บทที่ 71: มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน!
บทที่ 71: มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน!
ซุยเฮ็งส่งสัญญาณให้ฮุ่ยฉีลุกขึ้นและออกไปทำงาน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทดลองวิชาเสริมกำลัง ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงอยากจะเห็นมันด้วยตาของเขาเอง
หากมันมีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นกับการทดลอง เขาก็จะสามารถช่วยอีกฝ่ายได้อย่างทันท่วงที
ในขณะนี้ ฮุ่ยฉีก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เขาหวังว่าเขาจะสามารถควักหัวใจของเขาออกมาและมอบมันให้กับซุยเฮ็งได้
….
นอกสำนักงานเทศมณฑล เปลวเพลิงพัดโหมกระหน่ำ
ทหารชั้นยอดสวมชุดเกราะและติดอาวุธหลายพันนายกำลังยืนอยู่ข้างนอก พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ทางเข้าหลักด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย
อย่างไรก็ดี ซุนผานซื่อเองก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ นี่เป็นเพราะเขากังวลว่าเขาจะถูกฆ่าโดยยอดฝีมือที่อยู่ในสำนักงานเทศมณฑล
ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่ศิษย์ของอารามดอกปทุมอย่างฮุ่ยฉีก็ยังปรากฎตัวขึ้นได้ แบบนี้แล้วใครจะรับประกันได้ว่ามันจะไม่มียอดฝีมือคนอื่นอยู่ที่นี่อีก?
แม้ว่ายอดฝีมือเหล่านี้จะไม่สามารถต้านทานทหารชั้นยอดนับพันได้ แต่มันก็ยังเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกระโดดข้ามเหล่าทหารชั้นยอดนับพันเพื่อมาเด็ดหัวใครบางคนโดยเฉพาะ
ด้วยเหตุนี้เอง ซุนผานซื่อจึงไม่กล้าจะเอาตัวเองไปเสี่ยง
ในขณะนี้ ซุนผานซื่อ, หวังจินเซิงและคนอื่นๆ ต่างก็อยู่ในห้องส่วนตัวของร้านอาหารที่อยู่ห่างจากสำนักงานเทศมณฑลไปประมาณ 100 เมตร
นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขามักจะมานั่งรวมตัวและหัวเราะเยาะซุยเฮ็ง
“จากนี้ไป จงฆ่าใครก็ตามที่กล้าเสนอหน้าออกมาจากสำนักงานเทศมณฑล!” ซุนผานซื่อยังคงรู้สึกเจ็บปวดที่แขนของเขาและพูดต่อด้วยความโมโหว่า “ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พวกเจ้าจงฆ่าพวกมันทิ้งอย่างไร้ความปรานีให้หมด!”
“เราจะไม่ฆ่าพวกมันทั้งหมดเฉยๆ หรอกนะ” หวังจินเซิงส่ายหัวและสะบัดพัดของเขา เขามองไปที่เปลวเพลิงข้างนอกและยิ้ม “ข้าได้สั่งศิษย์ชั้นนอกเหล่านี้ให้ตะโกนข้อความหนึ่งก่อนที่เราจะเริ่มดำเนินการแล้ว”
“นั่นคือการบอกว่าผู้ว่าการคนใหม่นี้สมรู้ร่วมคิดกับกองทัพกบฎที่เหลืออยู่ของราชาหยานและต้องการจะสังหารผู้คนเพื่อสังเวยเมืองนี้ และเราก็มาเพื่อบังคับใช้ความยุติธรรมในนามของสวรรค์และลงโทษความชั่ว ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่ากลุ่มโจรหยานจะถูกกำจัดออกไปแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเขาก็ยังคงอยู่ และแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะใช้ปลุกระดมพวกโง่ให้มาช่วยเราจัดการปัญหามากมาย”
“นอกจากนี้ โจรหยานก็ยังได้รับการสนับสนุนจากอารามดอกปทุมและซุยเฮ็งก็ยังมีศิษย์สายตรงของอารามดอกปทุมอยู่ในที่พักของเขา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขากำลังสมรู้ร่วมคิดกับโจรหยานอยู่จริงๆ”
“ผู้อาวุโสหวังเป็นคนรอบคบจริงๆ แผนของท่านนั้นไร้ที่ติ!” ซุนผานซื่อยิ้มและหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“ซุยเฮ็งผู้นี้กล้าจะต่อสู้กับเราเพียงเพื่อรวบรวมหัวใจของผู้คน”
“และด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะต้องตายเท่านั้น แต่เขาก็ยังจะสูญเสียหัวใจของผู้คนไปในท้ายที่สุดอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเสียงของเขาก็ยังจะต้องถูกทำลายลงอีก ฮ่าฮ่า! ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แผนของผู้อาวุโสหวังนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ!”
เขาตื่นเต้นมาก
ในตอนนี้ แค่การฆ่าซุยเฮ็งก็ไม่เพียงพออีกต่อไปที่จะทำให้ซุนผานซื่อพึงพอใจ
การบดทำลายชื่อเสียงของซุยเฮ็งเท่านั้นจึงจะทำให้เขาสามารถระบายความเกลียดชังในใจออกมาได้
“มีคนออกมาแล้ว!” ในขณะนี้ พระจิงคงก็ชี้ไปที่ทางเข้าหลักของสำนักงานเทศมณฑล
“เยี่ยม! ตอนนี้แหละ!” ซุนผานซื่อยืนขึ้นในทันทีและมองออกไปข้างนอก เขาต้องการจะเห็นทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน
“นี่คือ…” หลังจากเห็นผู้คนที่เดินออกมา จู่ๆ หวังจินเซิงก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ข้าจะออกไปจัดการเอง”
“ขอบคุณผู้อาวุโสหวัง!” ซุนผานซื่อรู้สึกตื่นเต้นมากจนไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของหวังจินเซิงเลย
อย่างไรก็ดี เผิงหลานจื่อและอู๋หยางเจินก็สังเกตเห็นมัน
ทั้งสองคนมองหน้ากันและยืนขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาเองก็ต้องการจะไปช่วยหวังจินเซิงด้วย
ทั้งสามคนรีบไปออกจากร้านอาหาร แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไปทางสำนักงานเทศมณฑล กลับกัน พวกเขาวิ่งออกจากเมืองไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาทั้งสามคนก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่ดังสนั่นหวั่นไหวดังออกมาจากทางสำนักงานเทศมณฑล
มันทำลายความเงียบสงัดของท้องฟ้ายามราตรี
“ให้ตายเถอะ มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน!”
ในขณะนี้ หวังจินเซิงก็มองกลับไปด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว...