ตอนที่ 16 เรือและสะพานผู้ติดเชื้อ
ตอนที่ 16 เรือและสะพานผู้ติดเชื้อ
หลินขับเรือออกไปทำให้ผู้รอดชีวิตที่เห็นพากันร้องไห้อย่างสิ้นหวัง แต่เรนบอกให้เธอไม่ต้องสนใจ เพราะต่อให้อยู่ก็ช่วยพวกเขาไม่ได้เนื่องจากหลายคนในนั้นโดนกัดไปแล้ว และเรือก็ไม่สามารถรับคนได้เยอะ
อีกอย่างคนพวกนี้จงใจวิ่งมาทางพวกเขาและดึงผู้ติดเชื้อมาด้วย
เรือขับออกไป ในแม่น้ำไม่ได้มีแค่เรือของกลุ่มเรนเท่านั้น แต่ยังมีเรืออีกสองสามลำที่ขับไปทางเดียวกับพวกเขาอยู่ด้วย
“พวกเรารอดแล้ว” ไอราพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คุณไม่เป็นอะไรนะ” หลินหันกลับไปถามรินดา เธอเป็นห่วงรินดาอาจจะเพราะจากการที่รู้สึกผิดทำให้หลินใส่ใจรินดามาก
“ไม่เป็นอะไร”
แม้ทุกคนจะผ่อนคลาย แต่เรนกลับยังมีสีหน้าเคร่งขรึม
“ธันดูเหมือนนายต้องใช้ปืนแล้ว” เรนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ทุกคนสงสัย แต่พอพวกเขามองไปด้านหน้าก็พบกับคำตอบ เส้นทางที่พวกเขาต้องผ่านนั้นคือสะพานข้ามแม่น้ำ เส้นที่เคยคิดจะใช้ออกจากเมือง แต่ว่าที่นั่นดันเกิดเรื่องและเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อจนไปต่อไม่ได้
ตอนนี้ที่สะพานกลับเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อจำนวนมาก พวกมันพากันกระโดดลงมาจากสะพาน ซึ่งเรือของพวกเขาจะต้องผ่านไปทางสะพานนั้น
เรืออีกสองลำก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับที่เรนและพวกเจอ แต่พวกเขายังคงมุ่งหน้าออกไป เพราะยิ่งอยู่ที่เมืองนานมากเท่าไหร่สถานการณ์ก็จะเลวร้ายเท่านั้น
ผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ซ่อนก็ยิ่งน้อยลง โดยเฉพาะพวกที่พูดได้ พวกมันแข็งแกร่งมากพอจะพังหรือหาทางเข้ามากินคุณได้ตลอดเวลา
อย่างเช่นในตอนนี้ พวกผู้ติดเชื้อที่พูดได้จำนวนมากเริ่มพากันกระโดดลงมาจากสะพาน ทำให้ตัวที่พูดไม่ได้ก็กระโดดตามลงมา
แม้แม่น้ำในตี 5 จะหนาว แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับพวกมัน
“พวกมันว่ายน้ำได้ด้วย” ธันวาตกใจกับสิ่งที่เห็นจะเรียกว่าว่ายน้ำก็ไม่ถูกนัก เพียงแต่พวกผู้ติดเชื้อเหล่านี้มันบ้าจนตะกุยตะกายเข้าไปหาเรือจึงทำให้ลอยตัวและเหมือนว่ายน้ำเข้าหาเรือ
เรนไม่รอช้ายิงใส่พวกมันในทันที
ธันวาเองก็เอาปืนลูกซองออกมา
ทั้งสองเป็นคนลงมือ ส่วนที่เหลือก็พยายามระวังไม่ให้พวกมันขึ้นมาบนเรือ
ผู้ติดเชื้อที่ขวางทางถูกจัดการด้วยลูกศรและกระสุนปืนลูกซอง แต่ส่วนใหญ่เรนจะจัดการพวกที่อยู่ไกล ๆ ธันวาจะประหยัดกระสุนไว้และจัดการเฉพาะตัวที่อยู่ใกล้และเป็นอันตรายจริง ๆ เท่านั้น
“บ้าจริงพวกที่เข้าไปก่อนโดนจนได้” เรนขมวดคิ้วในทันที เรือที่เข้าไปที่ใต้สะพานโดนพวกผู้ติดเชื้อกระโดดใส่เรือตรง ๆ ทำให้สถานการณ์บนเรือนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก มีบางคนกระโดดหนีลงไปในน้ำ แต่ก็โดนผู้ติดเชื้อในน้ำฉุดกระชากก่อนจะจมหายไปพร้อม ๆ กัน
ปัง!
ธันวายิงหนึ่งในผู้ติดเชื้อที่กำลังขึ้นมาบนเรือจนหัวของมันแตกกระจาย
“จะขับฝ่าไปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ” อาจารย์หลินหันมาถาม เพราะเธอเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าจะไปรอดไหม
“ผมจะช่วยบอกทาง” เรนเข้าไปข้าง ๆ ของหลิน เขาขับไม่เป็น แต่ก็พอบอกทิศทางให้หลบพวกมันได้ รูนิกลางสังหรณ์ของเรนทำงานเต็มที่ คนที่เหลือบนเรือก็พากันนั่งลงและจับไปที่เรือ เพราะกลัวจะหล่น
เรือพุ่งเข้าไปที่ใต้สะพานก็มีผู้ติดเชื้อกระโดดลงมาใส่ในทันที แต่ก่อนหน้านั้นสองวินาที เรือก็หักหลบไปแล้ว ด้วยความเร็วเรือและความสามารถในการรับรู้ถึงทิศทางที่อันตรายของเรน ทำให้เรือสามารถผ่านเข้ามาใต้สะพานได้สำเร็จ
แต่ว่ายังไม่จบ เรือต้องขับออกไปอีกฝั่งหนึ่ง คราวนี้ผู้ติดเชื้อกระโดดลงมาราวกับม่านน้ำตก ซึ่งไม่มีทางที่จะหลบพ้นทั้งหมด
“หักไปซ้าย” เรนบอกกับหลิน
หญิงสาวทำตามโดยไม่ต้องคิด เพราะยิ่งช้าก็ยิ่งอันตราย
ตูม!
ผู้ติดเชื้อเกือบสามสิบคนตกลงไปที่ข้าง ๆ เรือและมีสองตนที่ตกลงกระแทกใส่เรือ
ว๊ากกก!!!
พวกมันอยู่ในสภาพที่กระดูกสันหลังหักไปหนึ่งตัว แต่อีกตัวยังไม่เป็นอะไร เพราะแข็งแกร่งกว่า
“เปิดประตูรถหน่อย” ผู้ติดเชื้อที่ยังลุกยืนได้พูดดอกมาและกระโจนใส่ธันวา
ปัง!
ธันวายิงใส่หัวของมันจนหัวของผู้ติดเชื้อระเบิด เมื่อไม่มีหัวก็ตาย มันหมุนตัวตามแรงยิงสองสามครั้งก่อนจะพัดตกน้ำไป แต่ยังมีอีกตัว
กระสุนในปืนลูกซองหมดพอดี ธันวารีบเปลี่ยนกระสุน แต่ไม่ทัน ผู้ติดเชื้อนั้นคลานเข้ามาด้วยความเร็วใส่พวกเขา
ตอนนั้นสองสาวก็ลงมือ ไอราใช้ชะแลงแทงไปที่หัวของมัน แต่เธอก็พลาด ชะแลงแทงไปที่หลังของมันแทน ผู้ติดเชื้อยังไม่ตาย
รินดากัดฟันและใช้แรงทั้งหมดยกค้อนปอนด์ทุบลงไปที่หัวของผู้ติดเชื้อ
ตุบ! ๆ
ค้อนยุบลงไปในกะโหลกศีรษะของผู้ติดเชื้อร่างของมันกระตุกอย่างรุนแรง เลือดกระเซ็นไปทั่วทั้งเรือและร่างของเธอ หญิงสาวยกค้อนปอนด์และทุบซ้ำจนแน่ใจว่ามันตายลงแล้วเธอถึงหยุด
“ไม่เป็นอะไรนะ” ธันวาเดินเข้าไปถามไอรา
“ไม่เป็นอะไร คุณรินดาเป็นอะไรไหม” ไอราตอบแฟนของเธอและหันไปถามรินดา
“ไม่...ไม่เป็นอะไร” รินดาตอบด้วยใบหน้าซีดขาวและเสียงแหบเล็กน้อย มือของเธอยังสั่นอยู่ แต่เธอก็ใจสู้มาก
หลังจากเรือผ่านสะพานข้ามแม่น้ำมาแล้ว ผู้ติดเชื้อก็ไม่สามารถกระโดดลงมาใส่หรือว่ายน้ำตามเรือของพวกเขามาได้อีก แต่ว่าเรืออีกลำที่ลอดใต้สะพานออกมาได้ก็ไม่โชคดี เพราะมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 10 คนอยู่บนเรือพวกเขา
พวกมันไล่คนบนเรือทำให้คนบนเรือต่างพากันกระโดดน้ำหนีตาย
คนขับเรือลำนั้นหนีไม่ทัน โดนรุมกัดอยู่บนเรือและเขาก็บังเอิญหักหัวเรือพุ่งมายังทางเรือของเรนและกลุ่ม
หลินเบิกตากว้างมองด้วยความตกใจ หญิงสาวรีบหันหัวเรือหนี ทำให้รอดพ้นจากการชนมาได้
“เกือบไป” เรนที่ลุ้นอยู่ด้านข้างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ช่วยฉันด้วย ๆ”
ตอนนั้นเองมีเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือดึงขึ้นมาจากทางด้านขวาของเรือ ปรากฏว่าเป็นคนที่โดดลงจากเรือเมื่อครู่นี้ เขายังไม่ตาย แต่โดนผู้ติดเชื้อสองคนพยายามคว้าตัวลงไปในน้ำด้วยพร้อมกับพวกมัน
ธันวายกปืนลูกซองขึ้นมา ก่อนจะยิงไปที่ผู้ติดเชื้อทางด้านหลังของชายคนนั้น
ปัง! ปัง!
หลังจากเสียกระสุนไปสองนัดก็จัดการผู้ติดเชื้อที่พยายามไล่ตามชายคนนั้นได้ ชายผู้รอดชีวิตจากเรือคนสุดท้ายว่ายมาเกาะข้างเรือ
“ช่วยดึงผมขึ้นไปได้ไหม” ชายคนนั้นพูดอย่างตื่นกลัว
ธันวาและเรนช่วยกันดึงชายคนนั้นขึ้นมา
“นายเป็นบ้าหรือยังไง ยิงแบบนั้นเกือบจะโดนหัวของฉัน” นอกจากจะไม่ขอบคุณ แต่ชายคนนี้ยังหันมากล่าวตำหนิธันวาด้วย
เรนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ธันวาเองก็เช่นกัน
“คุณอยากลงไปจากเรือก็ได้” เรนว่าออกไป ก่อนจะหันไม่สนใจชายที่เขาพึ่งช่วยมาอีก
ชายคนนั้นพึ่งรู้ตัว ดูเหมือนเขาจะเคยชินกับการอยู่เหมือนอื่นมากเกินไปจนไม่เผลอพูดออกไปแบบนั้น
“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ผมขอไปด้วยได้ไหม ผมเป็นผู้จัดการสาขาชื่อธนินท์ ผมมีเงินมันอยู่ในบัญชีธนาคาร ถ้าออกไปจากที่นี่แล้วผมจะจ่ายให้คุณหนึ่งแสนเลยเป็นยังไง”
“เงินของคุณช่วยให้คุณรอดได้อย่างนั้นเหรอ” ธันวาพูดจบก็ไม่อยากจะสนใจชายคนนี้เช่นกัน และคิดว่าก็แค่ผู้ใหญ่ที่นิสัยแย่คนหนึ่ง
ธันวาหันไปช่วยไอราโยนศพของผู้ติดเชื้อที่โดนทุบหัวลงจากเรือ รินดากอดค้อนปอนด์แน่นและมองศพอย่างเหม่อลอย
ส่วนเรนนั้นกำลังพูดคุยกับหลินอยู่
ธนินท์เห็นว่าเด็กพวกนี้ไม่สนใจเขา มองคนพวกนี้อย่างดูถูก เด็กพวกนี้คงเป็นนักศึกษา ถ้ามาขอฝึกงานที่บริษัท เด็กพวกนี้มีแต่ต้องแสดงท่าทีเคารพเขา เขาไม่เคยโดนเมินแบบนี้มาก่อน
เขาไม่พอใจมาก แต่เมื่อเห็นว่าแต่ละคนมีปืนกันอยู่จึงเลือกจะนั่งเงียบ ๆ อยู่ท้ายเรือ
“นายช่วยคนแบบนี้มาเหรอ” เรนถามธันวา
“ทำไงได้ก็ดันช่วยไปแล้ว” ธันเองก็ตอบแบบเซ็ง ๆ แต่อย่างที่บอกจะไล่ลงไปจากเรือกลางแม่น้ำก็คงไม่ได้
“เขาโดนกัดไม่” เรนหันไปมองผู้จัดการธนินท์
“ไม่น่าโดน” ธันวาตอบ
เรือขับต่อไปเรื่อย ๆ พวกเขามีเส้นทางแล้ว ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ออกจากพื้นที่เมืองเข้าสู่เขตชุมชนที่อยู่อาศัย รอบ ๆ เรนและพวกเห็นว่ายังมีคนอยู่ที่ริมฝั่งของแม่น้ำพยายามโบกมือขอความช่วยเหลือ แต่บนเรือไม่มีที่มากพอ พวกเขาไม่อาจจะจอดเรือช่วยทุกคนได้
สุดท้ายก็ได้แต่ขับเรือจากไป คนพวกนั้นก็หาทางอื่นในการหนีแทน
ตอนนี้ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นมาทำให้แสงของมันสะท้อนไปกับแม่น้ำ เป็นฉากที่สวยงามและยากจะเห็นได้ โดยเฉพาะสำหรับคนแบบเรนที่ไม่มีเวลามาดูอะไรแบบนี้
เรือขับไปตามแม่น้ำยิ่งใกล้ท่าเรือที่พวกเขาจะไปแม่น้ำก็แยกเป็นหลายสายและเล็กลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงแม่น้ำที่สองข้างทางเป็นเขตป่าที่นาน ๆ ทีจะเจอกับบ้านเรือสักหลัง
“เชื้อมาถึงที่นี่เลย” ไอราพูดขึ้นมา เธอมองไปทางริมฝั่งแม่น้ำก็เห็นว่ามีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งกำลังกินซากของสัตว์อยู่ ท่าทาของมันนั้นหิวโหยเป็นอย่างมาก
คนอื่น ๆ มองตามอย่างสนใจและพากันมีสีหน้ากังวล
“ธันนายขับรถเป็นใช่ไหม นายมาลองขับเรือแทนอาจารย์หลินได้เปล่า” เรนหันไปพูดกับเพื่อนสนิทของเขา
“ฉันยังพอขับต่อไปได้” อาจารย์หลินหันมาพูดกับเรน
“ผมรู้ แต่คุณยังต้องสร้างรูนิก” เรนบอกกับเธอ
อาจารย์หลินเหมือนจะพึ่งนึกขึ้นมาได้ จึงพยักหน้าตกลง ส่วนธันวานั้นเขายินดีมาก เพราะอยากจะลองฝึกขับเรือเหมือนกัน
อาจารย์หลินอธิบายให้ธันวาว่าต้องขับยังไง การขับเรือนั้นไม่อยาก แต่การขับให้เป็นนั้นยากกว่า ซึ่งธันวาแค่ขับได้ก็พอ เพราะในตอนนี้ไม่มีเรือลำอื่นในแม่น้ำที่พวกเขาขับอยู่สักลำ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะไปชนกับเรือลำอื่น