ตอนที่แล้วตอนที่ 17-28 เสรีภาพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-30 ล้อมโจมตี

ตอนที่ 17-29 ร่วมกองกำลัง


ลึกเข้าไปในเทือกเขาสกายไรท์ อสูรโลหิตรูปนกฟีนิกซ์ดำกำลังลอยนิ่งอยู่กับที่ อสูรโลหะยักษ์ขนาดภูเขาย่อมๆ ลอยนิ่งอยู่ในท้องฟ้า ตอนนี้มีคนค่อนข้างมากกำลังเข้าไปในอสูรโลหะ

ในหน้าผาใต้อสูรโลหะ มีคนกลุ่มใหญ่กำลังเดินมาเป็นกลุ่มเพื่อส่งครอบครัวและสหาย

บรรดาคนเหล่านั้นมีทั้งทารอส ไดลิน โอเบรียน บีบี เดเลียและคนอื่น ทุกคนยืนอยู่ข้างลินลี่ย์

“ทารอส ไดลิน โอลิเวอร์ เดินทางอย่างระมัดระวังด้วยนะ หลังจากพวกเจ้าไปถึงเมืองเมียร์ เมื่อมีเวลาพวกท่านต้องกลับมาเยี่ยม ข้าคงคิดถึงพวกท่านทุกคนมาก” ลินลี่ย์มองคนเหล่านี้พลางหัวเราะ หลังจากเขากลับไปและบอกเดเลียว่าพวกเขาสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ ลินลี่ย์ก็เข้าใจ...

ว่าแม้ว่าเดเลียและบีบีจะเพียงแค่ไปเยี่ยมเยือนและคงกลับมา แต่ทารอส ไดลิน ซีซาร์และคนอื่นคงเตรียมโยกย้ายไปอยู่ที่เมืองนั้น

“แน่นอน!” ไดลินพูดอย่างเกรงใจ “ลินลี่ย์! ความจริงเดิมทีเราต้องการอยู่ในที่ของเจ้า แต่การควบคุมในภูเขาสภายไรท์เคร่งครัดมาก และเราไม่ใช่สมาชิกของเผ่าเจ้า ดังนั้นเราจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกหุบเขาหรือเดินทางรอบๆ นั้นก็เลย...”

“ข้าเข้าใจ ไม่ต้องพูดต่อไปอีกแล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะ

ในใจของเขาได้แต่ลอบทอดถอนใจ

เนื่องจากการต่อสู้กับแปดตระกูลใหญ่ ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ต้องคอยป้องกันความเป็นไปได้ที่จะมีสายลับเข้ามาอย่างเคร่งครัดเสมอ เว้นแต่มีสถานการณ์พิเศษ คนในเผ่าไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางอย่างอิสระ ขณะที่ทารอส และไดลิน พวกเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของเผ่า ดังนั้นทหารลาดตระเวนจึงจับตาดูพวกเขาเป็นพิเศษ

ทารอสและคนอื่นไม่มีอะไรทำ แต่ไม่สามารถเดินทางไปในที่อื่นจึงได้แต่นั่งอยู่กับที่เหมือนกับเป็นนักโทษในเรือนจำ

“เป็นความผิดของข้าที่ละเลยเรื่องนี้” ลินลี่ย์กล่าวขออภัย

“ลินลี่ย์ อย่าพูดอย่างนั้น” ทารอสรีบกล่าว ในใจพวกเขา ลินลี่ย์เป็นผู้ช่วยชีวิตพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมีแต่ซาบซึ้งขอบคุณลินลี่ย์ “ลินลี่ย์, ในอนาคตเมื่อเจ้ามีเวลา เจ้าต้องมาเมืองเมียร์ มาเยี่ยมพวกเรา”

“แน่นอน” ลินลี่ย์พยักหน้า

“งั้น..พวกเขาจะไปกันละนะ”

ทารอส ซีซาร์ โอลิเวอร์ ไดลินและลูกๆ ... คนเหล่านี้อำลาลินลี่ย์ จากนั้นบินขึ้นไปในอสูรโลหะที่อยู่ไกลออกไป ขณะที่เดเลียและบีบียังอยู่ข้างตัวลินลี่ย์

“ลินลี่ย์” เดเลียมองลินลี่ย์

ลินลี่ย์ยิ้มขณะมองดูเดเลีย เขาอดกอดนางไม่ได้ และกระซิบข้างหู “ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย”

เดเลียได้แต่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นางรับรู้อยู่ในอ้อมกอดของลินลี่ย์ นางเงยหน้ามองลินลี่ย์ “ไม่ต้องห่วงข้า ข้าจะไม่ตกอยู่ในอันตราย เป็นเจ้าต่างหากที่น่าเป็นห่วง การสู้รบระหว่างเผ่าของเราและแปดตระกูลใหญ่รุนแรงมาก เมื่อเจ้าต่อสู้เพื่อตระกูล เจ้าต้องจำไว้ให้ดี..ว่าข้ากำลังรอเจ้าอยู่”

ลินลี่ย์มองดูเดเลีย

“ไม่ต้องห่วง คนรักของเจ้าแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะ

“หลงตัวเองน่ะสิ” เดเลียหัวเราะเช่นกัน

“ว้า... ข้าไม่อยากดูภาพนี้ต่อไปแล้ว ไปดีกว่า” บีบีโพล่งขึ้นทันที

ลินลี่ย์อดชำเลืองมองบีบีที่กำลังยิ้มร่าเริงไม่ได้

“เอาล่ะ, เดเลีย บีบี ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ข้าคุยกับผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่คุ้มกันการเดินทางครั้งนี้แล้ว” ลินลี่ย์กล่าว เดเลียกับบีบีพยักหน้า จากนั้นกล่าวลาลินลี่ย์ขณะที่พวกเขาบินขึ้นไปที่อสูรโลหะโดยสารในอากาศทันที

ลินลี่ย์เงยหน้ามองดูอสูรโลหะขนาดใหญ่ที่เริ่มเคลื่อนที่ออกไป ในทันใดนั้นมันกลายสภาพเป็นภาพพร่าเลือนและหายลับไปในขอบฟ้า

เขารักนาง แต่เขาไม่อาจบังคับหน่วงเหนี่ยวนางได้ ทุกคนต้องการพื้นที่ส่วนตัว

ลินลี่ย์หันหลังกลับและมุ่งหน้าไปที่หุบเขาอ่างโลหิต อย่างไรก็ตามในระหว่างทางลินลี่ย์เห็นทหารลาดตระเวนได้อย่างชัดเจน ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึมและจับตาดูทุกที่

“บรรยากาศภายในเผ่าตึงเครียดจริงๆ ทหารเหล่านี้ลาดตระเวนตรวจตราอยู่เสมอเพราะกลัวสายลับจะหลุดรอดเข้ามา” ลินลี่ย์ถอนหายใจ

มิน่าเล่าทารอสและไดลินถึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ ภายใต้บรรยากาศแบบนี้

“ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา ที่สำคัญสถานการณ์ในตระกูลช่วงนี้วิกฤติ ใครจะรู้กันว่าเราจะคงอยู่ได้ต่อไปอีกหมื่นปีหรือเปล่า” ลินลี่ย์รู้ดีว่าแม้เขาสามารถฆ่าอสูรเจ็ดดาวได้สองคนก็ตาม แต่ศัตรูสามารถฆ่าอสูรเจ็ดดาวฝ่ายเขาได้สองคน

การสู้รบที่ไม่มีวันจบสิ้น

หลังจากผ่านไปหมื่นปี สถานการณ์ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นอย่างไร?

ภายในหุบเขากว้างใหญ่เงียบสงบในเทือกเขาสกายไรท์ ลินลี่ย์ในตอนนี้อยู่ในห้องหนังสือกำลังพลิกดูหนังสือแนะนำสถานที่ต่างๆ ของแดนนรก ลินลี่ย์ปิดหนังสือทันทีเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง “กลุ่มของเดเลียออกไปข้างนอกเดือนหนึ่งแล้ว แต่ข้ารู้สึกกระวนกระวายใจจริงๆ”

ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ข้าคิดมากเกินไป”

ระยะทางระหว่างเมืองเมียร์และเทือกเขาสกายไรท์เดินทางไปกลับใช้เวลาสามถึงสี่เดือน ยังมีเวลาอีกนานกว่าเดเลียจะกลับมา ต่อให้พวกเขาเผชิญอันตราย หน่วยข่าวกรองก็คงส่งข่าวกลับมาแล้ว

“หุบเขานี้เป็นหนึ่งในสถานที่เงียบสงบที่สุดในเทือกเขาสกายไรท์” ขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง ลินลี่ย์เหม่อมองทุ่งหญ้าไกล ลูกหลานสาขายูลานรวมตัวกันอยู่ที่นั่นพูดคุย หัวเราะกันดูเหมือนผ่อนคลายอารมณ์

เหตุผลที่พวกเขามีความสุขเพราะพวกเขาไม่รู้!

พวกเขาไม่รู้ว่าวิกฤติปัจจุบันที่เผ่าตระกูลเผชิญอยู่เป็นแบบไหน และเผ่าตระกูลก็ไม่คิดจะแจ้งให้พวกเทียมเทพและเทพแท้ให้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง สำหรับเทพชั้นสูงผู้รู้ว่าตระกูลอยู่ในสถานการณ์แบบไหน พวกเขาจะห่วงใยและฝึกหนักกันทุกคน

พวกเขาทุกคนต้องการเข้าหุบเขาอ่างโลหิตและรบเพื่อเผ่าตระกูล!

“ผู้อาวุโสลินลี่ย์” ทันใดนั้นมีเสียงดังมาจากด้านนอก

“เข้ามา” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว คนผู้หนึ่งในชุดยาวสีแดง เป็นเครื่องแบบของนักรบหุบเขาอ่างโลหิต

มีคนถูกส่งมาจากหุบเขาอ่างโลหิตหรือ?

“มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์ถาม

“ผู้อาวุโสลินลี่ย์, ท่านประธานผู้อาวุโสมีคำสั่งให้ท่านรีบไปที่ตำหนักมังกรฟ้า” นักรบชุดแดงพูดด้วยความเคารพ

“ประธานผู้อาวุโสเรียกข้าอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์ยืนขึ้นทันที ไม่พูดอะไรสักคำ เขาบินออกไปข้างนอกทันที

นักรบชุดแดงติดตามด้านหลังลินลี่ย์อย่างกระชั้นชิดเช่นกัน ทั้งคนบินขึ้นฟ้าออกไปจากหุบเขา การเดินทางของลินลี่ย์ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในหุบเขา

“วิ้ววววว” ลมยะเยือกพัดโหยหวนใส่พวกเขาราวกับคมมีดน้ำแข็ง

ในหุบเขาอ่างโลหิต อสูรหกดาวจับกลุ่มกันสามถึงห้าคน ขณะที่บางครั้งก็มองเห็นอสูรเจ็ดดาวอยู่ด้วย หน้าของลินลี่ย์ไม่มีความรู้สึก เขารีบตรงไปที่ตำหนักมังกรฟ้าด้วยความเร็วสูง เมื่อเข้าไปในปราสาทเขาตรงไปที่ชั้นห้าทันที

ลินลี่ย์กวาดสายตามองที่ชั้นห้า ภายในหอโถงตำหนักมังกรฟ้า มีประธานผู้อาวุโสอยู่ในชุดดำยาวและบนใบหน้านางสวมหน้ากากเงิน นั่งอยู่บนบัลลังก์ แต่ในหอโถงใหญ่นอกจากประธานผู้อาวุโสแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่ง

ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลศีรษะโล้นนั่นเอง

ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลกำลังยืนอย่างนอบน้อมอยู่ที่ด้านหนึ่ง เมื่อเห็นเขาลินลี่ย์อดสงสัยไม่ได้ “เขาก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”

“ผู้อาวุโสลินลี่ย์” เอ็มมานูเอลยิ้มให้ลินลี่ย์

“ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอล” ลินลี่ย์ทักทายเขา จากนั้นทำความเคารพ “คารวะท่านประธานผู้อาวุโส!”

ประธานผู้อาวุโสนั่งอยู่บนบัลลังก์และพูดอย่างสงบ “ลินลี่ย์! ในสงครามระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่บางครั้งจะส่งคนไปตามเส้นทางที่กำหนดล่วงหน้าทำให้เราโจมตีพวกเขาได้ โดยทั่วไปฝ่ายที่โจมตีมักจะได้เปรียบเล็กน้อย

ลินลี่ย์พยักหน้า

การซุ่มโจมตีทำให้คนไม่ทันตั้งตัวได้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะได้เปรียบ

“ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเรามักลอบโจมตีแบบนี้เสมอได้ยังไง?” ประธานผู้อาวุโสพูดอย่างใจเย็น “ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเรามักส่งคนของเราเองออกไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและรอการโจมตีจากศัตรูของเรา

ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ

เขารู้ว่าทางเผ่าทำอย่างนี้ เดิมทีอาร์โฮสก็นำหน่วยของเขาออกไปบนเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เวลานั้น...อาร์โฮสร่วมการต่อสู้ที่ดุเดือดกับศัตรู เป็นผลให้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดของอาร์โฮสถูกฆ่า

“อีกครั้ง นี่เป็นเพราะความรุ่งเรืองเก่าของเผ่า!” ลินลี่ย์ถอนหายใจกับตัวเอง

ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อความรุ่งเรืองของตระกุลคงไม่ยอมลอบโจมตี นั่นสามารถคิดได้ว่าพวกเขาหยิ่งผยองเพียงไหน

“ครั้งนี้ ข้าตั้งใจจะส่งแค่เอ็มมานูเอลให้นำหน่วยออกไปตามเส้นทางล่วงหน้า” ประธานผู้อาวุโสกล่าว “อย่างไรก็ตามนี่เป็นการมอบหมายงานครั้งแรกของเอ็มมานูเอล เขาเองไม่มั่นใจ ดังนั้นเขาจึงแนะนำเจ้าให้ข้า”

ลินลี่ย์ตกใจ

นี่หมายความว่ายังไง? งานที่มอบหมายให้เอ็มมานูเอล เอ็มมานูเอลสามารถยกให้คนอื่นได้ด้วยหรือ?

“ประธานผู้อาวุโส เขาเสนอตัวข้า? หมายความว่ายังไง?” ลินลี่ย์กล่าวอย่างหงุดหงิด ขณะเดียวกันเขาอดชำเลืองมองเอ็มมานูเอลไม่ได้

เอ็มมานูเอลหัวเราะทันที “ลินลี่ย์ ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก ดังนั้น..ข้าจึงเสนอขอให้ประธานผู้อาวุโสอนุญาตให้เจ้ากับข้ารับทำงานนี้

“ด้วยกันน่ะหรือ?” ลินลี่ย์ตะลึง

ประธานผู้อาวุโสพยักหน้า “ถูกแล้ว ตามปกติเมื่อหน่วยของเราได้รับมอบหมายงาน เราจะมีผู้อาวุโสคนหนึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยละคน แต่บางครั้งเราจะส่งออกไปสองคน ครั้งนี้ข้าต้องการให้เจ้าไปพร้อมกับเอ็มมานูเอล”

ลินลี่ย์เหลือมองเอ็มมานูเอล เขารู้สึกไม่พอใจอยู่ภายใน

ที่สำคัญคือ นี่เป็นการสนับสนุนภารกิจของเอ็มมานูเอล

“ลินลี่ย์! เป็นเวลาสองปีแล้วนับแต่เจ้าออกไปปฏิบัติภารกิจ ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องรับภารกิจสักอย่าง” ประธานผู้อาวุโสกล่าว

ลินลี่ย์ถอนหายใจหนักหน่วง การออกไปสู้ไม่ใช่ปัญหา เป็นแต่ว่าภารกิจนี้ไม่ค่อยเป็นธรรม

“อะไรกัน เจ้าไม่เต็มใจหรือ?” ประธานผู้อาวุโสถาม

เอ็มมานูเอลถอนหายใจอย่างมีอารมณ์ “ลินลี่ย์ ถ้าเจ้าไม่อยากมากับข้า ข้าก็จะไปออกศึกด้วยตัวเองก็ได้ ต่อให้ข้าไปคนเดียว ข้าก็ไม่ยอมให้กองกำลังของแปดตระกูลใหญ่มีเวลาที่สบาย อย่างแย่ข้าก็ยอมสูญเสียร่างแยกธาตุน้ำ”

ลินลี่ย์เหลือบมองเอ็มมานูเอล

ในเวลาอย่างนี้เขาจะปฏิเสธได้ยังไง?

“ท่านประธานผู้อาวุโส ข้ายินดีไป” ลินลี่ย์กล่าว

เอ็มมานูเอลตาเป็นประกาย และยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ท่านประธานอาวุโส มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากพูด” ลินลี่ย์กล่าว

“ว่าไป” ประธานผู้อาวุโสกล่าว

ลินลี่ย์กล่าวด้วยความเคารพ “ท่านประธานผู้อาวุโส ตามปกติเมื่อเผ่าของเรารับมอบหมายงาน เราแค่ส่งคนไปหน่วยเดียว โดยมีอสูรเจ็ดดาวเพียงคนเดียว ข้าหวังว่า... ในภารกิจนี้ เราจะใช้แผนลวงอีก”

“แผนลวง?” ประธานผู้อาวุโสจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความสงสัย “ลินลี่ย์! หลังจากพวกเขามีประสบการณ์ครั้งก่อน ข้าคิดว่ายอดฝีมือของแปดตระกูลใหญ่จะไม่ยอมให้เทพแท้เข้าไปใกล้อีกแน่นอน”

ลินลี่ย์หัวเราะ แผนหยาบนั้นใช้ได้เพียงครั้งเดียว

“ประธานผู้อาวุโส สิ่งที่ข้าหมายความถึงก็คือ ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลและหน่วยของเขาควรจะขึ้นอสูรโลหะมุ่งไปข้างหน้า ขณะที่ข้าจะพาเทพชั้นสูงคนเดียวไปกับข้า สองเราจะใช้อสูรโลหะโดยสารตัวเดียวตัวเป็นนักเดินทางธรรมดา”

ลินลี่ย์หัวเราะ “เทพชั้นสูงเดินทางกับเทพแท้ในแดนนรกเป็นเรื่องธรรมดามาก และไม่กระตุ้นความสงสัยของหน่วยข่าวกรองของศัตรูเท่าใดนัก”

“เหรอ?” ประธานผู้อาวุโสเริ่มเข้าใจ

“ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลอยู่หน้า ขณะที่ข้าจะตามหลัง เราจะรักษาระยะห่างสองเราไว้ ศัตรูจะเชื่อว่าผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลอยู่ตรงนั้นเอง ดังนั้นพวกเขาจะส่งคนมาน้อย เมื่อพวกเขาโจมตีผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลข้าก็สามารถทำให้พวกเขาไม่ทันระวังตัวได้” ลินลี่ย์หัวเราะ

ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลทำสีหน้าบิดเบี้ยวปั้นยาก

ลินลี่ย์กำลังใช้เขาเป็นเหยื่อล่อ

“ปกติ ทางเผ่าจะส่งหน่วยปฏิบัติการออกไปแค่หน่วยเดียว ศัตรูจะไม่สงสัยอะไร” ลินลี่ย์กล่าว

“ก็ได้ เราจะทำตามนั้น” ประธานผู้อาวุโสกล่าว

เอ็มมานูเอลไม่รู้จะโต้แย้งเรื่องนี้ยังไง

“ไปเตรียมตัวให้พร้อม พวกเจ้าจะต้องไปกันทันที” ประธานผู้อาวุโสกล่าว

“ขอรับ, ประธานผู้อาวุโส” ลินลี่ย์และเอ็มมานูเอลคำนับ และจากนั้นลินลี่ย์กับเอ็มมานูเอลจึงออกมา

“ลินลี่ย์” จู่ๆ ประธานผู้อาวุโสเรียก

ลินลี่ย์หันไปมองประธานผู้อาวุโสด้วยด้วยความสงสัย เสียงหนึ่งดังขึ้นในใจเขา “ลินลี่ย์ เจ้ายังเป็นแค่เทพแท้ยังมีช่วงเวลาให้เจ้าก้าวหน้า ถ้าเจ้าเผชิญกับอันตรายในภารกิจนี้จริงๆ จงใช้หยดพลังมหาเทพ ชีวิตของเจ้ามีค่ามากกว่าพลังมหาเทพ”

ลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่นในใจ แต่ก็สงสัยด้วยเช่นกัน

เมื่อประธานผู้อาวุโสมอบหมายภารกิจนี้ ดูเหมือนว่านางจะลำเอียงไปทางเอ็มมานูเอล แต่นี่นางกลับพูดแบบนี้กับเขา

“ขอรับ, ท่านประธานผู้อาวุโส”

ลินลี่ย์ไม่คิดอะไรอีกต่อไป และแค่ยอมรับไว้ เอ็มมานูเอลกับลินลี่ย์ออกไปจากตำหนักมังกรพร้อมกันทันที

“ลินลี่ย์, ครั้งนี้เราจะต้องร่วมมือกัน ข้าหวังว่าเมื่อเราสู้ด้วยกัน เราจะไม่มีความคลางแคลงใจกันเอง” เอ็มมานูเอลคุยกับลินลี่ย์ผ่านทางสำนึกเทพ ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขา จากนั้นหัวเราะเบาๆ และส่งสำนึกเทพตอบเขา “แน่อยู่แล้ว”

ขณะที่เขาพูดลินลี่ย์บินตรงไปที่พักในหน่วยสิบสาม

เอ็มมานูเอลมองดูขณะลินลี่ย์บินจากไป เขาหัวเราะเย็นชาจากนั้นบินกลับไปที่หน่วยของตนเองเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด