ตอนที่ 575 ข้อเสนอของบาร์บารา
ถังเทียนนอนอยู่บนทรายและโคลน
เขามองดูท้องฟ้าอย่างมึนงงเขากำลังหอบหายใจ เหงื่ออาบทั่วใบหน้าของเขา เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาโกรธ แต่เขารู้สึกหงุดหงิด
หลังจากได้ระบายไปแล้วเขาก็สงบลง
บางทีอาจเป็นเพราะข้าเองก็เหมือนกับเขา ข้าเบื่อที่จะแบกความฝันและความหวังของคนอื่น
เขาในปัจจุบันนี้ไม่ได้ประมาทเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต เขาไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้อีกต่อไปเขากลายเป็นผู้นำของเหล่าสหาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่มันก็กลายเป็นความจริง
ตัวอย่างเช่นในอดีต เขาสามารถลุยเดินหน้าได้โดยคิดแต่เพียงตนเอง แต่ตอนนี้ เขาต้องพาทุกคนไปกับเขาด้วย
เขาไม่ได้พูดอะไรไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันมาก ด้วยความเชื่อถือของผู้คนที่ฝากไว้ในตัวเขา เขาก็แค่ทำงานให้หนักขึ้น จนกระทั่งวันนี้ เมื่อเขาเห็นสือเซิน หัวใจของเขาหดหู่และตกตะลึงเขาโกรธจนระเบิดอารมณ์ออกมาทันที
แรงกดดันที่เขามีเพิ่มขึ้นมากทุกวัน
เขามองดูท้องฟ้า ท้องฟ้าสีครามเต็มไปด้วยเมฆของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ก็เหมือนกับสวรรค์วิถี
แต่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
จิ่งหาวอาเฮ่อ และหลิงซิ่วอยู่ด้วยกัน ไม่สามารถป้องกันกลุ่มคน 50 คนได้เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสวรรค์วิถี
ถังเทียนคิดถึงเรื่องนี้ ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นสภาพแวดล้อมที่ใหม่ แต่เขาไม่เคยคิดว่าความแตกต่างระหว่างสองโลกจะมากมายนัก หวังจุนเซียนพูดว่าทวีปฝานซิงโจว (ทวีปมหาศาล) มีกองทัพขนาดต่างๆ36 กองพล และภายในภูมิภาคใต้ ทวีปฝานซิงโจวไม่ใช่ที่แข็งแกร่งที่สุด ถังเทียนไม่อยากเชื่อตัวเลขทั้งหมดดังนั้นจึงสร้างแรงกดดันมหาศาล
ในสวรรค์วิถี แม้แต่ทหารที่แย่ที่สุดก็ยังเป็นกองทัพหนึ่ง
แต่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ กองทัพประจำทวีปมีประวัติศาสตร์ยาวนานเมื่อได้ยินคำบรรยายและรายละเอียดอย่างสมบูรณ์ของหวังจุนเซียนถังเทียนถึงได้ตระหนักถึงงานท้าทายที่พวกเขากำลังเผชิญ
ถ้าเราพูดว่าวิทยายุทธของทวีปในสวรรค์วิถีพัฒนาจนถึงจุดสูงสุด อย่างนั้นทหารประจำทวีปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงพัฒนาจนถึงจุดสูงสุดเหมือนกัน เมื่อผู้เยาว์ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เติบโตและไปโรงเรียน พวกเขาจะเรียนรู้การฝึกฝนเป็นกลุ่มอย่างขั้นพื้นฐานที่สุด พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของการเข้ากันได้และพื้นฐานของกลยุทธ์ในการสู้รบ นักเรียนแบบนี้เมื่อจบออกมาก็จะแทรกซึมเพื่อรับตำแหน่งสำคัญในกองทัพ ตัวอย่างเช่นกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านกองทหารรับจ้าง และกองทหารเจ้าศักดินาผู้มีอำนาจทั้งหลาย
ในสถานที่อย่างนี้ งานทุกอย่างเน้นที่การประสานงานเป็นทีมอย่างมาก
ทวีปซางโจวเป็นสถานที่ยากจนและมีเพียงโรงเรียนเดียว มาตรฐานค่อนข้างต่ำ ยังต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไปของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ
ในสวรรค์วิถีกลุ่มดาวหมีใหญ่ของถังเทียนสามารถยืนหยัดอยู่ในพื้นที่ของตนเองต่อต้านมหาอำนาจอื่นได้เพราะพวกเขามีกองทัพที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ว่าเขาจะเชื่อถือในพวกเขาเพียงไร เขาไม่คิดว่ากองทัพของพวกเขาซึ่งผ่านการต่อสู้มาเพียงไม่กี่ปีจะสามารถเทียบได้กับกองทัพประจำทวีปของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่มีการจัดสร้างกันมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
ด้านที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาความจริงก็คือจุดอ่อนที่สุดทำให้ถังเทียนและพวกรู้สึกเสียเปรียบเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกนี้น่ากลัวมากจริงๆ
ไม่, ต้องมีสักทาง!
ถังเทียนยังคงมองดูท้องฟ้า ข้าจะหาทางให้พบ
*********************
ทวีปฝานซิงโจว บุรุษอ้วนเต็มไปด้วยไขมันคนหนึ่งกวาดรายงานทั้งหมดในมือและถามโดยไม่เงยหน้าขึ้น “ความคืบหน้าในการสร้างสะพานลอยในทะเลแสงเป็นยังไงบ้าง?”
ที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะเป็นบุรุษวัยราว30 ปีคนหนึ่งค้อมศีรษะพูดด้วยความเคารพ “ยังไม่ก้าวหน้าเท่าใดนัก ยังขาดแคลนแรงงานชาวบ้านมากเกินไป”
“ห้าเดือนจะเสร็จทันไหม?” บุรุษอ้วนถาม
หยางจื่อชิงหลั่งเหงื่อเยียบเย็น เขาแข็งใจตอบ “นั่นเป็นไปไม่ได้”
ปัง!
แก้วบนโต๊ะถูกปาใส่หน้าเขาโดยตรง แต่เขายังคงหลบตาไม่กล้าเคลื่อนไหว หน้าผากของเขาถูกแก้วบาดเลือดไหลเลือดที่ไหลอาบใบหน้าของเขาทำให้เขาดูน่ากลัวมาก
บุรุษอ้วนเงยหน้าขึ้นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หน้าของเขาเฉยเมยไม่แสดงอารมณ์ “เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องสูญเสียทุกวันมากแค่ไหนหากสะพานไม่ได้รับการซ่อมแซม?”
หยางจื่อชิงรู้ว่าเจ้านายกำลังโกรธจึงไม่กล้าส่งเสียงหรือเช็ดเลือดที่หน้าของเขา
“เจ้ารู้ไหมว่าวันหนึ่งข้าต้องใช้จ่ายเงินไปมากมายเพียงไหน? เจ้าคิดไหมว่ามันง่ายมากนักหรือที่หาเลี้ยงพวกเจ้าทุกคน?” บุรุษอ้วนถอนหายใจ “ตอนนี้ทุกอย่างแพงมาก เงินใช้จ่ายออกไปราวกับน้ำรั่ว แล้วทวีปฝานซิงโจวของเราจะต้องพึ่งพาอะไร? มันเป็นธุรกิจ ทุกวันที่สะพานลอยในทะเลแสงพังเสียหายก็คือวันสูญเสียทั้งนั้น ข้ารู้สึกกังวล จื่อชิง เฮ้อ,เจ้าติดตามข้ามานานแค่ไหนแล้ว?”
“เรียนนายท่าน เป็นเวลา 12 ปีแล้วขอรับ” หยางจื่อชิงตอบ
“เป็นเวลา 12 ปีแล้ว” บุรุษอ้วนถอนหายใจ “เจ้าแก่แล้ว ไม่มีพวกเจ้าทุกคนก็คงไม่มีทวีปฝานซิงโจวในวันนี้ ข้ารู้ว่าหลายคนพอใจกับสิ่งที่พวกเขามีในตอนนี้ และทวีปฝานซิงโจวในปัจจุบันก็แข็งแกร่งมากกว่าสิบสองปีก่อนหลายเท่า ทุกคนมีครอบครัวและธุรกิจเป็นของตัวเองและคิดถึงแต่เวลาที่สนุกเพลิดเพลิน แต่จื่อชิง ดูสิ”
บุรุษอ้วนเดินไปที่อุปกรณ์ดวงดาว อุปกรณ์ดวงดาวขนาดมหึมาแสดงตำแหน่งของทุกดวงดาวในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
“ทวีปฝานซิงโจวของเราตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญ นี่ถึงได้นำความสำเร็จมาให้เราและภูมิภาคใต้ทั้งหมด ทวีปฝานซิงโจวคือหนึ่งในสิบอันดับแรกที่สามารถทำการค้าได้” น้ำเสียงของบุรุษอ้วนมีแววหยิ่งยโส “แต่นี่ก็หมายความว่าเราต้องพยายามดิ้นรนพัฒนาต่อสู้มาหลายครั้ง เราเป็นเหมือนชิ้นเนื้อที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ใครจะมากัดกิน”
“ข้ารู้ว่าคนเบื้องต่ำมีความคิดเห็นเกี่ยวกับข้ามากมาย พวกมันคิดว่าเรามีกองทัพมากมายในทวีปฝานซิงโจว แต่พวกมันไม่คิดเรื่องว่าถ้าไม่มีกองทัพหลายกอง แล้วเราจะอยู่รอดได้ยังไง? เราจะปกป้องแผ่นดินที่มีค่าเอาไว้ได้ยังไง?”
“นายท่านฉลาดเลิศล้ำ!” หยางจื่อซิงตอบ
“ฉลาด?” น้ำเสียงของบุรุษอ้วนเข้มงวดขึ้น “ใครที่จะบอกว่าข้าฉลาด? พวกมันมีแต่จะเกลียดข้าถามถึงเหตุผลที่ข้าไม่แบ่งปันผลกำไรให้พวกมัน พวกมันทำงานกันอย่างหนักและทำเงินประสบความสำเร็จได้มากและควรจะได้ยินดีกับผลของการกระทำ! หึ หึ!”
ใบหน้าของบุรุษอ้วนเต็มไปด้วยอาการเย้ยหยัน แต่ก็สงบลงโดยเร็ว “แต่ไม่ว่าพวกมันคิดอะไรกัน ข้าไม่สนใจทั้งนั้น”
น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมากขึ้นและหัวเราะเบาๆ
หยางจื่อซิงเย็นไปตามขั้วสันหลัง เขารู้ว่าการกวาดล้างที่เจ้านายเก็บไว้ในใจมานานกำลังจะเริ่ม
เหมือนกับว่าเขาอ่านใจของหยางจื่อชิงออก บุรุษอ้วนหัวเราะ “มนุษย์เราเมื่อพวกเขาไม่กระตือรือร้นมาเป็นเวลานาน ก็จะสะสมพิษและขยะในร่างกาย ขอเพียงทำความสะอาดอวัยวะภายในและกำจัดพิษออกไปก็จะทำให้พวกเขารู้สึกสดชื่นขึ้น มีเจ้าคอยรับมือหลายอย่าง ข้าก็พักได้อย่างวางใจ อีกสามเดือน สะพานลอยจะต้องซ่อมให้เสร็จ ไปจัดการได้ตามที่เจ้าต้องการได้เลย”
บุรุษอ้วนตบไหล่ของหยางจื่อชิง
หยางจื่อชิงเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เขาคล่องแคล่วมากเขาพยายามสงบจิตใจตนเองและไม่คิดอะไรมากต่อไปโดยเฉพาะในเรื่องซ่อมสะพานลอยให้เสร็จก่อน
นายท่านบอกว่าให้ทำในสิ่งที่ข้าต้องการได้เลยนั่นเป็นการส่งเสริมและเตือนด้วยว่าถ้าข้าปล่อยให้หละหลวมไม่ทำให้ดี อย่างนั้นจะกลายเป็นปัญหาของข้าเอง หยางจือชิงเข้าใจเจ้านายของเขา เจ้านายของเขาต้องการแต่ผลงานเท่านั้น
หยางจื่อชิงฝืนยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาต้องกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามากขึ้น
***********************
โลกน้ำเงิน
บาร์บารากลับมาโดยไม่เตือนผู้ใด เทียบกับคนแคระน้ำเงินอื่น เขาฉลาดกว่ามาก เขามาถึงที่ภูเขาอาบิดิราซึ่งเป็นโขดหินขนาดใหญ่อยู่ในกลางอวกาศว่าง มันมีขนาดมหึมาด้วยความยาวเกินกว่า 120กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุดคือ 85 กิโลเมตร โครงสร้างของมันมองดูคล้ายทั่งหิน
คนแคระน้ำเงินสร้างเมืองของตนเองอยู่บนผิวเรียกว่าเมืองอาบิดิยา
เมืองอาบิดิยาปกคลุมไปด้วยหมอกน้ำเงินเลือนรางมันคือหมอกสีน้ำเงินที่แปลกประหลาดของคนแคระน้ำเงินซึ่งมีปรากฏอยู่ที่ทุกที่ซึ่งคนแคระน้ำเงินรวมตัวกัน หมอกน้ำเงินนี้ถูกปล่อยออกมาโดยเถาสีน้ำเงินคอยปกป้องคนแคระน้ำเงินจากการถูกมิติว่างกัดกร่อน
แต่ภายในเมืองไม่มีหมอกน้ำเงิน
เป็นครั้งแรกที่บาร์บารามาถึงเมืองอาบิดิยา แต่เขาหาพบสถานที่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว เป็นหุบเขาเว้าตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ดูเหมือนสหายเก่าของเขาไม่ได้เป็นอยู่ที่ดีเท่าใดนัก
ในเมืองทุกเมืองของคนแคระน้ำเงินจะมีแหล่งกำเนิดไม้เถาซึ่งในตำแหน่งนั้นจะติดกับแหล่งไม้เถาซึ่งมีมูลค่าทำเงินได้มาก
หุบเขานี้อยู่ไกลมาก
ในเวลาอันรวดเร็วบาร์บาราก็พบบ้านสหายเก่าของเขาซึ่งความจริงเป็นถ้ำเล็กๆ
เขาเคาะประตู
“นั่นใคร?” เสียงหนึ่งดังออกมาอย่างไม่พอใจ
“ข้าเอง, บาร์บาราไง” บาร์บาราตอบ
ประตูไม้เล็กเปิดออกดังแอ๊ดด..และปรากฏร่างคนแคระน้ำเงินที่มีสีหน้าประหลาดใจ “บาร์บารา, เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“ดีดิสัน!ไม่ได้พบกันนานเลยนะ!” บาร์บาราร้องอย่างตื่นเต้นดีใจ
“เป็นเวลานานมากจริงๆ!” ดีดิสันจับมือของเขาและกอดบาร์บาราด้วยความรัก “รีบเข้ามา”
ดีดิสันสูงกว่าบาร์บาราครึ่งศีรษะและเขาดูเหมือนจะมีความกล้าและแข็งแกร่งมากกว่า จมูกโด่งเป็นสัน ตาสีฟ้าเข้มสายตาที่จ้องมองดูคนของเขาประเมินตัดสินคนมากและอาจทำให้คนผู้นั้นรู้สึกอึดอัดใจ
“ดูเหมือนเจ้าเป็นอยู่ไม่เลวเท่าไหร่เลยนะ” บาร์บารามองดูรอบๆ ห้อง ห้องมองดูตกแต่งอย่างเรียบง่าย
“ความจริง มันแย่”ดีดิสันรินน้ำใส่แก้วส่งให้บาร์บารา “ที่นี่ข้ามีแต่น้ำเปล่า โชคดีที่เจ้าไม่ใช่คนช่างจุกจิก”
“ข้าแปลกใจจริงว่าจดหมายที่เจ้าส่งให้ข้าครั้งล่าสุด” บาร์บาราจ่อแก้วกับปากและดื่มลงไป “ข้ารู้สึกว่าด้วยพรสวรรค์ของเจ้าเจ้าสามารถอยู่ในกองพลอาญาแดงได้”
“ข้าไม่เต็มใจจะสาบานจงรักภักดีต่อทะเลน้ำเงินอีกแล้ว” ดีดิสันไม่ได้หลบสายตาแต่จ้องมองบาร์บาราตรงๆ “เราก็เหมือนกัน,บาร์บารา เราตื่นแล้ว แม้แต่เจ้าเองก็แกล้งทำไปอย่างนั้น แต่ข้ารู้มานานแล้ว จริงไหม?”
บาร์บาราไม่ปฏิเสธเขาเพียงแต่เลิกคิ้ว “ทำไมเจ้าไม่ทำเล่า?ตราบใดที่เจ้ายังภักดีต่อทะเลน้ำเงิน ข้าเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์อย่างเจ้าเจ้าจะต้องเป็นดาวรุ่งในกองพลอาญาแดงแน่นอน”
“แม้ว่าพวกทะเลน้ำเงินจะหล่อเลี้ยงเรา แต่ข้าไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิด ข้าตื่นแล้วและมีสติเป็นของตนเองและข้าตายไปเมื่อสิบปีที่แล้ว และยังคงกลับไปที่ทะเลน้ำเงิน แต่ก่อนนั้นข้าต้องการจะชี้นำชีวิตของตัวเอง” ดีดิสันโบกมือ “บาร์บาร่า อย่าบอกข้านะว่าเจ้ามาหาข้าเพื่อพูดปัญหาชีวิต?”
“แน่นอนว่าไม่” บาร์บาราเคร่งขรึม “ถ้ามีโอกาสสำหรับเจ้าในตอนนี้เล่า เจ้าจะนำกองทัพบ้างไหม?”
“เลิกฝันได้แล้ว” ดีดิสันส่ายศีรษะ “ทะเลน้ำเงินจะไม่ยอมให้คนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้วผู้ไม่ต้องการสาบานจะภักดีต่อมันให้ยืมทหารเป็นแน่ นั่นเป็นการทำลายกฎ!”
“แล้วจะเป็นยังไงถ้าเราสร้างกองทัพของเราเอง?” บาร์บาราถามอีกครั้ง
“เราจะไปหาทหารมาจากไหน?เจ้ากับข้าน่ะหรือ?” ดีดิสันตอบประชด“ทหารที่ดีที่สุดมักจะมาจากทะเลน้ำเงิน”
“เราสามารถหาคนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้วเหมือนกับเราได้” บาร์บาราชี้มาที่ตนเอง
“นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี” ดีดิสันส่ายศีรษะ “เมื่อคนแคระน้ำเงินตื่นเขาจะมีความคิดเป็นของตนเอง และกลายเป็นพวกไร้วินัย พวกเขาจะไปค้นคว้าจักรกลหรือวิชาแปลกๆแต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติเป็นทหารเหมือนอย่างเจ้าเป็นต้น”
บาร์บาราละอายเขาไม่ใช่ทหารที่ดี แต่เขาไม่มีความคิดจะยอมแพ้ “บางทีเจ้าอาจพูดถูก แต่ดีดิสัน เจ้าเป็นคนแคระที่มีความรู้ทำไมมนุษย์ถึงมีสติเป็นของตนเอง แต่กองทัพของพวกเขาก็ยังทรงพลังมากเล่า?”
ดีดิสันตะลึง