ตอนที่ 572 จักรพรรดินีสมุทร
มหาสมุทรไร้ขอบเขต วังฝนดาวตก
จ้าวมังกรสมุทรเข่นฆ่าสังหารราชตระกูล, ผู้อาวุโส, เจ้าเมือง, หัวหน้าเผ่าและสมาชิกของกลุ่มอย่างบ้าคลั่ง นอกจากทาสแล้ว ราชตระกูลทั้งหมดและพวกขุนนางถูกสังหาร ไม่มีใครเหลืออยู่เลย มีโลหิตเจิ่งนองอยู่บนพื้นเหมือนกับแม่น้ำสายหนึ่ง มหาสมุทรรอบๆ หมู่เกาะฝนดาวตกถูกย้อมเป็นสีแดง ศพของชนเผ่าทะเลมากกว่าแสนมีทั้งจมทั้งลอยอยู่ทั่วอ่าวทะเลฝนดาวตก
เป็นปรากฏการณ์น่าสยดสยองเหลือทน
เสียงตะโกนจากการเข่นฆ่า, เสียงคร่ำครวญร่ำไห้ เสียงกรีดร้องและเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง...
ที่หน้าผาชมดาว กลุ่มขุนนางเผ่าทะเลถูกนำมารวมตัวกัน ทหารฝ่ายกบฏได้สังหารและโยนร่างพวกเขาลงไปในมหาสมุทร
สตรีชั้นสูงผู้ถูกดูแลปรนนิบัติอย่างดีและทาสหญิงที่งดงามถูกทหารที่หื่นกระหายข่มขืน
“ฆ่า! นอกจากเผ่ามังกรสมุทรแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกครองอื่นในดินแดนสมุทรหอทงเทียน” จ้าวมังกรสมุทรสังหารจนกระทั่งร่างของเขาเปรอะไปด้วยเลือด กลับกลายเป็นว่าเขาได้ฆ่าขุนพลสมุทร, ชนเผ่าและทหารที่รั้งอยู่เพื่อปกป้องวังฝนดาวตกทั้งหมด นอกจากสตรีผู้ตกเป็นเชลยแล้ว ไม่มีทหารคนสนิทที่ผู้อาวุโสและหัวหน้าเผ่าพันธุ์ทะเลนำมาสามารถรอดชีวิตอยู่ได้เลย เกาะฝนดาวตกทั้งหมดเกือบร้อยเกาะ นอกจากองครักษ์ผู้ปกป้องที่มั่นตามธรรมชาติอย่างเหนียวแน่น หรือห้องลับแล้ว ไม่มีที่ใดๆ สามารถต้านทานอยู่ได้ ทหารกบฏที่ควบคุมไม่ได้ ได้ขยายไฟสงครามไปยังบ้านของนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ตั้งอยู่ในนั้น
“ฆ่าให้หมด ปล้นให้เกลี้ยง เผาอย่าให้เหลือ..” ทหารกบฏจำนวนมากเข้าโจมตีพร้อมกัน
นักสู้ปราณก่อกำเนิดที่อาศัยอยู่ที่นั่นส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกาะฝนดาวตก
นักสู้ปราณก่อกำเนิดบางคนตื่นขึ้นมาเพื่อต้านกบฏ
แต่พวกเขาไม่สามารถติดต่อกับคนอื่นได้ และทำได้แต่เพียงสู้ตามลำพังตนเอง
แม้ว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดจะพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องบ้านเรือนของพวกเขา แต่ภายใต้การโจมตีที่แข็งแกร่งจากทหารกบฏของจ้าวมังกรสมุทร พวกเขาทำได้แต่ประคับประคองตนเองเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริวารของจ้าวมังกรสมุทร สี่แม่ทัพสมุทรและสิบขุนพลสมุทร ทั้งหมดเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่แข็งแกร่ง เมื่อมีการต่อต้าน พวกเขาจะผนึกพลังกันโจมตีศัตรู
เทพเจ้าสมุทรผู้เมตตา โปรดเปิดพระเนตรของพระองค์ดูเถิด....”
“เราต้องการจักรพรรดิสมุทรองค์หนึ่ง แต่ไม่ใช่ทรราชย์อย่างจ้าวมังกรสมุทร....”
“เทพเจ้าสมุทรเอย... นี่คือการลงทัณฑ์ของเทพเจ้าใช่ไหม? โลหิตจากชนเผ่าทะเลไหลนองท่วมท้นพอแล้ว....”
สมาชิกเผ่าพันธุ์ทะเลที่ตกเป็นเชลยร้องไห้อย่างขมขื่นและเกลียดชัง แม้ว่าครั้งหนึ่งเผ่าพันธุ์ทะเลจะลอบคัดค้านการเป็นจักรพรรดิสมุทรของก้วนหลาน เพราะเขาเป็นมนุษย์และไม่ใช่สมาชิกเผ่าพันธุ์ทะเลที่แท้จริง แต่วันนี้ ประชาชนชาวเผ่าสมุทรจึงได้ตระหนักว่า จักรพรรดิสมุทรคนใหม่อย่างจ้าวมังกรสมุทรนั้นมิอาจเทียบได้แม้ปลายนิ้วของก้วนหลาน จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานสง่างามและมีเมตตารักประชาชนทั่วไปเหมือนกับลูก ไม่เคยใช้อำนาจเผด็จการควบคุมอำนาจทางการเลย นอกจากยอมรับให้ผู้อาวุโสควบคุมอำนาจของเขาได้บ้างแล้ว เขายังเมตตาตระกูลที่ยากจนต่ำต้อย ในทุกปี เขาจะจ้างผู้เยาว์ที่โดดเด่นจากเผ่าพันธุ์ทะเลต่างๆ มาเป็นอัศวินสมุทร ให้โอกาสลูกหลานเผ่าพันธุ์ที่ยากไร้ได้มีโอกาสประสบความสำเร็จ
ส่วนจ้าวมังกรสมุทรเป็นทรราชย์อย่างแท้จริง เขากลายเป็นจักรพรรดิสมุทรคนใหม่และทำการกวาดล้างขุนนางชั้นสูงและผู้เยาว์ที่โดดเด่นจากชนเผ่า
ทรราชย์ที่ทำให้เทพเจ้าโกรธแค้นและประชาชนเกลียดชังถูกจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานและราชินีแมงกะพรุนข่มไว้อยู่
จนกระทั่งวันนี้ ในที่สุดเขาก็แสดงเขี้ยวเล็บนักล่าผู้กระหายเลือดของเขา
ในที่สุด ชาวเผ่าพันธุ์ทะเลก็เห็นชัดแล้วว่าจ้าวมังกรสมุทรเป็นคนเช่นไร พวกเขาเหมือนกับสนับสนุนปีศาจร้าย... เขาน่ากลัวยิ่งกว่าจ้าวปีศาจจากแดนอเวจีเสียอีก
ถ้าพวกเขารู้ว่าอะไรหลายๆ อย่างจะกลายเป็นเช่นนี้ พวกเขาคงจะสนับสนุนจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานต่อไปแน่ แม้ว่าเขาจะมาจากเผ่าพันธุ์หนึ่ง เป็นเพียงมนุษย์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ทะเลแท้ๆ แต่เขาก็ยังดีกว่าจ้าวมังกรสมุทรที่มีเลือดเผ่าพันธุ์ทะเลแท้ๆ เสียอีก
“อยากให้จักรพรรดิสมุทรคืนชีพจริง เราต้องการเขา. ....”
“เราเสียใจจริงๆ.....”
ฝนเทลงมาจากฟ้าอย่างหนัก เหมือนน้ำตาชาวเผ่าพันธุ์ทะเลที่ต้องหลั่งด้วยความเสียใจ
แต่มันสายเกินไปแล้ว
นอกจากวังฝนดาวตกจะถูกจ้าวมังกรสมุทรครอบครองแล้ว บ้านและร้านค้าทั้งหมดถูกปล้นสะดม ทหารหลายคนเริ่มเผาอาคารโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง
แม้แต่ฝนก็ไม่สามารถดับไฟโกรธแค้นนี้ได้ ไม่มีใครสามารถทำอย่างอื่นได้ นอกจากนั่งอยู่บนพื้น มองดูควันหนาทึบที่บิดตัวขึ้นมาเหมือนกับงูเห่าและมองดูเปลวไฟกลืนกินอาคารเหมือนสัตว์ประหลาดร้าย บางทีนี่อาจเป็นเหมือนสวรรค์พิโรธดังในตำนานก็ได้ การทรยศหักหลังที่ไร้ความปราณีเช่นนี้เกิดจากความพิโรธของเทพเจ้า ทัณฑ์ทรมานของเทพเจ้าก็คือปล่อยให้คนทรยศหักหลังต้องทุกข์ทรมานเจ็บปวด
ทหารนับแสนรอคอยที่จะถูกทหารกบฏส่งตัวไปประหารยังผาชมดาว ขณะที่คนทั้งแก่ทั้งเยาว์วัยถูกขังร้องไห้อยู่ในกรง
แต่สายเกินกว่าจะเสียใจ
เมื่อขุนนางชนชั้นสูงถูกฆ่าหมด ก็จะถึงคราวของข้าราชบริพาร
จ้าวมังกรสมุทรสัญญาว่าจะให้ความเป็นไทกับพวกข้าราชบริพาร แต่คำพูดนี้เหมือนกลายเป็นฟองสบู่ที่กระทบคมขวานเลือด
เทียบกับการได้เป็นคนอิสระแบบนี้แล้ว ทุกคนรู้สึกได้ทันทีว่าตระกูลข้าราชบริพารในยุคของจักรพรรดิสมุทรคนก่อนนั้นถือว่ามีชีวิตอย่างแท้จริง การพยายามแสวงหาอิสรภาพโดยไม่มีพลังและความพากเพียรจะมีได้จริงๆ หรือ? นั่นคือฝันกลางอากาศไม่ใช่หรือ?
“หนึ่งในสี่ราชันย์ใต้บังคับของจักรพรรดิสมุทรก้วนหลาน ราชาฉลามกลับมาเกลี้ยกล่อมทหารกบฏภายใต้ราชโองการของจักรพรรดิสมุทรคนใหม่ บริวารของจ้าวมังกรสมุทรทุกคนต้องวางอาวุธเดี๋ยวนี้และคุกเข่ายอมจำนนกับพื้น มิฉะนั้นพวกเจ้าจะถูกฆ่าโดยไม่มีการเจรจา” บนพื้นผิวทะเลฝนดาวตก บุรุษร่างสูงใหญ่มาพร้อมกับคลื่นมือถือดาบฉลามเสือเงินเป็นประกาย เขายืนอยู่ที่เบื้องล่างผาฝนดาวตกและเปล่งเสียงร้องสั่นสะเทือนไปทั้งโลก
ด้านหลังของเขา มีเผ่าพันธุ์ทะเลฝีมือดีอีกมากกว่าหมื่นคนที่กลับมาจากทวีปมังกรทะยาน
ทั่วทะเลฝนดาวตกกึกก้องไปด้วยเสียงแตรศึก
ตอนแรกเป็นแนวเส้นสีดำโผล่จากแนวขอบฟ้า และค่อยขยายใหญ่จนคนสามารถเห็นได้ อสูรของเผ่าพันธุ์ทะเลนับไม่ถ้วนที่ขับขี่โดยพลทหารม้าเผ่าทะเลกำลังควบม้าตรงผ่านหมู่เกาะฝนดาวตกอย่างสง่างาม
“จริงหรือนี่? เทพเจ้าสมุทรไม่ทอดทิ้งพวกเราแล้ว”
“เป็นราชาฉลามที่ทำงานให้กับจักรพรรดิสมุทร เขาพากองกำลังพิเศษกลับมาช่วยเราแล้ว จักรพรรดิสมุทร จงเจริญ...”
ข้าราชบริพารหลายหมื่นมีสีหน้าตื่นเต้น แต่ละคนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ พวกเขากรีดร้องตะโกนและหัวเราะ
เกี่ยวกับการกลับมาของกองกำลังพิเศษของเผ่าพันธุ์ทะเลทำให้ทหารกบฏของของจ้าวมังกรสมุทรมีสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินข่าว แม้ว่าจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานจะตายไปแล้ว แต่ศักดิ์ศรีของเขายังขู่ขวัญผู้คนได้ ถ้าจ้าวมังกรสมุทรไม่ดูอยู่ที่ผาฝนดาวตก ทหารกบฏคงจะหนีไปด้วยความกลัวทันทีที่เห็นราชาฉลามมาปรากฏตัวให้เห็น
จ้าวมังกรสมุทรมองดูราชาฉลามด้วยอาการเยาะเย้ย “เจ้าลูกนอกสมรสที่ไร้สาระ เจ้าต้องการท้าทายข้าด้วยพลังปราณก่อกำเนิดระดับแปดเองนี่หรือ? ขนาดก้วนหลานยังกลัวข้าอยู่บ้าง แล้วสถานะของเจ้ามีอะไร?”
เมื่อราชาฉลามยกมือ ทหารฝีมือดีทั้งหมื่นคนก็หยุดทันที
แทบจะพร้อมกัน
เมื่อกองกำลังพิเศษหลายหมื่นคนตะโกน หน้าผาฝนดาวตกทั้งสิ้นดูเหมือนจะสั่นสะเทือน ทหารกบฏสั่นสะท้านด้วยความกลัว เมื่อเห็นเช่นนี้ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดลงทันที
“ข้าคือผู้นำทัพที่ได้รับราชโองการจากจักรพรรดิสมุทรให้ต่อสู้กับกษัตริย์ได้ การต่อสู้กับกษัตริย์เป็นเรื่องของข้า” ราชาฉลามคุกเข่าอยู่บนยอดคลื่นด้วยสีหน้าดูเคร่งครัดประหลาด เมื่อเขาคุกเข่า อัศวินสมุทรทุกคนพลิกตัวลงจากพาหนะและคุกเข่าอยู่บนผิวคลื่นข้างอสูรพาหนะ นี่คือธรรมเนียมสูงสุดในการต้อนรับจักรพรรดิสมุทร
เป็นไปได้ไหมที่จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานยังไม่ตาย?
จ้าวมังกรสมุทรตกตะลึง
เพียงแค่จ้าวมังกรสมุทรและทหารกบฏคิดว่าจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานจะมาปรากฏตัวที่ทะเลฝนดาวตก พื้นผิวมหาสมุทรที่ห่างไกล ปรากฏพาหนะศึกทองมีอสูรโลมาระดับทองสิบแปดตัวปรากฏอยู่ด้วย
เหนือพาหนะเป็นสตรีอยู่ในชุดเกราะจักรพรรดิสมุทรมือถือสามง่ามจักรพรรดิสมุทร
ความงามสง่าของนางไม่มีใดเปรียบ
“ก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดา” จ้าวมังกรสมุทรจำได้ว่าไม่ใช่ราชินีแมงกะพรุน ก็แค่เด็กผู้หญิงที่มีพลังปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย เขารู้สึกสบายใจแต่หัวเราะอย่างหงุดหงิดทันที
“ข้าคือธิดาของของจักรพรรดิสมุทรก้วนหลาน, ไห่อิงอู่ และมีสิทธิ์ในราชบัลลังก์โดยสายเลือด คนที่สนับสนุนข้าเป็นจักรพรรดิสมุทรจะกลายเป็นพลเมืองของข้า คนที่ภักดีต่อข้าสามารถเป็นทหารของข้าได้ ยามนี้เผ่าพันธุ์ทะเลตกอยู่ในอำนาจของศัตรูและทหารกบฏจนก่อให้เกิดความวุ่นวายในเผ่าพันธุ์ทะเล เทพเจ้าทะเลโกรธเกรี้ยว การลงโทษจึงเกิดขึ้น ถ้าพวกเจ้าไม่กลับใจ พวกเจ้าจะกลายเป็นอาหารกุ้งและปลาในทะเล” ไห่อิงอู่กวัดแกว่งง้าวสามง่ามเหนือหัว มังกรรุ่นสามหัวถูกเรียกออกมา และคำรามใส่ท้องฟ้า แม้ว่ามังกรสามหัวจะมีขนาดเล็ก แต่ทุกคนในเผ่าพันธุ์สมุทรก็ได้ยินชัดเจน มันมีพลังมังกรเช่นเดียวกับจ้าวมังกรทองสามหัวอสูรพิทักษ์ที่จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานเคยมี
“นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง เจ้าวอนหาที่ตายเสียแล้ว” จ้าวมังกรสมุทรรู้สึกว่า แค่เขาตะปบเท่านั้น ก็ทำให้ไห่อิงอู่หนีไปแล้ว
มีมังกรทองสามหัวก็หมายความว่ามีพลังมากนักหรือ?
มันก็แค่ลูกมังกรตัวหนึ่ง!
เมื่อเห็นว่าไห่อิงอู่เป็นแค่เพียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง พวกทหารกบฏค่อยรู้สึกสงบขึ้นทันที โชคดีที่จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานและเจ้ามังกรสามหัวไม่ได้มาด้วยตนเอง ไม่อย่างนั้นพวกเขาได้ตายกันหมด
“ใครก็ได้จับนางมาให้ข้า ข้าจะให้นางเป็นทาสหลวงเมื่อข้าขึ้นครองบัลลังก์” จ้าวมังกรสมุทรยกมือสั่งการ และแม่ทัพสมุทรนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสี่และเจ็ดปรากฏตัวทันที แม้ว่าระดับของพวกเขาจะต่ำกว่าราชาฉลาม แต่ก็สามารถตรึงราชาฉลามไว้ได้ คนหนึ่งต้านรับ คนหนึ่งโจมตี พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถจับไห่อิงอู่ได้อย่างง่ายดาย
“จักรพรรดิสมุทรที่เป็นตัวตลกนี้ต้องการจะทำเป็นเล่นแผนสูง แต่ใครจะรู้ เขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย”
ไห่อิงอู่หมุนตัวอย่างสง่างาม หัวหน้าปลาหมึกมนุษย์กลายพันธุ์, มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟง, ปลาวาฬจาง มนุษย์ปลาตีนสุยจุ่ย มนุษย์ปูยักษ์ต้าอ้าวและคนอื่นปรากฏตัวเหนือผิวทะเลต่อหน้าโลมาทองทั้งสิบแปด
เมื่อจ้าวมังกรสมุทรได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจัดจนตาเปลี่ยนเป็นสีดำ “ข้ามีพลังปีศาจ และเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ ใครจะฆ่าข้าได้?”
เขาเริ่มคำรามลั่นอย่างบ้าคลั่ง กลายร่างเป็นอสูรกายที่ดูเหมือนปีศาจ
ทุกคนที่เป็นชาวเผ่าพันธุ์ทะเลถึงกับหน้าซีดตกใจที่เห็นเช่นนั้น
เราถูกตัดสินเสียแล้ว จ้าวมังกรสมุทรที่เราสนับสนุนความจริงก็คือปีศาจร้ายที่โกหกพวกเราทุกคน!
ไม่เพียงแต่เผ่าพันธุ์ที่เป็นข้าราชบริพารเท่านั้น แม้แต่ทหารกบฏก็ยังตกใจกลัว....ถ้าสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงไปในลักษณะดังกล่าว จ้าวมังกรสมุทรคงไม่ต้องการแปลงร่างเป็นปีศาจที่น่ากลัว แต่พอมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปดสองสามคนรวมอยู่ในฝ่ายตรงข้าม และพวกเขามีกองกำลังจากกองทัพที่ไม่ธรรมดาเกินกว่าหมื่นคน ถ้าเขาไม่แปลงกายเป็นปีศาจ เขาจะต้องถูกศัตรูฆ่าตายไม่เร็วก็ช้า แม้ว่าการแปลงร่างเป็นปีศาจจะดูน่ากลัว ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าไห่อิงอู่ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเขา ราชาฉลามและผู้ช่วยที่อยู่ภายใต้การกดดันอย่างหนัก มีหรือจะไม่กล้าเชื่อฟังเขา? ในหอทงเทียนเขาเป็นหนึ่งในเรื่องความแข็งแกร่ง ตราบใดที่เขามีพลัง เขาจะต้องกลัวคำวิจารณ์ทำไม
หลังจากจ้าวมังกรสมุทรแปลงร่างเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบเสร็จ เขาระเบิดพลังออกมาทันที
พลังที่ปลดปล่อยออกมารุนแรงยิ่งนัก
ความกระหายเลือดและความต้องการจะฆ่าสังหารครอบงำความปรารถนาของจ้าวมังกรสมุทร
เขาตวัดกรงเล็บใส่ตระกูลข้าราชบริพารนับพันส่งผลให้มีคนตายและบาดเจ็บนับไม่ถ้วน
“ตัวตลกอย่างพวกเจ้าบังอาจท้าทายข้า จ้าวมังกรสมุทรเชียวหรือ?” จ้าวมังกรสมุทรหัวเราะลั่น เขาบินขึ้นไปในอากาศ พร้อมจะฆ่าไห่อิงอู่ที่สวมเกราะจักรพรรดิสมุทรและถือสามง่ามจักรพรรดิสมุทร
“โอวพระเจ้า สุนัขเลี้ยงของตระกูลเย่ว์ยังแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าเจ้า ทำไมเจ้าถึงต้องภูมิใจด้วยเล่า?” เจ้าอ้วนไห่, เสวี่ยทันหลาง, องค์ชายเทียนหลัว, พี่น้องตระกูลหลี่ปรากฏตัวอยู่หน้าพาหนะทองของไห่อิงอู่ ในบรรดาพวกเขา พี่น้องตระกูลหลี่พาอสูรทาสร่างสูงใหญ่มาด้วยสองตน นั่นคือ พะยูนนรกอสูรฟ้าระดับสอง