ตอนที่ 575 ใครวางแผนใครกันแน่?
ภายในประตูลับป้อมดาวตก
เย่ว์หยางไม่มีอารมณ์จะช่วยฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วสู้กับจ้าวปีศาจโบราณเลยสักนิด ประการแรก จ้าวปีศาจโบราณหลบหนีไปจากประตูลับนานแล้ว จะตามหาเขาก็เหมือนกับหาเข็มในกองฟาง ประการที่สองร่างของจ้าวปีศาจโบราณยังคงถูกผนึกอยู่ในโดม ไม่ใช่เพียงเท่านั้น มันยังถูกผนึกโดยกลุ่มดาวของโดม ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วคอยดูแลอยู่เท่านั้น ต่อให้เป็นนักสู้ปราณฟ้าที่ทรงพลัง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะชิงร่างนี้หนีไป อย่าว่าแต่ผนึกของโดมเลย แค่เสากักมังกรกับโซ่จันทราบั่นเศียรทั้งสองนี้ก็ทรงอานุภาพมากแล้ว ประการที่สาม จ้าวปีศาจโบราณมากระแวง ดังนั้นมันไม่เคยย่างเท้าเข้ามาในประตูลับอีกเลย
แทนที่จะเสี่ยงชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า การหนีตายจะทำให้เขามีอิสระ
เชื่อได้ว่าจ้าวปีศาจโบราณยังไม่ต้องการร่างหยาบตนเอง ไม่เช่นนั้นเขาคงก้าวเข้ามาในโลกหลังประตูลับไปแล้ว
“ถ้าเจ้าไม่ยินดีจะช่วยเรา อย่างนั้นทำไมเจ้าถึงฆ่าปีศาจโบราณสองพี่น้องเล่า?” ฟงจู้สงสัยเล็กน้อย การฆ่าปีศาจสองพี่น้อง เย่ว์หยางไม่ได้รับส่วนแบ่งค่าแรงแม้แต่แดงเดียว
“นั่นเป็นเพราะข้าบอกให้เขาฆ่าพวกเขา... สิ่งที่เขาจะได้รับจากการทำเช่นนี้ อาจเป็นน่านน้ำของหอทงเทียนทั้งหมด และบางทีอาจมากกว่านั้น” ราชินีแมงกะพรุนกลับมาแล้ว สายตานางคมเหมือนกระบี่ นางมองดูเย่ว์หยางเหมือนกับจะมองจนทะลุสื่อเข้าไปถึงหัวใจเขา “เจ้าใช้เวลานานมาก โชคดียังไม่สายเกินไป”
“แค่กๆ” เย่ว์หยางรู้ว่านางกำลังจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับเขา
ดูเหมือนว่าราชินีแมงกะพรุนพอจะคาดได้ว่าเขากลับไปยังโลกคัมภีร์และมีสัมพันธ์รักกับนางเซียนหงส์ฟ้า
บางทีเขาอาจใช้เวลาสัมพันธ์สวาทกับนางเซียนหงส์ฟ้านานไปนิด ทำให้เหมือนกับจะมีผลต่อแผนการของนาง
เย่ว์หยางอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาเป็นพวกหนังหน้าหนาอยู่แล้ว จึงแกล้งไก๋เหมือนไม่ได้ยิน
ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยนต้องการพูดแก้ตัวให้เย่ว์หยง แต่ราชินีแมงกะพรุนโบกมือเล็กน้อย “ช่างเถอะ, ไม่เป็นอันตรายต่อแผนการทั้งหมดหรอก ความจริง อย่างนี้ยังจะดีกว่า หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ศัตรูจะระแวงน้อยลงและจะทำให้แผนการเราง่ายขึ้นและโอกาสสำเร็จสมบูรณ์ก็เพิ่มมากขึ้น”
เป่ยฟงเจียโส่วมองดูนางอย่างประหลาดใจ “ให้คุณชายสามฆ่าปีศาจสองพี่น้องก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเจ้าหรือ? มันคือแผนการอะไร?”
ทั้งเจี๋ยเหว่ยและหญิงเยี่ยนไม่เข้าใจเหตุผลชัดเจนนัก
มีแต่เย่ว์หยางที่สามารถคาดเดาออก
เขายังคาดได้ว่าราชินีแมงกะพรุนจะพูดอะไรต่อไป แต่เขาไม่เร่งเฉลย เขาเพียงแต่ยิ้มรอเงียบๆ ให้ราชินีแมงกะพรุนพูดออกมา แม้ว่าราชินีแมงกะพรุนจะเป็นศัตรูคนหนึ่ง แต่นางก็ฉลาดในการวางแผนมาก การเป็นศัตรูกับคนแบบนี้จะสร้างปัญหาได้มาก อย่างไรก็ตาม การกลายเป็นพันธมิตรกับคนอย่างนางก็น่าสนใจมาก ถ้านางไม่ต้องคำสาปและความตายของนางใกล้เข้ามาแล้ว เย่ว์หยางอาจจะลองสู้กับนางจริงๆ
น่าสงสาร เย่ว์หยางบอกได้เท่านั้น
แผนพันปีนี้จะเป็นภารกิจสุดท้ายของราชินีแมงกะพรุนก่อนนางตาย
ราชินีแมงกะพรุนหลับตา “แผนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อพันปีที่แล้ว บางทีพวกท่านคงลืมไปแล้ว เวลานั้นมีเด็กหญิงรับใช้คนหนึ่งแนะนำสามผู้อาวุโส, อ้ายซื่อ, เถี่ยปิง, กู่เสอ ขอให้พวกท่านไม่ฆ่าปีศาจสองพี่น้อง ปล่อยให้ปีศาจสองพี่น้องมีชีวิตตลอดมาก็เพื่อแผนของวันนี้...”
“เจ้าคือเด็กหญิงรับใช้จากในอดีตนั้นหรือ?” ฟงจู้ตกใจมาก
“อย่าพูดถึงอดีตอีกเลย ตอนนี้ข้าจะบอกพวกท่านถึงแผนของข้า ความจริงไม่ว่าจะเป็นพวกท่าน, น้องสาวทั้งสอง, หรือตัวข้าและแม้แต่คุณชายสามตอนนี้ทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนนี้”
ราชินีแมงกะพรุนนั่งลงกับพื้น แจกแจงงานเย่ว์หยาง, เจี๋ยเหว่ย, หญิงเยี่ยนและแม้กระทั่งผู้คุ้มกันอย่างฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วทุกคน
ทุกคนตกตะลึงไปตามๆ กันหลังจากได้ยินแผนของราชินีแมงกะพรุน รวมทั้งเย่ว์หยาง
ความหมายอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเย่ว์หยาง
น่ากลัวคือคำอธิบายถึงแผนการของราชินีแมงกะพรุน
“โชคดีที่นางไม่ใช่บุรุษ มิฉะนั้นอาจจะสร้างปัญหาได้มากกว่าจักรพรรดิชื่อตี้ผู้นั้นเสียอีก” เย่ว์หยางลอบถอนหายใจ
“ก็ได้ แม้ว่าเราจะสาบานว่ามีแต่เพียงจักรพรรดิอวี้เท่านั้นที่สามารถสั่งเราได้ วันนี้เราจะยอมรับก่อน” ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วพึมพำกับตนเองอยู่นานก่อนตัดสินใจได้ในที่สุด “เราจะเชื่อเจ้าสักครั้ง และครั้งเดียวเท่านั้น”
ภายในชายแดนโลกหิมะของประตูลับ
หุบเขาลมยะเยือก
ไกลเท่าที่สายตามองเห็น มีภูเขาหิมะสุดหูสุดตาทอดตัวเป็นทิวยาวต่อเนื่อง เป็นโลกน้ำแข็ง ปีศาจโบราณถูกฝังอยู่ในยอดเขาทุกลูก ปีศาจโบราณเหล่านี้ถูกฆ่าและจองจำโดยจักรพรรดิอวี้ พวกมันไม่สามารถคืนชีพได้เว้นแต่เทพเจ้าจะลงมาช่วยพวกมัน ครั้งหนึ่งพวกมันเคยทรงพลัง แต่ตอนนี้พวกมันเป็นเหมือนฝุ่นธุลีในประวัติศาสตร์และเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางทหารของจักรพรรดิอวี้
ในใจกลางภูเขาหิมะหลายลูก มีหุบเขาขนาดมหึมาซึ่งมีลมยะเยือกพัดรุนแรง
หยดน้ำเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง สายลมยะเยือกเหมือนคมมีดกรีดผิว
เพียงสิ่งเดียวที่ไม่รับกับสภาพแวดล้อมของภูเขาหิมะก็คือทะเลสาบลาวาที่ก้นบึ้งหุบเขาลมยะเยือกซึ่งมีลาวาเดือดพล่าน
มีปีศาจที่แข็งแกร่งตนหนึ่งถูกผนึกไว้ภายใน.... เป็นหนึ่งในสี่แม่ทัพปีศาจโบราณที่ทำงานภายใต้บัญชาของจ้าวปีศาจโบราณ แม่ทัพปีศาจนี้มาจากตระกูลปีศาจที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเจ้าเล่ห์เพทุบาย มันเป็นเพียงปีศาจโบราณที่สามารถลอกเลียนคนตายได้ชั่วคราวและหลอกจักรพรรดิอวี้ว่ามันตายได้สำเร็จ
แม่ทัพปีศาจผู้นี้นามว่าเยี่ยนซั่ว เริ่มดิ้นรนเป็นอิสระจากผนึกอย่างช้าๆ ได้เมื่อสามพันปีที่แล้ว
เกือบทุกพันปี มันจะขุดทางออกมาจากใต้ดิน พยายามทำลายสุสานปีศาจโบราณที่ถูกฝังอยู่ข้างในเพื่อออกจากผนึกสุดยอดจากหุบเขาลมยะเยือก
ถ้าฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วสองนักสู้ปราณฟ้าผู้ทรงพลังไม่ข่มมันไว้ มันคงหลบหนีได้สำเร็จไปแล้วเมื่อสองพันปีก่อน เมื่อผลกระทบจากความตายของปีศาจสองพี่น้องแพร่มาถึง แม่ทัพปีศาจผู้นี้ซึ่งรอมาหลายพันปีตื่นขึ้นจากก้นทะเลสาบลาวาทันที หลังจากพยายามข่มอารมณ์ในจิตใจ มันค่อยๆ ว่ายทะเลสาบลาวาและลอยตัวขึ้น
เมื่อหัวของมันโผล่ขึ้นเหนือผิวทะเลสาบ มันก็แสดงรูปลักษณ์ปีศาจทันที
มันเห็นคนสองคนที่มันไม่ยินดีจะเห็นมากที่สุด นักสู้ปราณฟ้าผู้ทรงพลังสองคนที่คอยปกป้องโดมผนึกร่างจ้าวปีศาจ ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่ว
“เจ้าสุนัขรับใช้, ทำไมพวกเจ้าทั้งสองถึงยังไม่ตาย? ผ่านไปตั้งหกพันปีแล้ว ทำไมพวกเจ้ายังมีชีวิตอยู่? นี่ไม่ยุติธรรมเลย ในฐานะที่เป็นปีศาจโบราณ เราพอใจกับอายุที่ยืนยาว พวกเจ้าเป็นแค่มนุษย์ชั้นต่ำ มีอายุสั้นเหมือนถั่วงอก เมื่อถั่วงอกแตกยอดออกใบเติบโต ไม่นานหลังจากฤดูใบไม้ผลิจบลง ฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน ใบของมันจะเหี่ยวย่อยสลายร่วงลงดิน ข้าต้องการเข้าใจจริงๆ ถึงเหตุผลที่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำสามารถเอาชนะปีศาจโบราณชั้นสูงได้ เราคือลูกหลานเทพเจ้า ขณะที่มนุษย์สร้างแต่ความล้มเหลว เป็นแค่ตุ๊กตาที่สร้างขึ้นจากโคลน” แม่ทัพเยี่ยนซั่วตะโกนด่าทอใส่ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วอย่างเกลียดชังทันทีที่เห็นพวกเขา
“เจ้าพูดเหลวไหลเลอะเทอะมากมาย” ฟงจู้ไม่พอใจ
ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วปลดปล่อยพลังปราณฟ้าระดับสองของเขาทันทีและวิ่งเข้าโจมตีเยี่ยนซั่ว
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วในปัจจุบันนี้ก็มีพลังเริ่มต้นที่ปราณฟ้าระดับสามอยู่แล้ว หลังจากพันปีผ่านไปก็สะสมความแข็งแกร่งจนเหนือว่าฟงจู้กับเป่ยฟงเจียโส่วรวมพลังกันเสียอีก อย่างไรก็ตาม มันยังคงถูกผนึกอยู่ในหุบเขาลมยะเยือกตั้งแต่เข่าลงไปไม่สามารถออกมาจากลาวาได้
มิฉะนั้น ด้วยพลังของฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่ว คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะข่มมันจนยอมกลับลงไปในทะเลลาวาได้
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วยังคงเพิ่มพลังได้อีก และพันปีมานี้ทั้งพลังและความโกรธได้ระเบิดออกมา ครู่ต่อมาเปลวไฟพุ่งขึ้นในท้องฟ้าเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด ลาวาสีแดงเหมือนเลือด ยิงขึ้นท้องฟ้าจากทะเลลาวาทำให้เกิดเสียงดังสนั่น ควันหนาทึบม้วนตัวปกคลุมไปทั้งทะเลสาบลาวา และภายในนั้น คนทั้งสามกำลังต่อสู้เสี่ยงชีวิต
บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม.......
การต่อสู้ครั้งใหญ่เหมือนเมื่อพันปีก่อนหวนกลับมาอีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วผู้กล้าหาญเลือดท่วมตัวถอยกลับมาบนยอดเขา ขณะที่แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วคำรามใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง
มันไม่สามารถออกมาจากผิวทะเลสาบได้ มิฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เขาจะหนีพ้นจากการต่อสู้ครั้งนี้
“เสากักมังกรจงออกมา!” ฟงจู้ถือเสากักมังกรของเขาอยู่กลางอากาศ ห่วงแสงสีทองสามชั้นลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา ตราบใดที่มันยังมีศักยภาพเต็มที่ มันจะสามารถยับยั้งศัตรูได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น แม้แต่มังกรโบราณก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้ นอกจากสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดแล้ว เสากักมังกรคือหนึ่งในสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ดีที่สุด การใช้งานทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจตจำนงของเจ้าของ ยิ่งเจตจำนงเจ้าของแรงกล้า พลังของอาวุธจะทรงพลังมากขึ้น
“โซ่จันทราบั่นเศียร....” ถ้าจะมีอาวุธใดๆ ในโลกที่สามารถเทียบได้กับเสากักมังกร ก็น่าจะเป็นโซ่จันทราบั่นเศียร เมื่อสมบัติทั้งสองนี้ถูกใช้ออกพร้อมกัน จึงสร้างอาวุธที่น่ากลัวชนิดหนึ่ง
“เจ้าพวกมนุษย์วายร้าย พวกเจ้ามักใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้เสมอมา” แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วดำลงในทะเลสาบลาวา
จะเผชิญหน้ากับสมบัติเหล่านี้ เขารู้ขีดจำกัดตนเอง
ถ้ามันไม่พยายามดำลงต่อไป มันอาจพบจุดจบเหมือนกับปีศาจสองพี่น้องถูกจับไปผนึกไว้ที่ป้อมอัคนี ในที่นั้นพลังของผนึกแข็งแกร่งกว่ามาก และยากที่มันจะหลบหนีได้ แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วสบถพลางดำลงไปในทะเลสาบเพื่อหลับลึกต่อไป พลังของมันยังไม่เพียงพอจะหลบหนีไปจากผนึก มิฉะนั้น มันคงไม่กลัวมนุษย์ทั้งสองนี้แน่นอน
ผ่านไปสิบนาที จู่ๆ แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วก็ลอยตัวขึ้นมาตามปกติ
หลังจากหัวที่น่าเกลียดดำลงในทะเลสาบลาวา มันยิ้มเจ้าเล่ห์แปลกประหลาดทันที
“กลับไปน่ะหรือ? สายเกินไปเสียแล้ว” แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วฉีกยิ้มและหัวเราะด้วยความผยอง
ครั้งนี้เป็นสนามฝึกฝีมือ ใต้ผนึกโดม
นาคราชสมุทรเก้าหัววิจารณ์ถึงราชินีแมงกะพรุนอย่างยโส “ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? เจ้าบอกว่าไม่เห็นด้วย? เจ้ามีความสามารถจะห้ามเรื่องเช่นนี้ได้หรือ? เจ้าก็แค่นังแพศยาที่เหมือนกับสุกร ข้าแค่ใช้เจ้าเป็นทางผ่านและร่วมหลับนอนกับเจ้าอย่างไม่เต็มใจ ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ชำเลืองมองเจ้าแม้แต่นิดเดียว เจ้าไม่คิดว่ามันน่ารังเกียจหรือที่เจ้ายังทำตัวเหมือนเป็นราชินี น่าขยะแขยง เจ้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่เป็นหญิงแพศยาถ้าทำตัวอย่างนี้ใช่ไหม? ข้ารู้สึกเศร้าใจกับเจ้าโง่ก้วนหลานเสียจริง ทำไมเขาถึงได้อยากแต่งงานกับสินค้าที่ไม่มีอะไรดีอย่างเจ้า ไม่รู้ว่าเจ้าสวมเขาให้เขามามากมายกี่ครั้งแล้ว ที่เลวร้ายก็คือ แม้จนวันนี้ ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าไห่หลงโง่เง่าคือลูกชายแท้ๆ ของข้าหรือเปล่า! ไม่มีเหตุผลที่เขาควรโง่เลย หากเขาคือลูกชายแท้ๆ ของข้า”
ราชินีแมงกะพรุนไม่ได้พูดอะไร
ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยนยังหลบซ่อนอยู่ที่มุม สำหรับเย่ว์หยางที่ปลอมตัวเป็นขุนพลนี่จี่ ได้แต่หาวเนื่องจากเขาเบื่อแทบตาย
เสียงหวี่ยังคงถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้มองดูเย่ว์หยางและคนอื่น เอาแต่จ้องมองราชินีแมงกะพรุน
เขากระแอมและเตือนนาคราชสมุทรเก้าหัวที่กำลังตะโกนใส่อย่างบ้าคลั่ง “เยาฟง สตรีนางนี้ไม่ง่ายอย่างที่เห็น ข้ารู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเหมือนนางยังซ่อนความสามารถเอาไว้ และดูเหมือนจะไม่ใช่ปราณก่อกำเนิดระดับแปด”
นาคราชสมุทรเก้าหัวคำรามอย่างไม่พอใจ “ถ้านางคิดว่าข้ายังคงเป็นคนเดิม นั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่! ข้าได้รับพลังจากปีศาจและได้รับพลังปราณก่อกำเนิดระดับสิบขั้นสูงแล้ว นางแพศยานี่เป็นแค่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด ต่อให้นางมีระดับจริงๆ ที่ระดับเก้าหรือสิบ นางก็ยังต้องตาย”
“เจ้าโง่! ต่อให้ข้าไม่ได้ปกปิดความสามารถของข้าไว้ เจ้าก็ยังด้อยค่าเกินกว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า เพราะคนโง่อย่างเจ้าไม่มีความเข้มแข็งที่แท้จริง เจ้ามักจะคุกเข่าต่อหน้าข้า ก็เหมือนกับที่เจ้าทำมาในอดีต เลียเท้าข้าเหมือนกับสุนัข!” เมื่อราชินีแมงกะพรุนพูดเช่นนั้น ทุกคนมองดูนาคราชสมุทรเก้าหัวทันที ไม่มีใครสามารถนึกภาพนาคราชสมุทรเก้าหัวเลียเท้าของราชินีแมงกะพรุนได้ เย่ว์หยางเกือบเผลอตัวยกนิ้วโป้งให้นาคราชสมุทรเก้าหัวแล้ว
“อ้วก!” ฮุยไท่หลางทำท่าขย้อนเหมือนกับจะอาเจียน ส่วนใหญ่ที่มันแสดงความภักดีต่อเจ้านายมันก็แค่เสียดสีขาของเขาและกระดิกหางเท่านั้น เจ้าผู้นี้ถึงกับเลียเท้าได้จริงๆ ประสบการณ์ของเขากล้าแข็งเหลือเกิน
“นางแพศยา....” นาคราชสมุทรเก้าหัวปล่อยให้ราชินีแมงกะพรุนแฉความจริงในอดีตของเขา เขารู้สึกอายและโกรธจัดจนสั่นไปทั้งตัว
“แค่ก แค่ก แค่ก!” เสียงหวี่พันธมิตรของเขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“พอแค่นั้นแหละ หยุดพูดไร้สาระกับพวกเขาได้แล้ว ฉวยโอกาสจากข้อเท็จจริงที่ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วไม่อยู่ รีบฆ่าคนพวกนี้ซะ ตราบใดที่ผนึกที่โดมถูกทำลาย ปีศาจพี่น้องจะออกมา และตามสัญญา เราจะสนับสนุนท่านให้เป็นจักรพรรดิฟ้าและจักรพรรดิสมุทร” บุรุษคนหนึ่งอยู่ในชุดหมอผีเผ่าพันธุ์สมุทรตามหลังพวกเขามาอย่างเงียบๆ เขารู้สึกว่าไม่มีการลอบทำร้ายรอบๆ ตัวพวกเขา ฟงจู้และเป่ยฟงเจียโส่วอยู่ที่หุบเขาลมยะเยือกที่ห่างไกลเพื่อปราบแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วและจะยังไม่กลับมาเร็วนัก ดังนั้นเขาจึงพูดช้าๆ เมื่อเขาอ้าปากพูด เขาสั่งให้นาคราชสมุทรเก้าหัวและเสียงหวี่เคลื่อนไหว ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่น่านับถือมาก
“จักรพรรดิฟ้าไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับข้า อย่างไรก็ตามเมื่อเกี่ยวกับจักรพรรดิสมุทร เผ่าพันธุ์ทะเลมีผู้สืบทอดที่เหมาะสมอยู่แล้ว” ทันใดนั้นคนผู้หนึ่งปรากฏอยู่ที่ทางเดินด้านนอก เป็นไห่อิงอู่นางกำลังถือสามง่ามจักรพรรดิสมุทร
สายตาของนางไม่ได้มองอยู่ที่นาคราชสมุทรเก้าหัว แต่กวาดมองผ่านราชินีแมงกะพรุนและมองตรงไปที่เย่ว์หยางที่แอบหลบมุมขีดเขียนพื้นเล่นด้วยความเบื่อหน่าย
นาคราชสมุทรเก้าหัวตะลึง ทำไมถึงมีคนปรากฏตัวขัดขวางได้?
นอกจากนี้ยังเป็นเด็กสาวนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง
เมื่อเห็นไห่อิงอู่สวมเกราะและถือสามง่ามจักรพรรดิสมุทร ท่านหญิงเจี๋ยเหว่ยและท่านหญิงเยี่ยนจ้องมองนางทันที
สตรีนางนี้เหมือนกับใครบางคน.... ราชินีแมงกะพรุนลืมตามองดูไห่อิงอู่ จากนั้นนางค่อยๆ หลับตาอีกครั้ง เหมือนกับว่านางไม่เห็นคนผู้นี้ หน้าของบุรุษผู้สวมชุดหมอผีเผ่าสมุทรเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากเห็นไห่อิงอู่เข้ามา เขาโบกมือและตะโกนทันที “ฆ่านางและฆ่าคนอื่นทุกคน เรามีเวลาจำกัด”
“อย่าห่วง นี่เป็นแค่สตรีนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง ข้าแค่ใช้เพียงนิ้วเดียวก็ฆ่านางได้ในวินาทีเดียวเท่านั้น” นาคราชสมุทรเก้าหัวไม่สนใจเลยสักนิด
เมื่อเทียบกันแล้วเขาระมัดระวังราชินีแมงกะพรุนมากกว่า
ราชินีแมงกะพรุนเป็นสตรีที่ประสบความสำเร็จมีอำนาจครอบคลุมเผ่าทะเลมาตลอดพันปี
ถ้าไม่ได้รับพลังของปีศาจ และมีคนที่ทรงพลังบางคนสนับสนุนเขา เขาคงไม่กล้าท้าทายราชินีแมงกะพรุน
นาคราชสมุทรเก้าหัวบินเข้าหาไห่อิงอู่เหมือนสายฟ้าและใช้มือขวาจับสามง่ามจักรพรรดิสมุทร มือซ้ายจับคอของไห่อิงอู่ เข้าต้องการฆ่าศัตรูภายในวินาทีเดียว และชิงเอาสามง่ามจักรพรรดิสมุทรกลายเป็นจักรพรรดิสมุทรอย่างถูกต้อง
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง....” บุรุษที่สวมชุดหมอผีเผ่าทะเลร้องออกมา เตือนนาคราชสมุทรเก้าหัวให้ระวังตัว
อย่างไรก็ตาม สายเกินไปเสียแล้ว
ปีกยักษ์ทั้งสองซ้ายขวายืดออกมาและปัดพลังโจมตีของนาคราชสมุทรเก้าหัวได้อย่างง่ายดาย แขนของนาคราชสมุทรเก้าหัวถูกดันกลับด้วยพลังที่ไม่อาจต้านทานได้ ไห่อิงอู่ตวัดสามง่ามจักรพรรดิสมุทรด้วยพลังมหาศาลอย่างมั่นใจ นอกจากนี้พลังจากตัวสามง่ามจักรพรรดิสมุทรเองกระแทกใส่นาคราชสมุทรเก้าหัวจนปลิวกระเด็น
ถ้านางไม่ใช่แค่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งและสามารถนำพลังของสามง่ามจักรพรรดิสมุทรมาใช้ได้เพียงบางส่วน นาคราชสมุทรเก้าหัวคงบาดเจ็บมากกว่านี้
นาคราชสมุทรเก้าหัวบินลงมาจากฟ้าด้วยความโกรธเกรี้ยว เตรียมพร้อมตอบโต้กลับ
ทันทีที่เขาเห็นสององครักษ์ผู้คุ้มกันเบื้องหลังไห่อิงอู่ เขาตกตะลึงงันอยู่กับที่ มีพะยูนนรกเทพอารักษ์สองตนจากตำนานอยู่ด้วย พวกมันปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเด็กสาวที่ไม่คุ้นเคยกลายเป็นผู้คุ้มกันนางอยู่ด้านหลัง
มิน่าเล่านางถึงสามารถทำร้ายเขาได้ง่าย ในเมื่อเขาใช้พลังปราณก่อกำเนิดระดับเก้า เหตุผลก็คือเพราะนางมีองครักษ์ที่เป็นอสูรฟ้าระดับสองถึงสองตน
“เทพอารักษ์ของเผ่าพันธุ์ทะเลตายไปแล้วไม่ใช่หรือ? เสียงหวี่รู้สึกขื่นขมที่คอ เสร็จแน่ ข้าสังหารคนมากเกินไป ต้องไปกระตุ้นความโกรธของเทพอารักษ์เผ่าพันธุ์ทะเลแน่
“รีบฆ่าราชินีแมงกะพรุนและเปิดผนึกที่โดม..” บุรุษที่สวมชุดหมอผีเผ่าทะเลสูดลมหายใจลึก มองดูไห่อิงอู่และส่งเสียงแค่นอย่างใจเย็น “ให้ข้าจัดการกับนางเอง”