ตอนที่ 577 ความเข้าใจที่แจ่มชัด
“งานแรกของท่านก็คือ ช่วยฝึกซ้อม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสือเซินสบายใจทันที ฝึกซ้อมเป็นงานหมูประจวบกับเราจะได้ทดสอบอาวุธคู่มือใหม่ด้วย แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ซ้อมมือ แต่สือเซินไม่เกรงใจแต่อย่างใด
“ก่อนอื่นจัดแบ่งเป็นห้ากลุ่มและไปทดสอบ”
สือเซินพอใจกับแนวความคิดของถังเทียนอย่างรวดเร็ว หลังจากนึกย้อนไปถึงผลงานของหนุ่มชาวฟ้าแล้ว เขาอดสั่นไม่ได้ เขารู้ว่าพลังส่วนใหญ่มาจากปราสาทดำ แต่เขายังสงสัยมากกับพลังที่แท้จริงของนายท่าน
สือเซินเลือกห้าคนออกมาก่อน แต่ที่เหลือให้รอก่อนทุกคน เขารู้สึกสบายใจมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเจ้านายน่าจะมีมากห้าคนที่จัดให้ก็ยากจะเอาชนะได้ แต่พวกเขามี 46 คน ไม่ว่าพวกเขาจะแย่ยังไงก็ตาม แต่ 46 ต่อ 1พวกเขาจะแพ้หรือ? เป็นไปไม่ได้
โอว..ทำไมคนหน้าไพ่ถึงมีสีหน้าแปลกประหลาด..
สือเซินไม่เก็บเอามาใส่ใจกลุ่มหนึ่งซ้อมกับคนๆ เดียว แม้ว่านี่จะค่อนข้างเหนือกว่า แต่เจ้านายก็มีสิทธิ์ทำเช่นนั้นได้ นี่หมายความว่าเจ้านายยังคงมีใจแสวงหาความก้าวหน้าไม่ยินดีจะตกรุ่นล้าหลัง นั่นเป็นเรื่องที่ดี สมควรให้กำลังใจ
สือเซินชื่นชมคนที่รักความก้าวหน้า
ชุดการซ้อมเริ่มแล้วและสือเซินแสดงฝีมือของตนง่ายๆ ตอนแรกเริ่ม พวกเขาพ่ายถังเทียน แต่เนื่องจากยิ่งคนเพิ่มเข้ามาสู้ภายใต้การแนะนำของสือเซิน พวกเขาข่มถังเทียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ในจุดนี้ต้องใช้คนสิบคนเพื่อซ้อมกับเขา
โอวนายท่านแข็งแกร่งจริงๆ แต่กลยุทธ์ของเขาก็เป็นหลักสำคัญจริงๆ ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเจ้านายฝีมือก็งั้นๆ แต่ตราบใดที่นายท่านอดทนและฝึกฝนหนัก นิสัยแปลกๆ ของเขาก็อาจเปลี่ยนไปได้
สือเซินกำลังคิดขณะที่มองดูเวลา โอว 10 ชั่วโมงผ่านไปแล้ว นายท่านขยันขันแข็งจริงๆ จากนั้นเขาพูด “นายท่านทำไมไม่พักสักสองชั่วโมงและจากนั้นค่อยซ้อมต่อ?”
“พวกท่านเหนื่อยกันแล้วหรือ?” ถังเทียนมองดูพวกเขา
“เรา? ไม่เลย, พวกเราไม่มีใครเหนื่อยเลย แต่เราเป็นห่วงนายท่าน...” สือเซินอธิบาย
“โอวดี, งั้นมาต่อกันเลย ข้ายังไม่เหนื่อย” ถังเทียนไม่ได้เงยหน้าด้วยซ้ำขณะพูด
สือเซินไม่คัดค้านแต่เขาบ่นพึมพำเข้าข้างตนเอง กำลังใจของนายท่านกล้าแข็งจริง ข้าจำเป็นต้องหาเวลาเตือนเขา เหนื่อย? ชุดการซ้อมเหล่านี้ ยังไม่มีอะไรสำหรับเขา พวกเขาอยู่ที่กองพลปีศาจแห่งทวีปโยวโจว กองพลปีศาจทวีปโยวโจวมีชื่อเสียงมาก
ทวีปโยวโจวไม่ใช่ทวีปใหญ่แต่ชื่อของมันนั้นแพร่หลายไปกว้างขวาง เพราะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นที่ผลิตทหารชั้นยอด ทวีปโยวโจวมีวิธีการฝึกหัดที่รุนแรง เมื่อคนท้องถิ่นอายุห้าปี พวกเขาจะได้รับคำแนะนำให้ฝึก พวกเขาจะสำเร็จการฝึกฝนเมื่อพวกเขาอายุ 20
ผู้คนชาวทวีปโยวโจวให้คุณค่ากับการต่อสู้ที่ดี และเป็นที่นับถือกันอย่างมาก หลังจากผ่านการอบรมที่เหน็ดเหนื่อยทหารที่เกิดตามธรรมชาติจะมีมาตรฐานที่สูงมาก ในทวีปโยวโจว ทหารที่แข็งแกร่งที่สุดจะกลายเป็นหน่วยกองกำลังปีศาจ นอกจากทหารทั้งหมดที่ฝึกสำเร็จแล้ว มีเพียง 2% ของพวกเขาที่ได้รับชื่อว่ากองกำลังปีศาจ
ทหารทวีปโยวโจวถือเป็นแกนกำลังที่ทุกทวีปต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองพลปีศาจทวีปโยวโจว พวกเขาถูกมองว่าเป็นพวกที่แข็งแกร่งทรงอำนาจจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ สิ่งที่ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงมากก็คือสงครามในแดนเหนือเมื่อหกร้อยปีที่แล้ว มีขุนพลทหารที่มีชื่อเสียงนามว่าเตอร์โกนำกองพลปีศาจ 96 คนเข้าต่อกรกับ 19 ทวีป และมีวันหนึ่งซึ่งเป็นวันรบเด็ดขาด พวกเขาปรากฏเหมือนกับภูตพรายด้านหลังกองทัพใหญ่ของทัพเหนือทำลายฐานทัพห้าแห่งอย่างต่อเนื่องราวกับสายน้ำบ่า
ไม่มีใครในกองพลปีศาจทวีปโยวโจวได้รับบาดเจ็บ
จากการรบครั้งนั้นกลับกลายเป็นแบบอย่างรุ่นพ่อของผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง มีการจัดตั้งทวีปแห่งแรกในภูมิภาคใต้ และกองพลปีศาจแห่งโยวโจวได้รับการยกย่องว่าทหารราชาแดนใต้”
หลังจาการสู้รบกองพลปีศาจทวีปโยวโจวกลายเป็นทหารที่มหาอำนาจทั้งหมดโหยหาต้องการมีไว้ ดังนั้นจึงเริ่มมีการเสแสร้งปลอมตัวปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วนและเข้าร่วมกับมหาอำนาจต่างๆหลังจากการสังหารหมู่ของยอดฝีมือและช่วงชิงทรัพย์ จึงทำให้ชื่อเสียงของกองพลปีศาจทวีปโยวโจวตกต่ำอย่างรวดเร็ว
ในเวลาอันรวดเร็วชื่อเสียงของพวกเขาก็กลายเป็นคนเลวและทำให้สภาพแวดล้อมเลวร้ายมากทำให้พวกเขาตัดสินใจเดินเส้นทางโจร
กองพลปีศาจทวีปโยวโจวค่อยๆกลายเป็นโจรที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์และถูกเกลียดทั้งวันและคืน
หลังจากผ่านไป600 ปีจำนวนทหารที่เข้าฝึกฝนทดสอบในกองพลปีศาจลดลง การทดสอบค่อยๆกลายเป็นประเพณีที่ถูกลดค่าในสังคมและเป็นเพียงหมู่บ้านดั้งเดิมที่ยังอยู่กับพวกเขาเท่านั้น แม้จะสอบผ่านการทดสอบแล้วก็ยังต้องปกปิดตัวตนในฐานะที่เป็นศิษย์กองพลปีศาจทวีปโยวโจว
ดังนั้นเมื่อหวังจุนเซียนและสือหย่งได้ยินสือเซินเกิดเผยสถานะของกองพลปีศาจทวีปโยวโจว อาการตกใจที่แสดงออกมาทางสีหน้าของพวกเขาไม่ใช่เรื่องหลอกลวง
46 คนของพวกเขาผ่านการฝึกซ้อมและฝึกฝนหนักมาแล้วถึงกลายเป็นกองพลปีศาจทวีปโยวโจวได้ ซ้อมกับคนๆเดียวพวกเขาจะรู้สึกเหนื่อยได้ยังไง? นั่นตลกจริงๆ!
สือเซินไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว
สามวันต่อมา
ชุดการฝึกซ้อมของถังเทียนเพิ่มขึ้นถึง15 คน เขามองดูสิบห้าคนซึ่งยืนในลักษณะสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอย่างระมัดระวังในแต่ละคน
“เริ่มได้”
สือเซินประกาศและคนทั้งสิบห้าคนเปล่งประกายแสงทันที รังสีสิบห้าสายบรรจบกลายเป็นหนึ่งถังเทียนลอบประหลาดใจ ถ้าเขาหลับตา เขาก็ยังคิดจริงๆว่าเป็นร่างเดียวไม่ใช่สิบห้าร่าง
ปิงที่มองอยู่ข้างๆแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึม นั่นคือผสานพลังงานในจังหวะเดียวกัน สำหรับกองทัพยิ่งผสานพลังพร้อมเป็นจังหวะเดียวกันก็หมายความว่าพลังงานมหาศาลจะถูกควบคุมได้มากขึ้น
ความถี่ในการผสาน80%
ปิงแอบตัดสิน สีหน้าของเขาน่าเกลียด ก่อนหน้านี้เมื่อมีแค่เพียง 5 คนความถี่ในการผสาน 80% ซึ่งเขาก็ไม่สนใจแต่ต่อมาพอกำหนดกลุ่มเป็น 10 คน, 15 คนพวกเขาก็ยังรักษาระดับความถี่เอาไว้ที่ 80% และนั่นสร้างผลกระทบต่อปิงอย่างมาก ในกรณีปกติ จำนวนคนและความถี่ในการผสาน จะมีส่วนสัมพันธ์กัน แต่กลุ่มของสือเซินกลับมิได้ลดลงเลย
80%ไม่มีกองทัพไหนของกลุ่มดาวหมีใหญ่สามารถสร้างการผสานพลังงานที่งดงามได้ขนาดนั้น แต่กลุ่มของสือเซิน ไม่ว่าจัดใครลงใน 15คนกลับสามารถผสานพลังงานได้สำเร็จ ปิงสงสัยว่าถ้าทั้งหมด 46 คนเข้าร่วมรบด้วย สือเซินคงสามารถรักษาความถี่ของการผสานไว้ที่80%
เป็นไปได้ไหมว่ากองทัพดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งได้มากขนาดนั้น?
ทันใดนั้นปิงรู้สึกกดดันอย่างมาก
ถังเทียนไม่คิดอะไรมาก เขาเข้าสู่สภาวะพร้อมสู้รบและเพ่งสมาธิหนักขึ้น เขาเป็นเหมือนสัตว์ป่าพยายามหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ของเขาอย่างต่อเนื่อง
เขาตัดสินใจทดสอบเข้าโจมตี
ร่างของเขากระพริบเกิดเป็นภาพเงาตามหลัง และมาปรากฏที่ด้านปีกซ้ายของกลุ่ม
ทั้งสิบห้าคนสะบัดดาบพร้อมเพรียงกันสร้างระลอกพลังงานที่น่าตกตะลึงให้กับถังเทียน เมื่อเพิ่มคนขึ้นมาอีก 5 คนความกดดันในตัวถังเทียนเพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที
แสงรัศมีรอบๆทีมพลันสว่างขึ้น พร้อมกับรังสีดาบกว้างส่งเสียงหวีดหวิวตรงเข้าหาถังเทียน
ถังเทียนไม่ได้หลบ เขาต้องการทดสอบกำลังของดาบ
เขาตั้งท่านั่งม้าสูดหายใจลึกแล้วใช้หมัดของเขาเผชิญกับรังสีดาบ
ทันทีที่หมัดของเขาและรังสีดาบปะทะกัน ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจทันทีกับพลังมหาศาลที่มาจากหมัดของเขาพลังที่รุนแรงทำให้เขามั่นใจว่าถ้าเขาไม่ถอนหมัดกลับมา แขนเขาคงได้หักแน่นอน
ความกดดันที่รุนแรงทำให้ถังเทียนระเบิดศักยภาพออกมาทันที เขาไม่ลังเลในการรั้งหมัดขวากลับเขายิงหมัดซ้ายออกไปด้วยความเร็วราวสายฟ้า ในช่วงเวลาสั้นๆหมัดสิบหมัดปะทะเข้ารังสีดาบ
ปัง!
รังสีดาบแตกกระจาย
สือเซินลุกพรวดพราดโดยอัตโนมัติ ความเร็วของหมัดทั้งสิบนั้นไวมากเกินกว่าเขาจะเข้าใจได้ เขาไม่เคยเห็นความเร็วขนาดนั้นมาก่อน หมัดที่เร็วเหมือนกับสายฟ้าจนขนาดที่เขามองไม่เห็นหมัดที่ออกมา
และเขาไม่เห็นแม้กระทั่งรังสีหมัด นั่นก็หมายความว่าเมื่อนายท่านปล่อยหมัดเหล่านั้น เขาไม่ได้ใช้พลังงานใดๆ
หรือว่าเป็นพลังกายล้วนๆ?
หลังจากสังเกตดูมาหลายวันสือเซินรู้สึกว่าแทบไม่น่าเชื่อ
แขนของถังเทียนชา แต่หน้าของเขากระตือรือร้นและความสงสัยและความงุนงงในใจของเขาถูกกวาดหายไป หลังจากซ้อมมาสองสามวัน เขาเข้าใจว่าแม้ว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่ง ไม่สามารถจะเอาชนะพวกเขาได้ ในพลังรูปแบบต่างๆ ทั้งหมด ไม่มีการแบ่งแยกว่าพลังงานใดเหนือกว่าหรือด้อยกว่า ก็แค่ว่าพวกเขาเดินตามเส้นทางที่ต่างกัน ไม่สำคัญว่าเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าหรือไม่ ไม่สำคัญว่าท่านจะเลือกเส้นทางเดินไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเส้นทางที่ท่านเลือกจะได้ไปได้ไกลแค่ไหน
ด้วยความเข้าใจกระจ่างอย่างฉับพลัน หัวใจของถังเทียนก็สงบลง ความกระวนกระวายและความหวั่นวิตกที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ถูกกวาดหายเรียบ
ทันใดนั้นทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยรังสีดาบที่ยิงออกมาจากแสงรอบตัวทั้ง15 คนฉวัดเฉวียนอยู่รอบตัวถังเทียนเหมือนกับฝูงแตน รังสีดาบทุกสายมีขนาดเท่าฝ่ามือพุ่งออกมาส่งเสียงหวีดหวิวสะท้านหัวใจ
ถังเทียนสงบเยือกเย็นร่างกายส่วนล่างของเขาไม่ขยับเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ขณะรับพลังรังสีดาบ เขาก้มต่ำ
เขาไม่เคยรู้สึกชัดเจนขนาดนั้นมาก่อน วิทยายุทธทุกอย่างที่เขาได้ฝึกมาก่อนผ่านเข้ามาในใจของเขา วิทยายุทธทุกอย่างที่เขารู้จักยิ่งมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
ส่วนที่ทำให้วิทยายุทธมีความชัดเจนก็เพราะจำเป็นต้องใช้ปราณแท้ซึ่งถูกกวาดหายไปเหมือนกับหมอก เหลือไว้แต่แก่นวิชาบริสุทธิ์ซึ่งผุดขึ้นมาเงียบๆ
เหตุผลที่ว่าทำไมวิทยายุทธต้องอาศัยพลังงานเป็นเพราะร่างกายหลักของนักสู้ไม่สามารถเติบโตในระดับที่สามารถสร้างผลลัพธ์อย่างเดียวกันได้
ประกายแสงพลันฉายผ่านดวงตาของถังเทียนเกิดเสียงหวีดแหลมที่มือขวาของเขา นิ้วทั้งห้าซึ่งงอเหมือนกรงเล็บต้านรับรังสีดาบขณะที่เขาตะปบโดยตรง
วีดดดด
ประกายแสงแพรวพราวส่องกระจายออกมาจากปลายนิ้วของถังเทียน
ปิงตกตะลึงนั่นคือ... กรงเล็บเพลิงภูตพราย? แต่พลังนั่น ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่ามาก...
กรงเล็บทั้งห้าของถังเทียนสั่นสะท้านเล็กน้อยขณะเคลื่อนไหวเล็กน้อยสร้างแรงเสียดทานกับอากาศ อุณหภูมิของประกายไฟเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแสงสีแดงแต่เดิมเปลี่ยนเป็นสีขาวราวกับว่าร้อนขึ้น
พลังงานในอากาศเผาไหม้อย่างรวดเร็ว รังสีแสงขาวแพรวพราวหดเล็กอย่างรวดเร็วกลายเป็นจุดเล็กเหมือนดวงดาว
หือ!
ในวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง10 เมตรรอบตัวถังเทียน มีดวงดาวเริ่มลอยอยู่รอบๆ คล้ายกับหิ่งห้อยนับไม่ถ้วน พวกมันมารวมตัวอยู่ที่ปลายนิ้วของถังเทียนสร้างเป็นสายพานแสงที่หมุนวนห้าสาย
เมื่อรังสีดาบเข้มข้นสัมผัสกับแสงก็สลายไปทันที
สีหน้าของบุรุษทั้ง15 คนซีดขาวทันที จุดแสงนั้นพุ่งเข้าหาพวกเขาเหมือนหิ่งห้อย
เมื่อเห็นหิ่งห้อยแสงบินอยู่รอบๆ ใจของถังเทียนสงบสุข หิ่งห้อยจ้าวปีศาจดูงดงามเสมอ ในอดีตหิ่งห้อยจ้าวปีศาจมีเพียงแสงห้าจุด แต่หิ่งห้อยจ้าวปีศาจในปัจจุบันนี้มีจำนวนนับพัน
ข้าแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพราย ท่านเห็นไหม? กรงเล็บเพลิงภูตพรายแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ท่านต้องมีความสุขแน่นอน
ในท่ามกลางความภูมิใจมีความเศร้าสร้อยแฝงอยู่ด้วย
ปังแสงรอบตัวบุรุษทั้ง 15 คนแตกสลายไป