ตอนที่ 572 การเปลี่ยนของปลาดึกดำบรรพ์
ร่างของถังเทียนโน้มมาข้างหน้าเล็กน้อย เขาเป็นเหมือนหมีเงินดุร้ายกำลังหมอบเตรียมกระโจนตาที่หลับอยู่ครึ่งหนึ่งพลันเบิกกว้างและรังสีเยือกเย็นรุนแรงพุ่งออกมาเหมือนคมดาบขาว
ไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะความเหนื่อยล้าของเขา แต่สภาพใจของถังเทียนสงบนิ่งไม่มีกระเพื่อม
ใบหน้าที่ชั่วร้ายของศัตรูของเขาทุกคนมีแววตาเปี่ยมไปด้วยความโลภสะท้อนอยู่ในดวงตา เขาแทบมีจิตใจว่างเปล่าดูเหมือนจะเหลือแต่เพียงสัญชาตญาณ เขาไม่ได้ตะโกนหรือคำรามมีแต่เสียงกระซิบแผ่วเบาเหมือนลมทะเลพัดพริ้ว สัญญาที่เขาสาบานอยู่ใต้ดวงดาว
ข้าต้องชนะ
ข้าต้องเป็นผู้ชนะ
ข้าต้องเอาชนะพวกมัน
คนแรกที่ตระหนักว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติก็คือเสี่ยวเอ้อ
อันตราย! ทั่วทั้งตัวของถังเทียนเปล่งพลังปราณที่อันตรายมาก ปกติถังเทียนจะเผยกลิ่นอายเหมือนสัตว์ร้ายเป็นบางครั้ง แต่ส่วนมากเป็นปราณที่ก้าวร้าว ห้าวหาญแต่ไม่ใช่ปราณอันตราย
“นี่เป็นเจ้าจริงๆ หรือว่าเจ้าแกล้งบ้ากันแน่?”
เสี่ยวเอ้อพึมพำกับตนเองเพราะเหตุผลบางอย่าง ความตื่นเต้นที่เขาไม่เคยประสบเริ่มปรากฏ แม้ว่าเจ้าเด็กโง่จะมีจุดแข็งหลายอย่างแต่เขาก็โง่งี่เง่าและไม่เคยทำให้เสี่ยวเอ้อสบายใจได้เลย เขาแข็งแกร่งแต่เอาแน่นอนไม่ได้ บางคราก็มีความสามารถครอบงำเขาได้ แต่ส่ว่นใหญ่เขามักจะทำผิดได้ง่ายๆ
สำหรับคนที่มีความหยิ่งเป็นพิเศษ ถ้าความถือตัวจัดของเขาเปลี่ยนไปเป็นความหลงใหลและความกระตือรือร้นเหมือนดวงอาทิตย์สดใส อย่างนั้นเขาคงเป็นดวงอาทิตย์ที่สมบูรณ์แบบใจดีไม่ใช่โง่เง่าขลาดเขลา
จนกระทั่งบัดนี้ทุกครั้งที่สภาวะพร้อมรบผุดขึ้นมาเสี่ยวเอ้อมักจะตื่นเต้น ในที่สุดเขาก็พบลักษณะร่วมกันระหว่างพวกเขาซึ่งนั่นเป็นวิธีสู้รบที่น่าร่วมกันได้ มันควรจะเป็นอันตรายกับการมีเจตนาฆ่าเพียงอย่างเดียว แม่น้ำโลหิตจะไหลนอง เป็นความเยือกเย็นอำมหิตและไร้ความปราณี เลือดที่สาดกระจายก็คือดอกไม้ที่งดงามที่สุดในโลก
“ฆ่าฆ่า!” ตาของเสี่ยวเอ้อเปลี่ยนเป็นสีแดงในพริบตา และตะโกนเบาๆ
ถังเทียนไม่ได้ยินเสียงของเสี่ยวเอ้อ
ทันใดนั้นเขาปล่อยพลังที่ขาและพุ่งไปหาสือเซินราวกับกระสุนปืนใหญ่
สือเซินยิ้ม เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่เขาพบคนโง่ที่กล้าพุ่งเข้ามาเพียงลำพัง
เป็นเพราะเจ้าหาที่ตายเอง งั้นข้าจะส่งเสริมความต้องการของเจ้า
“ตาย!”
สือเซินแกว่งดาบยาวในมือเต็มแรง ทหารข้างตัวเขาตวัดดาบทันที ท้องฟ้าทั้งหมดเต็มไปด้วยรังสีดาบเหมือนกับฝูงผีเสื้อโบยบินตัดกันไปมาบนท้องฟ้า ดูคล่องแคล่วมีชีวิตชีวา
ทุกวิถีของดาบเป็นไปอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ ทั้งหมดล้อมถังเทียนไว้ทั่วทุกทิศ
ปิงลอยอยู่เหนือกำแพงเมืองมองดูฉากภาพที่เกิดขึ้น ม่านตาเขาขยาย รังสีดาบนั่น...
ถึงตอนนี้สือเซินชี้ดาบมาข้างหน้าตรงๆ พลางพึมพำด้วยโทนเสียงแปลกประหลาด “ระบำผีเสื้อ”
ชี่ ชี่ ชี่!
รังสีดาบทุกชิ้นกวาดผ่านอากาศเหมือนกับผีเสื้อกระพือปีกก่อให้เกิดระลอก ในตอนแรกอากาศรอบๆตัวถังเทียนปั่นป่วน คลื่นระลอกนับไม่ถ้วนที่ปะทะกันในอากาศ ทุกระลอกก่อให้เกิดแรงบิดอ่อนๆ ในพริบตาเดียวสนามพลังที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนก็กักถังเทียนไว้เหมือนตาข่ายยักษ์
ถังเทียนไม่หลบเหมือนกับว่าเขามองไม่เห็น และวิ่งตรงใส่ข่ายที่เต็มไปด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น
ซือเสินยินดีวิชาระบำผีเสื้อฝังวีรบุรุษมามากมายแล้ว สนามพลังที่มองไม่เห็นเต็มไปด้วยความอันตรายนับชั้นไม่ถ้วนที่น่าตื่นตะลึง ครั้งหนึ่งเมื่อเขาลอบโจมตีก่อนนั้น อาวุธจักรกลยักษ์ยี่สิบเครื่องถูกกักและบิดบดจนเหมือนแป้งทอด
เกราะเงินบนร่างของเขาก็ดูงดงามดีเหมือนกัน
สือเซินรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ชั่วเวลาขณะนั้นรังสีเงินยิงออกมาจากหลังของบุรุษคนนั้น ร่มเงินหนักปรากฏในสายตาของสือเซิน
ร่ม?
สือซินตะลึง แต่หลังจากนั้นก็เริ่มหัวเราะ ชุดเกราะที่ดูเหมือนกับหมีนี้กำยำและมีกล้ามเนื้อทรงพลัง ดูน่ากลัวและสง่างามมาก แต่พอเอาร่มออกมาทันใด มันกลายเป็นตัวตลกอย่างช่วยไม่ได้
หมีน้อยกับร่มใหญ่? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....
ถังเทียนไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าเขาไม่เห็นร่มเงินเลย
เกราะเบาร่มพญาหมีคือชุดเกราะจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ และในขณะนี้ไม่มีใครชอบมันนักสู้จากกลุ่มดาวหมีใหญ่รวดเร็วดุร้ายและแข็งแรง แต่ร่มเป็นอาวุธที่สวยงาม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ชอบ
แต่มรดกของกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็คือร่มดวงดาวพญาหมี!
สิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือเสี่ยวเอ้อฝึกมากับร่มดวงดาวพญาหมี ดังนั้นพลังของเกราะเบาพญาหมีจึงถูกเขาควบคุมได้เต็มที่ในมือของเขา ทุกครั้งที่เสี่ยวเอ้อใช้วิชาทางจิตของร่มดาราแห่งกลุ่มดาวหมีใหญ่จิตวิญญาณยุทธของเกราะเบาร่มพญาหมีก็จะตื่นเต้น
นอกจากเกราะทั้งเจ็ดแล้ว เกราะเบาร่มพญาหมีพัฒนาการเร็วที่สุดและนี่คือเหตุผล
แต่เราต้องให้พลังนี้กับพวกเขา พลังของทหาร 51 คนที่ควบคุมโดยสือเซินสร้างสนามพลังผันผวนไว้มันดูเหมือนจะทรงพลังมาก เพื่อให้สามารถดำเนินการใช้พลังงานของกองทัพของเขาด้วยวิธีการที่ทรงพลังขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ามันสะท้อนพลังของสือเซิน แม้แต่ปิงก็อดแสดงความประหลาดใจและชื่นชมทางสายตามิได้
เสี่ยวเอ้อผู้ตกอยู่ในความตื่นเต้นก็รู้สึกปลาบปลื้มมาก เป็นครั้งแรกที่เขาควบคุมพลังงานประหลาดมหาศาลนี้ได้ เหมือนกับว่าปราสาทดำข้างหลังยังคงถ่ายเทพลังงานมหาศาลมาให้
พลังงานที่บริสุทธิ์และกร้าวแกร่งคลุมไปทั้งตัวถังเทียนเหมือนชั้นของเหลวที่หนืด ดูดซึมผ่านผิวเข้าไปในร่างของถังเทียนแต่กลับถูกร่างพลังกายเป็นศูนย์ขับออก
เสี่ยวเอ้อตระหนักได้ก่อนหน้านั้นแล้วการแยกออกมาจากร่างพลังกายเป็นศูนย์ ความจริงช่วยให้เขาเพิ่มพลังควบคุมมากขึ้น เขามั่นใจว่าจะทำลายพลังงานบิดเบี้ยวซึ่งเกิดจากกระบวนยุทธที่เหมือนผีเสื้อนั้นได้
เข้ามาเลย!
เจอพลังของร่มดวงดาวของกลุ่มดาวหมีใหญ่..
โอเดี๋ยว!
หน้าของเสี่ยวเอ้อที่กำลังตื่นเต้นชะงักค้างทันที
ในกลางอากาศถังเทียนที่อยู่ในเกราะบิดเอวแล้วปล่อยหมัดออกไป
เจ้านี่....คิดจะทำอะไร....
สนามพลังที่สร้างขึ้นโดยพลังงานต้องได้ต้องถูกทำลาย และนั่นเป็นเวลาที่ข้าต้องแสดงฝีมือแล้วเจ้าเด็กโง่นี่พยายามทำอะไร? เหมือนกับว่าถูกน้ำเย็นราดศีรษะ อาการตื่นเต้นของเสี่ยวเอ้อหายไป หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง เจ้ากำลังทำอะไรโง่ๆ อีกแล้ว ข้าประเมินเจ้าสูงไปหรือเปล่า?
ร่างของถังเทียนเป็นเหมือนลูกธนูขนาดใหญ่ สายตาของเขาเพิ่มความเฉียบคมทันทีขณะระบายลมหายใจทางปาก เขาปล่อยหมัดออกไปทันที!
อะไรกัน!
ตาของเสี่ยวเอ้อเบิกกว้าง เขามองดูหมัดของถังเทียนอย่างเหลือเชื่อ
หมัดนั้นไวกว่าสายฟ้า
ถังเทียนมีความชำนาญวิชาหมัดพื้นฐานเป็นพิเศษ นอกจากมันไวแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่นเกิดขึ้น
ความเร็วของหมัดนั้นไวสุดขีดเหมือนกับจะผ่านชั้นพลังงานรอบๆตัวของเขาไป
แผ่นเกราะบนแขนของเขาชันพองขึ้น มันกวาดกระเพื่อมอย่างรวดเร็วผ่านพลังงานเข้มข้นรอบตัวเขาคล้ายกับริ้วระลอกน้ำ แผ่นเกราะสั่นสะเทือนพร้อมกันเกิดเป็นเสียงกระหึ่มโทนต่ำเหมือนกับเสียงหมีคำรามจากป่าลึก
พลังงานกายบริสุทธิ์ถูกถังเทียนใช้งานไปเพื่อให้เกิดสภาพอิ่มตัว ไม่ว่าตรงไหนที่หมัดผ่านเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นพลังงานหรือพลังอะไรก็ตามจะถูกทำลาย
การทำลายล้างที่รุนแรงก่อให้เกิดหลุมว่างเปล่า พลังงานบนผิวของร่างเขาจะถูกดูดอย่างบ้าคลั่งในอัตราความเร็วที่น่าตระหนกกลายเป็นพลังงานไปบรรจบที่หมัดของถังเทียน
สามารถทำได้แบบนี้ได้หรือ...นั่นไม่ใช่หลักการของพลังวังวนหรอกหรือ?
ผิดแล้วนั่นคือพลังงานเกลียว!
เสี่ยวเอ้อตกตะลึง สิ่งที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ก็คือพลังงานบนผิวตัวถังเทียนกำลังถูกฉีกและถูกดึงเข้ามาเป็นวังวนขนาดเล็ก
ทันใดนั้นหมัดของถังเทียนเปล่งประกายเจิดจ้าขนาดมหึมาเหมือนกับดวงอาทิตย์
พลังงานที่คล้ายๆกับเถาวัลย์เมื่ออยู่ต่อหน้าหมัดที่กร้าวแกร่งถูกทำลายเป็นผุยผง
สีหน้าของสือเซินเปลี่ยน เขาไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง เป็นไปได้อย่างไรที่คนเราจะปล่อยพลังหมัดที่น่ากลัวอย่างนั้นได้? เขากระพริบตามองดูรังสีดาบที่เต้นอยู่ในท้องฟ้าเหมือนผีเสื้อละลายสลายไปเหมือนกับหิมะ
รังสีหมัดเจิดจ้าทะลวงผ่านสนามพลังที่สับสนวุ่นวายและยังขยายขนาดขึ้นเมื่อเข้ามาใกล้เขา
ความรู้สึกถึงอันตรายที่ไม่เคยเกิดมาก่อนทำให้ผมขนในตัวของสือเซินลุกชูชันเขาชี้ดาบของเขาตรงมาข้างหน้าโดยไม่ได้ไตร่ตรองอะไรทั้งนั้นและตวาดลั่น "สายลม"
กองทัพรอบๆตัวเขาทั้งหมดปรากฏมีดาบเป็นชั้นๆ ก่อตัวเป็นม่านพลังดาบซึ่งหมุนปั่นด้วยความเร็วพายุหมุนรังสีดาบก่อตัวขึ้นป้องกันกองทัพไว้ภายใน
บึ้ม!
พลังเกลียวทั้งหมดผสานเข้ากับรังสีหมัดมีรูปร่างที่ไม่เหมือนกับรังสีหมัดธรรมดา แต่มันมีขนาดที่แตกต่าง มีพลังงานรูปทรงกรวยขนาดต่างๆหมุนปั่นด้วยความเร็วสูงยิงใส่พายุหมุนเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
ม่านพลังดาบถูกทะลวงทันที
สือเซินจ้องมองรังสีหมัดที่ผ่านเข้ามาห่างจากตัวเขาสองเมตรอย่างมึนงง มันทะลุร่างบริวารของเขาสองคนและกระแทกใส่ม่านพลังดาบแตกกระจายเป็นชิ้น
แม้ว่าม่านพลังดาบจะถูกทะลวงแต่ก็ช่วยรบกวนสมาธิศัตรูได้ และรังสีหมัดเฉียดผ่านสือเซินไปเส้นยาแดงผ่าแปด
บึ้ม บึ้ม!
รังสีหมัดสองสายทำลายม่านพลังดาบอีกครั้ง ครั้งเอาชีวิตคนไปอีกสามคนในพริบตาเขาเสียสมาชิกในกลุ่มไปถึงหนึ่งในสิบ
ตาของสือเซินแทบถลนจากเบ้า อันตรายที่รุนแรงปลุกความดุร้ายในตัวเขาขึ้นมา
“ฆ่า!!”
สือเซินวิ่งนำหน้า ร่างพร้อมกับดาบของเขาสั่นสะท้านสมาธิของทหารคนอื่น พวกเขารู้ว่าเจ้านายของพวกเขากำลังจะเสี่ยงทุกอย่าง! พวกเขาวิ่งตามหลังมาอย่างกระชั้นชิดโดยไม่ลังเล
พวกเขาเป็นเหมือนฝูงปลาพุ่งเข้าหาศัตรูอย่างบ้าคลั่ง
ร่างของทุกคนสว่างขึ้นด้วยรัศมีเหมือนกับปลาขยายขนาด และในทันใดนั้นพวกเขากระจายพลังงานพร้อมกันและวิ่งเข้าหาศัตรูโดยไม่คิดถอย
ทหารที่เปล่งรังสีกระจายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว เมื่อทหารทั้ง 46คนเปล่งแสงรังสีผสานพลังได้สำเร็จปราณที่ดุดันก็ทะลักออกมาเหมือนกับบางอย่างที่ผุดขึ้นมาจากทะเลลึก
ร่างแปลงปลาดึกดำบรรพ์
นี่คือไม้ตายสุดท้ายของสือเซิน ฝูงของปลาจะแปลงเป็นปลาดึกดำบรรพ์ จุดที่ยากที่สุดของวิชานี้ก็คือจำเป็นต้องได้รับความไว้วางใจกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข ถ้าใครคนใดคนหนึ่งมีความระแวดระวังในใจ ก็จะลดความน่ากลัวของพลังลงไปกว่าเดิมมาก
สือเซินผมกระเซิง เขามองดูเหมือนกำลังจะเป็นบ้า หน้าของเขามีแววเจ็บปวด การสู้รบคราวนี้เขาแบกรับภาระมหาศาล
ความคิดของเขาถูกลากกลับไปไกลหลังถลำลึกไปในกลุ่มศัตรูปีนั้น เขาเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง เขาอาศัยกระบวนศึกปลาดึกดำบรรพ์ฆ่าฝ่าวงล้อมทหารข้าศึกนับพันคนกองทัพเกือบห้าร้อยคนของเขา เหลืออยู่เพียง 100 คน
หลังจากผ่านไปหลายปี คน 500 คน ลดลงเหลือเพียง 46 คนในตอนนี้
ทุกคนมองเขาเป็นวีรบุรุษและติดตามเขา พวกเขาสู้ด้วยกันมาหลายศึกและเดินทางจากปลายโลกหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ทหารทั้ง 500 คนจากไปโดยไม่มีความเสียใจ
เมื่อคิดถึงพวกเขาแล้ว หัวใจเขารู้สึกเหมือนถูกมีดแทง เขาต้องการดินแดนของตนเองเขาต้องการสร้างความมั่งคั่งให้ทุกคน เขาต้องการสร้างหอความทรงจำและจุดธูปประทีปให้กับผู้เสียชีวิต เขาต้องการให้วิญญาณผู้กล้า 454 ได้มีที่กลับและต้องการช่วยครอบครัวพวกเขาได้มีความปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่เขาสาบานไว้ในใจ เมื่อเขาจับมือพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะตายพวกในกลุ่มของเขาแต่ละคน
ข้าต้องการดินแดนของตนเอง!
สือเซินเชิดหน้า ตาของเขามีประกายลุกโชนด้วยความโกรธ