ตอนที่แล้วตอนที่ 572 การเปลี่ยนของปลาดึกดำบรรพ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 574 ขี้ขลาด โกหก!

ตอนที่ 573 ชัยชนะที่โหดร้าย


ร่างของคนทั้งสี่สิบหกเปลี่ยนสภาพไปอย่างผิดปกติ  พลังทะลักออกมาสร้างเป็นรูปปลายักษ์ดึกดำบรรพ์ทันที

ร่างที่แข็งของพวกเขามีรังสีรูปปลายักษ์ดึกดำบรรพ์คลุมล้อมไว้พุ่งเข้าหาถังเทียน

แม้ว่าถังเทียนอยู่ในสภาพจิตใจว่างเปล่าแต่ในทันทีนั้นความสามารถในการต่อสู้ของเขาอยู่ในระดับสุดยอด  เขาเป็นคนแรกที่สังเกตความเปลี่ยนแปลงในตัวสือเซินว่าตั้งใจจะทุ่มเททั้งหมดแน่นอน

และความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งที่ถังเทียนคุ้นเคยมากก็คือเชื่อมั่น

ถังเทียนสั่นขณะที่เขาตื่นขึ้นจากอาการมึนงงสับสน  ความเจ็บปวดท่วมทะลักเข้ามาในร่างของเขาทำให้เขากระตุกด้วยความเจ็บปวด

รังสีหมัดที่เขาสร้างขึ้นมาหลุดพ้นจากการควบคุม  การผสานพลังงานในตอนแรกมีทีท่าชลอลง

บังเอิญปลาดึกดำบรรพ์ที่สือเซินได้สร้างขึ้นมาก็กระแทกใส่เช่นกัน

ปัง!

พลังงานกระจัดกระจายเหมือนประกายไฟไปทั่วทั้งบริเวณ  หมัดของถังเทียนกระจายออกไปทันที ขณะที่รังสีปลาดึกดำบรรพ์ของสือเซินก็อ่อนลง  หน้าของสือเซินแดงด้วยความโกรธ ที่ดินคือสิ่งที่เขาต้องการฉกฉวย

ต้องการได้

พวกเจ้าทุกคนกำลังอวยพรข้าจากเบื้องบนใช่ไหม?  พวกเจ้าทุกคนติดตามข้ามาถูกทางแล้วใช่ไหม?  พวกเจ้าทุกคนยังอยู่ที่นี่ใช่ไหม?

พวกเจ้าทุกคนจงดูนี่...

เสียงคำรามดังลั่นเหมือนสัตว์ร้าย  ดวงตาของสือเซินแดงฉาน  พลังงานทั้งหมดครอบคลุมอยู่ในดาบในมือของเขา  ปลาดึกดำบรรพ์ที่ครอบคลุมทุกคนในกลุ่มแสดงให้เห็นถึงเขี้ยวเล็บของมัน

ความตั้งใจสู้ของสือเซินทหารฝีมือดีต่างส่งเสียงโห่ร้องพร้อมกัน

ไปตายซะ

ปลาดึกดำบรรพ์รัศมีหมองลง แต่ดาบในมือของสือเซินมีรังสีแปลกประหลาดอาบอยู่ที่ผิวนอก  เสียงแหลมแหวกอากาศหายไปเหมือนกับว่าเวลาหยุดนิ่งและแสงทั้งหมดมาบรรจบกันที่ดาบที่งดงาม

นักสู้เกราะเงินใกล้เข้ามาและใกล้เข้ามาหน้าที่โหดเหี้ยมของสือเซินก็ยิ่งเคร่งเครียดมาก

เขาคิดถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาสูงเมื่อพวกเขาก่อตั้งทีม พวกเขาดื่มและพูดคุยถึงอนาคต เรื่องการแต่งงานและมีลูกเต็มไปด้วยภาพแห่งอนาคต เขาคิดถึงเวลาเมื่อพวกเขาจัดตั้งโดยกองกำลังที่เป็นมิตรและถูกกองกำลังอื่นโอบล้อมหลั่งเลือดนองสมรภูมิ ความสิ้นหวังท่วมทับหัวใจ เขาคิดถึงเรื่องที่เมื่อพวกเขากลายเป็นโจรท่องไปตามป่าเขาพวกเขาสูญเสียวิถีทางของตนเอง

บทเพลงสงครามที่เรียบง่ายและเยือกเย็นดังก้องอยู่ในหัวใจของเขา

“เจ้าจะบอกได้ยังไงว่าเจ้าไม่มีเสื้อผ้า?  ข้าแบ่งปันชุดข้าให้เจ้า  ราชากำลังยกกองทัพข้าจะเตรียมขวานศึกและหอกและทวนสำหรับต่อสู้กับศัตรูร่วมกับพวกเจ้า

“เจ้าจะบอกได้ยังไงว่าเจ้าไม่มีเสื้อผ้า?  ข้าแบ่งปันชุดข้าให้เจ้า  ราชากำลังยกกองทัพข้าจะเตรียมหอกและง้าวร่วมศึกกับพวกเจ้า”

“เจ้าจะบอกได้ยังไงว่าเจ้าไม่มีเสื้อผ้า?  ข้าแบ่งปันชุดข้าให้เจ้า  ราชากำลังยกกองทัพข้าจะเตรียมเกราะและอาวุธร่วมเดินทางออกศึกกับพวกเจ้า”

ประโยคสุดท้าย ‘เดินทางออกศึกร่วมกับพวกเจ้า’ทำให้น้ำตาเขาร่วง ภาพข้างหน้าพร่าเลือน

ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่มีทางทิ้งกัน  พวกเจ้าไม่มีทางจากไป..

ข้าจะต้องชนะ  พวกเจ้าทุกคนเห็นนี่ไหม?

ติง!

เสียงคมชัดสดใสทำให้เขามึนงง

โล่เงินที่กางออกป้องกันดาบเอาไว้ได้!

เสี่ยวเอ้อนัยน์ตาเย็นชา  แม้ว่าเจ้าเด็กโง่จะโง่เง่างมงาย  แม้ว่าความมั่นใจของเจ้าจะเรียกความเคารพนับถือได้  แต่ผู้ชนะมีได้เพียงคนเดียว

และนั่นก็คือข้า

เขาไม่กล้ายั้งมืออีกต่อไป  ยอดเสาทั้งหกส่งพลังงานมาครอบคลุมร่มเงิน

ร่มเงินเปี่ยมไปด้วยพลังงานเปลี่ยนแปลงเป็นทะเลดวงดาวกว้างใหญ่ เสี่ยวเอ้อบิดด้ามร่มอย่างนุ่มนวลและดวงดาวเริ่มหมุนและเริ่มปั่นด้วยความเร็วสูง  ดาบถูกร่มป้องกันเอาไว้ได้และเริ่มสั่นสะเทือนเหมือนกับว่าถูกบิดปั่นด้วยล้อบด

เศษรังสีนับไม่ถ้วนปลิวกระจายสร้างเป็นภาพสวยงามแต่โหดร้ายทำให้ผู้คนอึดอัดหายใจไม่ออก

สือเซินมองดูดาบอย่างตกตะลึงแสงรังสีหมองลงอย่างรวดเร็วและสูญเสียความสง่างามจากนั้นสูญสลายกลายเป็นเศษเหล็กแตกกระจายหลายชิ้นเนื่องจากมันระเบิดอยู่ในมือของเขา

ส่วนที่ประหลาดก็คือก่อนที่เขาจะหมดสติ  รู้สึกว่าสงบสุขมาก

ข้าล้มเหลวใช่ไหม?  ขอโทษด้วย ทุกคน....

ข้ากำลังจะตายใช่ไหม?  ดีเหมือนกัน จะได้ไปพบกับทุกคน...

ทั้งสี่สิบหกคนสูญเสียการควบคุมตัวเองและร่วงลงพื้นในเวลาเดียวกัน  ทุกคนต้องทนรับพลังโจมตีของเสี่ยวเอ้อและได้รับบาดเจ็บแตกต่างกันไป

พอสูญเสียพลังหมดแล้ว  ถังเทียนทรุดตัวร่วงลงพื้นโดยไม่อาจควบคุมร่างกายไว้ได้  แต่เขาไม่สนใจตนเอง และตะโกนลั่น  “ช่วยพวกเขาไว้!”

เสี่ยวเอ้อมองดูเจ้าเด็กโง่อย่างช่วยไม่ได้  เจ้าเองยังช่วยตัวเองไม่ได้  ทำไมถึงให้ช่วยพวกเขาอีก?  เขาไม่ต้องการให้เจ้าเด็กโง่ล้มตายไป  ถ้าไม่ใช่เพราะเขาถือตัวหยิ่งยโส  เขาคง เขาคง.. แน่นอน...

เสี่ยวเอ้อกัดฟันและโบกร่มอย่างช่วยไม่ได้  ร่างทั้ง 46ที่กำลังร่วงเหมือนถูกจับด้วยมือที่มองไม่เห็นลดความรุนแรงจากการตกร่วงจากที่สูงไปได้ ทั้ง 46 ร่างร่วงลงพื้นโดยปลอดภัย แต่ถังเทียนกระแทกกับพื้นเหมือนเครื่องถ่วงน้ำหนักเงินตกใส่พื้นโดยตรง

แต่เครื่องถ่วงน้ำหนักคุณภาพดีนี้ก็ยังคงมีน้ำหนักอยู่ดี

ปัง!

เสียงระเบิดดังขึ้นเกิดเป็นหลุมยุบในพื้นหินดำที่ไม่สามารถทำลายได้ ถังเทียนนอนอยู่ตรงกลางหลุม เขาไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นชั่วครู่ก็มีเสียงกรนเป็นจังหวะดังออกมาจากหลุมยุบ

เขาหลับไปแล้ว...เขาหลับสนิทจริงๆ...

เสี่ยวเอ้อฉุนเฉียวหนักกว่าเดิม

ปิงอยู่บนกำแพงบ่นพึมพำกับตนเองเป็นครั้งคราว เขาจดรายละเอียดบางอย่างและจมอยู่กับความคิดนั้นและไม่ยอมมองดูถังเทียนที่นอนอยู่ในหลุมเลยสักนิด

หวังจุนเซียนที่มองดูจนเสร็จสิ้นกระบวนการตกตะลึงสิ้นเชิง  แต่เมื่อเขารู้สึกตัวหน้าของเขายิ่งซีดขาวมากขึ้น สือเซินคือคนสำคัญในทวีปมหาศาล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาในทวีปซางโจว อย่างนั้นทวีปมหาศาลคงได้ระบายความโกรธใส่ทวีปซางโจวและคงไม่ปล่อยให้หญ้าทุกตารางนิ้วอยู่รอดแน่...

ข้าจะทำไงดี  ข้าจะทำไงดี...

หน้าของหวังจุนเซียนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง  ตอนแรกเขาต้องการใช้ท่านเหมิ่งหนานเป็นข้ออ้าง แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าท่านสือเซินจะลงมือกับพวกเขา! และสิ่งที่หวังจุนเซียนคาดไม่ถึงก็คือสือเซินจะล้มเหลวและพ่ายแพ้จริงๆ

ความแข็งแกร่งของสือเซินนั้นไร้เทียมทาน  และบริวารของเขาเป็นทหารฝีมือดี  พวกเขาทุกคนแข็งแกร่งมาก

อย่าว่าแต่ทหารทุกคนเลย  แค่คนใดคนหนึ่งก็สามารถเอาชนะหวังจุนเซียนหรือเลาะฟันเขาได้แล้ว เป็นผู้นำกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวง  เขาต้องทำการตัดสินใจ  ทหารทุกคนเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากมหาศาลและไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินล้วนๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาอำนาจที่ต้องการขยายกองทัพของพวกเขา

ความสามารถในการบังคับบัญชาของสือเซินเปิดหูเปิดตาของหวังจุนเซียนทำให้หวังจุนเซียนแอบชื่นชมเขาอยู่ในใจ  ตลอดช่วงการสู้รบหวังจุนเซียนชมดูอยู่ตลอด ทำให้เขาตระหนักได้ว่าสือเซินเป็นผู้บัญชาการทหารระดับสูงแน่นอน  นอกจากนี้ หวังจุนเซียนไม่อาจเทียบได้กับระบำผีเสื้อและปลาดึกดำบรรพ์แปลงได้เลยทำให้ความเคารพที่เขามีต่อสือเซินพุ่งพรวด

แต่สือเซินผู้แข็งแกร่งทรงพลังพ่ายแพ้จริงๆ

นี่ทำให้หวังจุนเซียนมีความสงสัยอยู่ในใจตนเองว่าผู้บัญชาการทหารที่แข็งแกร่งมีลูกกลุ่มที่แข็งแกร่งจะพ่ายแพ้ได้และพ่ายแพ้ขนาดที่ทั้งกลุ่มหมดสติไปได้

ชุดเกราะเงินนั่นเป็นเกราะแบบไหนกันแน่?

ท่านเหมิ่งหนานแข็งแกร่งน่ากลัวมากจริงๆ!

และเจ้าเด็กที่กางร่มนั่น...

สมองของหวังจุนเซียนสับสนไปหมดเขาสับสนมึนงงกับการต่อสู้ทั้งหมด มันเกินความรู้ของเขาไปมาก

หวังจุนเซียนไม่กล้าจากไป  พวกเขาได้ล่วงเกินทวีปมหาศาลไปแล้ว  ถ้าเขาจะยอมแพ้และไปมอบตัว  ทวีปมหาศาลก็จะไม่ยอมปล่อยทวีปซางโจวไปและทวีปซางโจวทั้งหมดจะถูกพวกเขาย่ำยี หวังจุนเซียนไม่ยินดีให้ครอบครัวคนของพวกเขาถูกเกณฑ์ไปซ่อมสะพานลอย  แล้วเขาจะมองดูทวีปซางโจวถูกย่ำยีได้ยังไง

มีแต่พวกเขาที่จะช่วยพวกเขาได้ก็คือแสวงหาความช่วยเหลือจากท่านเหมิ่งหนาน

ท่านเหมิ่งหนานแข็งแกร่งทรงพลังมาก  และปราสาทดำก็แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ

หวังจุนเซียนเดินทางมามากได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง  เมื่อสือเซินลงมือเขาประหลาดใจมาก แต่ในใจของเขาทำงานได้อย่างรวดเร็วกว่าสือเซิน  เมื่อเขาเห็นปราสาทหินดำที่สง่างามเขาสังเกตความคล้ายคลึงกันระหว่างปราสาทดำกับหินดำบนพื้นได้ทำให้เขาโยงเรื่องราวได้ทันทีและตระหนักได้ถึงคุณค่าของแผ่นดินแห้งแล้ง

แต่เขาไม่เคยคิดว่าสือเซินจะลงมือเคลื่อนไหวโดยไม่เตือนเขา  เขาลงมือโดยพลการและพ่ายแพ้ในที่สุด

หวังจุนเซียนคิดอย่างช้าๆ  และตระหนักได้สองสามจุด

ในปัจจุบันนี้พวกเขาจำเป็นต้องปกปิดและฝังเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นไว้ ข่าวของสือเซินจะต้องถูกยับยั้งไม่ให้รั่วไหลออกไป เมืองเป่ากวงยังคงมีกองกำลังประจำอยู่ที่นั่นซึ่งสั่งการโดยสือเซินและพวกเขาต้องคิดหาวิธีรับมือพวกเขา

หวังจุนเซียนรอรายงานท่านเหมิ่งหนาน  แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังหลับ  เขาไม่กล้ารบกวน  จึงได้แต่รออยู่ข้างๆ อย่างอดทน

จิ่งหาวอาเฮ่อและหลิงซิ่วทั้งสามคนโดนดึงไปตกพื้นที่แห้งแล้ง ทุกคนหน้ามุ่ย

“เราจำเป็นต้องฝึกให้หนักขึ้น”  อาเฮ่อพูดอย่างจริงจัง เขาไม่เคยพบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ทุลักทุเลยาวนานขนาดนั้น แม้ว่าทุกคนจะพบว่ากองทัพในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่ง  แต่ความแข็งแกร่งที่พวกเขาแสดงออกมาก็ทำให้พวกเขาแปลกใจ

สำหรับพวกเขาเซียนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ได้รับการขัดเกลา แต่เมื่อเซียนที่ไม่ได้รับการขัดเกลาเหล่านี้รวมกลุ่มเป็นกองทัพความสามารถในการรบกลับมากเกินกว่าที่พวกเขาคาดหมาย

หลิงซิ่วจับด้ามหอกอย่างหงุดหงิด  เขาโกรธมาก เขาไม่สนใจเรื่องกองทัพ เขาโกรธมากกับความล้มเหลวของตัวเอง

“ข้าจะไปฝึกก่อน”

พูดจบหลิงซิ่วก็หุนหันออกไป

จิ่งหาวก็ยิ้มประชดตัวเอง  “ก่อนนั้นข้าคิดว่าหลังจากขัดเกลาภูตกระบี่ได้แล้ว ข้าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้ายังต้องรับความพ่ายแพ้ในวันนี้  แต่ครั้งต่อไป เมื่อเราพบกับกองทัพต่อไป...”

เขาไม่พูดต่อ  แต่หมุนตัวเดินออกไปฝึกกระบี่ตนเอง

อาเฮ่อไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น  แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสู้กับกองทัพได้ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับอาเฮ่อ นั่นเป็นเรื่องน่าอาย

หน้าของเขาเขียวคล้ำและเดินออกไปฝึกฝนบ้างเช่นกัน

ถังเทียนตื่นขึ้นหลังจากหลับลึกไปสองวัน  หลังจากหลับจนพอใจแล้ว เขาเต็มไปด้วยพลังและความแข็งแรงราวกับว่ามันไม่อาจหมดไปได้

หวังจุนเซียนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วรายงานทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้อย่างระมัดระวังทันที

หวังจุนเซียนรายงานความร้ายแรงของเรื่องราวทำให้ถังเทียนเรียกประชุมทุกคน หลังจากได้ฟังรายงานแล้ว พวกเขาตกใจกันหมด พวกเขาไม่เคยคิดว่าสือเซินจะออกมาด้วยตนเองและปล่อยให้กองทัพประจำการอยู่ที่เมืองเป่ากวง ถ้าเขาไม่กลับไปหลังจากเวลาผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง  กองทัพจะหาทางออก  และนั่นอาจเป็นปัญหาก็ได้

ทวีปมหาศาลจะไม่ปล่อยเรื่องแบบนั้นไว้แน่ และสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือส่งกองทัพใหญ่มากดดันพวกเขา ถึงตอนนั้นทวีปซางโจวคงกลายเป็นพื้นที่มิคสัญญีแน่  ทวีปมหาศาลจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมีชีวิตรอด

หลังจากคิดดูแล้วถังเทียนพูด “งั้นรอให้สือเซินและคนของเขาฟื้นขึ้นก่อน จากนั้นเราจะคิดกันอีกที”

สือเซินฟื้นในตอนบ่าย  สือเซินไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย  แต่ตาของเขาเหม่อลอยว่างเปล่าและหมองมัวไร้ประกาย

ในที่สุดข้าก็แพ้สินะ?

ขอโทษด้วยทุกคน...

สือเซินนั่งบนพื้น  ไม่พูดอะไรสักคำ  เหมือนกับคนไร้วิญญาณ  พลังงานร่างของเขาถูกผนึกไว้เหมือนกับเด็กเพิ่งเกิด งุ่มง่ามทำอะไรไม่ถูก

ถังเทียนทิ้งตัวนั่งกับพื้นข้างๆเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด