกคน เขารู้ว่าเขายังแทบไม่สะกิดผิวเพื่อทักษะของตัวเอง และเมื่อกระบี่ของเขาเพิ่มกฎในระดับที่สูงขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับความไวจะคลี่คลายได้ง่ายมาก
แทนที่จะเสียเวลาไปกับพื้นที่อื่น ข้าจะเพ่งกับการฝึกกระบี่แทนดีกว่า
บรรดาพวกเขาทุกคน อาเฮ่อเก็ยังผ่อนคลายการไปของเขาคล่องแคล่วสง่างาม เมื่อเพิ่มปีกมารขึ้นมาแล้ว เขากลายเป็นเสือติดปีกแม้วแต่เสี่ยวเอ้อก็ไล่ตามเขาไม่ทัน
“มีศัตรูอยู่ข้างหน้า” ถังเทียนกระแอมคอและโกน เขาม้วนแขนเสื้อเตรียมตัวรบใบหน้าของเขาตื่นเต้น เขากระตือรือร้นต่อสู้มานานแล้ว
หยาหยาที่อยู่บนไหล่ของถังเทียนร้องเสียงดังลั่น กำปั้นน้อยๆ ของเขาทุบใส่ที่หน้าอกเสียงดัง เสี่ยวเอ้อเหล่ตาดูที่ด้านข้าง จังหวะที่หยาหยาทุบอกตัวเองนั้นคุ้นเคยมาก เจ้าคิดว่าตัวเจ้าเป็นกลองหรือ เจ้าโง่!
หลิงซิ่วผู้มีนิสัยชอบสู้ก็ตื่นเต้นพอกัน เขาโห่ร้อง “ข้าจะแทงพวกมันให้ตาย! ให้ข้าลุยก่อน!”
ควั่บ แสงเงินระเบิดออกทันทีก็เหมือนกับแสงกระพริบ เขาพุ่งขึ้นไปอยู่หน้ากลุ่ม
จุดไม่กี่จุดย่นระยะอย่างรวดเร็วและสิ่งที่รับพวกเขาอยู่ก็คือรอยยิ้มที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายน่ากลัวของหลิงเซิ่ว
ทั้งสองฝ่ายไม่มีความคิดจะช้าลงอยู่แล้ว พวกเขาพุ่งตรงเข้าหากัน
ชุดยาวขาวและผมสีขาวดุจหิมะของเขาเต้นสะบัดอยู่ในอากาศ หน้าของเขาแสดงถึงความบ้าระห่ำ ดวงตาสีส้มหยีลุกโชน ขณะที่หอกเงินในมือของเขายังคงเหมือนกับเหล็กหลอมที่ลอยได้ในมือคู่สีเงิน ความชัดเจนของการเผาไหม้และความเยือกเย็นผสมผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นฉากที่ตึงเครียดมาก
ความรู้สึกถึงพลังที่พลุกพล่านอยู่ในร่างของเขา เขาโน้มตัวและพุ่งไปข้างหน้าเหมือนสัตว์ร้าย หลังจากฝึกฝนขัดเกลาตนเองผ่านมาสองสามวัน ทำให้พลังร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก สนามพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งที่สุดในพวก ยังแข็งแกร่งมากกว่าจิ่งหาว เพราะเขาเปลี่ยนแปลงเป็นเงิน ในการต่อสู้ที่สิ้นหวังในเจ็ดดาวเหนือ ศักยภาพของเขาทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเหตุให้การเปลี่ยนสภาพเป็นเงินของเขาเกิดขึ้นถี่ ทำให้สนามพลังวิญญาณของเขากลับกลายเป็นแข็งแกร่งมากขึ้น
เส้นทางของเขาแตกต่างมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ร่างพลังกายเป็นศูนย์ทำให้เขาสูญเสียพลังงานทั้งหมดในร่างกาย เนื่องจากมันถูกบังคับให้เก็บกักอยู่ในสนามพลังวิญญาณของเขาดังนั้นจึงเป็นการสร้างมรรคาวิชาใหม่ จากเท่าที่เห็น พลังงานที่เก็บไว้ในสนามพลังวิญญาณมีเพียงพลังงานครึ่งเดียวที่เก็บไว้ในตันเถียนของเขา มันดูเหมือนกับว่าอ่อนแอลง แต่หลิงซิ่วรู้ เป็นเพราะความกว้างใหญ่ของมัน
พื้นที่ในตันเถียนไม่สามารถขยายได้และสนามพลังวิญญาณสามารถแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ไม่มีหยุด
เส้นทางสายใหม่นี้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถปฏิบัติตามมรดกของเขาได้เลย แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย พลังของเขาไม่ได้มาจากมรดกแม้แต่น้อยทุกเส้นประสาทของเขามาจากเหงื่อที่เปียกโชกของเขา
เหงื่อที่ไม่เคยโกหก
มาเลย!
กลุ่มที่อยู่ข้างหน้ากำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง และเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ทั้งสิบคนถอยกลับอย่างรวดเร็วและตั้งกระบวนรูปกระสวย ควั่บ ทั้งหมดเปล่งแสงออกมารวมเป็นเนื้อเดียวกันกลายเป็นแสงรูปกระสวยขนาดใหญ่
หัวหน้ากลุ่มที่อยู่ข้างหน้าตะโกน “ฆ่า!”
หัวหน้ากลุ่มผู้นี้สังเกตหลิงซิ่วได้แต่แรก รังสีฆ่าฟันที่เปล่งออกมาจากเขาทำให้หัวใจเขารู้สึกยะเยือก และเมื่อเขาโจมตี เขาก็ไม่ถอยแม้แต่น้อย
รังสีกระบี่รูปนกนางแอ่นนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากกระสวยแสงทันที และโปรยลงใส่ราวกับสายฝนขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าหาหลิงซิ่ว
แสงรังสีกระบี่นางแอ่นทำให้หน้าของหลิงซิ่วเป็นประกาย ขณะที่ดวงตาที่เรียวและสีส้มของเขาเปล่งประกาย เปลวไฟเริ่มลุกขึ้นเหมือนชั้นหินบางทะลุผ่านปากปล่องภูเขาไฟ มันไหลมาคลุมทัศนวิสัยของเขา
หลิงซิ่วปัจจุบันนี้เหมือนกับลูกตุ้มหนามที่มีเพลิงลุกร้อนแรง
“ตาย!”
เขาโห่ร้องห้าวหาญนิ้วของเขาปั่นหมุนหอกเงิน กระแสพลังและพลังงานระเบิดออกมาจากหอกเงินของเขาในช่วงเวลาเดียวกัน
พายุรังสีหอกปะทะใส่กลุ่มรังสีกระบี่รูปนกนางแอ่น
รังสีแตกกระจัดกระจายอยู่ในอากาศล่องลอยอยู่ในอากาศเหมือนหิมะ
หัวหน้ากลุ่มในรังสีรูปกระสวยไม่อยากเชื่อสายตาของเขาเอง เป็นไปได้ยังไง?
แทบจะทันใดนั้นรังสีกระบี่ลดลงไปกว่าครึ่งคู่ต่อสู้ของเขามีแค่เพียงคนเดียวปลดปล่อยพลังหอกได้มากมายขนาดนั้นเหนือกว่าพวกเขารวมกัน เป็นไปได้ยังไง....
ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น ระยะระหว่างพวกเขาสั้นลงเหลือเพียง18 เมตร เบื้องหลังพายุเงินเป็นใบหน้าที่ห้าวหาญบ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด
หัวหน้ากลุ่มผู้มีประสบการณ์การรบมากมายตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธระหว่างที่ยังตกใจ เขากวัดแกว่งมีดสั้นนางแอ่นในมือเพื่อดึงดูดอากาศ สมาชิกอีกเก้าคนด้านหลังเขาชักมีสั้นนางแอ่นออกมาเช่นกัน
“นางแอ่นโจมตี!”
หัวหน้ากลุ่มรวบรวมความแข็งแรงของเขาทั้งหมดกรอกตาจ้อง พวกเขาแทงมีดสั้นนางแอ่นของพวกเขาออกไป
มีดสั้นทั้งสิบเล่มแทงออกมาพร้อมกัน!
กระสวยแสงหมองลงร่างนกนางแอ่นขนาดใหญ่ส่งเสียงร้องหวีดหวิวบินออกจากกระสวยแสงด้วยความเร็วแสงตรงเข้าหาหลิงซิ่ว
ดวงตาเปลวเพลิงของหลิงซิ่วเป็นประกายวูบวาบมากยิ่งขึ้น สีหน้าของเขายิ่งดูเหมือนคลั่งมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญกับการโจมตีอย่างนั้นเขาคงสับสนและงุ่มง่าม แต่หลังจากถูกสือเซินเคี่ยวเข็ญอยู่หลายวันเขาจะไม่มีความก้าวหน้าได้ยังไง?
และพวกเจ้า...เมื่อเทียบกับสือเซินแล้ว พวกเจ้ายังอ่อนกว่า...
รังสีเงินครอบคลุมเต็มท้องฟ้ากลายเป็นเรื่องง่ายขณะที่พวกเขาเดินหน้าเข้าหากลุ่มรังสีเยือกเย็น รังสีเยือกเย็นนี้ไม่มีท้ายตามหลังเนื่องจากมันลายพลิ้วเหมือนฝนเงิน แต่มันเป็นกลายเป็นบอลกลมมีแสงสว่างในตัวหมุนปั่นคล้ายกับดาวฤกษ์
รังสีหอกของข้าหลอมรวมเป็นดาวดวงหนึ่ง
ต้นกำเนิดพลังของข้าจะทำลายสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติทั้งหมด
ต้นกำเนิดพลังแทงซึ่งเป็นไม้ตายเก่าของหลิงซิ่วหลังจากผ่านการพัฒนาและขัดเกลาแล้ว จึงออกมากลายเป็น พลังแทงต้นกำเนิดดารา
ชี่!
นางแอ่นถูกทะลวงทะลุ พลังแทงต้นกำเนิดดวงดาวยังมีแรงเฉื่อยต่อพุ่งเข้าไปในรังสีรูปกระสวย
ดวงดาวระเบิดรังสีหอกนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากทุกทิศทาง สมาชิกทุกคนที่อยู่ภายในรังสีรูปกระสวยไม่มีเวลาตั้งตัวและถูกแทงทะลุทั่วทั้งตัวราวกับรูกระชอน
พวกเขาสูญเสียการควบคุมพลังในร่างทันที
ปัง!
กระสวยแสงทั้งหมดระเบิดรวมทั้งรังสีดาบนกนางแอ่นที่พวกเขาสร้างขึ้นก่อนนั้นด้วย
ลูกไฟขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ทั้งกลุ่มถูกกำจัดไปหมด ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว
นี่ยังคงเป็นความแตกต่างระหว่างดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และสวรรค์วิถี ผู้คนจากสวรรค์วิถีจะเก็บพลังงานไว้ในตันเถียน แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพลังงานมากมายเหมือนคนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่หลังจากเส้นชีพจรพวกเขาถูกชำระสะอาดก็มีความมั่นคงยิ่งขึ้น และมีโอกาสต่ำที่จะมีการเผาไหม้ แต่คนจากดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เหมือนถุงใส่พลังงานและจะระเบิดได้ง่ายมาก
ตลอดการรบทั้งหมดถังเทียนและพวกที่เหลือไม่ได้เข้ามาห้ามและยังคงรักษาความเร็วในการรุดหน้าต่อไป
การแสดงฝีมือของหลิงซิ่วทำให้ถังเทียนเลือดลมพลุกพล่าน เขากางแขนและสูดหายใจเต็มปอดและตะโกนเน้นทีละคำ“เสี่ยว..ซิ่ว...ซิ่ว!”
หลิงซิ่วที่เพิ่งจะอวดผลงานที่โดดเด่นอย่างห้าวหาญแทบจะหัวคะมำทันใด
เจ้าบ้านี่....
อาเฮ่อสังเกตเห็นกลุ่มในระยะไกล เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “เตรียมประจัญบาน”
คงเป็นเรื่องยากจะทำลายและจัดการสร้างความตื่นตกใจให้กับกองทัพที่มีคน500 ด้วยกำลังคนไม่กี่คน และภารกิจปัจจุบันของพวกเขาก็คือเมืองเป่ากวง สำหรับกองทัพเหมาะจะให้ทหารผ่านศึกอย่างสือเซินรับมือ ดีที่ตำแหน่งของศัตรูอยู่ทางด้านขวางของเขาและมีระยะห่างระหว่างพวกเขามากจึงยังไม่ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา
ซุนเจี๋ยคาดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มเล็กๆจะถูกกำจัดทันทีที่พวกเขาปะทะกัน พลังของคู่ต่อสู้เหนือกว่าที่เขาคาดไว้ พวกเขาเป็นยอดฝีมือ!
เขาลอบประหลาดใจ คนของเขา 500 คนในทุกคนจะมีฝีมือดีกันทั้งนั้น และผ่านการคัดเลือกมาหลายระดับและยังผ่านการสู้รบในสงครามจริงมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่ควรมีคู่ต่อสู้ที่คู่ควรในทวีปซางโจว นอกจากนี้ แค่เพียงปะทะครั้งเดียวทั้งสิบคนก็ถูกฆ่าเชียวหรือ?
นักสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น เขาคงไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงแน่นอน
ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้นบริวารคนอื่นของเขาก็ประหลาดใจพอกัน ในกองทัพคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นปกติจะไม่ถูกเลือกให้เป็นหน่วยลาดตระเวน
ซุนเจี๋ยเสียใจเล็กน้อยที่เขาไม่นำหน่วยลาดตระเวนมาอย่างเพียงพอในครั้งนี้ หน้าของเขาเขียวคล้ำ เขาออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว “หมวดสอง ไปหยุดพวกมันเอาไว้”
“ขอรับ!”
หมวดสอง 50 คนแยกออกจากกลุ่มใหญ่และพุ่งเข้าหาพวกเขาทันที
จิ่งหาวชำเลืองมองกองกำลังที่กำลังจะมาถึง เขาพูดเบาๆ “อาเฮ่อ, ไปกันเถอะ”
“ได้เลย!”
ขณะที่เขาตอบ ปีกมารสั่นเล็กน้อยอาเฮ่อพาจิ่งหาวหายวับไปทันที
ชั่วเวลาต่อมาพวกเขาก็มาปรากฏอยู่ข้างกองกำลังนั้นและทั้งสองก็แยกกันทันที
กองร้อยหมวดสองคาดไม่ถึงว่าศัตรูไม่ยอมถอยแต่กลับโจมตีพวกเขาก่อนแทน
ในกลางอากาศ อาเฮ่อถือกระบี่และร่ายรำย่างก้าวของเขาลึกซึ้งและยากจะเข้าใจชุดดำของเขากระพืออย่างสง่างามคล้ายกับกระเรียนดำเริงระบำ สีหน้าของเขาดูน่านับถือและสายตาของเขาเหมือนกับน้ำที่ใสกระจ่าง กระบี่กระเรียนในมือของเขา วิชากระบี่ของเขาเป็นสุดยอดวิชา กลิ่นอายโบราณดูเหมือนกระจายออกมาตามจังหวะเคลื่อนไหวของเขา กระแสพลังที่โบราณป่าเถื่อนค่อยๆแพร่กระจายจากกระบี่เข้าไปในตัวของเขา
เมื่อตระหนักถึงปราณที่ระเบิดออกมาอาเฮ่อกางแขนขาเหมือนกับกระเรียนดำทะยานฟ้า
ระลอกพลังไร้ลักษณ์กระเพื่อมออกมาโดยมีร่างของเขาเป็นศูนย์กลางขณะที่มันถูกสร้างและหายไปอย่างเงียบๆ
หัวหน้าหมวดหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ นั่นมันวิทยายุทธแบบไหนกัน? เขาไม่เคยพบเจออะไรแบบนั้นมาก่อน พลังงานงานที่มีอยู่ทั่วรอบตัวในหน่วยดูเหมือนจะลดลง!
จิ่งหาวที่ยังอยู่ในอากาศตาของเขาสงบไม่มีกระเพื่อม กระบี่ในมือของเขาสั่นเล็กน้อย มันกระหายและใจร้อนมานานแล้ว
เพราะชื่อของมันคือ ดื่มเลือดเซียน!