ตอนที่ 17-26 วิญญาณปั่นป่วน
จุดปะบนช่องโหว่ในเยื่อพลังป้องกันสามารถต้านทานได้ชั่วขณะก่อนที่จะถูกเข็มดำเจาะทะลุ เข็มดำทะลวงเข้าไปในใจส่วนที่สำคัญของลินลี่ย์... พื้นที่เหนือทะเลจิตสำนึกของเขา
“ครืนนน...”
ทั่วทั้งทะเลจิตสำนึกเริ่มปั่นป่วนและรังสีพลังวิญญาณนับไม่ถ้วนเต้นระยิบระยับถูกปล่อยออกมาพร้อมกับแสงสีฟ้าและกวาดใส่เข็มสีดำซึ่งไม่มีที่ให้ซ่อนได้
“แครก...” พลังวิญญาณซึ่งเรืองแสงสีฟ้าหุ้มล้อมเข็มดำและคุมเชิงมันไว้ และค่อยๆ บดขยี้เข็มเหล่านั้นจนแหลก
มอสลี่ย์และอสูรหกดาวอีกสิบสี่คนเงยหน้าจ้องมองลินลี่ย์
“ท่านมอสลีย์ จะให้เราทำยังไงต่อ?” พวกเขามองดูมอสลีย์
“โจมตีต่อไป พลังป้องกันวิญญาณของเขาไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษ มิฉะนั้นเขาคงไม่ต้องใช้เวลามากมายต่อต้านพลังโจมตีของข้าแน่” มอสลี่ย์สั่งทันที “จำไว้ ใช้พลังโจมตีวิญญาณกับเขา”
“ขอรับ!”
พวกยอดฝีมือบินขึ้นไปในท้องฟ้าทันที
หน้าที่ซีดของลินลี่ย์กลับคืนเป็นปกติ ขณะนี้เองเมลินา ซานตาและอสูรหกดาวของเผ่ามังกรฟ้าทั้งสิบมารวมตัวกันแล้ว
“หัวหน้า, ปลอดภัยหรือเปล่า?” เมลินารีบถาม
“ข้าไม่เป็นไร” ลินลี่ย์ส่ายหน้า แต่ในใจของเขายังรู้สึกว่ามีความกลัวผุดขึ้น “โชคดีที่ข้าผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ และพลังเก่าแก่ของเผ่ามังกรฟ้าได้เสริมพลังและผสานรวมกับวิญญาณของข้า ในที่สุดข้าก็สามารถทนได้” พลังต้นเดิมของเผ่ามังกรฟ้า แสงสีฟ้านั่นไม่ธรรมดา สามารถหลอมรวมกับพลังวิญญาณเพื่อดำเนินการใช้พลังเทพตามธรรมชาติได้
ขณะเดียวกัน ก็ยังใช้ป้องกันวิญญาณด้วย
“พวกเขากำลังจะโจมตี” สมาชิกคนหนึ่งของหน่วยรบพูดแตกตื่นทันที
ลินลี่ย์ก้มหน้าจ้องมองคนสิบห้าคนที่กำลังบินมาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง เขาสั่งการผ่านสำนึกเทพทันที “เจ้าโล้นชุดเทาเป็นอสูรเจ็ดดาวที่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวิญญาณ ซานตา! เจ้าพาพวกอีกห้าคนที่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวัตถุไปจัดการกับเขา ส่วนอีกสี่คนมาร่วมกับข้าฆ่าอสูรหกดาวที่เหลือ”
“หัวหน้า, แค่ซานตากับอีกห้าคนหรือ? แค่นั้นพอหรือ?” เมลินาพูดด้วยความกังวล
“ไม่ต้องกังวลไป ข้ายังมีไม้ตายอยู่ในแขนเสื้อที่เตรียมจะใช้” ลินลี่ย์มองคนทั้งสิบห้าที่บุกมาด้านล่าง
เหตุผลที่เขาไม่ใช้ไม้ตายสุดยอดเป็นเพราะกองกำลังของเขายังมาไม่ถึง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเขาเกรงว่าศัตรูจะแตกตื่นและหนีไปทันที นี่คือเหตุผลที่เขายังไม่ใช้วิชานั้น ..พลังปั่นป่วนวิญญาณ! พลังปั่นป่วนวิญญาณเป็นวิชาหนึ่งที่สามารถใช้ร่วมกับศิลาดำ
ที่เกาะมิลัวร์ ลินลี่ย์อาศัยวิชานี้เพื่อบังคับเทพชั้นสูงจำนวนมากให้อยู่ในสภาพมึนงง
แม้แต่อสูรเจ็ดดาวก็ยังได้รับผลบ้าง แต่เมื่อยอดฝีมือต่อสู้ แค่ผลกระทบเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว!
“พวกเขามีสิบเอ็ดคน?” มอสลีย์หรี่ตา
“อย่าไปสนใจคนอื่น ฆ่าหัวหน้าคนนั้นซะ!” มอสลีย์ตะโกนผ่านสำนึกเทพ “เมื่อเราฆ่าอสูรเจ็ดดาวได้ ค่อยถือว่าเราล้างแค้นให้หัวหน้าของพวกเจ้า”
“ฆ่า!”
ขณะนั้นเองไม่มีผู้ใดถอย ไม่มีใครที่กล้าเข้าร่วมสงครามของตระกูลแล้วจะขลาดเขลา มอสลีย์นำอสูรหกดาวสิบสี่คนบินเข้าไปในสนามพลังศิลาดำโดยตรง คนทั้งสิบหน้าเหล่านี้อยู่รวมเป็นกลุ่ม เพราะกลัวตกเป็นเป้าหมายและถูกฆ่าทีละคน
สิบห้าคนบินเข้ามาพร้อมกัน เหมือนกับว่าพวกเขามีร่างเป็นหนึ่งเดียวกัน เข้าหาลินลี่ย์โดยตรง
อสูรหกดาวทั้งสิบของเผ่ามังกรฟ้าอยู่ใกล้ตัวลินลี่ย์เช่นกัน และลินลี่ย์สั่งพวกเขาอย่างใจเย็น “ไปได้!” ตามแผนของพวกเขา กลุ่มของลินลี่ย์สิบเอ็ดคนบินลงมา ที่สำคัญ ระยะระหว่างพวกเขาไม่ถึงร้อยเมตร
พวกเขาจะสู้ระยะประชิดในเวลาเพียงชั่วขณะ!
“ฆ่า!” ฝ่ายลินลี่ย์ดูเหมือนจะไม่สนใจชีวิตของตนเอง
“ฆ่า!” ฝ่ายมอสลีย์ก็เช่นกันดูเหมือนจะไม่กลัวต่อความตายแม้แต่น้อย
ตาของลินลี่ย์เป็นประกายเย็นชาทันที
ในทะเลจิตสำนึกของเขา พลังงานวิญญาณที่มีศิลาดำเป็นจุดศูนย์กลางเริ่มเปลี่ยนและรังสีแสงประหลาดแผ่ขยายทันทีรายล้อมสนามพลังโน้มถ่วงทั้งหมด พลังปั่นป่วนวิญญาณนี้ส่งผลต่อคนทั้งสิบห้าทันที
“ควั่บ”
กลุ่มของมอสลีย์สิบห้าคนได้ยินเสียงแปลกประหลาด เสียงลมสั่นสะเทือนในใจพวกเขาชั่วครู่ แต่ชั่วครู่ที่พวกเขางงกลับเป็นช่วงวิกฤติที่สุดของการสู้รบนี้
“ฉัวะ!” “ฉัวะ!” “ฉัวะ!”
เหมือนกับฟันใส่ลูกแตงโม อสูรหกดาวของตระกูลบาร์บารี่มากกว่าครึ่งที่ได้รับผลกระทบปั่นป่วนวิญญาณถูกฆ่า ลินลี่ย์เป็นเหมือนพยัคฆ์หรือเหมือนกับฝูงหมาป่าสังหารอสูรหกดาวทันทีสามคน
ซานตาและอีกห้าคนที่เชี่ยวชาญโจมตีวัตถุเริ่มโจมตีใส่มอสลีย์โดยตรง
มอสลีย์รู้สึกว่าศีรษะของเขามึนงงเล็กน้อย แต่ใจของเขายังคงกระจ่าง ในฐานะสุดยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญในพลังวิญญาณ ผลการโจมตีทางวิญญาณนี้ไม่ส่งผลต่อเขามากนัก แต่เมื่อเขาเห็นว่าคนฝ่ายเขาถูกฆ่าไปมากมายเพียงไหน เขาโกรธทันที
มอสลีย์กู่เสียงร้องลั่น
ระลอกพลังใสรูปพัดระเบิดออกมาจากตัวมอสลีย์แผ่ออกไปหาหกคนที่กำลังบุกโจมตีข้างหน้าเขา ซานตาและอสูรหกดาวอื่นแค่มีเวลาปล่อยพลังโจมตีวัตถุได้ครั้งเดียวก่อนที่พวกเขาจะถูกโจมตี
ระลอกพลังใสผ่านร่างซานตาและอีกห้าคนไป ร่างของพวกเขาสั่นและจากนั้นสามคนร่วงลงจากท้องฟ้า
ตายไปสามคน!
“ซานตา!” เมลินาร้องเรียกแตกตื่น
“พี่ใหญ่!” สมาชิกสตรีในหน่วยอีกคนร้องเรียกด้วยความเสียใจ
ซานตาเป็นหนึ่งในสามคนที่เสียชีวิต
“แย่แล้ว” เมื่อเห็นเหตุเช่นนี้จากด้านหลัง ลินลี่ย์ตกใจอยู่ลึกๆ “คนผู้นี้ไม่ได้รับผลจากไม้ตายปั่นป่วนวิญญาณ” ในเกาะมิลัวร์ เขาสู้กับอสูรเจ็ดดาวมาก่อน และในเวลานั้นคู่ต่อสู้ของเขาได้รับผลไปด้วย
อย่างไรก็ตาม...
เห็นได้ชัดว่ามอสลีย์มีความเชี่ยวชาญพลังวิญญาณระดับสูง ดังนั้นความอดทนต่อพลังโจมตีก็สูงเช่นกัน
“ควั่บ” “ควั่บ” “ควั่บ”
พลังโจมตีวัตถุของกลุ่มซานตาหกคนเริ่มเปลี่ยนเป็นรูปดาบ เข็ม หัวลูกศรและด้าย ทั้งหมดยิงใส่ข้างหน้ามอสลีย์ แม้ว่าวิญญาณของมอสลีย์จะแข็งแกร่ง แต่พลังป้องกันวัตถุของเขายังอยู่ระดับทั่วไป
พลังดึงดูดรุนแรง มอสลีย์ไม่มีเวลาพอจะหลบ
“ฮ่าหหห์!” มอสลีย์คำรามด้วยความโกรธ เสียงคำรามก้องลึก
ทันใดนั้นร่างเงาลวงตาเป็นรูปอสรพิษตัวยาวมหึมาขดตัวปรากฏอยู่ด้านหลังมอสลีย์ อสรพิษดำนี้ปลดปล่อยรัศมีสะท้านใจ ตลอดทั้งร่างของมันดำเหมือนถ่าน มันมีเพียงตาเดียว แดงดุจสีเลือด
“ฉัวะ!” “ฉัวะ!”
พลังโจมตีวัตถุฟันใส่ร่างมอสลีย์ เกราะของเขาแตกกระจาย และร่างของเขาถูกตัด มอสลีย์รู้ว่าเขาไม่มีเวลาพอหลบหนีจึงเพ่งไปที่การปล่อยให้พลังงานโจมตีร่างกายที่ไม่เป็นอันตรายถึงตายของเขา เป็นการประกันว่าศีรษะของเขาจะไม่เสียหาย
นี่เป็นปัญหาหลักของพลังโจมตีวัตถุ พวกเขาไม่ชอบพลังโจมตีวิญญาณซึ่งสามารถหาจุดอ่อนได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ไม่มีทางป้องกันส่วนของร่างกายที่สำคัญ พลังโจมตีวัตถุโดยทั่วไปจะมีผลต่อการสู้ระยะประชิด
“ตาย” มอสลีย์จ้องลินลี่ย์
อสรพิษดำขนาดใหญ่ที่ขนดตัวด้านหลังเขาจ้องลินลี่ย์ด้วยดวงตาแดงข้างเดียวของมัน “แย่แล้ว” ลินลี่ย์รีบควบคุมสนามพลังศิลาดำของเขาเปลี่ยนทิศทางแรงดึงดูดลงด้านล่างเพื่อให้ส่งผลต่อคู่ต่อสู้ของเขา
“ครืนนน...” แสงโปร่งใสยิงออกมาจากกลางหน้าผากของมอสลีย์ตรงเข้าหาลินลี่ย์
ทักษะเทพธรรมชาติ ‘ดับวิญญาณ!’
“หัวหน้า!” อสูรหกดาวอื่นตกใจอย่างหนัก
“ไม่มีเวลาแล้ว” การโจมตีด้วยพลังเทพธรรมชาติของอสูรศักดิ์สิทธิ์เร็วเกินไป เขาไม่สามารถหลบได้ทัน เขาได้แต่กัดฟันวางแผนรับพลังโดยตรง
“ควั่บ!” มือข้างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าลินลี่ย์ ขวางเขาไว้ในขณะที่แสงโปร่งใสกำลังจะฉายใส่เขา แสงโปร่งใสยิงตรงเข้าไปในแขน ลินลี่ย์หันไปมอง เขาโพล่งคำพูดด้วยความตกใจ “ไซเกอร์”
ไซเกอร์เป็นหนึ่งในสิบอสูรหกดาวใต้บังคับบัญชาของลินลี่ย์ ปกติไซเกอร์เป็นคนพูดน้อย แต่เขาไม่เคยลังเลกับคำสั่งของลินลี่ย์ ใครจะคิดกันว่าในช่วงเวลานี้ ไซเกอร์จะเสียสละตนเองช่วยลินลี่ย์เล่า?
ไซเกอร์ร่วงจากฟ้า “ฆ่า!” ขณะเดียวกันสมาชิกคนอื่นในหน่วยกลายเป็นประกายแสงพุ่งเข้าโจมตีศีรษะของมอสลีย์โดยตรง
“โฮววววว!” มอสลีย์คำรามด้วยความโกรธอีกครั้ง
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ใช้พลังโจมตีวิญญาณอีกครั้ง เสียงอากาศระเบิดสามารถได้ยินชัดและศีรษะของเขาระเบิดเป็นเลือดเนื้อแหลกเหลวขณะที่ประกายเทพกระเด็นออกมา
มอสลีย์ตาย!
โลกเงียบสงัดทันที ในกลางอากาศลินลี่ย์และคนอื่นยังคงเงียบไปชั่วเวลาหนึ่ง ในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาฆ่าอสูรเจ็ดดาวฝ่ายศัตรูไปสองคนและอสูรหกดาวสิบสองคน มีอสูรหกดาวหลบหนีไปได้สามคน
“สามคนหลบหนีไปได้” เมลินากล่าวอย่างไม่พอใจ
“ข้าผิดเอง ข้าคาดไม่ถึงว่ามอสลีย์จะไม่ได้รับผลแม้แต่น้อย” ลินลี่ย์กล่าว แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าอสูรหกดาวฝ่ายศัตรูไปมาก แต่เมื่อลินลี่ย์กับมอสลีย์สู้กัน อสูรหกดาวที่เหลือรู้ว่าไม่มีหวังในชัยชนะดังนั้นจึงหนีไปทันที
“ไซเกอร์, ขอบคุณมาก” ลินลี่ย์หันไปมองอสูรหกดาว เป็นไซเกอร์ที่เพิ่งจะช่วยเขา ไซเกอร์เองมีร่างแยกสามร่าง ระหว่างต่อสู้นี้ เขาทิ้งร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่หุบเขาอ่างโลหิตเพียงร่างเดียว อีกร่างหนึ่งยังอยู่กับร่างหลักเขา
เมื่อครู่ที่มอสลีย์ใช้ทักษะเทพธรรมชาติ ‘ดับวิญญาณ’ ไซเกอร์ใช้ร่างแยกอีกร่างของเขาเหยียดแขนรับพลังโจมตีนั้นไว้
“หัวหน้า, ไม่สำคัญมากนักหรอกที่ข้าสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไปร่างหนึ่ง อสูรเจ็ดดาวเป็นเสาหลักที่แท้จริงของเผ่าเรา ท่านไม่อาจตาย” ไซเกอร์กล่าว
“เมื่อเรามา เรามีกันสิบเอ็ดคน ตอนนี้พวกเราเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดไปสาม” ลินลี่ย์มองดูรอบๆ จากนั้นถอนหายใจ สามคนถูกมอสลีย์ฆ่าตาย “เป็นการคำนวณการผิดของข้า”
ถ้ามอสลีย์ได้รับผลจากพลังปั่นป่วนวิญญาณ อย่างนั้นซานตาและอีกสองคนก็คงฆ่าเขาได้
“หัวหน้า, แค่นี้ก็ถือว่าเป็นชัยชนะสำคัญแล้ว”
“ใช่แล้ว ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่!”
“ไซเกอร์สูญเสียเพียงร่างแยกที่มีพลังอ่อนร่างหนึ่ง เขาไม่ได้สูญเสียยิ่งใหญ่ เราสูญเสียจริงๆ ก็คืออสูรหกดาวสามคน อย่างไรก็ตามเราสามารถฆ่าอสูรหกดาวได้ถึงสิบสองคน และอสูรเจ็ดดาวอีกสอง”
“เราฆ่าอสูรเจ็ดดาว สองคน! และหัวหน้า ท่านไม่ตายด้วย เราสูญเสียไม่มากนัก
“การใช้ร่างแยกของข้าแลกกับร่างที่ทรงพลังที่สุดของอสูรเจ็ดดาวคุ้มค่าไม่ใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของสมาชิกในหน่วยของเขา ลินลี่ย์รู้สึกสงบขึ้นมาบ้าง ตามความสำเร็จในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของเผ่า นี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะฝ่ายของพวกเขาสูญเสียอสูรหกดาวไปสามคนขณะที่ฆ่ายอดฝีมือฝ่ายศัตรูไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอสูรเจ็ดดาวอยู่ในจำนวนนั้นถึงสองคน
“ในการสู้กับแปดตระกูลใหญ่ของเรา ปกติอัตราการสูญเสียของเราเป็นหนึ่งต่อหนึ่ง ยากนักที่เราจะได้รับชัยชนะอย่างนี้” เมลินารีบกล่าว
“กลับกันเถอะ” ลินลี่ย์ถอนหายใจเบาๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมในสงครามของตระกูลที่โหดร้ายนี้ และลินลี่ย์รู้สึกว่าการสู้รบครั้งนี้โหดร้ายป่าเถื่อนมาก แต่เขามองดูสมาชิกในหน่วยแล้ว “ไม่มีคนใดในพวกเขาที่ใส่ใจถึงสมาชิกในหน่วยทั้งสามของเราที่สูญเสียร่างแยกที่ทรงพลังไป พวกเขามีประสบการณ์มากอย่างเห็นได้ชัด”
ลินลี่ย์นึกย้อนไปถึงรายชื่อที่เขียนด้วยสีแดงบนเสาศิลาด้านข้างที่พักหน่วยสิบสาม
ชื่อเหล่านั้นเป็นรายชื่อของสมาชิกหน่วยที่ตายแล้ว
“การรบระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่ไม่มีอะไรมากไปกว่าสงครามทอนกำลัง หลายคนในเผ่าเราต้องตายไป แต่ของบางคนก็ตายไปจริงๆ” ลินลี่ย์ถอนหายใจ ขณะเดียวกัน เขาบินไปในอากาศพร้อมกับสมาชิกในกลุ่มเจ็ดคน
“หัวหน้า! การซุ่มโจมตีของท่านน่ากลัวจริงๆ ท่านฆ่าหนึ่งในอสูรเจ็ดดาวได้ทันที”
“ลอบโจมตี? เป็นกลยุทธที่ใช้ได้ครั้งเดียว ในอนาคตศัตรูจะไม่ให้โอกาสดีๆ แบบนั้นกับเราอีก” ลินลี่ย์เข้าใจว่าทั้งมอสลีย์และอสูรเจ็ดดาวที่เขาฆ่าในตอนแรกคงมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้ที่ฐาน
ตอนนี้ตระกูลศัตรูคงจะรู้การลอบโจมตีของเขาแล้ว
จากวันนี้เป็นต้นไปหน่วยของศัตรูจะต้องระแวดระวังเทพแท้ของศัตรูแน่ พวกเขาจะไม่ยอมประมาทเด็ดขาด
ในป่าภูเขาไกลออกไป พวกโจรมองดูกลุ่มของลินลี่ย์บินจากไป พวกเขารู้สึกตกตะลึงพูดไม่ออกเป็นเวลานาน
“หัวหน้า เจ้างูดำยักษ์ที่เราเพิ่งเห็นมันคืออะไร? น่ากลัวมากจริงๆ”
“นั่นคือทักษะเทพธรรมชาติของอสูรศักดิ์สิทธิ์ ข้าเคยเห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ใช้ทักษะเทพธรรมชาติมาก่อน อย่างไรก็ตามเทียบกับสิ่งที่เราเพิ่งเห็น... เจ้างูดำยักษ์นั่นน่ากลัวกว่าเป็นพันเท่า กลิ่นอายของมันอย่างเดียวก็ทำให้ข้ารู้สึกหายใจไม่ออก”
การสู้รบที่เพิ่งจบลงไปสร้างความสยดสยองให้กับพวกโจรระดับเทพแท้นี้เป็นที่สุด
“และเป็นพวกเราพยายามจะปล้นสุดยอดฝีมือผู้นั้น...” พวกโจรรู้สึกเสียใจไม่หยุดหย่อน หลังจากเห็นการต่อสู้นี้แล้ว พวกเขารู้ว่าถ้าลินลี่ย์จะฆ่าพวกเขาก็สามารถทำได้ในพริบตา
มีแนวโน้มว่าความทรงจำนี้จะคงอยู่กับพวกเขาไปตลอดชีวิตที่เหลือ
พวกเขาจะไม่มีทางลืมว่าครั้งหนึ่งพวกเขาพยายามปล้นสุดยอดฝีมือ
ลินลี่ย์พาคนในหน่วยทั้งเจ็ดคนลอบกลับมาที่ภูเขาสกายไรท์อย่างเงียบงัน พวกเขาระมัดระวังตัวในเวลากลับ เพราะกลัวว่าแปดตระกูลใหญ่อาจพบตัวพวกเขา หลังจากบินเป็นเวลานาน ในที่สุดกลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงภูเขาสกายไรท์
พวกเขาบินขึ้นไปในอากาศเหนือภูเขาสกายไรท์
“ทำไมถึงมีผู้คนมากมายนักเล่า?” ลินลี่ย์จ้องมองด้วยความประหลาดใจ มีคนค่อนข้างมากในอากาศเหนือหุบเขาอ่างโลหิต ผู้มีกลุ่มมีประมุขเผ่า, ประธานผู้อาวุโสและคนอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ประมุขกัซลีสันตอนนี้มีรอยยิ้มบนใบหน้า