ตอนที่ 576 คำสาป
บุรุษนั้นที่แต่งตัวเหมือนหมอผีประจำเผ่าพุ่งเข้าหาไห่อิงอู่รวดเร็วราวสายฟ้า
ไห่อิงอู่ไม่ได้ก้าวถอยแม้สักนิด
ด้านหลังนางมีพะยูนนรกสองตนถือดาบยาวสองเล่มอยู่ในมือกวัดแกว่งดาบอย่างรวดเร็วและป้องกันอยู่หน้านาง ขณะที่พวกมันควงดาบอยู่หน้านางและโจมตี บุรุษที่แต่งตัวเป็นหมอผีเผ่าทะเลค่อยๆ เหยียดมือซ้ายกดลงพื้น พลังอำนาจพิเศษแผ่ออกมาจากมือซ้ายของเขา แม้ว่าพื้นที่จะไม่ใหญ่นัก และมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ ยี่สิบเมตร แต่พะยูนนรกทั้งสองและเขาก็ตกอยู่ในความเงียบ เหมือนกับว่าอากาศในพื้นที่นั้นหยุดนิ่ง นั่นคืออำนาจของสนามพลัง
หนึ่งบุรุษกับสองอสูรไม่ขยับสักนิ้วในพื้นที่นั้น
บุรุษผู้อยู่ในชุดหมอผีเผ่าทะเลลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ พะยูนนรกทั้งสองชะงักอยู่ในท่าโจมตีมือถือดาบยาว
พะยูนนรกที่ทรงพลังที่สุดทั้งสองถูกควบคุมไว้แล้ว นาคราชสมุทรเก้าหัวและเสียงหวี่ที่แข็งแกร่งทรงพลังรู้สึกสบายใจ แม้ว่าการปรากฏตัวของพะยูนนรกจะไม่ได้คาดเอาไว้ แต่เมื่อคนผู้นั้นอยู่ที่นี่จึงไม่มีปัญหา ความจริงบุรุษผู้นั้นมาเพื่อจัดการกับผู้พิทักษ์ทั้งสองคือฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่ว แต่เพราะการปรากฏตัวของราชินีแมงกะพรุน แผนการจึงเปลี่ยนไป
ไม่มีใครรู้ว่าราชินีแมงกะพรุนพูดอะไรกับฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วเพื่อชักจูงให้พวกเขาฆ่าปีศาจสองพี่น้อง
การฆ่าปีศาจสองพี่น้องดูเหมือนเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่เหมือนกับว่าพวกเขาเสียนักสู้ไปสองคน
แต่ความจริงก็คือกลุ่มผนึกบนเพดานรูปท้องฟ้าจะเกิดความไม่สมดุลได้ ถ้าผนึกในคุกแสงสีดำไม่มีความเสถียร... ถ้าฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วฆ่าปีศาจสองพี่น้องจะทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังงานไปมาก เมื่อพวกเขาไปยังหุบเขาลมยะเยือกเพื่อปราบแม่ทัพปีศาจเยี่ยนสั่ว พวกเขาถูกทอนพลังไปมาก ต่อให้พวกเขากลับมา พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดคนที่มาเปิดผนึกกลุ่มดาวไม่ได้ และชิงร่างที่สมบูรณ์ของจ้าวปีศาจโบราณไป
“ตายซะเถอะ นังแพศยา!” นาคราชสมุทรเก้าหัวเพิ่มระดับพลังเป็นปราณก่อกำเนิดระดับเก้า เขารู้สึกว่าเขาสามารถรับมือราชินีแมงกะพรุนได้แม้ว่าเขาจะไม่ได้แปลงอยู่ในร่างปีศาจ
นาคราชสมุทรเก้าหัวโบกมือล่อหลอกจากนั้นเตะ
เขาเตะท้องน้อยของราชินีแมงกะพรุนด้วยพลังที่รุนแรง
ราชินีแมงกะพรุนกระเด็นถอยหลังไปสิบเมตร
เลือดไหลออกจากปากนาง แต่นางยังคงมีสายตาแน่วแน่ยืดตัวยืนตรง เท้านางยังคงติดอยู่กับพื้น
สีหน้าของราชินีแมงกะพรุนเหมือนกับว่าไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย นางยังรักษาท่าทีดูถูกเหยียดหยามนาคราชสมุทรเก้าหัว..... เมื่อเห็นสีหน้านางทำให้นาคราชสมุทรเก้าหัวรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาอารมณ์แย่ที่สุดเท่าที่เคยประสบมาในชีวิต เสียงหวี่เตรียมพุ่งเข้าใส่ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยน แต่ก็หยุดอยู่กับที่ทันที เมื่อเขาเห็นลักษณะการจ้องมองของราชินีแมงกะพรุน ความรู้สึกเย็นวาบในตัวเขา ความโกรธอย่างหนึ่งในท่าทีของนางมีลักษณะไม่มีความเกลียด ไม่มีลักษณะของผู้แพ้หรืออ่อนแอแต่อย่างใด กลับเป็นเหมือนผู้ชนะหรือนักสู้ที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด เสียงหวี่รู้สึกว่าเขาเห็นเห็นมดกำลังทำท่าคุกคาม เดินไปรอบๆ เขาจะมีลักษณะท่าทางรังเกียจและดูถูกเช่นเดียวกับราชินีแมงกะพรุน
ใช่แล้ว นั่นคือการดูถูก
เสียงหวี่เห็นได้อย่างชัดเจนในดวงตาของราชินีแมงกะพรุนว่ามีท่าทางเย้ยหยันดูแคลน
“สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือท่าทีเช่นนั้นของเจ้า ไปตายซะ!” นาคราชสมุทรเก้าหัวกระโจนเข้าหาเหมือนคนบ้า
“สวะ!”
ราชินีแมงกะพรุนพ่นคำเย็นชาเช่นนี้ออกมา เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
มือของนางไม่ได้ป้องกันแต่อย่างใด นางแค่หลบหมัดของนาคราชสมุทรเก้าหัวช้าๆ จากนั้นขณะที่คู่ต่อสู้กำลังปล่อยหมัด นางคว้าคอของนาคราชสมุทรเก้าหัวและทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนแรง
บึ้ม!
แรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่กึกก้องไปทั่วทั้งพื้นที่ กลุ่มดาวที่อยู่เหนือโดมได้รับผลกระทบไปด้วยและเริ่มหมองลง
นอกจากเย่ว์หยางที่จับตามองดูโดมเพดานแล้ว ไม่มีคนอื่นมีเวลาดูเหนือหัวของพวกเขา
นาคราชสมุทรเก้าหัวต้องการลุกขึ้นยืน
แต่ราชินีแมงกะพรุนใช้เท้านางเหยียบหัวของเขากดลงพื้น “สวะอย่างเจ้าสมควรเป็นแค่สุนัขเท่านั้น! ถ้าเจ้ากระดิกหางดีๆ ข้าจะให้กระดูกชิ้นหนึ่งเป็นรางวัลเจ้า แต่เจ้ากลับจำเจ้าของตัวเองไม่ได้และเห่าใส่เป็นบ้าเป็นหลัง นั่นจะนำความตายมาให้เจ้าได้”
“นังแพศยา....”
นาคราชสมุทรเก้าหัวโกรธจัดจนเขาเริ่มสั่นไปทั้งตัว เขาไม่เคยคิดเลยว่าราชินีแมงกะพรุนจะสามารถเหยียบศีรษะเขาได้หลังจากเขาได้รับพลังปีศาจมาแล้ว
นี่เป็นเรื่องน่าอับอายครั้งใหญ่
พลังปีศาจที่เพิ่งได้รับมาระเบิดออก และทั้งร่างของเขาเริ่มกลายสภาพเป็นปีศาจ
พลังงานปีศาจซึ่งมีระดับอุณหภูมิที่สูงถูกปลดปล่อยออกมาจากร่าง พลังความโกรธที่ร้อนแรงระเบิดออกมาเพียงพอทำให้พื้นระเบิดได้ นาคราชสมุทรเก้าหัวได้รับพลังปราณก่อกำเนิดระดับสิบทันที เขาโงหัวขึ้นมาด้วยความโกรธ เขาค่อยยกตัวราชินีแมงกะพรุนที่ยังคงเหยียบคอเขาอยู่.. และคอของเขามีเสียงกระดูกลั่นเหมือนกับจะแตกหัก แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าไม่สามารถโงหัวขึ้นได้สำเร็จเมื่ออยู่ต่อหน้าราชินีแมงกะพรุน เขาไม่สามารถฟื้นคืนความภาคภูมิใจได้เลย
“เจ้าโง่!” ราชินีแมงกะพรุนเพิ่มพลังอีกสิบเท่าเหยียบเขา นาคราชสมุทรเก้าหัวจมลงไปในพื้นทันที
“หือ, อ๊า....” นาคราชสมุทรเก้าหัวดิ้นรนครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ทุกครั้งที่เขาโงหัวหลังจากใช้เรี่ยวแรงมาก ราชินีแมงกะพรุนจะใช้ความเร็วที่มากกว่าและพลังที่มากกว่าย่ำเขาจนจมลงไปในพื้น ถึงตอนนี้นาคราชสมุทรเก้าหัวจึงค่อยตระหนักว่าพลังของราชินีแมงกะพรุนมิได้ด้อยไปกว่าพลังปีศาจที่เขาได้รับมา และอาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ
ถ้านาคราชสมุทรเก้าหัวมาตามลำพัง การต่อสู้ครั้งนี้คงจบไปแล้ว
แต่ยังคงมีนักรบเผ่ามีปีกที่ทรงพลังอย่างเสียงหวี่ยืนถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ใกล้ๆ
ตอนแรกเสียงหวี่ต้องการจะหลบหนี
สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีสำหรับเขา ราชินีแมงกะพรุนมีพลังมากกว่าที่เขาคาด
แต่บุรุษผู้นั้นยังคงอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากบุรุษผู้นี้ ด้วยการพ่ายแพ้ของนาคราชสมุทรเก้าหัวพันธมิตรของเขา นอกเหนือจากความจริงที่ว่าเขาได้รุกรานเป็นศัตรูกับราชินีแมงกะพรุนแล้ว บัลลังก์ของจักรพรรดิฟ้าคงจะไม่มีทางสำเร็จได้
หลังจากคิดแล้ว เสียงหวี่ผู้ถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จับกระบี่แน่นและตัดสินใจสู้ต่อ
ถ้าเขาทำได้สำเร็จ อย่างนั้นเขาก็มีโอกาสได้เป็นจักรพรรดิฟ้า
“ฆ่า.....”
เสียงหวี่เพิ่มระดับพลังจนสูงสุด และใช้พลังทั้งหมดที่เขามีในร่างกาย ด้วยกระบี่แสงศักดิ์สิทธิ์คู่มือของเขา มนุษย์วิหคและอาวุธผสานเข้าด้วยกันและพุ่งตรงเข้าหาราชินีแมงกะพรุน
เขาไม่ได้หวังว่าจะสามารถฆ่าศัตรูได้ แต่ทำเพื่อช่วยเหลือนาคราชสมุทรเก้าหัวพันธมิตรของเขา
ถ้าทั้งสองร่วมมือกันสู้ราชินีแมงกะพรุน พวกเขาอาจมีโอกาสชนะ ตราบใดที่พวกเขาโต้ตอบเอาชนะได้ ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยนก็ไม่มีอะไรสำคัญ เมื่อร่างสมบูรณ์ของจ้าวปีศาจโบราณถูกปลดปล่อยจากผนึกบนโดม ตำแหน่งจักรพรรดิฟ้าของหอทงเทียนจะตกอยู่กับเขาแน่
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับมีไฟฟ้า
ภายใต้การโจมตีของเสียงหวี่อย่างสุดกำลัง เขาแทงราชินีแมงกะพรุนได้สำเร็จจริงๆ.. สิ่งที่ทำให้เสียงหวี่แปลกใจยิ่งกว่าก็คือราชินีแมงกะพรุนไม่ได้พยายามจะหลบเขา เหมือนกับว่านางมองไม่เห็นการโจมตีที่เข้ามาถึง
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์คมอย่างไม่มีอะไรเปรียบ มันแทงราชินีแมงกะพรุนจากด้านหลังทะลุออกอีกด้านหนึ่ง
เสียงหวี่ตะลึง เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น
เขาฆ่าราชินีแมงกะพรุนได้ในกระบี่เดียวหรือนี่?
ทำไมนางไม่หลบ?
ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยนกรีดร้องในใจ พวกนางไม่อยากเชื่อเช่นกัน ราชินีแมงกะพรุนจะตายหรือ?
มีเพียงเย่ว์หยางที่รู้เหตุผลแท้จริงถอนหายใจเบาๆ เขาสามารถห้ามมิให้นางทำเช่นนี้ แต่เขาเคารพความปรารถนาสุดท้ายของนาง เขามองดูอย่างเงียบๆ นางจะรับมือศึกนี้เอง เนื่องจากเวทีต่อสู้นี้จะเป็นฉากสุดท้ายของราชินีแมงกะพรุน
ไห่อิงอู่มีความรู้สึกแปลกๆ นางเกลียดสตรีผู้นี้ เนื่องจากนางฆ่ามารดาของนางและบิดานาง
ก่อนหน้านี้ นางไม่สามารถรีรอที่จะฆ่านางด้วยมือตัวเอง แต่เมื่อเห็นนางถูกกระบี่แทงหัวใจ นางกลับไม่อาจทนมองได้
“อ๊า..” ราชินีแมงกะพรุนยังเหยียบนาคราชสมุทรเก้าหัวไว้ เขาต้องการถือโอกาสหลบหนี
“หนอนสกปรกอย่างเจ้าเหมาะกับดินโคลนใต้ฝ่าเท้าข้าเท่านั้น...” ราชินีแมงกะพรุนเหยียบศีรษะของนาคราชสมุทรเก้าหัวอีกครั้ง เหมือนกับว่านางไม่เห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่เสียบทะลุอกนาง นางยังคงถือตัวว่า ‘ข้าควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้แล้ว’ สายตาของนางยังคงแฝงด้วยความลำพอง
“ทำไม?” เสียงหวี่สั่น เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมราชินีแมงกะพรุนถึงไม่หลบเขา ในเมื่อนางสามารถทำได้ ทำไมนางไม่หลบพลังโจมตีที่รุนแรงของเขา?
“มีคำสาปที่ไม่อาจถอนได้อยู่ในตัวข้า เพราะข้าใช้พลังต้องห้ามที่ข้าไม่สมควรใช้ออกมา คำสาปนี้จะตกทอดไปยังลูกหลานข้าเมื่อข้าตาย แน่นอนว่าข้าไม่ต้องการให้ลูกหลานข้ารับคำสาปนี้ไปด้วย ดังนั้นข้าจึงเลือกเจ้า! ใครก็ตามที่ฆ่าข้าจะได้รับคำสาปไปด้วย” เมื่อราชินีแมงกะพรุนพูดจบประโยค หน้าของเสียงหวี่เขียวคล้ำทันที เขากลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ
เขาปล่อยกระบี่ศักดิ์สิทธิ์และถอยออกมา
และยกมือทั้งสองดู
และรู้ได้ทันทีว่ามีจุดแปลกประหลาด สีดำอยู่บนมือของเขา มันเหมือนกับภาพเขียนอักษรรูนไหม้ลึกอยู่ในผิว เนื้อ กระดูกและกระทั่งวิญญาณของเขา
เสียงหวี่คุกเข่ากับพื้นอย่างเจ็บปวด ร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง “ไม่... เจ้าจะทำอย่างนี้กับข้าไม่ได้...”
“มีทางเลือกหลายอย่างในชีวิต เมื่อเจ้าเลือกผิด ก็ไม่มีอะไรย้อนกลับได้” ราชินีแมงกะพรุนปาดรอยเลือดของนางและกระบี่ศักดิ์สิทธิ์หลุดออกจากร่างนางร่วงลงต่อหน้าเสียงหวี่ “เจ้าก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของข้า ตั้งแต่เวลาที่เจ้าปลอมตัวเป็นขุนพลสมุทรและเข้ามาที่นี่ เจ้าก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องตาย”
“ไม่, ข้าจะจบลงแบบนี้ไม่ได้ ข้าควรจะได้เป็นผู้ปกครองทวีปหมิงกวง ข้าควรจะได้เป็นห้าจักรพรรดิแห่งหอทงเทียน” เสียงหวี่ชูกระบี่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเศร้าโศก ขณะที่มือของเขาสัมผัสกระบี่แสงศักดิ์สิทธิ์ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกกับจะปนเปื้อนกับพลังงานวิญญาณที่ชั่วร้าย กลายสภาพเป็นหมองและมืดลง กระบี่เปลี่ยนสภาพไปเป็นกระบี่ปีศาจรูปกระดูกมนุษย์ มีรูปร่างเหมือนกับกระดูก เมื่อเสียงหวี่ชูกระบี่ขึ้น น้ำตาเขาร่วงทันที ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าความฝันที่จะได้เป็นจักรพรรดิฟ้าจะไม่มีทางเกิดขึ้น...
“คนผู้หนึ่งอาจเป็นคนเขลาได้ แต่การใช้ความเขลานี้สำคัญผิดว่ามีพลังควบคุมได้อย่างแล้ว ก็ย่อมเป็นตัวโง่งมงาย” ราชินีแมงกะพรุนคำราม “เจ้ารู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต? นั่นก็คือการไม่รู้ว่าเจ้ายืนอยู่ตรงจุดไหนและยังเชื่อว่าตัวเองไม่ผิดพลาดอีกด้วย”
“นางแพศยา, เสียงหวี่ ฆ่านังแพศยาโง่นี่ซะ ไม่ว่าเราจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจก็ตาม ตราบใดที่เรามีพลัง เราก็ยังเป็นเทพเจ้า” นาคราชสมุทรเก้าหัวดิ้นรนสุดกำลัง แต่เป็นความพยายามที่ไร้ผล เขาไม่สามารถดิ้นรนออกมาจากใต้เท้าของราชินีแมงกะพรุนได้
แม้รู้ทั้งรู้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำได้
เสียงหวี่เงื้อกระบี่อย่างสิ้นหวัง
เขาฆ่าตัวเองไปแล้ว
เขารู้สึกว่าความคิดของเขาเป็นเหมือนติดขัดไปหมดเมื่ออยู่ต่อหน้าราชินีแมงกะพรุน
“ถ้าเจ้าฆ่าตัวเอง ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่ตายเท่านั้น แต่คำสาปจะลามไปทั่วทั้งเผ่าพันธุ์ของเจ้า เจ้าจะมีชีวิตอยู่พันปีเพื่อรับผลสะท้อนจากคำสาปที่เจ็บปวดทรมาน” เมื่อราชินีแมงกะพรุนพูดเช่นนั้น เสียงหวี่เข่าอ่อนอยู่กับพื้น เหมือนกับว่าวิญญาณของเขาหลุดออกจากร่างและเขาเป็นเหมือนศพที่เดินได้
“ปล่อยข้านะ..นังแพศยาหน้าโง่ ข้าจะฆ่าเจ้า” นาคราชสมุทรเก้าหัวยังคงดิ้นรนอยู่ใต้เท้าราชินีแมงกะพรุน แต่ไม่สามารถดิ้นหลุดได้
“เจ้า, จงมาตรงนี้” ราชินีแมงกะพรุนชี้ไห่อิงอู่ผู้กำลังยืนมองดูการต่อสู้อยู่ห่างๆ
“ข้าหรือ?” ไห่อิงอู่ตะลึง สีหน้าของนางมีแววประหลาดใจ